หมวด หลวงปู่บุญ – หลวงปู่เพิ่ม – หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว

ประคำ108 ผงยาจินดามณี หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม

ประคำ108 ผงยาจินดามณี หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม - 3

ประคำ108 ผงยาจินดามณี หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม - 4

ประคำ108 ผงยาจินดามณี หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม - 5

ชื่อร้านค้า	อิฐ สงขลา - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	อิฐ_สงขลา (27)
ชื่อพระเครื่อง	ประคำ108 ผงยาจินดามณี หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม
อายุพระเครื่อง	23 ปี
หมวดพระ	หลวงปู่บุญ – หลวงปู่เพิ่ม – หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว
ราคาเช่า	8,500 บาท
เบอร์โทรติดต่อ	081-346-6638,081854-8799
อีเมล์ติดต่อ	itsda99@gmail.com
LINE	(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	ส. - 25 ธ.ค. 2564 - 20:12.16
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	ส. - 25 ธ.ค. 2564 - 20:12.16

รายละเอียด
ประคำ108 ผงยาจินดามณี หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม สร้างน้อย หายาก ประคำศักดิ์สิทธิ์ วาสนาจินดามณี หลวงปู่เจือ ปิยสีโล วัดกลางบางแก้ว ด้วยผงยาวาสนาจินดามณี บรรจุตะกรุดทุกเม็ด ตำรับของ หลวงปู่บุญ หลวงปู่เจือ ปิยสีโล วัดกลางบางแก้ว อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ทำด้วยผงยาวาสนาจินดามณี บรรจุตะกรุดทุกเม็ด ตำรับของพระพุทธวิธีนายก (หลวงปู่บุญ ขนฺโชติ) อดีตเจ้าอาวาสวัดกลางบางแก้ว ซึ่งตำราถ่ายทอดมาจากสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว กรุงศรีอยุธยา (พระอาจารย์ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช) พระคาถาศักดิ์สิทธิ์นี้เมื่อภาวนา 108 ครั้ง จะบังเกิดข้าวปลาอาหารทั้งปวง บริบูรณ์ด้วยโชคลาภสักการะนานัปการ เอาลูกประคำศักดิ์สิทธิ์วาสนาจินดามณี สวมศีรษะแล้วตั้งจิตให้มั่นคง บุคคลใดได้บูชาประคำศักดิ์สิทธิ์นี้จะเป็นบุญของผู้นั้น หาที่อุปมามิได้ อยู่เรือนคุ้มภัย แม้จรไปที่ใดก็จะย่อมป้องกันคุ้มครองได้ 108-1000 ประการ ยาวาสนาจินดามณีเป็นยาโบราณตำนานบอกว่าเป็นตำรับของสมเด็จพระพนรัตน วัดป่าแก้ว (วัดใหญ่ชัยมงคล) พระนครศรีอยุธยา ที่ตกทอดมาถึงพระพุทธวิธีนายก (หลวงปู่บุญ) แล้วตกมาถึงหลวงปู่เพิ่มและพระอาจารย์ใบ แห่งวัดกลางบางแก้ว แล้วก็ต่อมาถึงหลวงปู่เจือ ในปัจจุบันนี้ ความลับสุดยอดเกี่ยวกับประคำศักดิ์สิทธิ์สำนักวัดกลางบางแก้วความหมายของคำว่า”ประคำ” ลูกประคำ,วัตถุที่เป็นลูกกลม ๆ ร้อยเข้าเป็นพวงใช้ให้คะแนนคำบริกรรม ส่วนมากลูกประคำพวงหนึ่ง ๆมี ๑๐๘ ลูกเท่ากับคำภาวนาพุทธคุณ อย่างย่อเดินหน้า ๕๔ คำถอยหลัง ๕๔ คำรวมเป็น ๑๐๘ และมีพวงเล็กพวงต่ออีกต่างหาก ๗ - ๘ ลูกใช้คล้องคอทำเป็นเครื่องประดับก็ได้“หลวงปู่บุญ ขฺนธโชติ” อดีตเจ้าอาวาสวัดกลางบางแก้วผู้สร้างประคำ ”นเรศวรปราบหงสาวดี” ขึ้นมาในช่วงที่หลวงปู่บุญมีชีวิตอยู่โดยจะขอเล่าถึงการสร้างลูกประคำวิเศษ อันเป็นเป็นตำรับโบราณครั้งสมัย “สมเด็จพระพนรัตน์” พระอาจารย์ของ”สมเด็จพระนเรศวร” คราวออกรณรงค์สงครามกับพม่าและสยามโดย สมเด็จพระนเรศวรมหาราช นำทัพออกศึกได้ชัยชนะต่อข้าศึก จึงเป็นที่มาของประคำ “ศักดิ์สิทธิ์”เป็นเครื่องรางที่ท่านได้รับมอบจากสมเด็จพระพนรัตน์ติดพระองค์ในขณะทำสงครามอันยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของชาติ จึงเป็นที่มาของคำว่า “นเรศวรปราบหงสาวดี”หลังเสร็จสงครามจึงได้สร้างพระเจดีย์ใหญ่ชัยมงคลเป็นพุทธบูชา ณ.วัดป่าแก้ว ปัจจุบันคือวัดใหญ่ชัยมงคล จ.อยุธยาสิทธิการิยะ ตำราโบราณท่านกล่าวความไว้ว่า พระอาจารย์เจ้าตนใดพึงประสงค์ที่จะสร้างลูกประคำวิเศษ ท่านให้เตรียมการให้พร้อมและพึงปฏิบัติตามขั้นตอน ดังนี้ การเตรียมการ ๑.จัดเตรีมผงใบลานและผงขี้รักตามจำนวนให้พร้อม หากเป็น”ผงยาวาสนาจินดามณี”ก็ควรเตรียมจำนวนให้พอกับการสร้างประคำ ๒.จัดหาโลหะเงินบริสุทธิ์(พอสมควร)มาแผ่เป็นแผ่นบางๆแล้วตัดให้เป็นแผ่นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสเล็กๆมีขนาดเท่าๆกันให้ได้จำนวน๑๐๘แผ่น ๓.กำหนดวันและเวลา อันเป็น”ศุภมงคล”เพื่อประกอบพิธีลงยันต์บนแผ่นโลหะเงินบริสุทธิ์ ๑๐๘ แผ่น ๔.หาสถานที่เหมาะสมอันจะประกอบพิธีลงยันต์ ขั้นตอนการปฏิบัติการ ๑.เมื่อถึงเพลาอันเป็น “ศุภมงคลฤกษ์” ตามที่กำหนดไว้แล้วพึงประกอบพิธีการลง”ยันต์พระเจ้า ๓ พระองค์” เป็นปฐมวาระคือแผ่นโลหะเงินที่ ๑ ลงยันต์พระพุทธเจ้าแผ่นโลหะเงินที่ ๒ ลงยันต์พระธรรมเจ้าแผ่นโลหะเงินที่ ๓ ลงยันต์พระสังฆเจ้า ยันต์พระเจ้า ๓ พระองค์ดังกล่าวนี้ ลางท่านเรียกว่า “ยันต์พระรัตนตรัย” เมื่อลงแผ่นยันต์ พระเจ้า ๓ พระองค์ หรือแผ่นยันต์พระรัตนตรัยครบแล้ว ต่อจากนั้นพึงประกอบพิธีลง”ยันต์พระเจ้า ๑๐๕ องค์”เมื่อประกอบพิธีลงแผ่นยันต์องค์พระครบจำนวน ๑๐๕ แผ่นแล้ว พึงม้วนแผ่นยันต์นั้นเป็นตะกรุด จนครบ กล่าวคือ แผ่น”ยันต์พระรัตนตรัย”๓ แผ่นและแผ่นยันต์องค์พระ ๑๐๕ แผ่น รวมเป็นตะกรุด ๑๐๘ ดอก ต่อจากนั้นให้พอกด้วยผงใบลานและผงขี้รักหรือ“ผงยาวาสนาจินดามณี”พอกให้มีลักษณะเป็นเม็ดกลมแบน หรือเม็ดกลมเล็กๆจนครบตะกรุด ๑๐๘ ดอก เมื่อพอกเสร็จแล้วนำไปผึ่งลมไว้ในที่อันสมควรจนแห้งสนิทดีสายลูกประคำและการร้อย บางตำราท่านให้”สาวพรมจารี”เป็นผู้ร้อยฝั้นเชือกเป็นเกลียว ๓ เกลียวนิยมร้อยเม็ดลูกประคำที่ลงแผ่น “ยันต์องค์พระ” จำนวน ๑๐๕ เม็ดส่วนลูกประคำที่ลงแผ่น”ยันต์พระรัตนตรัย” ๓ แผ่นนั้นให้ร้อยนอกพวงมีลักษณะดุจช่ออุบะที่ห้อยพวงมาลัยเมื่อพระอาจารย์เจ้าได้ประกอบพิธีทำลูกประคำร้อยเป็นพวงสำเร็จแล้วตามตำรากล่าวต้องประกอบพิธีปลุกเสกสำทับอีกครั้งหนึ่งดังต่อไปนี้วาระ ๑ พึงปลุกเสกด้วยพระคาถา “สัมพุทธเธฯ” ให้ครบ ๑๐๘ ครั้งวาระ ๒ พึงปลุกเสกด้วยพระคาถา “พระพุทธคุณ”ให้ครบ ๑๐๘ ครั้งวาระ ๓ พึงปลุกเสกด้วยพระคาถา “พระเจ้า ๕ พระองค์”ให้ครบ ๑๐๘ ครั้งพระโบราณาจารย์ผู้เป็นเจ้าของตำราให้สมัญญานามว่า”ลูกประคำวิเศษ”ย่อมทรงไว้ซึ่ง “พุทธานุภาพ” อย่าง”อุกฤษฏ์” สัมฤทธิ์ผล แก่สุจริตชนที่ศรัทธาและปรารถนาอย่างแรงกล้าทุกประการแล เป็นเครื่องรางชั้นสูงจึงมิได้มีอยู่อย่างกลาดเกลื่อนผู้ใดได้ไว้ย่อมนับว่ามีบุญวาสนา “หลวงปู่เจือปิยสีโล”ผู้สืบทอดเจตนาของหลวงปู่บุญ หลวงปู่เพิ่มได้สร้าง“ประคำศักดิ์สิทธิ์ วาสนาจินดามณี”ไว้เป็นการสืบสานตำราโบราณเพื่อมิให้เลือนหายจาก “สำนักวัดกลางบางแก้ว หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว ศิษย์ผู้สืบสายพุทธาคมหลวงปู่บุญ-หลวงปู่เพิ่ม แห่งวัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เกิดเมื่อปี พ.ศ 2468 และได้อุปสมบทเมื่อปี พ.ศ 2491 โดยมีพระพุทธวิถีนายก (เพิ่ม ปุญญวสโน ) เป็นพระอุปัชฌาย์ อยู่ศึกษาธรรมและพุทธาคมจาก หลวงปู่เพิ่ม ณ วัดกลางบางแก้ว และปฎิบัติธรรมอยู่ ณ วัดกลางบางแก้ว ตลอดมาจนถึงปัจจุบัน "หลวงปู่เจือ" เป็นพระเถระที่มีแต่ความเมตตา ไม่สะสมและมักน้อย ถ่อมตน บำเพ็ญสมณธรรมด้วยการสร้างบารมีให้ทานแก่บริวารและผู้ทุกข์ยาก จะพบว่ามีคนไปขอความเมตตาจากท่านตลอดเวลา มงคลวัตถุที่คนนำไปใช้จึงเกิดพลานุภาพนานาประการ โดยเฉพาะ "เบี้ยแก้" เอกลักษณ์มงคลวัตถุของวัดกลางบางแก้ว ท่านได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงปู่เพิ่ม ปัจจุบัน "เบี้ยแก้" ของท่านมีผู้นำไปบูชาแล้วเกิดประสบการณ์อันน่ามหัศจรรย์มากมาย ถ้าท่านผู้ใดจะใช้ในทางเมตตามหานิยม ก่อนออกจากบ้านควรจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย แล้วตั้งจิตให้เป็นสมาธิ หยิบเอาพระผงยาวาสนาจินดามณีหรือเม็ดยาวาสนาจินดามณีขึ้นมา ตั้งนะโม 3 จบแล้วบริกรรมด้วยพระคาถาดังนี้ มหามณีจินดา ปิยังมะมะ วิจะสตรี ทาสีทาสา จะโตมังเสน่หา ภิริยาปิโย อิตถีโย อิตถีโย มะมังรักขันตุ สัพพะธา สิทธิเตชัง มหาลาภัง มหาสิทธิโยจะ แล้วท่านจะเป็นที่รักของคนทั้งปวง ไม่ว่าจะเดินทางไปไหนๆเอาผงยาวาสนาจินดามณีติดตัวไป ผู้คนจะให้ความเมตตารักใคร่เอ็นดู ผู้ที่ทำมาค้าขายจะได้ลูกค้าเพิ่มขึ้น มีโชคมีลาภสวัสดีมีชัย การใช้ยาวาสนาจินดามณี…ถ้าท่านจะรับระทานยาวาสนาจินดามณีเพื่อรักษา ก่อนอื่นควรจะจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยแล้วตั้งจิตระลึกถึงเจ้าตำรับยาวาสนาจินดามณี ประกอบด้วย สมเด็จพระพนรัตน์, พระพรหมมุนี, หลวงปู่บุญ ขันธโชติ, หลวงปู่เพิ่ม ปุญญวสโน, พระอาจารย์ใบ คุณวิโร, หลวงปู่เจือ ปิยสีโล แล้วจึงตั้งจิตให้เป็นสมาธิ ตั้งนะโม 3 จบ แล้วท่องพระคาถาดังนี้ พุทธะระตะนัง ธัมมะระตะนัง สังฆะระตะนัง โอสะถัง อุตตะมังวะรัง สัพพะทุกขัง สัพพะโรคัง วินาเสติ อะเสสะโต นะโมพุทธายะเสร็จแล้วจงรับประทานยานี้กับน้ำ จะหายจากโรคภัยไข้เจ็บ (เว้นแต่โรคเวรกรรมที่ทำไว้แต่ปางก่อนเท่านั้น) อุปเทห์การใช้ประคำศักดิ์สิทธิ์ วาสนาจินดามณี ตั้งจิตให้แน่วแน่ ตั้งนะโม 3 จบ แล้วว่าพระคาถา “ฉิมพลี จะ มหา เถโร เทวดา นะระ ปูชิโต โสระโห ปัจจะยา ทิ มหา ลา ภัง ภวัน ตุเม”

