
หลวงปู่เผือก ( พระครูธรรมโกศล )

ประวัติ วัดสาลีโขภิตาราม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
ประวัติหลวงพ่อสมภพ เตชปุญโญ สร้างเหรียญหลวงปู่เผือก รุ่นแรก : คลิ๊ก
ประวัติและปฏิปทา
หลวงปู่เผือก ( พระครูธรรมโกศล )
วัดสาลีโขภิตาราม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
หนังสือพิมพ์บางกอกไทม์รายสัปดาห์ ฉบับวันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๑๒ ได้ลงข่าวเกี่ยวกับศิลปินท่านหนึ่งที่ได้ประสบกับอภินิหารวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของพระภิกษุในอดีตกาล..
“เผย อภินิหารพระภิกษุหนุ่มศิษย์หลวงปู่เผือก สมัยกรุงศรีอยุธยา ศิลปินเอก แก้วฟ้า เจอปาฏิหาริย์กับตนเอง เลื่อมใสถึงกับฝากตัวขอเป็นลูก”
ในทำเนียบรายนามลูกศิษย์ของ “ท่านพระครูธรรมโกศล (หลวงปู่เผือก) อดีตเจ้าอาวาสองค์แรกของวัดสาลีโขภิตาราม” จังหวัดนนทบุรี ชื่อของ “แก้วฟ้า” ซึ่งเป็นนามปากกาโดยเปิดเผยของ “ครูแก้ว อัจฉริยะกุล” ถือว่าเป็นลูกศิษย์ท่านหนึ่งที่มีประสบการณ์ชีวิตโดยตรงกับหลวงปู่เผือก
ความเคารพนับถือที่ครูแก้วมีต่อหลวงปู่เผือกนั้น กล่าวได้ว่าเสมอเหมือนด้วยบุตรให้ความเคารพรักบิดา ทั้งนี้เป็นเพราะในอดีตชาติที่ผ่านมาครูแก้วท่านเคยเกิดมาเป็นลูกของหลวงปู่ เผือก ซึ่งความผูกพันกันแบบข้ามภพข้ามชาตินั้น เป็นเรื่องของบุพกรรมที่ทั้งสองท่านเคยมีต่อกันครับ
หนึ่งคนคือศิลปินที่มีชื่อเสียงของเมืองไทยในสมัยนั้น อีกหนึ่งวิญญาณคือวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของพระภิกษุสงฆ์ในสมัยอยุธยาผู้เดิน ทางกลับมาจากอดีตกาล และด้วยอำนาจแห่งญาณอันศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่เผือก ทำให้ภพชาติในอดีตของครูแก้วที่ถูกกาลเวลากลบฝังเอาไว้ถูกนำขึ้นมารื้อฟื้น อีกครั้ง
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในคืนวันหนึ่งของเดือนตุลาคม ๒๕๐๗
ครูแก้วได้ขับรถยนต์ส่วนตัวไปตามถนนพหลโยธิน ครั้นใกล้จะถึงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รถของครูแก้วได้ประสบอุบัติเหตุชนกับรถแท็กซี่จนรถของครูแก้วอยู่ในสภาพที่ เสียหายยับเยิน ครูแก้วได้รับบาดเจ็บสาหัสโดยขาหักและกระดูกสะบ้าหัวเข่าแตก
ครูแก้วได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลมีชื่อได้ระยะเวลาหนึ่ง แต่อาการบาดเจ็บก็ยังไม่ดีขึ้น ครูแก้วท่านจึงได้ตัดสินใจย้ายออกจากโรงพยาบาลเพื่อกลับมารักษาตัวที่บ้าน ของท่านเอง
