พระปิดตาวัดสะพานสูง พิมพ์ตะพาบ เนื้อผงคลุกรัก เคลือบรักแดง-wison - webpra
VIP
สมัครเล่นครับ เรียนรู้จากของแท้เท่านั้น

หมวด พระปิดตาทั่วไป

พระปิดตาวัดสะพานสูง พิมพ์ตะพาบ เนื้อผงคลุกรัก เคลือบรักแดง

พระปิดตาวัดสะพานสูง พิมพ์ตะพาบ เนื้อผงคลุกรัก เคลือบรักแดง - 1พระปิดตาวัดสะพานสูง พิมพ์ตะพาบ เนื้อผงคลุกรัก เคลือบรักแดง - 2พระปิดตาวัดสะพานสูง พิมพ์ตะพาบ เนื้อผงคลุกรัก เคลือบรักแดง - 3พระปิดตาวัดสะพานสูง พิมพ์ตะพาบ เนื้อผงคลุกรัก เคลือบรักแดง - 4พระปิดตาวัดสะพานสูง พิมพ์ตะพาบ เนื้อผงคลุกรัก เคลือบรักแดง - 5
ชื่อร้านค้า wison - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
ชื่อพระเครื่อง พระปิดตาวัดสะพานสูง พิมพ์ตะพาบ เนื้อผงคลุกรัก เคลือบรักแดง
อายุพระเครื่อง -
หมวดพระ พระปิดตาทั่วไป
ราคาเช่า -
เบอร์โทรติดต่อ 0819460502
อีเมล์ติดต่อ wison41505@gmail.com
LINE
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ พระโชว์
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ พ. - 08 มิ.ย. 2554 - 11:37.55
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ พฤ. - 16 พ.ค. 2556 - 16:38.13
รายละเอียด
พระปิดตาวัดสะพานสูง พิมพ์ตะพาบ เนื้อผงคลุกรัก เคลือบรักแดง รักมีลักษณะใสแบบพระปิดตาของหลวงปู่กลิ่น แต่ผสมรักแดงอันเป็นลักษณะพิเศษในรักเคลือบพระปิดตา “ยุคกลาง”ขององค์บรมครู หลวงปู่เอี่ยม ปฐมนาม พระปิดตาจะมีรักเคลือบสีดำปนแดง ถ้าส่องดูด้วยแว่นขยายจะเห็นเป็นจุดแดงหรือเหลือบแดงปนอยู่ในเนื้อรักดำ มูลเหตุที่หลวงปู่นำรักดำผสมกับรักแดงนั้นเนื่องจากรักแดงที่ได้มาจากประเทศจีนเริ่มน้อยลง พระปิดตายุคกลางเนื้อรักจะเกาะติดกับองค์พระแน่น ไม่ชำรุดเสียหายง่ายเหมือนพระปิดตาในยุคต้น ๆ
".......การดูเนื้อพระปิดตาหลวงปู่เอี่ยมนั้น ถือว่าเป็น “จุดตาย” ที่สำคัญยิ่ง เนื้อพระปิดตาหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง เนื้อในจะเป็นเนื้อสีน้ำตาลที่มีเนื้อสีน้ำตาลอ่อนแก่เท่านั้น ไม่มีเนื้อสีขาวโดยเด็ดขาด เนื้อพระแลดูหยาบเห็นมวลสารชัดเจน....."
เมื่อดูอายุและธรรมชาติความเก่าพระองค์นี้ ไม่ถึงยุคหลวงปู่เอี่ยม จึงขอสรุปว่า พระองค์นี้เป็นของหลวงปู่กลิ่นก็ละกัน ถูกกะตังกว่ากันเยอะเลย และขอนำเสนอประวัติและการสร้างพระปิดตาของหลวงปู่เอี่ยมไว้ ณ ที่นี้ด้วยเลย
หลวงปู่เอี่ยมเกิดในรัชกาลที่ ๒ เมื่อปีฉลู พ.ศ. ๒๓๕๙ เป็นบุตรนายนาค นางจันทร์ โดยมีพี่น้องท้องเดียวกัน รวมด้วยกัน ๔ คน คือ
๑. หลวงปุ่เอี่ยม
๒. นายฟัก
๓. นายขำ
๔. นางอิ่ม

