พระนาคปรกเนื้อผงผสมว่านหลวงพ่ออ๋อย วัดไทร บางขุนเทียน ราวปี 2490 -วาสนา-พระเครื่อง - webpra

เว็บ-พระ ประมูลพระเครื่อง ร้านค้าพระเครื่องออนไลน์

วาสนา-พระเครื่อง

พระแท้...ราคาสมเหตุสมผล...โทร.089-4611699

หมวด พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน ก่อนปี 2525

พระนาคปรกเนื้อผงผสมว่านหลวงพ่ออ๋อย วัดไทร บางขุนเทียน ราวปี 2490

ชื่อร้านค้า	วาสนา-พระเครื่อง - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	pisanu2502 (0)
ชื่อพระเครื่อง	พระนาคปรกเนื้อผงผสมว่านหลวงพ่ออ๋อย วัดไทร บางขุนเทียน ราวปี 2490
อายุพระเครื่อง	77 ปี
หมวดพระ	พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน ก่อนปี 2525
ราคาเช่า	2,500 บาท
เบอร์โทรติดต่อ	089-4611699 เวลาที่สะดวก 09.00 น. ถึง 20.00 น.
อีเมล์ติดต่อ	Line : 0894611699
LINE	(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	ศ. - 07 ส.ค. 2563 - 15:04.24
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	ศ. - 20 ธ.ค. 2567 - 11:17.25

