ประวัติ หลวงพ่อแปลก - วัดโพธาราม - webpra

หลวงพ่อแปลก

ประวัติ วัดโพธาราม


ประวัติและปฏิปทา
หลวงพ่อแปลก
หลวงพ่อแปลก วัดโพธาราม
วัดโพธาราม จังหวัดชัยนาท


หลวงพ่อแปลก นามเดิม นายแปลก นามสกุลพินิจจันทร์ เกิดเมื่อ พ.ศ.๒๔๓๒ บ้านท้องคุ้ง หมู่๔ ตำบลสรรพยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท มีพี่น้องร่วมอุทร ๒ คน ๑.นายแปลก พินิจจันทร์ ๒.นางนิด พินิจจันทร์

นายแปลกเมื่อถือกำเนิดมา มีใบหูขวาเป็นติ่งเล็กๆ ไม่มีรูหู ส่วนใบหูข้างซ้ายสมบูรณ์ทุกประการ และไม่มีปัญหาในการรับฟังแต่อย่างใด ด้วยเหตุนี้เองจึงมีชื่อว่าแปลก และใช้เป็นชื่อจริง ตราบเท่าอายุขัยของท่าน

นายแปลกสมรส กับนางแช่ม เดชอยู่(นามสกุลเดิม นางแช่ม เกิด พ.ศ.๒๔๓๘ เสียชีวิตลงเมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๖ อายุ๘๘ ปี) มีบุตรธิดา ๑๐ คน ชาย๔ คน หญิง๖ คน ๑.นางประทุม ๒.นายปรุง ๓.นายเปล่ง ๔.นางฉลวย ๕.นางฉลุย ๖.นายแปลง ๗.นายโปร่ง ๘.นางแฉล้ม ๙.นางบัวขาว ๑๐.นางส้มลิ้ม

เรื่องราวประวัติของหลวงพ่อแปลก นายปลั่ง(เล็ก) มิ่งขวัญ อดีตผู้ใหญ่บ้านหัวแหลม(โพธิ์เตี้ย)ตำบลสรรพยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ซึ่งเป็นลูกเขย ได้รับการบอกเล่าจากนางแช่ม พินิจจันทร์ แม่ ยาย

นาย ปลั่ง มิ่งขวัญ สมรสกับ ส้มลิ้ม พินิจจันทร์(นามสกุลเดิม)เมื่อ พ.ศ.๒๕๐๓ ส้มลิ้มเป็นบุตรสาวคนสุดท้องของนายแปลก และนางแช่ม พินิจจันทร์ นายปลั่งเกิดเมื่อ พ.ศ.๒๔๗๙(ปัจจุบัน พ.ศ.๒๕๕๕ อายุ๗๖ ปี และส้มลิ้ม(ภรรยา)เกิด พ.ศ.๒๔๘๐ เสียชีวิตเมื่อ พ.ศ.๒๕๔๘

นายแปลกไป บวชเป็นพระภิกษุครั้งที่๒ ที่ อำเภอสรรคบุรีแล้ว ตั้งแต่ส้มลิ้มยังเยาว์วัย หลังจากนายปลั่งแต่งงานกับ ส้มลิ้ม เมื่อ พ.ศ.๒๕๐๓ นายปลั่งจึงต้องดูแลทั้ง นางแช่ม และนางส้มลิ้ม และในหนึ่งรอบปี นายปลั่ง ต้องเป็นตัวแทนนางแช่ม ไปเยี่ยมเยือนหลวงพ่อแปลกที่ อำเภอสรรคบุรี ด้วยเหตุนี้เองนายปลั่ง จึงได้ทราบประวัติของหลวงพ่อแปลกไว้มากพอสมควร

ตามคำบอกเล่าของนางแช่ม นายแปลกเมื่อครั้งยังครองเรือน ทำอาชืพเกษตร(นาข้าว)ขึ้นตาล(ทำน้ำตาลโตนด)มีที่นา ๑๐๐กว่า ไร่ ตำบลสรรพยาติดกับบ้านห้วยกรด(อำเภอสรรคบุรี)มีต้นตาลโตนดมากในยุคนั้น