บ้านเกิดของหลวงปู่เอี่ยมอยู่ที่ตำบลบานแหลมใหญ่ ฝั่งใต้ ข้างวัดท้องคุ้ง อำเภอ ปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เมื่อปี พ.ศ.๒๓๘๑ อายุท่านได้ ๒๒ ปี ได้อุปสมบทที่วัดบ่อ ตำบลปากเกร็ด อำเภอปากเกร็ด (วัดบ่อนี้อยู่คิดกับตลาดในท่าน้ำปากเกร็ด) ท่านอุปสมบท ได้ประมาณหนึ่งเดือน ท่านก็ได้ย้ายไปประจำพรรษาอยู่ที่วัดกัลยาณมิตร ธนบุรีซึ่งในขณะนั้นพระพิมลธรรมพร เป็นเจ้าอาวาส ซึ่งย้ายมาจากวัดราชบูรณะ พระนคร
หลวงปูเอี่ยมท่านได้ศึกษาพระปริยัติธรรม และแปลพระธรรมบทอยู่ที่วัดนี้อยู่ได้ถึง ๗ พรรษาท่านจึงได้ย้ายไปจำพรรษาอยู่ที่วัดประยูรวงศาวาส เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๘๘ อยู่วัดประยูรวงศาวาสได้ ๓ พรรษา ถึงปี พ.ศ. ๒๓๘๙๑ นายแขก สมุห์บัญชีได้นิมนต์หลวงปู่เอี่ยมไปจำพรรษาเจริญพระกัมมัฏฐานเป็นเริ่มแรก และได้ศึกษาอยู่ ๕ พรรษา ถึงปี ๒๓๙๖ ญาติโยมพร้อมด้วยชาวบ้านภูมิลำเนาเดิมในคลองแหลมใหญ่ (ซึ่งปัจจุบันนี้ คือคลองพระอุดม) อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ได้เดินทางมาอาราธนานิมนต์หลวงปู่เอี่ยม กลับไปปกครองวัดสว่างอารมณ์ หรือวัดสะพานสูงในปัจจุบันนี้