วันหนึ่งครูแก้วท่านได้ให้คนใกล้ชิดช่วยกันพยุงและหามท่านมายังบ้านของคุณยศ ศรีสถาพร (ข้าราชการชั้นเอกของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย-ขณะนั้น) การมาของครูแก้วครั้งนี้เพื่อต้องการมาขอคำปรึกษาเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของตนเอง
เมื่อครูแก้วได้เดินทางไปถึงบ้านของคุณยศ ศรีสถาพร ซึ่งตั้งอยู่ในซอยเทวรัตน์ ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี ในขณะนั้นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่เผือก กำลังประทับในร่างของหลวงพ่อสมภพ เตชปุญโญ และเมื่อครูแก้วถูกหามขึ้นบันไดมาบนบ้าน หลวงปู่เผือกได้กล่าวขึ้นว่า
“ลูกของข้ามาแล้ว”
จากนั้นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่เผือกจึงได้เล่าเรื่องผ่านหลวงพ่อสมภพให้ ทุกคนในที่นั้นได้ทราบว่า ในอดีตชาติครูแก้วได้เคยเกิดเป็นลูกของท่านมาแล้วชาติหนึ่งและเมื่อมีโอกาส ได้พบกันในชาตินี้จึงอยากให้ครูแก้วมอบตัวเป็นบุตรบุญธรรมกับท่าน ครูแก้วจึงตอบตกลงและยินยอมฝากฝังตัวเป็นบุตรบุญธรรมตามความประสงค์ของหลวง ปู่เผือก
หลังจากที่ครูแก้วฝากฝังตัวเรียบร้อยแล้ว หลวงปู่เผือกจึงได้เริ่มทำการรักษาอาการบาดเจ็บของครูแก้วคือขาหักและสะบ้า หัวเข่าแตกโดยการเสกเป่าและใช้ด้ายสายสิญจน์เข้าเผือกให้ แล้วจึงมอบน้ำมนต์ให้ครูแก้วไว้ดื่มและน้ำมันมนต์เพื่อมาทาบริเวณตำแหน่งที่ ได้รับบาดเจ็บ ครูแก้วเล่าว่า
“ผมปฏิบัติตามคำสั่งของท่านอยู่ไม่กี่วันอาการบาดเจ็บก็หายเป็นปกติ โดยที่ผมไม่รู้ตัวด้วยซ้ำไป”
เรื่องราวข้างต้นคือเหตุการณ์ที่ครูแก้วได้พบกับวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ เผือกเป็นครั้งแรกและเป็นครั้งที่ทำให้ครูแก้วบังเกิดความเคารพเลื่อมใสใน วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่เผือกอย่างจริงใจ
เกี่ยวกับเรื่องของอดีตชาตินั้น ในทางพระพุทธศาสนาเชื่อว่าทุกคนต่างมีวิบากกรรมเป็นของตนเอง เชื่อกันต่ออีกว่าเมื่อแต่ละคนตายจากกันไปในชาตินั้นแล้ว ต่างก็แยกย้ายกันไปเกิดใหม่ตามวิบากกรรมที่ตนเองเคยกระทำไว้อีกเช่นกัน
ดังนั้นการกลับมาเกิดใหม่ในชาติปัจจุบัน บุคคลแต่ละคนจึงมีสภาพที่แตกต่างกันไป หากแต่กรรมที่เคยสร้างไว้ต่อกันนั้นแหละที่ทำให้หลายต่อหลายคนต้องมาเจอกัน และมีกิจกรรมร่วมกันในชาติปัจจุบัน เรียกว่าวนกันไป เวียนกันมาจนกว่าจะหมดกรรมที่มีต่อกันนั้นแหละครับ