รายละเอียด
พระนาคปรกเนื้อผงผสมว่านหลวงพ่ออ๋อย วัดไทร บางขุนเทียน ราวปี 2490 ขนาดโดยประมาณ ฐานกว้าง 1.8 ซ.ม. สูง 2.7 ซ.ม. "หลวงพ่ออ๋อย" เจ้าตำรับว่านยาสักคุ้มชีวิต เจ้าของเหรียญอันดับต้นๆฝั่งธนบุรี พุทธคุณดีทาง "เหนียว" และเป็นหนึ่งในสุดยอดพระคณาจารย์ที่ร่วมปลุกเสกพระพุทธชินราช รุ่นอินโดจีน ปี 2485 ทั้งนี้ ในย่านบางขุนเทียน นอกจากชื่อเสียงอันเกริกไกรของหลวงปู่เอี่ยม (พระภาวนาโกศลเถร) หรือ "เจ้าคุณเฒ่า" วัดหนังแล้ว "หลวงพ่ออ๋อย วัดไทร" นับเป็นพระเกจิอาจารย์ดังอีกรูปหนึ่งที่มีวิทยาคมไม่เป็นสองรองใคร ร่วมสมัยกับ หลวงพ่อสิน วัดบางกะดี่ หลวงพ่ออ๋อย ท่านเชี่ยวชาญด้านว่านยาสัก และ การเล่นแร่แปรธาตุจนสำเร็จเป็นทองคำ นาก เพชร พลอย รวมทั้งสร้างพระด้วยเนื้อผงผสมว่านต่างๆ แจกลูกศิษย์ ซึ่งมีพุทธคุณยอดเยี่ยมทางเหนียว แคล้วคลาด เมตตามหานิยม .ถึงขนาดสมเด็จฯพระสังฆราชฯ (แพ) วัดสุทัศน์ฯ ทรงเลื่อมใสมาก เวลาสร้างพระกริ่งและปลุกเสกคราวใดจะต้องนิมนต์ท่านมาด้วยทุกครั้ง พลังจิตของท่านกล้าแข็งมาก สามารถเสกใบมะขามเป็นตัวต่อตัวแตนได้ และเสกสิ่งของวัตถุมงคลอย่างใด ก็ล้วนแต่ขลังศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก หลวงพ่ออ๋อย มีนามเดิมว่า อ๋อย ถาวรพยัคฆ์ เป็นชาวอำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร โดยกำเนิด เกิดเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2413 บิดา-มารดาชื่อ นายเสือ-นางสำริด ในวัยเด็กได้เข้าเรียนหนังสือไทยที่ วัดนางสาว โดยเรียนรู้อักษรไทยสมัยเก่าแค่อ่านออกเขียนได้ จึงกลับไปช่วยงานทางบ้านกระทั่งอายุย่างสู่ปีที่ 26 จึงอุปสมบท ณ วัดนางสาว เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ.2439 โดยมี หลวงพ่อเกิด วัดนกกระจอก เป็นพระอุปัชฌาย์ โดยสมัยนั้นมีพระที่บวชวัดเดียวกันซึ่งต่อมาได้เป็นสหายทางธรรมที่สนิทสนมกัน คือ หลวงพ่อคง หลังจากจำพรรษาอยู่ที่วัดนางสาวได้ 1 พรรษา จึงย้ายไปจำพรรษาที่ วัดไทร บางขุนเทียน เพื่อทำการศึกษาค้นคว้าพระธรรมวินัยอันเป็นข้อปฏิบัติของสงฆ์ พร้อมทั้งร่ำเรียนอักษรขอมแล้วจึงหันมาสนใจ การศึกษาด้านพุทธาคมเวทมนต์คาถากระทั่งเชี่ยวชาญ และต่อมาได้เป็นสหายทางธรรมกับ หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ มีความใกล้ชิดสนิทสนมกันมากจึงไปมาหาสู่กันเป็นประจำ โดยหลวงพ่อรุ่ง จะเดินทางมาหา หลวงพ่ออ๋อย ที่วัดไทร เป็นประจำพร้อมค้างแรมครั้งละหลายคืนเสมอ เพราะพระคณาจารย์ผู้เป็นสหายทางธรรมมักจะมีการแลกเปลี่ยนวิชากันนั่นเอง เนื่องจาก หลวงพ่ออ๋อย เป็นชาวกระทุ่มแบนอันเป็นเขตที่ วัดท่ากระบือ ของ หลวงพ่อรุ่ง พระคณาจารย์ทั้งสองจึงชอบพอกันเป็นพิเศษประกอบกับ หลวงพ่ออ๋อยโด่งดังด้านยาสักโดยใช้สมุนไพรสักลงบนผิวหนัง เพื่อรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้ชาวบ้านหายขาดอยู่เสมอ จึงมีชื่อเสียงโด่งดังมาก