รายละเอียด

ประคำ108 ผงยาจินดามณี หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม สร้างน้อย หายาก

ประคำศักดิ์สิทธิ์ วาสนาจินดามณี หลวงปู่เจือ ปิยสีโล วัดกลางบางแก้ว ด้วยผงยาวาสนาจินดามณี บรรจุตะกรุดทุกเม็ด ตำรับของ หลวงปู่บุญ
หลวงปู่เจือ ปิยสีโล วัดกลางบางแก้ว อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ทำด้วยผงยาวาสนาจินดามณี บรรจุตะกรุดทุกเม็ด ตำรับของพระพุทธวิธีนายก (หลวงปู่บุญ ขนฺโชติ) อดีตเจ้าอาวาสวัดกลางบางแก้ว ซึ่งตำราถ่ายทอดมาจากสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว กรุงศรีอยุธยา (พระอาจารย์ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช)

พระคาถาศักดิ์สิทธิ์นี้เมื่อภาวนา 108 ครั้ง จะบังเกิดข้าวปลาอาหารทั้งปวง บริบูรณ์ด้วยโชคลาภสักการะนานัปการ เอาลูกประคำศักดิ์สิทธิ์วาสนาจินดามณี สวมศีรษะแล้วตั้งจิตให้มั่นคง บุคคลใดได้บูชาประคำศักดิ์สิทธิ์นี้จะเป็นบุญของผู้นั้น หาที่อุปมามิได้ อยู่เรือนคุ้มภัย แม้จรไปที่ใดก็จะย่อมป้องกันคุ้มครองได้ 108-1000 ประการ