อย่างไรก็ตามเรื่องของการเคยพบกันในอดีตชาติและผูกพันกันจนมาถึงชาตินี้ มิใช่มีแต่เฉพาะหลวงปู่เผือกหรือครูแก้วเท่านั้น หากแต่เรื่องราวประมาณนี้ยังมีเกิดขึ้นอีกมากมายทั้งในโลกตะวันตกและโลก ตะวันออก
สำหรับในเมืองไทยเรื่องราวทำนองนี้ ส่วนมากแล้วมักจะเกิดขึ้นกับพระภิกษุสงฆ์ โดยเฉพาะกับพระที่ปฏิบัติดี สมาธิจิตเยี่ยมและวาสนาบารมีที่เหลือล้ำ
อย่างเช่นกรณีของ “หลวงปู่ชอบ ฐานสโม” พระอริยเจ้าแห่งวัดป่าสัมมานุสรณ์ บ้านโคกมน ตำบลผาน้อย อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ที่ท่านเคยเล่าไว้ว่า ครั้งหนึ่งท่านได้เกิดมาเป็นชาวลาวและอยู่ร่วมชาติกับนายเชียงหมุน ทั้งสองคนประกอบอาชีพเป็นพ่อค้าขายเสื้อผ้า
กาลต่อมาบุคคลทั้งสองได้เดินทางข้ามแม่น้ำโขงมาค้าขายยังฝั่งไทยและได้ไปกราบ นมัสการพระธาตุพนมพร้อมกัน หลวงปู่ชอบได้ถวายผ้าขาว ๑ วาและเงิน ๒ สลึงเพื่อเป็นพุทธบูชาพร้อมกับท่านได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า
“ขอให้ท่านได้บวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ ให้ได้ศึกษาพระธรรมและขอให้พบทางพ้นทุกข์ด้วยเถิด”
หลังจากที่ห่างหายกันไปนานเป็นชาติ หลวงปู่ชอบและนายเชียงหมุนก็ได้มีโอกาสกลับมาเกิดร่วมชาติในปัจจุบันกันอีก ครั้ง หากแต่การกลับมาพบครั้งนี้ นายเชียงหมุนได้กลายสภาพจากเพื่อนมาเป็นโยมอุปฐากของหลวงปู่ชอบครับ
(แก้ว อัจฉริยะกุล (ขวา) ถ่ายภาพคู่กับพรานบูรพ์)
ครูแก้ว อัจฉริยะกุล เกิดเมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๔๕๘ ท่านเป็นบุตรคนโตของนายใหญ่ อัจฉริยะกุล (ซีปาปา ยาโนปูโลส) ชาวกรีก มารดาชื่อนางล้วน อัจฉริยะกุล มีพี่น้อง ๔ คน ชีวิตครอบครัวท่านสมรสกับนางประภาศรี อัจฉริยะกุล
ครูแก้ว อัจฉริยะกุล เดิมมีชื่อจริงว่า “แก้วฟ้า” ทั้งนี้เนื่องจากสถานที่ที่ท่านเกิดอยู่ข้างวัดแก้วฟ้า มารดาของท่านได้อุ้มท่านไปหาพระที่วัด ซึ่งพระได้ตั้งชื่อให้ท่านว่า “แก้วฟ้า” ตามชื่อวัดโดยถือว่าชื่อของวัดนั้นเป็นมงคลต่อพระพุทธศาสนาอยู่แล้ว
แต่เมื่อตอนที่คุณแม่ของท่านมาแจ้งเกิดเสมียนตราอำเภอได้ทำชื่อตกหล่นไปคงเหลือเพียงชื่อ “แก้ว อัจฉริยะกุล” จนเมื่อท่านเข้าสู่วงการละครและวงการเพลง ท่านจึงได้นำชื่อ “แก้วฟ้า” มาตั้งเป็นนามปากกาจนโด่งดังครับ
ย้อนไปในสมัยที่ละครวิทยุกำลังครองเมือง ชื่อของคณะแก้วฟ้าถือว่าเป็นคณะละครวิทยุที่ได้รับความนิยมอย่างมาก คณะละครวิทยุที่มีชื่อเสียงต่อๆ กันมา ก็เช่นคณะนีลิกานนท์ คณะเสนีย์ บุษประเกศ ฯลฯ เด็กๆ ในยุคแฟนฉันวัยไม่ครบเรียนอย่างผมก็เคยฟังผ่านหูมาบ้างแต่ก็จำอะไรไม่ได้เลย นอกจากเพลงโฆษณาถ่านไฟฉาย(ตรากบ)
