สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต)
ประวัติ วัดบวรนิเวศวิหาร (วัดบวรนิเวศ ราชวรวิหาร) แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
ประวัติสมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต)
วัดบวรนิเวศวิหาร (วัดบวรนิเวศ ราชวรวิหาร)
แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
สมเด็จพระวันรัต มีนามเดิมว่า จุนท์ พราหมณ์พิทักษ์ เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๗ กันยายน ๒๔๗๙ ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีชวด ณ บ้านเกาะเกตุ ต.ชำราก อ.เมือง จ.ตราด โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายจันทร์และนางเหล็ย พราหมณ์พิทักษ์ ท่านสำเร็จการศึกษาชั้นประถมปีที่ ๔ จากโรงเรียนวัดคิรีวิหาร ต.ชำราก อ.เมือง จ.ตราด จากนั้น ได้เข้าพิธีบรรพชา เมื่อวันจันทร์ที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๔๙๑ ณ วัดคิรีวิหาร ต.ชำราก อ.เมือง จ.ตราด โดยมี พระวินัยบัณฑิต เป็นพระอุปัชฌาย์ กระทั่งอายุครบ ๒๐ ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๘ กรกฎาคม ๒๔๙๙ ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร โดยมีสมเด็จพระวชิรญาณวงศ์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า สกลมหาสังฆปริณายก (ม.ร.ว.ชื่น สุจิตโต) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระวินัยบัณฑิต (ถาวร ฐานุตตโร) วัดคิรีวิหาร จ.ตราด เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูวิสุทธิธรรมภาณ (แจ่ม ธมฺมสาโร) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลังอุปสมบท ได้ศึกษาพระปริยัติธรรม จนสอบได้ประโยคเปรียญธรรม ๙ ประโยค จากสำนักเรียนวัดบวรนิเวศวิหาร
ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ วันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ สมเด็จพระวันรัต ขณะดำรงสมณศักดิ์ที่ พระพรหมมุนี ได้ปฏิบัติหน้าที่พระเถระชั้นผู้ใหญ่ นั่งพระเสลี่ยงกลีบบัว (พระยานมาศพระนำ) และราชรถน้อย (รถพระนำ) อ่านพระอภิธรรมนำขบวนพระอิสริยยศ ในการเคลื่อนพระศพ จากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท สู่พระเมรุ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง
ส่วนภาระหน้าที่ที่แสดงสติปัญญาอันสูงส่ง และหายากที่จะหาผู้ใดทำหน้าที่นี้ได้ในยุคปัจจุบัน คือ การที่ทรงได้รับมอบหมายจากเถระสมาคมเป็นผู้ตรวจสอบการคำนวณปฏิทินหลวง (ปฏิทินจันทรคติของไทย) และให้ความเห็น ก่อนที่จะประกาศใช้ ในแต่ปี นอกจากนี้ยังเดินหมุดและคำนวณปฏิทินปักขคณนา สำหรับบอกอุโบสถให้กับคณะสงฆ์คณะธรรมยุตด้วย
วิทยฐานะ
- พ.ศ. ๒๔๙๑ สำเร็จวิชาสามัญศึกษา (ป.๔) จากโรงเรียนวัดคิริวิหาร ตำบลชำราก อำเภอเมือง จังหวัดตราด
- พ.ศ. ๒๔๙๕ สอบได้ประโยค น.ธ. เอก ในสนามหลวงสำนักเรียนวัดบวรนิเวศวิหาร
- พ.ศ. ๒๕๑๖ สอบได้ประโยค ป.ธ.๙ ในสนามหลวงสำนักเรียนวัดบวรนิเวศวิหาร
ตำแหน่งงานปกครองคณะสงฆ์
- เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร
- เป็นกรรมการวัดบวรนิเวศวิหาร
- เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม สำนักเรียนวัดบวรนิเวศวิหาร
- เป็นผู้อำนวยการศึกษา สำนักเรียนวัดบวรนิเวศวิหาร
- เป็นเจ้าคณะขาบบวร-เขียวบวร
- เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.)