หลังจากมีการจัดรูปที่ดิน ระหว่างประมาณปี พ.ศ.๒๕๑๘-๒๕๒๐ ต้นตาลโตนดถูกทำลายไปเยอะมากทั้งๆ ที่เป็นต้นไม้เศรษฐกิจของชาวบ้านทั้งสรรพยาและห้วยกรด ใช้ทำทั้งน้ำตาลก้อน น้ำตาลสด ไอ้เป้

ไอ้เป้เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดหนึ่ง ภูมิปัญญาชาวบ้าน แม้แต่กรมหลวงชุมพร เสด็จมาวัดมะขามเฒ่าเพื่อเรียนวิชากับ หลวงปู่ศุข และพักค้างแรมหลายวัน ยังต้องให้คนใกล้ชิดจัดหาถวาย ผมนายบาแดงดื่มแล้วยังติดใจ แช่ตู้เย็นแล้วสุดยอด

แค่ความคิดจัดรูป ที่ดินในยุคนั้น ต้องแปลงเกรดตัดต้นตาลทุกต้นที่ขวางหน้า ไม่อย่างนั้นจัดรูปที่ดินไม่ได้มันเป็นอุปสรรคใหญ่หลวงระดับจักวาฬ ความคิดสุดยอดของการจัดรูปที่ดินใน พ.ศ.นั้น คิดได้ยังไงวะ!

คนไทยแท้บ้านนอกจนๆมันสมองดีๆ คิด ค้นคว้าทำอะไรขึ้นมาได้ ผู้มีอำนาจทุกยุคทุกสมัย สมคบคิดร่วมกับนายทุน ช่วยกันสกัดกีดกันด้วยกฎหมายทางภาษี ถ้าผู้มีอำนาจมันคิดช่วยเหลือส่งเสริม คนไทยแท้และจนหัวสมองดี ป่านนี้คงมี
ไอ้เป้ De Chai Nat แข่งขันกับชาติอื่นเขาไปแล้ว

เวลา ณ ป่านฉะนี้ ปืนเถื่อน บ้านหนองอีเติ่ง จังหวัดอุทัยธานีอีกหนึ่งภูมิปัญญาความสามารถ คงพัฒนามาอีกไกลโขไม่แพ้ต่างชาติ และสามารถพัฒนาแสนยานุภาพกองทัพไทยได้เป็นอย่างดี ประหยัดงบประมาณในการซื้ออาวุธ แต่ถูกสกัดดาวรุ่งให้เหลือ แค่ทำมีดพกเขากวาง กรรไกรตัดต้นไม้ ยอดไม้ ถ้าบ้านหนองอีเติ่งไม่โดนสกัดดาวรุ่ง อบจ. จังหวัดอุทัยธานี คงมีงบประมาณป้องกันน้ำท่วม แบบไม่ให้ท่วมทั้งจังหวัด แถมเหลือส่งไปให้ส่วนกลางได้อีกด้วย ถุย!ชีวิตคนไทยแท้สมองดีแต่ยากจน นายบาแดงนอกเรื่องไปไกลแล้ว ขอกลับเข้ามา

หลวงพ่อแปลก วัดโพธาราม
นางแช่มเล่าต่อว่า นายแปลก ทำนาข้าว ทำน้ำตาล แต่ไม่ทอดแหหาปลา บักเบ็ด ดักลอบ ไม่ชอบเบียดเบียนสัตว์ใหญ่น้อย ทำให้นางแช่มต้องออกหาเอง นายแปลก เป็นคนใจดี อารมณ์ดี ยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่ชอบพูดให้ร้ายใคร

