พระท่ากระดานสนิมแดง กาญจนบุรี-ตลับเงินตลับทอง - webpra

เว็บ-พระ ประมูลพระเครื่อง ร้านค้าพระเครื่องออนไลน์

ตลับเงินตลับทอง

สิ้นลม สมบัติ ไม่ติดกาย ของดีมากมาย จะคู่กาย ผู้มีบารมีสืบต่อไป nongbluestar**081-6391688**

หมวด พระกรุ เนื้อชิน

พระท่ากระดานสนิมแดง กาญจนบุรี

ชื่อร้านค้า	ตลับเงินตลับทอง - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	nongbluestar (23)
ชื่อพระเครื่อง	พระท่ากระดานสนิมแดง กาญจนบุรี
อายุพระเครื่อง	-
หมวดพระ	พระกรุ เนื้อชิน
ราคาเช่า	-
เบอร์โทรติดต่อ	(ไม่แสดงเบอร์ เนื่องจากรายการนี้ไม่ได้ปล่อยเช่า)
อีเมล์ติดต่อ	nongbluestar@yahoo.com
LINE	(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	อา. - 04 พ.ย. 2561 - 15:02.57
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	พฤ. - 24 มิ.ย. 2564 - 15:19.12

รายละเอียด
พระท่ากระดานสนิมแดง กาญจนบุรี เป็นหนึ่งในเบญจภาคีพระชุดยอดขุนพลเนื้อชิน เป็นที่รู้จักของวงการพระเครื่องเมืองไทยมาช้านาน โดยมีฉายาว่า “ขุนศึกแห่งลุ่มแม่น้ำกลอง” พระท่ากระดานมีการขุดพบจากกรุขึ้นครั้งแรกที่เป็นทางการ ประมาณ พ.ศ.๒๔๖๐ ที่วัดท่ากระดานกลาง ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี และมีการขุดพบกันอีกหลายๆ กรุ ทั้งที่ขุดพบเป็นทางการและที่ไม่เป็นทางการ เช่น พบที่กรุวัดท่ากระดานเหนือ กรุวัดท่ากระดานใต้ กรุท่าเสา กรุทุ่งลาดหญ้า และกรุลั่นทม นอกจากจะพบพระพิมพ์ท่ากระดานในเขต อ.ศรีสวัสดิ์ แล้วยังพบในเขต อ.เมืองกาญจนบุรี อีกหลายกรุ เช่น ที่กรุวัดเทวสังฆาราม (วัดเหนือ) กรุเขาชนไก่ และที่กรุวัดหนองบัว เป็นต้น ฯลฯ นอกจากนี้ยังพบพระท่ากระดานที่ตัวจังหวัดอีก ๓ วัด คือ ๑.พ.ศ. ๒๔๙๗ ที่วัดหนองบัว พบอยู่ในไหโบราณ ที่อยู่บนเพดานพระอุโบสถด้านหลังพระประธาน ๒.พ.ศ.๒๕๐๖ พบพระท่ากระดานอีกที่วัดเหนือ (วัดเทวสังฆาราม) สมัยหลวงพ่อดี เป็นเจ้าอาวาส พบในพระเจดีย์องค์ประธาน ๓.พ.ศ.๒๕๐๗ ที่วัดท่าเสา มีการขุดพระเจดีย์โบราณองค์หนึ่ง โดยเรียกพระท่ากระดานที่พบใน ๓ ครั้งนี้ว่า “พระท่ากระดานกรุใหม่” การสร้างพระท่ากระดานไม่ว่าจะเป็นพิมพ์ไหนยังเชื่อกันว่าตะกั่วที่นำมาสร้างพระนั้น เป็นตะกั่วที่หลอมกันมานานเป็นพันปีแล้ว ในสมัยอู่ทองได้นำเอาตะกั่วเก่าเหล่านี้มาหลอมเทเป็นพระพิมพ์ท่ากระดานอีกที จึงมีการเรียกตะกั่วเก่าที่นำมาสร้างพระท่ากระดานนี้ว่า “ตะกั่วพันปี” ซึ่งก็มีการเรียกกันมานมนาน ครั้งโบร่ำโบราณตั้งแต่รุ่นปู่ย่า ตายาย กันแล้ว ปัจจุบันพระท่ากระดานไม่ว่าจะเป็นพระพิมพ์เล็ก พิมพ์ใหญ่ หรือพิมพ์ไหนๆ ก็ตาม ทั้งกรุเก่ากรุใหม่ ถือว่าเป็นพระที่หาชมของแท้ได้ยากยิ่งทุกพิมพ์ พระท่ากระดาน เป็นพระที่สร้างในยุคสมัยอู่ทอง สันนิษฐานว่าผู้สร้างพระท่ากระดานก็คือผู้เรืองเวทย์ซึ่งเป็นฆาราวาส มิใชสงฆ์ หรือผู้ที่เราเรียกกันว่า"ฤาษี"ในยุคโบราณ เพราะเป็นการสันนิษฐานจากแผ่นจารึกลานทองของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุและของสุโขทัยซึ่งคาบเกี่ยวกับอู่ทองคือแผ่นจารึกแผ่นลานเงินของวัดบรมธาตุ กำแพงเพชร กล่าวถึงการสร้างพระเครื่องของบรรดาฤาษีทั้งหลาย และฤาษีทั้งหลาย 11 ตนที่สร้างพระเครื่องมีฤาษีอยู่3ตนที่ถือเป็นใหญ่ ก็คือ ฤๅษีพิลาลัย, ฤๅษีตาไฟ, ฤๅษีตาวัว และก็สันนิษฐานว่าผู้ที่สร้างพระท่ากระดานก็คือ"ฤๅษีตาไฟ"โดยการอาราธนาของเจ้าเมือง ท่ากระดาน เมื่อสร้างแล้วก็นำมาบรรจุไว้ในอารามสำคัญๆในเมืองท่ากระดาน เมืองศรีสวัสดิ์ และเมืองกาญจนบุรีเก่า ในยุคนั้น พระท่ากระดาน เป็นพระที่สร้างขึ้นด้วยเนื้อชินตะกั่วอย่างเดียวจึงมีลักษณะเป็นพระที่มีสนิมแดง และสนิมไขขาว ส่วนองค์ที่แก่ชินมากจะเกิดลักษณะเป็นเกล็ดกระดี่แซมไขขาว สนิมไขทั่งองค์น้ัน มีวรรณะขาวนวล หรือขาวอมเหลือง คล้ายไขสัตว์ ปกติจะเกิดเป็นรากหรือขุมอยู่ใต้สนิมแดง แล้วแทรกสนิมแดงขึ้นมาด้านบน ถ้าธาตุหินปูนเกิดน้อยจะมีลักษณะเป็นฝ้าขาวๆจับอยู่บนผิวสนิมแดง และถ้าเกิดมากก็จะปกปิดสนิมแดงไว้เป็นส่วนใหญ่ ต่างกับสนิมเหลือง ซึ่งมีวรรณะเหลืองจัดกว่า มีความหนากว่า และเกิดตลอดเนื้อพระ อนึ่ง สนิมไขถ้าเกิดจัดและผสมผสานกับเนื้อตะกั่วเถื่อนแล้ว จะทำให้เนื้อพระบริเวณนั้นมีผิวไม่เรียบ และมีวรรณะแสดสดใส พุทธคุณนั้น คงกระพันชาตรี ประสบการณ์มีให้ประจักษ์มากมายแล้วว่าเหนียวจริงๆ ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงมา ณ ที่นี้ด้วย กับ ข้อมูลดังกล่าว -จาก คม ชัด ลึก -จากส่วนหนึ่งของประวัติวัดท่ากระดาน..โดย ตรียัมปวาย เมื่อ ๑๓ เมษายน ๒๕๒๐ -ข้อมูลบางส่วนจาก หนังสือ อมตะพระกรุ อันล้ำค่าของไทย โดยต้อย เมืองนนท์