- เป็นกรรมการเถรสมาคมธรรมยุต
- เป็นเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร-สมุทรปราการ (ธรรมยุต)
- เป็นอนุกรรมการฝ่ายการปกครอง ของมหาเถรสมาคม
- เป็นพระอุปัชฌาย์
- เป็นกรรมการสนามหลวง แผนกบาลี
- เป็นแม่กองธรรมสนามหลวง
- เป็นกรรมการฝ่ายศาสนศึกษา ของมหาเถรสมาคม
- เป็นรองประธานกรรมการฝ่ายศาสนศึกษา ของมหาเถรสมาคม
- เป็นผู้อำนวยการมูลนิธิมหามกุฎราชวิทยาลัย
- กรรมการฝ่ายศาสนศึกษา ของมหาเถรสมาคม
- ผู้อำนวยการมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย
- ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดมกุฏกษัตริยาราม
หน้าที่
- เป็นผู้ตรวจสอบการคำนวณปฏิทินหลวง (ปฏิทินจันทรคติของไทย) และให้คำแนะนำ ก่อนประกาศใช้ในแต่ละปี
- เป็นกรรมการชำระพระไตรปิฎก ฉบับเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ ๖๐ พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
- เป็นกรรมการชำระอรรถกถา ฉบับเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ ๖๐ พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
- เป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย
- เป็นผู้แสดงพระธรรมเทศนา ในการทรงบำเพ็ญพระราชกุศล, งานพระราชพิธีฯ ในบางโอกาส
- เป็นผู้ถวายการสอนพระธรรมวินัยแด่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร ในคราวทรงทรงผนวช เสด็จประทับ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร
- เป็นกรรมการกองตำรามหามกุฏราชวิทยาลัย
- เป็นหัวหน้ากองตำรามหามกุฏราชวิทยาลัย
- เป็นกรรมการมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย
- เป็นประธานคณะกรรมการตำราและวิชาการ มูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย
- สนองงานถวายเจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวรฯ ที่ได้รับพระบัญชาในบางโอกาส
งานพิเศษ
- พ.ศ. ๒๕๔๑ - ตรวจการณ์คณะสงฆ์ภาค ๓ (ธรรมยุต) ในจังหวัดสิงห์บุรี, อุทัยธานี,ลพบุรี
- พ.ศ. ๒๕๔๑ - ตรวจการณ์คณะสงฆ์ภาค ๗ (ธรรมยุต) ในจังหวัดเชียงใหม่
- พ.ศ. ๒๕๔๓ - ตรวจการณ์คณะสงฆ์ภาค ๑๒ (ธรรมยุต) ในจังหวัดจันทบุรี,ตรวจการณ์คณะสงฆ์ภาค ๑๓ (ธรรมยุต) ในจังหวัดปราจีนบุรี
- พ.ศ. ๒๕๔๕ - ตรวจการณ์คณะสงฆ์ภาค ๘ (ธรรมยุต),รักษาการแทนเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี (ธรรมยุต)
ลำดับสมณศักดิ์
- พ.ศ. ๒๕๑๗ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็น พระราชาคณะชั้นสามัญ ที่ พระอมรโมลี
- พ.ศ. ๒๕๓๑ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็น พระราชาคณะชั้นราช ที่ พระราชสุมนต์มุนี
- พ.ศ. ๒๕๓๕ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็น พระราชาคณะชั้นเทพ ที่ พระเทพกวี
- พ.ศ. ๒๕๔๑ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็น พระราชาคณะชั้นธรรม ที่ พระธรรมกวี
- พ.ศ. ๒๕๔๓ ได้รับพระราชทานสถาปนา สมณศักดิ์เป็น พระราชาคณะเจ้าคณะรอง ชั้นหิรัญบัฏ ที่ พระพรหมมุนี
พ.ศ. ๒๕๕๒ ได้รับพระราชทานสถาปนา สมณศักดิ์เป็น สมเด็จพระราชาคณะ ชั้นสุพรรณบัฏ ที่ สมเด็จพระวันรัต สมเด็จพระวันรัต ศรีวชิรญาณวงศวิวัฒ ปริยัติพิพัฒนพงศ์ วิสุทธิสงฆปริณายก ตรีปิฎกโกศล วิมลคัมภีรญาณสุนทร ธรรมยุตติกคณิสสรบวรสังฆาราม คามวาสี อรัณยวาสี สถิต ณ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร พระอารามหลวง กรุงเทพมหานคร มีฐานานุศักดิ์ตั้งฐานานุกรมได้ ๑๐ รูป
ที่มา : http://www.watbowon.com/