จากคำบอก เล่าของนางแช่ม นายปลั่งยืนยันว่า คุณพ่อแปลกเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อเพื่องแน่นอน นางแช่มเล่าต่อไปว่า นายแปลกเมื่อเสร็จภาระกิจจากการทำนา ขึ้นตาล ชอบไปอยู่รับใช้หลวงพ่อเฟื่อง ที่วัดสรรพยา(วังหิน)เป็นประจำ วัดมีงาน จะช่วยเหลือตลอด รับใช้ใกล้ชิดหลวงพ่อเฟื่อง จนมีความรู้ความสามารถในการเขียนอักขระเลขยันต์ บางครั้งหลวงพ่อเฟื่องยังให้ช่วยเขียนเสื้อยันต์ จารอักขระยันต์ลงตะกรุด

หลวงพ่อเฟื่อง วัดสรรพยา(วังหิน)มรณะภาพเมื่อ พศ.๒๔๗๖ หลวงพ่อแปลก ท่านเกิด พศ.๒๔๓๒ เป็นศิษย์หลวงพ่อเเฟื่องได้หรือไม่ท่านผู้นับถือสนใจหลวงพ่อแปลก โปรดพิจารณา

เหตุที่หลวงพ่อแปลกไปบวช ตามประเพณีของชายชาวไทย เมื่อครบอายุ ๒๐ปี ก็ต้องอุปสมบทเป็นพระ เช่นเดียวกัน นายแปลก ก็เข้ารับการอุปสมบทตามประเพณีไทย มาแล้ว ๑ พรรษา จากนั้นก็สึกออกมาครองเรือน ทำมาหากินเลี้ยงดูครอบครัว นายแปลกเป็นผู้มีฐานะ มีที่นา ๑๐๐กว่าไร่ เมื่อไปบวชเป็นครั้งที่๒ ลูกทั้ง ๑๐คน ได้รับแบ่งที่นา คนละ๑๐ไร่ นายแปลกได้ดูแล ครอบครัวและลูกๆ ทุกคนได้เป็นอย่างดี

การบวชครั้งที่๒ ของหลวงพ่อแปลก นางแช่ม เล่าให้นายปลั่ง(ลูกเขย)ความว่า นายแปลกไปบวชครั้งที่๒ ในช่วงที่ ส้มลิ้ม บุตรสาวคนสุดท้อง กำลังจะโกนจุกในปีนั้นพอดี ถ้านับตามประเพณีการโกนจุกที่นิยมในยุคนั้น ส้มลิ้ม จะมีอายุได้๗ ขวบ(หลวงพ่อแปลก เกิด พศ.๒๔๓๒ ส้มลิ้ม เกิด พศ.๒๔๘๐) การโกนจุก ของส้มลิ้ม จะตรงกับ พศ.๒๔๘๗ แสดงว่าหลวงพ่อแปลก บวชครั้งที่๒ เมื่ออายุ๕๕ ปี โดยประมาณ

สาเหตุการไปบวชครั้งที่๒ นี้ นางแช่มเล่าว่า ก่อนจะไปบวชเคยปรารถ กันนางแช่มว่าลูกๆก็โตหมดแล้ว(แต่ไม่ได้บอกว่าอยากบวชพระ)หลังจากนั้น มาวันหนึ่ง นายแปลกก็บอกกับนางแช่ม ซึ่งเป็นภรรยา ว่า จะไปงานบวชนาค ที่วัดสังฆาราม ที่อำเภอสรรคบุรี นายแปลกหายไปหลายวัน มีคนมาส่งข่าวนางแช่ม ว่านายแปลกบวชพระ ตามพ่อนาคที่ไปช่วยงานบวชที่วัดสังฆารามไปแล้ว