ทั้งนี้การรักษาโรคด้วยยาสักมีเคล็ดอยู่ว่า ถ้าใครไม่ขอร้องให้รักษา จงอย่าขันอาสารักษาให้ น้ำมันมนต์ของท่านช่วยชีวิตคนที่เป็นโรคห่า (อหิวาตกโรค) ไว้มากมาย ข้าวสารเสกเลื่องลือมาก หากใครได้กินจะร่ำเรียนปัญญาดี คนบางขุนเทียนสมัยนั้นนิยมกันมาก แม้แต่คนกรุงเทพฯยังเอาไปให้ท่านเสกกันเป็นจำนวนมาก ตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 ท่านเสกทรายใส่ถุงเล็กๆแจกจ่ายทหารและชาวบ้านให้ไปพกติดตัว ปรากฏว่าไม่เป็นอันตรายเลย เป็นเรื่องเล่าขานกันมาจนทุกวันนี้ สมเด็จพระสังฆราช (แพ) วัดสุทัศน์ เลื่อมใสมาก เวลาสร้างพระกริ่งและปลุกเสกคราวใด จะต้องนิมนต์ท่านมาด้วยทุกครั้ง พลังจิตของท่านกล้าแข็งมาก สามารถเสกใบมะขามเป็นตัวต่อแตนได้ และเสกสิ่งของวัตถุมงคลอย่างใด ก็ล้วนแต่ขลังศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก หลวงพ่ออ๋อยท่านสร้างพระด้วยเนื้อดินเผา และเนื้อผงผสมว่านยา ซึ่งเป็นว่านยาที่ท่านใช้ในการสักด้วย นอกจากนี้ยังได้เป็นเจ้าอาวาสวัดไทร ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูถาวรสมณวงศ์ และมรณภาพโดยความสงบขณะมีอายุ 89 ปี เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ.2501 ตรงกับวันอาทิตย์ขึ้น 6 ค่ำ เดือน 11 ปีจอ จุลศักราช 1320 อานุภาพแห่งพระเครื่องของหลวงพ่ออ๋อย เป็นที่รู้จัก แล้วกล่าวขวัญกันมาก ทั้งเรื่องแคล้วคลาดและคงกระพัน ซึ่งมีเขียนลงในนิตยสารจักวาลพระเครื่อง หลาย ๆ ตอน แต่ที่เห็นว่ามีหลักฐานที่มีข้อพิสูจน์ คือ เรื่องความขลังอลังการ ของกฤตยานุภาพยาสักของหลวงพ่อ คราวถวายการรักษา พระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร ทรงประชวรด้วยอาการไส้ขอด แพทย์ได้ประชุมกันแล้วตัดสินใจว่าจะต้องถวายการผ่าตัดเป็นการด่วน ขณะนั้นได้มีท่านพระยาลูกศิษย์หลวงพ่ออ๋อยได้ทราบเรื่องขึ้น ก็เสนอไม่ยอมให้ผ่าตัด ทูลเชิญเสด็จไปวัดไทร เพื่อให้หลวงพ่ออ๋อยถวายการรักษาให้ ปรากฏว่าหลวงพ่ออ๋อยได้ตรวจดูอาการและถวายการรักษาโดยการสักยาตรงที่ปวด หลังจากถวายการสักยาเสร็จแล้ว ท่านพระยาก็นำ สมเด็จพะสังฆราชกลับโรงพยาบาล รุ่งขึ้นเช้า แพทย์ได้มาถวายการตรวจอีกครั้ง ปรากฏว่า โรคที่เคยตรวจเมื่อสองวันก่อน ได้หายเป็นปลิดทิ้ง ไม่มีอาการเหลืออยู่เลย สร้างความแปลกใจให้กับคณะแพทย์ พระเครื่องหลวงพ่ออ๋อย เป็นพระเครื่องที่เกิดจากความตั้งใจ เพื่อต้องการให้พุทธานุภาพในองค์พระได้ปกป้องลูกศิษย์ลูกหาของท่าน ให้ประสบแต่ความเจริญรุ่งเรือง ลาภผลพูลทวี แคล้วคลาดในอุบัติภัยต่าง ๆ และปราศจากโรคาพยาธิ เรื่องราคาเช่าหาก็ยังไม่แพง ยังแสวงหาได้ แต่ในอนาคตอันใกล้ พระเครื่องของท่านจะเป็นที่แสวงหาของนักนิยมพระเครื่อง เนื่องจากประสบการณ์และการสร้างที่บริสุทธิ์. ดังคำพูดของหลวงพ่ออ๋อยที่ให้แก่ลูกศิษย์ลูกหาที่มาขอวัตถุมงคลของท่านติดตัว *ถ้าทำดีผียังคุ้ม ถ้าพระไม่คุ้มก็ให้มันรู้กันไป*