ยาวาสนาจินดามณีเป็นยาโบราณตำนานบอกว่าเป็นตำรับของสมเด็จพระพนรัตน วัดป่าแก้ว (วัดใหญ่ชัยมงคล) พระนครศรีอยุธยา ที่ตกทอดมาถึงพระพุทธวิธีนายก (หลวงปู่บุญ) แล้วตกมาถึงหลวงปู่เพิ่มและพระอาจารย์ใบ แห่งวัดกลางบางแก้ว แล้วก็ต่อมาถึงหลวงปู่เจือ ในปัจจุบันนี้

ความลับสุดยอดเกี่ยวกับประคำศักดิ์สิทธิ์สำนักวัดกลางบางแก้วความหมายของคำว่า”ประคำ” ลูกประคำ,วัตถุที่เป็นลูกกลม ๆ ร้อยเข้าเป็นพวงใช้ให้คะแนนคำบริกรรม ส่วนมากลูกประคำพวงหนึ่ง ๆมี ๑๐๘ ลูกเท่ากับคำภาวนาพุทธคุณ อย่างย่อเดินหน้า ๕๔ คำถอยหลัง ๕๔ คำรวมเป็น ๑๐๘ และมีพวงเล็กพวงต่ออีกต่างหาก ๗ - ๘ ลูกใช้คล้องคอทำเป็นเครื่องประดับก็ได้“หลวงปู่บุญ ขฺนธโชติ” อดีตเจ้าอาวาสวัดกลางบางแก้วผู้สร้างประคำ ”นเรศวรปราบหงสาวดี” ขึ้นมาในช่วงที่หลวงปู่บุญมีชีวิตอยู่โดยจะขอเล่าถึงการสร้างลูกประคำวิเศษ อันเป็นเป็นตำรับโบราณครั้งสมัย “สมเด็จพระพนรัตน์” พระอาจารย์ของ”สมเด็จพระนเรศวร” คราวออกรณรงค์สงครามกับพม่าและสยามโดย สมเด็จพระนเรศวรมหาราช นำทัพออกศึกได้ชัยชนะต่อข้าศึก จึงเป็นที่มาของประคำ “ศักดิ์สิทธิ์”เป็นเครื่องรางที่ท่านได้รับมอบจากสมเด็จพระพนรัตน์ติดพระองค์ในขณะทำสงครามอันยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของชาติ จึงเป็นที่มาของคำว่า

“นเรศวรปราบหงสาวดี”หลังเสร็จสงครามจึงได้สร้างพระเจดีย์ใหญ่ชัยมงคลเป็นพุทธบูชา ณ.วัดป่าแก้ว ปัจจุบันคือวัดใหญ่ชัยมงคล จ.อยุธยาสิทธิการิยะ ตำราโบราณท่านกล่าวความไว้ว่า พระอาจารย์เจ้าตนใดพึงประสงค์ที่จะสร้างลูกประคำวิเศษ ท่านให้เตรียมการให้พร้อมและพึงปฏิบัติตามขั้นตอน ดังนี้ การเตรียมการ

๑.จัดเตรีมผงใบลานและผงขี้รักตามจำนวนให้พร้อม หากเป็น”ผงยาวาสนาจินดามณี”ก็ควรเตรียมจำนวนให้พอกับการสร้างประคำ

๒.จัดหาโลหะเงินบริสุทธิ์(พอสมควร)มาแผ่เป็นแผ่นบางๆแล้วตัดให้เป็นแผ่นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสเล็กๆมีขนาดเท่าๆกันให้ได้จำนวน๑๐๘แผ่น

๓.กำหนดวันและเวลา อันเป็น”ศุภมงคล”เพื่อประกอบพิธีลงยันต์บนแผ่นโลหะเงินบริสุทธิ์ ๑๐๘ แผ่น

