วัดพระพุทธบาทพนมดิน
ประวัติ หมู่2 บ้านเหล่าอ้อย ตำบลท่าตูม อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์
ประวัติวัดพระพุทธบาทพนมดิน
เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๖ ท่านพระครูประภัศร์คณารักษ์ (จันทร์ ปภัสสโร) เจ้าคณะอำเภอท่าตูมในสมัยนั้น ได้พบหลวงปู่ธรรมรังษี หลังจากรู้จักกันไม่นานท่านพระครูประภัศร์คณารักษ์จึง นิมนต์หลวงปู่ท่านไปดูสถานที่ป่าหนาทึบแห่งหนึ่งห่างจากอำเภอท่าตูมไม่ไกลนัก เมื่อหลวงปู่ธรรมรังษีได้เดินทางมาถึงดูสถานที่แห่งนี้ท่านเกิดความปิติ โสมนัสเป็นอย่างมาก หลวงปู่ได้เอ่ยว่า “ สถานที่แห่งนี้มีความคุ้นเคยกันมาก่อน “ แล้วท่านก็ยิ้มแล้วพูดอีกครั้งว่า “ ฤาษีธรรมรังษี อาตมาเป็นฤาษีพนมดิน “ หลวงปู่ธรรมรังษีจึงรับปากกับพระครูประภัศร์คณารักษ์ โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อยที่จะบุกเบิกสร้างป่าหนาผืนนี้ให้เป็นวัดพระพุทธบาทพนมดิน สถานที่ปฏิบัติธรรมให้รุ่งเรือง การจากมาของหลวงปู่ธรรมรังษีในครั้งนั้นมีภิกษุสามเณร แม่ชี พราหมณ์ และอุบาสกอุบาสิกาติดตามมาด้วยความผูกพันเลื่อมใสศรัทธาเป็นจำนวนมาก แม้จะไม่มีกุฏิให้พักอาศัยเลยแม้สักหลัง จะมีก็เพียงผืนป่าที่มีงูและยุงมากมาย ศิษยานุศิษย์ทั้งหลายเหล่านั้นเต็มใจอยู่ปรนนิบัติรับใช้ปฏิบัติธรรม ร่วมเป็นร่วมตายกันต่อไป แม้กุฏิหลวงปู่ธรรมรังษีเองท่านก็ไม่มี ในสมัยนั้นยามค่ำคืนวันหนึ่งมีสามีภรรยาวัยชราคู่หนึ่งอาศัยอยู่หมู่บ้านลุงปุง ได้เดินทางตามถนนหลัก ท่าตูม-สุรินทร์ สองข้างฝั่งเป็นป่าหนาทึบ ได้เกิดสีลำแสงสว่างจ้าสีฟ้าครามบนท้องฟ้าพุ่งลงมาสู่ป่าหนาทึบนั้น ทั้งสองจึงตัดสินใจเดินเข้าไปดูที่ลำแสงนั้นที่ส่องลงมา บริเวณตำแหน่งที่ลำแสงส่องลงมาจากท้องฟ้านั้นมีพระสงฆ์รูปหนึ่งนั่งสมาธิ อยู่บนแคร่ไม้ไผ่เล็กๆ อยู่ในท่ามกลางป่าหนาทึบ ไม่มีอะไรเลยนอกจากเครื่องอัฏฐะบริขารเพียงน้อยนิด จึงทราบภายหลังว่าพระสงฆ์รูปนั้นท่านมีชื่อว่า หลวงปู่ธรรมรังษี ด้วยบารมีธรรมอันแกร่งกล้า และด้วยเมตตาธรรมอันเปี่ยมล้นของหลวงปู่ธรรมรังษี สามารถทำให้วัดพระพุทธบาทพนมดินได้สำเร็จดังเจตนารมณ์ของคณะสงฆ์ ข้าราชการ พ่อค้า และประชาชนอำเภอท่าตูม ได้ดังที่หวังไว้หลวงปู่ธรรมรังษีท่านได้ตั้งใจอยู่พัฒนาบุกเบิกเป็นสำนักวิปัสสนากรรมฐานสร้างศาลาการเปรียญ เสนาสนะและสิ่งก่อสร้างต่างๆ เพื่อเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมจนเจริญรุ่งเรืองดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน หลวงปู่ท่านได้ปรับปรุงก่อสร้างกุฏิสงฆ์ โดยมีกุฏิสงฆ์และผู้มาปฏิบัติธรรมไม่น้อยกว่า ๕o หลัง หอสวดมนต์ พระอุโบสถ รั้วคอนกรีตรอบวัด ประตูวัด บูรณปฏิสังขรณ์อาคารต่างๆ ทั้งของวัดและของส่วนราชการอีกมากมาย บริเวณวัดสะอาดเป็นระเบียบและดูร่มรื่นและสวยงาม
วัดพระพุทธบาทพนมดินมีพื้นที่ทั้งหมด ๕๐ ไร่ (ตามหนังสืออนุญาตเล่มที่ ๒๐๐ ฉบับลงวันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๓๗)
ศาสนสถานโดยสังเขปดังนี้
๑. เจดีย์รอยพระพุทธบาท
๒. ศาลาระลึก ๒๐๐ ปี รัตนโกสินทร์ (ประดิษฐานองค์พระพุทธนิมิตมงคล)
๓. พระอุโบสถ (วางศิลาฤกษ์ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๖ , ยกช่อฟ้า เมื่อวันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๔๑ และสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๒)
๔. พระมหาเจดีย์ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันธาตุ สมเด็จพระสังฆราช แห่งประเทศศรีลังกา ประทานให้ (วางศิราฤกษ์ เมื่อวันที่ ๗ เมษายน ๒๕๔๔ และสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๙)
๕. ปราสาทโลงแก้วบรรจุสังขารหลวงปู่ธรรมรังษี (ทรงศิลปะเขมร) สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๔
๖. บ่อน้ำศักดิ์สิทธ์ ๒ แห่ง แห่งแรกเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์แม่ธรณีบีบมวยผม และแห่งที่สองเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์พญานาคแฝด (พญานาคท่านเงิน และพญานาคท่านทอง)
๗. สวนปฏิบัติธรรม “ ป่าเลไลยก์ ”
๘. กุฏิสงฆ์ ๕๖ หลัง และกุฏิแม่ชี และผู้ปฏิบัติธรรมหญิง ๑๔ หลัง
เจ้าอาวาส วัดพระพุทธบาทพนมดิน
พ.ศ. ๒๕๒๖ - พ.ศ. ๒๕๔๙ :พระธรรมวิริยาจารย์ หลวงปู่ธรรมรังษี จนฺทสุวณฺโณ
พ.ศ. ๒๕๕๐ - ปัจจุบัน : พระปลัดสุธีรัตน์ จนฺทสุวณฺโณ
ภาพบรรยากาศภายในวัด
ข้อมูลอ้างอิง : เพื่อนสมาชิก by พระอุดมเวทย์