รายละเอียด

พระนาคปรกเนื้อผงผสมว่านหลวงพ่ออ๋อย วัดไทร บางขุนเทียน ราวปี 2490

ขนาดโดยประมาณ ฐานกว้าง 1.8 ซ.ม. สูง 2.7 ซ.ม.

"หลวงพ่ออ๋อย" เจ้าตำรับว่านยาสักคุ้มชีวิต เจ้าของเหรียญอันดับต้นๆฝั่งธนบุรี พุทธคุณดีทาง "เหนียว" และเป็นหนึ่งในสุดยอดพระคณาจารย์ที่ร่วมปลุกเสกพระพุทธชินราช รุ่นอินโดจีน ปี 2485 ทั้งนี้ ในย่านบางขุนเทียน นอกจากชื่อเสียงอันเกริกไกรของหลวงปู่เอี่ยม (พระภาวนาโกศลเถร) หรือ "เจ้าคุณเฒ่า" วัดหนังแล้ว "หลวงพ่ออ๋อย วัดไทร" นับเป็นพระเกจิอาจารย์ดังอีกรูปหนึ่งที่มีวิทยาคมไม่เป็นสองรองใคร ร่วมสมัยกับ หลวงพ่อสิน วัดบางกะดี่ หลวงพ่ออ๋อย ท่านเชี่ยวชาญด้านว่านยาสัก และ การเล่นแร่แปรธาตุจนสำเร็จเป็นทองคำ นาก เพชร พลอย รวมทั้งสร้างพระด้วยเนื้อผงผสมว่านต่างๆ แจกลูกศิษย์ ซึ่งมีพุทธคุณยอดเยี่ยมทางเหนียว แคล้วคลาด เมตตามหานิยม .ถึงขนาดสมเด็จฯพระสังฆราชฯ (แพ) วัดสุทัศน์ฯ ทรงเลื่อมใสมาก เวลาสร้างพระกริ่งและปลุกเสกคราวใดจะต้องนิมนต์ท่านมาด้วยทุกครั้ง พลังจิตของท่านกล้าแข็งมาก สามารถเสกใบมะขามเป็นตัวต่อตัวแตนได้ และเสกสิ่งของวัตถุมงคลอย่างใด ก็ล้วนแต่ขลังศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก

หลวงพ่ออ๋อย มีนามเดิมว่า อ๋อย ถาวรพยัคฆ์ เป็นชาวอำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร โดยกำเนิด เกิดเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2413 บิดา-มารดาชื่อ นายเสือ-นางสำริด ในวัยเด็กได้เข้าเรียนหนังสือไทยที่ วัดนางสาว โดยเรียนรู้อักษรไทยสมัยเก่าแค่อ่านออกเขียนได้ จึงกลับไปช่วยงานทางบ้านกระทั่งอายุย่างสู่ปีที่ 26 จึงอุปสมบท ณ วัดนางสาว เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ.2439 โดยมี หลวงพ่อเกิด วัดนกกระจอก เป็นพระอุปัชฌาย์ โดยสมัยนั้นมีพระที่บวชวัดเดียวกันซึ่งต่อมาได้เป็นสหายทางธรรมที่สนิทสนมกัน คือ หลวงพ่อคง หลังจากจำพรรษาอยู่ที่วัดนางสาวได้ 1 พรรษา จึงย้ายไปจำพรรษาที่ วัดไทร บางขุนเทียน เพื่อทำการศึกษาค้นคว้าพระธรรมวินัยอันเป็นข้อปฏิบัติของสงฆ์ พร้อมทั้งร่ำเรียนอักษรขอมแล้วจึงหันมาสนใจ การศึกษาด้านพุทธาคมเวทมนต์คาถากระทั่งเชี่ยวชาญ และต่อมาได้เป็นสหายทางธรรมกับ หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ มีความใกล้ชิดสนิทสนมกันมากจึงไปมาหาสู่กันเป็นประจำ โดยหลวงพ่อรุ่ง จะเดินทางมาหา หลวงพ่ออ๋อย ที่วัดไทร เป็นประจำพร้อมค้างแรมครั้งละหลายคืนเสมอ เพราะพระคณาจารย์ผู้เป็นสหายทางธรรมมักจะมีการแลกเปลี่ยนวิชากันนั่นเอง เนื่องจาก หลวงพ่ออ๋อย เป็นชาวกระทุ่มแบนอันเป็นเขตที่ วัดท่ากระบือ ของ หลวงพ่อรุ่ง พระคณาจารย์ทั้งสองจึงชอบพอกันเป็นพิเศษประกอบกับ หลวงพ่ออ๋อยโด่งดังด้านยาสักโดยใช้สมุนไพรสักลงบนผิวหนัง เพื่อรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้ชาวบ้านหายขาดอยู่เสมอ จึงมีชื่อเสียงโด่งดังมาก ทั้งนี้การรักษาโรคด้วยยาสักมีเคล็ดอยู่ว่า ถ้าใครไม่ขอร้องให้รักษา จงอย่าขันอาสารักษาให้ น้ำมันมนต์ของท่านช่วยชีวิตคนที่เป็นโรคห่า (อหิวาตกโรค) ไว้มากมาย ข้าวสารเสกเลื่องลือมาก หากใครได้กินจะร่ำเรียนปัญญาดี คนบางขุนเทียนสมัยนั้นนิยมกันมาก แม้แต่คนกรุงเทพฯยังเอาไปให้ท่านเสกกันเป็นจำนวนมาก ตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 ท่านเสกทรายใส่ถุงเล็กๆแจกจ่ายทหารและชาวบ้านให้ไปพกติดตัว ปรากฏว่าไม่เป็นอันตรายเลย เป็นเรื่องเล่าขานกันมาจนทุกวันนี้ สมเด็จพระสังฆราช (แพ) วัดสุทัศน์ เลื่อมใสมาก เวลาสร้างพระกริ่งและปลุกเสกคราวใด จะต้องนิมนต์ท่านมาด้วยทุกครั้ง พลังจิตของท่านกล้าแข็งมาก สามารถเสกใบมะขามเป็นตัวต่อแตนได้ และเสกสิ่งของวัตถุมงคลอย่างใด ก็ล้วนแต่ขลังศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก หลวงพ่ออ๋อยท่านสร้างพระด้วยเนื้อดินเผา และเนื้อผงผสมว่านยา ซึ่งเป็นว่านยาที่ท่านใช้ในการสักด้วย นอกจากนี้ยังได้เป็นเจ้าอาวาสวัดไทร ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูถาวรสมณวงศ์ และมรณภาพโดยความสงบขณะมีอายุ 89 ปี เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ.2501 ตรงกับวันอาทิตย์ขึ้น 6 ค่ำ เดือน 11 ปีจอ จุลศักราช 1320 อานุภาพแห่งพระเครื่องของหลวงพ่ออ๋อย เป็นที่รู้จัก แล้วกล่าวขวัญกันมาก ทั้งเรื่องแคล้วคลาดและคงกระพัน ซึ่งมีเขียนลงในนิตยสารจักวาลพระเครื่อง หลาย ๆ ตอน แต่ที่เห็นว่ามีหลักฐานที่มีข้อพิสูจน์ คือ เรื่องความขลังอลังการ ของกฤตยานุภาพยาสักของหลวงพ่อ คราวถวายการรักษา พระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร ทรงประชวรด้วยอาการไส้ขอด แพทย์ได้ประชุมกันแล้วตัดสินใจว่าจะต้องถวายการผ่าตัดเป็นการด่วน ขณะนั้นได้มีท่านพระยาลูกศิษย์หลวงพ่ออ๋อยได้ทราบเรื่องขึ้น ก็เสนอไม่ยอมให้ผ่าตัด ทูลเชิญเสด็จไปวัดไทร เพื่อให้หลวงพ่ออ๋อยถวายการรักษาให้ ปรากฏว่าหลวงพ่ออ๋อยได้ตรวจดูอาการและถวายการรักษาโดยการสักยาตรงที่ปวด หลังจากถวายการสักยาเสร็จแล้ว ท่านพระยาก็นำ สมเด็จพะสังฆราชกลับโรงพยาบาล รุ่งขึ้นเช้า แพทย์ได้มาถวายการตรวจอีกครั้ง ปรากฏว่า โรคที่เคยตรวจเมื่อสองวันก่อน ได้หายเป็นปลิดทิ้ง ไม่มีอาการเหลืออยู่เลย สร้างความแปลกใจให้กับคณะแพทย์ พระเครื่องหลวงพ่ออ๋อย เป็นพระเครื่องที่เกิดจากความตั้งใจ เพื่อต้องการให้พุทธานุภาพในองค์พระได้ปกป้องลูกศิษย์ลูกหาของท่าน ให้ประสบแต่ความเจริญรุ่งเรือง ลาภผลพูลทวี แคล้วคลาดในอุบัติภัยต่าง ๆ และปราศจากโรคาพยาธิ เรื่องราคาเช่าหาก็ยังไม่แพง ยังแสวงหาได้ แต่ในอนาคตอันใกล้ พระเครื่องของท่านจะเป็นที่แสวงหาของนักนิยมพระเครื่อง เนื่องจากประสบการณ์และการสร้างที่บริสุทธิ์. ดังคำพูดของหลวงพ่ออ๋อยที่ให้แก่ลูกศิษย์ลูกหาที่มาขอวัตถุมงคลของท่านติดตัว ***ถ้าทำดีผียังคุ้ม ถ้าพระไม่คุ้มก็ให้มันรู้กันไป***