สมัยนั้นที่บ้านของผมยังไม่มีโทรทัศน์ ก็ได้ละครวิทยุนี่แหละครับที่นอกจากจะให้ความบันเทิงในบ้านแล้ว ยังมีส่วนช่วยขัดตาทัพให้กับผมเวลาจะแอบไปวิ่งเล่นนอกบ้าน
ที่ผ่านมาพวกผู้ใหญ่ก็มักจะบอกพวกเราเสมอๆ ว่า ถ้าพวกเราเป็นเด็กดีจะได้ขึ้นสวรรค์ แต่ถ้าพวกเราเป็นเด็กดื้อพญายมก็จะมาจับพวกเราไปลงนรกกระทะทองแดง คำขู่ของพวกผู้ใหญ่พัฒนามาเป็นความเชื่อที่ค้างอยู่ในความทรงจำของผมมาจนทุก วันนี้ว่านรกสวรรค์นั้นมีอยู่จริงบนโลกใบนี้
เรื่องราวของสวรรค์และนรกมีมากมายให้พวกเราศึกษาครับ ไม่มีข้อพิสูจน์ว่าเรื่องราวเหล่านี้จะเป็นจริงหรือไม่เพราะทุกเรื่องเท่า ที่ทราบเป็นเรื่องที่เล่าสืบต่อกันมาโดยไม่มีเอกสารอ้างอิงหรือใบรับรองจาก สถาบันไหน คงใช้แต่ “ความเชื่อและความศรัทธา” เท่านั้นเป็นข้อยุติของใจ
“ความเชื่อและศรัทธา”
โดย ส่วนตัวแล้วผมชอบคำประเภทนี้มากครับ ฟังหรืออ่านแล้วได้ใจทุกที เพราะมันเหมือนกับเป็นอะไรก็ได้ที่ทำให้คนหนึ่งคนหรือคนหลายๆ คนสามารถทำอะไรก็ได้โดยที่ไม่ต้องมีปัจจัยอย่างอื่นมาเกื้อหนุนหรือชักจูง
ครูแก้ว อัจฉริยะกุล ก็เช่นเดียวกันครับ
ความเชื่อของครูแก้ว เริ่มต้นจากการที่ทราบว่าตนเองคือลูกของหลวงปู่เผือกในอดีตและมีศรัทธาอย่าง แนบแน่นเมื่อหลวงปู่เผือกสามารถรักษาท่านให้หายจากอาการบาดเจ็บ
ว่ากันว่าความเชื่อและความศรัทธานี่แหละคือแหล่งกำเนิดชั้นเยี่ยมของกำลังใจ
เพราะในเวลาไม่นานหลังจากที่ครูแก้วหายขาด ท่านได้นิมนต์หลวงพ่อสมภพให้ประทับวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่เผือกเพื่อ จะได้สอนให้ท่านนั่งสมาธิและฝึกปฏิบัติวิปัสสนา
จากการที่ครูแก้วได้นั่งสมาธิและปฏิบัติวิปัสสนานี้เอง ทำให้ท่านได้พบเห็นตัวตนของหลวงปู่เผือก
ซึ่งเรื่องของการพบครั้งนี้ถือเป็นเรื่องอมตะตลอดกาลของศิษย์สายสาลีโขและได้มีการบันทึกไว้ใน "หนังสืออภินิหารหลวงปู่เผือก ตอนแก้วฟ้าท่องสวรรค์" เรื่องราวในตอนนี้ค่อนข้างยาวครับ ขอเก็บไว้เล่าในตอนหน้าดีกว่า....สวัสดีครับ
ขอขอบคุณ เอกสารอ้างอิง หนังสืออภินิหารหลวงปู่เผือก โดย ประจวบ สาเกตุ คุณภาค ที่กรุณาส่งหนังสือมาให้ คุณพรชนก สุขพงษ์ไทยกับภาพถ่าย เพื่อนต่อกับคำแนะนำ และกำลังใจจากคุณสมบูรณ์ ร้านนายฮ้อ สระบุรีครับ .... โดย ศิษย์กวง
ข้อมูลอ้างอิง : http://www.oknation.net/blog/print.php?id=634529
บทความลงวันที่: 14/1/2013