หลวงปู่เอี่ยมมาวัดสะพานสูงใหม่ๆ ที่วัดนี้มีพระประจำวันพรรษาอยู่เพียง ๒ รูปเท่านั้น ขณะที่ท่านหลวงปูเอี่ยม ได้ย้ายมาอยู่วัดสะพานสูงได้ ๘ เดือน ก่อนวันเข้าพรรษาหลวงพิบูลย์สมบัติ บ้านท่านอยู่ปากคลองบางลำภู พระนคร ได้เดินทางมานมัสการหลวงปู่เอี่ยมหลวงปู่เอี่ยมได้ปรารภถึงความลำบาก ด้วยเรื่องการทำอุโบสถและสังฆกรรม เนื่องจากสถานที่เดิมได้ชำรุดทรุดโทรมมาก จึงอยากจะสร้างให้เป็นถาวรสถานแก่วัดให้เจริญรุ่งเรือง หลวงพิบูลยสมบัติ ท่านจึงได้บอกบุญเรี่ยไรหาเงินมา เพื่อก่อสร้างโบสถ์ และถาวรสถานขึ้น จึงเป็นที่เข้าใจกันว่าหลวงปู่เอี่ยมได้เริ่มสร้างพระปิดตาและตะกรุดเป็นครั้งแรก เพื่อเป็นของชำร่วยแก่ผู้บริจาคทรัพย์และสิ่งของที่ใช้ในการก่อสร้างพระอุโบสถและถาวรสถาน ต่อมาถึง พ.ศ. ๒๔๓๑ ได้สร้างศาลาการเปรียญ หลังจากนั้นอีกหลวงปู่เอี่ยมได้สร้างพระเจดีย์ฐาน ๓ ชั้นขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๓๙ ขณะที่ท่านหลวงปู่เอี่ยมท่านได้มาอยู่วัดสะพานสูง ท่านได้ไปธุดงค์ไปทางแถบประเทศเขมร โดยมีลูกวัดติดตามไปด้วยเสมอ แต่ท่านจะให้ลูกวัดออกเดินทางล่วงหน้าไปก่อน ๖-๗ ชั่วโมง แล้วจะนัดกันไปพบที่แห่งใดแห่งหนึ่ง แล้วท่านหลวงปู่เอี่ยมได้ไปพบชีปะขาวชาวเขมรท่านหนึ่งชื่อว่าจันทร์หลวงปู่เอี่ยมจึงได้เรียนวิชาอิทธิเวทย์ จากท่านอาจารย์ผู้นี้อยู่หลายปี จนกระทั่งชาวบ้านแหลมใหญ่นึกว่าท่านออกธุดงค์ไปได้ถึงแก่มรณภาพไปแล้ว เนื่องจากหลวงปู่เอี่ยมท่านไม่ได้กลับมาที่วัดหลายปี จึงได้ทำสังฆทานแผ่ส่วนกุศลไปให้ท่าน ทำให้ท่านหลวงปู่เอี่ยมทราบในญาณของท่านเอง และท่านหลวงปู่เอี่ยมจึงได้เดินทางกลับมายังวัดสะพานสูง การไปธุดงค์ครั้งนี้ หลวงปู่เอี่ยมได้ไปเป็นเวลานาน และอยู่ในป่าจึงปรากฏว่าท่านหลวงปู่เอี่ยมท่านไม่ได้ปลงผม ผมจึงยาวถึงบั้นเอว จีวรก็ขาดรุ่งริ่ง หมวดท่านยาวเฟิ้มพร้อมมีสัตว์ป่าติดตามท่านหลวงปู่เอี่ยมมาด้วย อาทิเช่น หมี, เสือ, และงูจงอาง ฯลฯ
จากการเจริญกัมมัฎฐาน จึงทำให้หลวงปู่เอี่ยมสำเร็จ "โสฬส" ท่านหนึ่งและจากการเชี่ยวชาญวิชากัมมัฎฐานนี้เอง มีเรื่องเล่ากันว่าบริเวณหน้าวัดมีต้นตะเคียนต้นหนึ่งมีน้ำมันตกและดุมากเป็นเกรงกลัวต่อชาวบ้านหลวงปู่เอี่ยมจึงได้มายืนเพ่งอยู่ ๒-๓ วันเท่านั้นต้นตะเคียนต้นนั้นก็เฉา และยืนต้นแห้งตายหลวงปู่เอี่ยมผู้มีอาคมขลังและวาจาสิทธิ์ มักน้อย สันโดษ นี้เองทำให้ท่านหลวงปู่เอี่ยมมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ทั้งชาวบ้านและเจ้านายผู้ใหญ่ในพระนครนับถือท่านมาก
หลวงปู่เอี่ยมจะมรณภาพด้วยโรคชรา นายหรุ่น แจ้งมา ซึ่งเป็นลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดคอยอยู่ปรนนิบัติท่านหลวงปู่เอี่ยมได้ขอร้องท่านว่า "ท่านอาจารย์มีอาการเต็มที่แล้วถ้าท่านมีอะไรก็กรุณาได้สั่งและให้ศิษย์ไว้เป็นครั้งสุดท้าย" ซึ่งท่านหลวงปู่เอี่ยมก็ตอบว่า "ถ้ามีเหตุทุกข์เกิดขึ้นให้ระลึกถึงท่านและเอ่ยชื่อท่านก็แล้วกัน"