รายละเอียด

พระท่ากระดานสนิมแดง กาญจนบุรี

เป็นหนึ่งในเบญจภาคีพระชุดยอดขุนพลเนื้อชิน เป็นที่รู้จักของวงการพระเครื่องเมืองไทยมาช้านาน โดยมีฉายาว่า “ขุนศึกแห่งลุ่มแม่น้ำกลอง”

พระท่ากระดานมีการขุดพบจากกรุขึ้นครั้งแรกที่เป็นทางการ ประมาณ พ.ศ.๒๔๖๐ ที่วัดท่ากระดานกลาง ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี และมีการขุดพบกันอีกหลายๆ กรุ ทั้งที่ขุดพบเป็นทางการและที่ไม่เป็นทางการ เช่น พบที่กรุวัดท่ากระดานเหนือ กรุวัดท่ากระดานใต้ กรุท่าเสา กรุทุ่งลาดหญ้า และกรุลั่นทม นอกจากจะพบพระพิมพ์ท่ากระดานในเขต อ.ศรีสวัสดิ์ แล้วยังพบในเขต อ.เมืองกาญจนบุรี อีกหลายกรุ เช่น ที่กรุวัดเทวสังฆาราม (วัดเหนือ) กรุเขาชนไก่ และที่กรุวัดหนองบัว เป็นต้น ฯลฯ

นอกจากนี้ยังพบพระท่ากระดานที่ตัวจังหวัดอีก ๓ วัด คือ
๑.พ.ศ. ๒๔๙๗ ที่วัดหนองบัว พบอยู่ในไหโบราณ ที่อยู่บนเพดานพระอุโบสถด้านหลังพระประธาน
๒.พ.ศ.๒๕๐๖ พบพระท่ากระดานอีกที่วัดเหนือ (วัดเทวสังฆาราม) สมัยหลวงพ่อดี เป็นเจ้าอาวาส พบในพระเจดีย์องค์ประธาน
๓.พ.ศ.๒๕๐๗ ที่วัดท่าเสา มีการขุดพระเจดีย์โบราณองค์หนึ่ง โดยเรียกพระท่ากระดานที่พบใน ๓ ครั้งนี้ว่า “พระท่ากระดานกรุใหม่”

