เหรียญเจริญศรีหลวงพ่อสว่าง วัดท่าพุทรา ปี 2516-สกุลจันทร์ - webpra
VIP
ขอเดชะบารมี เป็นที่พึ่งที่ระลึก จงอย่าอด อย่าอยาก อย่ายาก อย่าจน อย่าต่ำกว่าคน อย่าจนกว่าเขา สาธุๆๆ

หมวด พระเกจิภาคเหนือ

เหรียญเจริญศรีหลวงพ่อสว่าง วัดท่าพุทรา ปี 2516

เหรียญเจริญศรีหลวงพ่อสว่าง วัดท่าพุทรา  ปี 2516 - 1เหรียญเจริญศรีหลวงพ่อสว่าง วัดท่าพุทรา  ปี 2516 - 2เหรียญเจริญศรีหลวงพ่อสว่าง วัดท่าพุทรา  ปี 2516 - 3
ชื่อร้านค้า สกุลจันทร์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
ชื่อพระเครื่อง เหรียญเจริญศรีหลวงพ่อสว่าง วัดท่าพุทรา ปี 2516
อายุพระเครื่อง 43 ปี
หมวดพระ พระเกจิภาคเหนือ
ราคาเช่า -
เบอร์โทรติดต่อ (ไม่แสดงเบอร์ เนื่องจากรายการนี้ไม่ได้ปล่อยเช่า)
อีเมล์ติดต่อ labboy_hgr@yahoo.com
LINE
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ พระโชว์
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ ศ. - 12 พ.ย. 2553 - 09:49.33
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ อา. - 01 ก.ค. 2555 - 11:33.00
รายละเอียด
เหรียญเจริญศรี พระวิบูลวชิรธรรม หลวงพ่อสว่าง อุตตโร วัดท่าพุทรา กำแพงเพชร สภาพสวยสมบูรณ์มากครับ แทบไม่มีรอยขีดข่วนเลยครับ ตำหนิชัดทุกจุดครับ
ทีมงานร้านสกุลจันทร์(น้อย บรรพตพิสัย)
พระวิบูลวชิรธรรม นามเดิม สว่าง นามสกุล เจริญศรี นามฉายา อุตตโร นามบิดา ขุนเจริญสวัสดิ์ (เจริญ เจริญศรี) นามมารดา หอม หรือ ก้อนดิน เกิด ณ บ้านน้ำหัก ตำบลท่างิ้ว อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2426 ตรงกับวันขึ้น 12 ค่ำ เดือน 7 ปีมะแม เป็นบุตรคนที่ 5 ของคุณเจริญสวัสดิ์ (เจริญ เจริญศรี) แต่เป็นบุตรคนเดียวของคุณแม่หอมหรือก้อนดิน ทั้งนี้เนื่องจากโยมมารดาของท่านเป็นคนที่ 2 ของขุนเจริญสวัสดิ์ (เจริญ เจริญศรี) นั่นเอง มีพี่น้องร่วมบิดาเดียวกัน 5 คน กล่าวคือ
1. นางแส (ถึงแก่กรรมแล้ว)
2. นางกลีบ (ถึงแก่กรรมแล้ว)
3. นางเคลือบ (ถึงแก่กรรมแล้ว)
4. นางสวัสดิ์ (ถึงแก่กรรมแล้ว)
5. พระวิบูลวชิรธรรม (ก่อนมรณภาพเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชร)
การอุปสมบท
หลวงพ่อพระวิบูลวชิรธรรม อุปสมบทเมื่อวันพุธที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2445 ตรงกับวันขึ้น 4 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ณ พัทธสีมาวัดขุนญาณ ตำบลคลองเมือง อำเภอกรุงเก่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พระญาณไตรโลกย์ (สะอาด) วัดศาลาปูน อำเภอกรุงเก่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นพระอุปัชฌาย์
พระวินัยธรศรี วัดศาลาปูน อำเภอกรุงเก่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นพระกรรมวาจาจารย์
พระปลัดแพ วัดศาลาปูน อำเภอกรุงเก่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นพระอนุสาวนาจารย์
พระอุปัชฌาย์ ให้นามฉายาว่า “อุตตโร”