หลวงปู่เอี่ยมได้มรณภาพ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๓๙ รวมอายุท่านได้ ๘๐ ปี บวชได้ ๕๙ พรรษา มรณภาพด้วยโรคชรา
ก่อนที่ท่านจะมรณภาพได้มีศิษย์ผู้ใกล้ชิดเป็นตัวแทนของชาวบ้าน และผู้เคารพนับถือศรัทธา ที่มีและไม่มีของมงคลท่านไว้บูชา กราบเรียนถามหากว่าเมื่อหลวงปู่เอี่ยม ได้มรณภาพแล้วจักทำประการใด ท่านจึงได้มีปัจฉิมวาจาว่า " มีเหตุสุข ทุกข์ เกิดนั้น ให้ระลึกถึงชื่อของเรา"
จึงเป็นที่ทราบและรู้กันว่า หากผู้ใดต้องการมอบตัวเป็นศิษย์หรือต้องการให้ท่านช่วยแล้วด้วยความศรัทธายิ่ง ก็ให้เอ่ยระลึกถึงชื่อของท่าน ท่านจะมาโปรดและคุ้มครองและหากเป็นเรื่องหนักหนาก็บนตัวบวชให้ท่าน รูปหล่อเท่าองค์จริงของหลวงปู่เอี่ยม ท่านประดิษฐานอยู่หน้าพระอุโบสถ สร้าง(หล่อ) ขึ้นเมื่อพ.ศ. ๒๔๘๐ ในสมัยหลวงปู่กลิ่น ผู้ปกครองวัดต่อจากท่าน เพื่อการสักการะบูชา ต่อมาจนทุกๆวันจะมีผู้ศรัทธาจากทุกสารทิศมากราบไหว้และบนบานฯ ตลอดเวลาตราบแสงอาทิตย์ยังไม่ลับขอบฟ้า ท่านชอบกระทงใส่ดอกไม้เจ็ดสี จะมีผู้นำมาถวายและแก้บนแทบทุกวันโดยเฉพาะในวันพระแม้แต่ผงขี้ธูปและน้ำในคลองหน้าวัดก็ยังมีความ"ขลัง" อย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง
และหลังจากที่ท่านมรณภาพล่วงไปเนิ่นนานแล้วก็ตามที ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน ผลปรากฏว่าฐานที่ท่าน เคยถ่ายทุกข์เอาไว้และปิดตาย คราวที่เกิดไฟไหม้ป่าช้า ฐานของหลวงปู่เอี่ยม เพียงหลังเดียวเท่านั้นที่ไม่ไหม้ไฟ
เมื่อความอัศจรรย์ปรากฏขึ้นเช่นนั้น ผู้คนจึงค่อยมาตัดเอาแผ่นสังกะสีไปม้วนเป็นตะกรุดจนหมดสิ้น นอกจากนั้นแล้ว ยังมารื้อเอาตัวไม้ไปบูชาจนไม่เหลือหรอ ยิ่งไปกว่านั้น คนที่ไม่ได้อะไรเลยก็มาขุดเอาอุจจาระของท่านไปบูชา
ของขลังหลวงปู่เอี่ยม หลวงปู่เอี่ยมผู้สร้างพระปิดตาอันลือลั่น และตะกรุดมหาโสฬสมงคล ซึ่งหายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสุมทร และสนนราคาค่างวดนั้นแสนแพง ขนาดเพชรยังสู้ไม่ได้
หลวงปู่เอี่ยมสร้างของขลังไว้ ๒ ชนิดคือ
๑. พระปิดตา
๒. ตะกรุดมหาโสฬสมงคล

แบบพิมพ์พระปิดตา
ลักษณะพิมพ์พระปิดตา แบ่งได้ ๓ ชนิดใหญ่ ๆ ดังต่อไปนี้
แบบพิมพ์พระปิดตาทั่ว ๆ ไป เช่น พระปิดตาพิมพ์ชะลูด, พระปิดตาพิมพ์ตะพาบ, พระปิดตาพิมพ์หน้าใหญ่
พระปิดตาพิมพ์พนมมือ คือใช้มือสองข้างยกปิดหน้า ลักษณะคล้ายพนมมือไหว้ที่พบมีทั้งแบบพิมพ์สองหน้าและพิมพ์หน้าเดียว
พระปิดตาพิมพ์ ๒ หน้า ซึ่งมีทั้งพิมพ์พนมมือและพิมพ์ธรรมดา

พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...

อื่นๆ...

กำหลังโหลด Comments
Top