การสร้างพระท่ากระดานไม่ว่าจะเป็นพิมพ์ไหนยังเชื่อกันว่าตะกั่วที่นำมาสร้างพระนั้น เป็นตะกั่วที่หลอมกันมานานเป็นพันปีแล้ว ในสมัยอู่ทองได้นำเอาตะกั่วเก่าเหล่านี้มาหลอมเทเป็นพระพิมพ์ท่ากระดานอีกที จึงมีการเรียกตะกั่วเก่าที่นำมาสร้างพระท่ากระดานนี้ว่า “ตะกั่วพันปี” ซึ่งก็มีการเรียกกันมานมนาน ครั้งโบร่ำโบราณตั้งแต่รุ่นปู่ย่า ตายาย กันแล้ว ปัจจุบันพระท่ากระดานไม่ว่าจะเป็นพระพิมพ์เล็ก พิมพ์ใหญ่ หรือพิมพ์ไหนๆ ก็ตาม ทั้งกรุเก่ากรุใหม่ ถือว่าเป็นพระที่หาชมของแท้ได้ยากยิ่งทุกพิมพ์

พระท่ากระดาน เป็นพระที่สร้างในยุคสมัยอู่ทอง สันนิษฐานว่าผู้สร้างพระท่ากระดานก็คือผู้เรืองเวทย์ซึ่งเป็นฆาราวาส มิใชสงฆ์ หรือผู้ที่เราเรียกกันว่า"ฤาษี"ในยุคโบราณ เพราะเป็นการสันนิษฐานจากแผ่นจารึกลานทองของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุและของสุโขทัยซึ่งคาบเกี่ยวกับอู่ทองคือแผ่นจารึกแผ่นลานเงินของวัดบรมธาตุ กำแพงเพชร

กล่าวถึงการสร้างพระเครื่องของบรรดาฤาษีทั้งหลาย และฤาษีทั้งหลาย 11 ตนที่สร้างพระเครื่องมีฤาษีอยู่3ตนที่ถือเป็นใหญ่ ก็คือ ฤๅษีพิลาลัย, ฤๅษีตาไฟ, ฤๅษีตาวัว และก็สันนิษฐานว่าผู้ที่สร้างพระท่ากระดานก็คือ"ฤๅษีตาไฟ"โดยการอาราธนาของเจ้าเมือง ท่ากระดาน เมื่อสร้างแล้วก็นำมาบรรจุไว้ในอารามสำคัญๆในเมืองท่ากระดาน เมืองศรีสวัสดิ์ และเมืองกาญจนบุรีเก่า ในยุคนั้น

พระท่ากระดาน เป็นพระที่สร้างขึ้นด้วยเนื้อชินตะกั่วอย่างเดียวจึงมีลักษณะเป็นพระที่มีสนิมแดง และสนิมไขขาว ส่วนองค์ที่แก่ชินมากจะเกิดลักษณะเป็นเกล็ดกระดี่แซมไขขาว
สนิมไขทั่งองค์น้ัน มีวรรณะขาวนวล หรือขาวอมเหลือง คล้ายไขสัตว์ ปกติจะเกิดเป็นรากหรือขุมอยู่ใต้สนิมแดง แล้วแทรกสนิมแดงขึ้นมาด้านบน ถ้าธาตุหินปูนเกิดน้อยจะมีลักษณะเป็นฝ้าขาวๆจับอยู่บนผิวสนิมแดง และถ้าเกิดมากก็จะปกปิดสนิมแดงไว้เป็นส่วนใหญ่ ต่างกับสนิมเหลือง ซึ่งมีวรรณะเหลืองจัดกว่า มีความหนากว่า และเกิดตลอดเนื้อพระ อนึ่ง สนิมไขถ้าเกิดจัดและผสมผสานกับเนื้อตะกั่วเถื่อนแล้ว จะทำให้เนื้อพระบริเวณนั้นมีผิวไม่เรียบ และมีวรรณะแสดสดใส

พุทธคุณนั้น คงกระพันชาตรี ประสบการณ์มีให้ประจักษ์มากมายแล้วว่าเหนียวจริงๆ

ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงมา ณ ที่นี้ด้วย กับ ข้อมูลดังกล่าว
-จาก คม ชัด ลึก
-จากส่วนหนึ่งของประวัติวัดท่ากระดาน..โดย ตรียัมปวาย เมื่อ ๑๓ เมษายน ๒๕๒๐
-ข้อมูลบางส่วนจาก หนังสือ อมตะพระกรุ อันล้ำค่าของไทย โดยต้อย เมืองนนท์