๔.หาสถานที่เหมาะสมอันจะประกอบพิธีลงยันต์

ขั้นตอนการปฏิบัติการ

๑.เมื่อถึงเพลาอันเป็น “ศุภมงคลฤกษ์” ตามที่กำหนดไว้แล้วพึงประกอบพิธีการลง”ยันต์พระเจ้า ๓ พระองค์” เป็นปฐมวาระคือแผ่นโลหะเงินที่ ๑ ลงยันต์พระพุทธเจ้าแผ่นโลหะเงินที่ ๒ ลงยันต์พระธรรมเจ้าแผ่นโลหะเงินที่ ๓ ลงยันต์พระสังฆเจ้า ยันต์พระเจ้า ๓ พระองค์ดังกล่าวนี้ ลางท่านเรียกว่า “ยันต์พระรัตนตรัย” เมื่อลงแผ่นยันต์ พระเจ้า ๓ พระองค์ หรือแผ่นยันต์พระรัตนตรัยครบแล้ว ต่อจากนั้นพึงประกอบพิธีลง”ยันต์พระเจ้า ๑๐๕ องค์”เมื่อประกอบพิธีลงแผ่นยันต์องค์พระครบจำนวน ๑๐๕ แผ่นแล้ว พึงม้วนแผ่นยันต์นั้นเป็นตะกรุด จนครบ กล่าวคือ แผ่น”ยันต์พระรัตนตรัย”๓ แผ่นและแผ่นยันต์องค์พระ ๑๐๕ แผ่น รวมเป็นตะกรุด ๑๐๘ ดอก ต่อจากนั้นให้พอกด้วยผงใบลานและผงขี้รักหรือ“ผงยาวาสนาจินดามณี”พอกให้มีลักษณะเป็นเม็ดกลมแบน หรือเม็ดกลมเล็กๆจนครบตะกรุด ๑๐๘ ดอก เมื่อพอกเสร็จแล้วนำไปผึ่งลมไว้ในที่อันสมควรจนแห้งสนิทดีสายลูกประคำและการร้อย บางตำราท่านให้”สาวพรมจารี”เป็นผู้ร้อยฝั้นเชือกเป็นเกลียว ๓ เกลียวนิยมร้อยเม็ดลูกประคำที่ลงแผ่น “ยันต์องค์พระ” จำนวน ๑๐๕ เม็ดส่วนลูกประคำที่ลงแผ่น”ยันต์พระรัตนตรัย” ๓ แผ่นนั้นให้ร้อยนอกพวงมีลักษณะดุจช่ออุบะที่ห้อยพวงมาลัยเมื่อพระอาจารย์เจ้าได้ประกอบพิธีทำลูกประคำร้อยเป็นพวงสำเร็จแล้วตามตำรากล่าวต้องประกอบพิธีปลุกเสกสำทับอีกครั้งหนึ่งดังต่อไปนี้วาระ ๑ พึงปลุกเสกด้วยพระคาถา “สัมพุทธเธฯ” ให้ครบ ๑๐๘ ครั้งวาระ ๒ พึงปลุกเสกด้วยพระคาถา “พระพุทธคุณ”ให้ครบ ๑๐๘ ครั้งวาระ ๓ พึงปลุกเสกด้วยพระคาถา “พระเจ้า ๕ พระองค์”ให้ครบ ๑๐๘ ครั้งพระโบราณาจารย์ผู้เป็นเจ้าของตำราให้สมัญญานามว่า”ลูกประคำวิเศษ”ย่อมทรงไว้ซึ่ง “พุทธานุภาพ” อย่าง”อุกฤษฏ์” สัมฤทธิ์ผล แก่สุจริตชนที่ศรัทธาและปรารถนาอย่างแรงกล้าทุกประการแล เป็นเครื่องรางชั้นสูงจึงมิได้มีอยู่อย่างกลาดเกลื่อนผู้ใดได้ไว้ย่อมนับว่ามีบุญวาสนา