เมื่อพระวิบูลวชริธรรมอุปสมบทแล้ว ก็ได้ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยและบาลีอยู่ที่สำนักเรียนวัดศาลาปูนเป็นเวลา 2 ปี และได้กลับมาอยู่กับพระครูบรรพโตปมญาณ (หลวงพ่อเผือก) ที่วัดหัวดงเหนือ ตำบลหัวดง อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ ตามเดิม ได้ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย จากพระอาจารย์สด(พระครูสวรรค์วิถี) ซึ่งเป็นอาจารย์เดิมอีกเป็นเวลา 2 พรรษา แล้วได้ย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดท่างิ้ว อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์เป็นเวลา 2 พรรษา จากนั้นได้ย้ายไปจำพรรษาที่วัดเขาแก้ว (วัดมณีบรรพตวรวิหาร) จังหวัดตาก อีก 2 พรรษา แล้วได้ย้ายกลับมาอยู่ที่วัดท่างิ้วตามเดิมอีก ต่อมาเมื่ออาจารย์ปั้นเจ้าอาวาสวัดท่างิ้วได้มรณะภาพลง หลวงพ่อพระครูน้อย ขณะนั้นยังเป็นประทวนสมณะศักดิ์อยู่ ได้ตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดท่างิ้ว เมื่อได้เป็นเจ้าอาวาสแล้ว ได้ทราบข่าวว่าจังหวัดอุทัยธานีตั้งสำนักศาสนศึกษาขึ้น จึงได้ย้ายไปจำพรรษาอยู่ที่วัดสังกัดคีรีวงค์อุดมมงคลเขตร อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งมีอาจารย์ลพเป็นเจ้าอาวาส มีอาจารย์จ่อยเป็นครูสอน ได้ศึกษาพระธรรมวินัยอยู่ที่วัดสังกัดคีรีวงค์ 1 พรรษา เมื่อเห็นว่ามีความรู้พอสมควรแล้วได้กลับมาอยู่ที่วัดท่างิ้วตามเดิม เพื่อบูรณะปฏิสังขรณ์วัดท่างิ้ว และเพื่อจัดตั้งสำนักเรียนขึ้นที่วัดท่างิ้วต่อไป
ต่อมาในปี พ.ศ. 2468 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้รั้งตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอขาณุวรลักษณ์บุรี กิ่งอำเภอแสนตอ จังหวัดกำแพงเพชร (สมัยนั้นอำเภอคลองขลุงยังเป็นอำเภอขาณุอยู่ อำเภอขาณุยังเป็นกิ่งอำเภอแสนตอ ต่อมาราวปี พ.ศ.2493 จึงเปลี่ยนอำเภอแสนตอเป็นอำเภอขาณุวรลักษบุรีมาจนถึงทุกวันนี้) แต่ก็ยังดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลท่างิ้วอยู่อีกด้วย และยังอยู่ที่วัดท่างิ้วตามเดิม การขึ้นมาราชการคณะสงฆ์ที่อำเภอขาณุวรลักษบุรี ในสมัยนั้นมีความลำบากมาก เพราะการคมนาคมไม่สะดวกเช่นทุกวันนี้ โดยมากก็จ้างเรือแจวบ้าง เรือถ่อบ้าง บางครั้งก็มารถงาน บางครั้งก็เดินเท้า ถ้าเป็นหน้าพรรษาก็มาค้างคราวละ 5-6 คืนแล้วก็กลับ ถ้าขึ้นหน้าแล้งก็มาค้างมากคืนหน่อย ส่วนมากค้างคืนที่วัดศรีภิรมณ์ อำเภอคลองขลุง ท่านได้ปฏิบัติดังนี้ตลอดมา ต่อมาก็ได้รับตราตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ ใน พ.ศ. 2468 ครั้นถึงปี พ.ศ. 2470 ได้รับตราตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอขาณุวรลักษบุรี และกิ่งอำเภอแสนตอ จังหวัดกำแพงเพชร ได้รับพระราชทานสมณะศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ “พระครูวิบูลวชิรธรรม” ได้รับตราตั้งให้เป็นกรรมการตรวจประโยคนักธรรมชั้นตรีในสนามหลวง ได้รับเลื่อนฐานะเป็นพระคูชั้นเอกแล้วก็ได้ขยายสำนักเรียนให้มีมากขึ้นได้อบรมสั่งสอนพระภิกษุสามเณะให้มีข้อวัตรปฏิบัติดีขึ้น ได้เทศนาสั่งสอนประชาชนให้ประพฤติดีมีศีลธรรมประจำใจ เอาใจใส่ในการก่อสร้างเสนาสนะต่างๆมากมาย ได้ขออนุญาตเปิดสนามสอบธรรม ขึ้นที่วัดสว่างอารมณ์ กิ่งอำเภอแสนตอ ครั้นทางราชการได้แยกอำเภอขาณุวรลักษบุรี เป็นอำเภอคลองขลุง กิ่งอำเภอแสนตอเป็นอำเภอขาณุวรลักษบุรีแล้ว โดยมีเจ้าคณะอำเภอทั้งสองอำเภอแล้ว ได้แยกสนามสอบธรรม มาสอบที่วัดศรีภิรมณ์อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร ต่อมาในปี พ.ศ.2490 ได้รับใบตราตั้งให้เป็นกรรมการศึกษาประจำตำบลคลองขลุง เมื่อ พ.ศ. 2500

พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...

อื่นๆ...

กำหลังโหลด Comments
Top