นายแปลกไปบวชพระครั้งนี้ นางแช่มเล่าว่าไม่มีปัญหาครอบครัวอย่างใดทั้งสิ้น และหลวงพ่อแปลกเมื่อบวชเป็นพระแล้วก็ไม่เคยมาวุ่นวายหรือรบกวนกับครอบครัว ในเรื่องใดๆทั้งสิ้น หลวงพ่อแปลกเมื่อบวชแล้ว ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดสังฆาราม ช่วงนี้ท่านคงได้พบปะสนทนา ศึกษาหาความรู้จากหลวงพ่อปลื้มด้วย และท่านก็ได้ช่วยเหลือหลวงพ่อปลื้ม ในการทำวัตมงคลบางอย่าง ตามพื้นฐานภูมิรู้ที่ท่านได้รับมาจากหลวงพ่อเฟื่อง เรื่องนี้นายปลั่ง(ลูกเขย)ได้รับการบอกเล่าจากหลวงพ่อแปลกโดยตรง

หลวงพ่อแปลกท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดสังฆาราม อยู่ระยะหนึ่ง ก็ได้รับการชักชวน จากหลวงตาม่อม พระลูกวัดโพธาราม อำเภอสรรคบุรี เป็นพระที่รู้จักกันชวนไปอยู่ด้วย หลวงพ่อแปลก ท่านก็เป็นพระลูกวัดเช่นกัน จึงย้ายวัดมาจำพรรษาอยูที่วัดโพธาราม แต่ก็ยังไป-มา ระหว่างวัดสังฆารามและวัดโพธาราม(ตามคำบอกเล่าของนายปลั่ง)

หลวงพ่อแปลกท่านเป็นพระทองคำ เก่งในวิชาอาคมมาตั้งแต่ครั้งเป็นฆราวาส แม้จะบวชเมื่ออายุมาก แต่หลวงพ่อแปลก สมถะ เรียบง่าย ถ่อมตน ไม่โอ้อวด ยกตนข่มท่าน ใจดี ชอบช่วยเหลือ มีอภินิหาร วาจาสิทธิ์ อันเกิดจาก การปฎิบัติ สะสมบำเพ็ญเพียรบารมีของท่าน หลวงพ่อแปลกท่านจะไม่ใช้วิชาอาคมที่ท่านมีอยู่ไปในทางสร้างเวรกรรม แลดูว่าท่านเป็นพระทางเมตตา แต่แท้จริงท่านครบเครื่อง(นายบาแดง ประเมินว่าในการบวชครั้งที่๒ นี้ หลวงพ่อแปลกท่านออกจากการครองเรือนลดความสำคัญในความเป็นตัวตนลง เป็นธรรมะที่ทำให้จิตใจเบาสบายไม่ติดยึดสิ่งใด)

นายปลั่ง มิ่งขวัญ และคุณประทีป แร่จั่น เล่าตรงกันว่า หลวงพ่อแปลกท่านไม่ฉีกซองปัจจัยที่คนนำมาถวาย ไม่จับธนบัตร

ตั้งแต่ท่านมาจำพรรษา อยู่วัดโพธาราม มีผู้คนนับถือท่าน ทั้งใกล้และไกล ด้วยความที่ท่านเป็นพระลูกวัด ท่านก็สงเคราะห์ผู้คนที่มาหาท่านด้วยการเป่ากระหม่อม ท่านไม่ใช่พระหมอน้ำมนต์ สักยันต์ หมอยา หมอทำนายทายทัก เป็นข้อมูลยืนยันจากนายปลั่ง มิ่งขวัญ อาจจะสงเคราะห์ ให้บ้างตามแต่ท่านเห็นสมควร บางครั้งบางรายที่ท่านเมตตาสงเคราะห์ทักทำนายและเป็นไปตามนั้น จึงเป็นที่มาของวาจาสิทธิ์

ส่วนใหญ่หลวงพ่อแปลกจะเป่ากระหม่อมให้ เป็นหลัก และเริ่มจากการลงตะกรุด เขียนผ้ายันต์ให้ ทุกคนที่ขอ ต้องนำวัสดุมาเอง ท่านมีความชำนาญในการเขียนอักขระแลเลขยันต์ ตะกรุดและผ้ายันต์ทำให้แล้วถ้านานมากไม่มาเอา ท่านก็จะให้คนอื่นไป ไม่จดจำว่าเป็นของใครบ้าง คนขอต้องมาเฝ้าตามเอาเอง