“หลวงปู่เจือปิยสีโล”ผู้สืบทอดเจตนาของหลวงปู่บุญ หลวงปู่เพิ่มได้สร้าง“ประคำศักดิ์สิทธิ์ วาสนาจินดามณี”ไว้เป็นการสืบสานตำราโบราณเพื่อมิให้เลือนหายจาก “สำนักวัดกลางบางแก้ว หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว ศิษย์ผู้สืบสายพุทธาคมหลวงปู่บุญ-หลวงปู่เพิ่ม แห่งวัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เกิดเมื่อปี พ.ศ 2468 และได้อุปสมบทเมื่อปี พ.ศ 2491 โดยมีพระพุทธวิถีนายก (เพิ่ม ปุญญวสโน ) เป็นพระอุปัชฌาย์ อยู่ศึกษาธรรมและพุทธาคมจาก หลวงปู่เพิ่ม ณ วัดกลางบางแก้ว และปฎิบัติธรรมอยู่ ณ วัดกลางบางแก้ว ตลอดมาจนถึงปัจจุบัน

"หลวงปู่เจือ" เป็นพระเถระที่มีแต่ความเมตตา ไม่สะสมและมักน้อย ถ่อมตน บำเพ็ญสมณธรรมด้วยการสร้างบารมีให้ทานแก่บริวารและผู้ทุกข์ยาก จะพบว่ามีคนไปขอความเมตตาจากท่านตลอดเวลา มงคลวัตถุที่คนนำไปใช้จึงเกิดพลานุภาพนานาประการ โดยเฉพาะ "เบี้ยแก้" เอกลักษณ์มงคลวัตถุของวัดกลางบางแก้ว ท่านได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงปู่เพิ่ม ปัจจุบัน "เบี้ยแก้" ของท่านมีผู้นำไปบูชาแล้วเกิดประสบการณ์อันน่ามหัศจรรย์มากมาย
ถ้าท่านผู้ใดจะใช้ในทางเมตตามหานิยม ก่อนออกจากบ้านควรจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย แล้วตั้งจิตให้เป็นสมาธิ หยิบเอาพระผงยาวาสนาจินดามณีหรือเม็ดยาวาสนาจินดามณีขึ้นมา ตั้งนะโม 3 จบแล้วบริกรรมด้วยพระคาถาดังนี้ มหามณีจินดา ปิยังมะมะ วิจะสตรี ทาสีทาสา จะโตมังเสน่หา ภิริยาปิโย อิตถีโย อิตถีโย มะมังรักขันตุ สัพพะธา สิทธิเตชัง มหาลาภัง มหาสิทธิโยจะ แล้วท่านจะเป็นที่รักของคนทั้งปวง ไม่ว่าจะเดินทางไปไหนๆเอาผงยาวาสนาจินดามณีติดตัวไป ผู้คนจะให้ความเมตตารักใคร่เอ็นดู ผู้ที่ทำมาค้าขายจะได้ลูกค้าเพิ่มขึ้น มีโชคมีลาภสวัสดีมีชัย

การใช้ยาวาสนาจินดามณี…ถ้าท่านจะรับระทานยาวาสนาจินดามณีเพื่อรักษา ก่อนอื่นควรจะจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยแล้วตั้งจิตระลึกถึงเจ้าตำรับยาวาสนาจินดามณี ประกอบด้วย สมเด็จพระพนรัตน์, พระพรหมมุนี, หลวงปู่บุญ ขันธโชติ, หลวงปู่เพิ่ม ปุญญวสโน, พระอาจารย์ใบ คุณวิโร, หลวงปู่เจือ ปิยสีโล แล้วจึงตั้งจิตให้เป็นสมาธิ ตั้งนะโม 3 จบ แล้วท่องพระคาถาดังนี้ พุทธะระตะนัง ธัมมะระตะนัง สังฆะระตะนัง โอสะถัง อุตตะมังวะรัง สัพพะทุกขัง สัพพะโรคัง วินาเสติ อะเสสะโต นะโมพุทธายะเสร็จแล้วจงรับประทานยานี้กับน้ำ จะหายจากโรคภัยไข้เจ็บ (เว้นแต่โรคเวรกรรมที่ทำไว้แต่ปางก่อนเท่านั้น)

อุปเทห์การใช้ประคำศักดิ์สิทธิ์ วาสนาจินดามณี
ตั้งจิตให้แน่วแน่ ตั้งนะโม 3 จบ แล้วว่าพระคาถา
“ฉิมพลี จะ มหา เถโร เทวดา นะระ ปูชิโต โสระโห
ปัจจะยา ทิ มหา ลา ภัง ภวัน ตุเม”