ตะกรุดของท่าน ไม่เป็นเอกลักษณ์ มีทั้งทองแดง อลูมิเนียม หลอดยาสีฟัน ตามฐานะของผู้คนที่มาขอท่าน ไม่มีการทำเตรียมไว้แจก ใครมาขอและนำวัสดุมาก็จะทำให้ แล้วต้องมาติดตามให้ดี

รูปถ่ายขาวดำ ขนาดบูชา ที่นำมาให้ชมนี้ เป็นสมบัติของนายปลั่ง(เล็ก) มิ่งขวัญ นายปลั่งขอภาพนี้กับหลวงพ่อแปลกด้วยตนเอง บนกุฎิหลวงพ่อแปลก ที่วัดโพธาราม เมื่อคราวไปเยี่ยมท่าน และนำวัสดุ แผ่นทองคำแท้ เงินและนาค ให้หลวงพ่อแปลกลงตะกรุดสามกษัตริย์ให้ แต่ปัจจุบันได้สูญหายไปแล้ว และได้ดัดแปลงแก้ไขภาพถ่ายใบนี้ ใช้ในงานศพหลวงพ่อแปลก ที่วัดราษฎร์ อำเภอสรรพยา เมื่อ พศ.๒๕๑๙

นายปลั่งเล่าหลวงพ่อแปลกท่านแข็งแรงมาก ยังไม่เคยได้ยินข่าวว่าท่านเจ็บป่วยหนักประการใด ในรอบ๑ ปี หรือเมื่อมีโอกาสก็จะไปเยี่ยมท่าน ที่วัดโพธาราม อำเภอสรรคบุรี

หลวงพ่อแปลกอายุได้ประมาณ ๘๕ปี ญาติพี่น้องของท่าน รวมทั้งนายปลั่งมีความเห็นว่าต้องนำท่านกลับมาดูแล เพราะการบิณฑบาตร ท่านอาจจะไม่สะดวก จึงได้ไปนิมนต์ท่านกลับมาและให้จำพรรษาอยู่ที่วัดราษฎร์ ตำบลสรรพยา อำเภอสรรพยา ในปี พศ.๒๕๑๗

นายปลั่งเล่าต่อไปว่า ถึงแม้หลวงพ่อแปลกจะมีอายุมาก การลุกนั่ง เดิน ฉันอาหาร ยังช่วยเหลือตัวเองได้ เป็นไปตามปกติ อาจจะเคลื่อนไหวช้าบ้างตามสภาพความเสื่อมของสังขาร ที่ชัดเจนก็คือท่านมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ไม่หลง ไม่มีโรคร้ายมาเบียดเบียน ตราบจนกระทั่งวันมรณะภาพ

วันที่ ๑๗ กรกฎาคม พศ.๒๕๑๙ หลังจากหลวงพ่อแปลก ท่านฉันเช้าแล้ว ประมาณช่วงสาย ท่านลงมาทำตัดหญ้า บริเวณกฎิของท่าน หลวงพ่อแปลกท่านเป็นลม และมรณะภาพด้วยอาการอันสงบ ณ วัดราษฏร์ ตำบลสรรพยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท

งานศพหลวงพ่อแปลก จัดขึ้น ณ วัดราษฎร์ โดยมีหลวงตาบัว วัดหลวงสิริบูรณาราม เจ้าคณะอำเภอสรรพยา ในขณะนั้น เป็นประธาน และได้ปรึกษากันระหว่างญาติของท่าน และลูกศิษย์ที่นับถือท่าน โดยมีกำหนดเก็บร่างของท่านไว้ ๑ปี โดยนำโลงที่ใส่ร่างของท่าน ไปฝังไว่ในป้าช้าของวัดราษฎร์ ที่อยู่ตรงข้ามกับวัด

ข้อมูลอ้างอิง : http://www.web-pra.com/Forum/Topic/Show/65578/Page/1
บทความลงวันที่ : 01/10/2012

Top