พระนาคปรก กรุป่าไม้แดง เมืองสิงห์บุรี - ทำเนียบรุ่น - webpra

เว็บ-พระ ประมูลพระเครื่อง ร้านค้าพระเครื่องออนไลน์

เมืองสิงห์บุรี

พระนาคปรก กรุป่าไม้แดง เมืองสิงห์บุรี

พระนาคปรก เนื้อตะกั่วสนิมแดง

ชื่อพระเครื่อง	พระนาคปรก กรุป่าไม้แดง เมืองสิงห์บุรี
อายุพระเครื่อง	0 ปี
หมวดพระ	พระกรุ
สถานะ
จำนวนคนชม	9728
เข้าทำเนียบตั้งแต่วันที่	ศ. - 06 พ.ค. 2554 - 18:12.14
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	พ. - 01 ส.ค. 2555 - 15:49.49
Facebook	Share

รายละเอียด
กรุที่มีการค้นพบ - กรุป่าไม้แดง ศิลปะยุค - ศิลปะลพบุรี จำนวน - ประมาณ 40 องค์ บทความนี้ได้คัดลอกมาจาก saranugrompra.com ---บริเวณสระไม้แดง หรือป่าไม้แดงยังมีวัดร้างวัดหนึ่ง ซึ่งชาวบ้านเรียกกันว่า วัดยาง มีพระกรุพระเครื่องและกรุพระบูชาที่สำคัญยิ่งกรุหนึ่ง เป็นพระที่ชาวบ้านไถนาไปพบเข้าโดยบังเอิญ เมื่อปี พุทธศักราช 2505 เป็นการพบเหมือนกับกรุพระอื่นในหลายๆ กรุที่เคยพบมาแล้วนั้นเอง ---พระที่ได้ในกรุนี้เป็นพระสมัยลพบุรี มีด้วยกันหลายพิมพ์ เช่น นาคปรกสนิมแดง,พระร่วงยืนสนิมแดง, พระเขมรขนนกนั่ง, พระเขมรขนนกยืน, พระซุ้มกระรอกกระแต และพระสังกัจจายน์สมัยลพบุรี ทั้งหมดเป็นพระเนื้อตะกั่วสนิมแดงทั้งหมด เว้นไว้แต่พระแผงดินเท่านั้น (ซุ้มกระรอกกระแต) สำหรับชินเงินไม่มีเลย นอกจากพบพระเครื่องแล้ว ก็พบพระบูชาอีกจำนวนหนึ่งเป็นพระบูชาสมัยลพบุรีเช่นเดียวกัน มีทั้งนั่งและยืน อาทิเช่น พระนาคปรกสมัยลพบุรี พระนั่งลพบุรีจีโบ และพระยืนจีโบสมัยลพบุรีทั้งเล็กและใหญ่ปะปนคละเคล้ากันไป ผู้ที่ได้พระบูชานั้นได้แก่คนที่ท่าข้าม แต่บัดนี้พระเหล่านั้นได้ถูกอันเชิญ (นิมนต์) ไปอยู่ต่างประเทศหมดแล้ว เป็นเพราะเหตุผลกลใดไม่ปรากฏ ---พระนาคปรกป่าไม้แดงมีมากกว่าพิมพ์อื่นๆ ในกรุเดียวกันมีทั้งพิมพ์เล็กพิมพ์ใหญ่ประทับนั่งสมาธิ บนบัว 3 กลีบ มีรัดแขนพระเกศมาลาเป็นเทริดขนนกลักษณะทะมัดทะแมง ถมึงทึงมองดูซึ้งแข็งแกร่งน่าแกรงขาม ---ของดีที่ผมว่านี้ เมื่อ 36 ปี ล่วงมาแล้ว ผมและพันเอกจำรัส โสภาพันธ์ ร้อยโทบุญลือ อ่อนน้อมพันธ์ ผู้ล่วงลับไปแล้ว (ในดินแดงประเทศลาว) ได้ว่าจ้างรถแท็กซี่ไปดูเขาขุดกันวันละ 80 บาท พอถึงกรุก็มีชาวบ้านแถบนั้น นำมาจำหน่ายให้กับพวกผมในราคาองค์งามๆ ก็ 600 - 700 บาท เท่านั้นเอง ไม่สวยเลยก็ 300 บาท ---วันหนึ่งมีชาวบ้านละแวกนั้นทำการขุดคุ้ยหากันมาก และได้พระขึ้นมาอีก 1 ไห ภายในไหนั้นเป็นพระสังกัจจายน์ และพระร่วงยืนมากกว่า 30 องค์ ผมได้เช่ามากันทั้งหมดโดยใช้วิธีหารกัน ---ช่วงนั้นวงการพระเริ่มตื่นตัว ในขณะที่มีกรุพระต่างๆ แตกมากขึ้น เช่นที่ ลพบุรี สิงห์บุรี และชัยนาท และที่อื่นๆ อีกหลายแห่ง แต่ละแห่งแต่ละที่นั้นเป็นพระสมัยสูงๆ เกือบทุกที่ ส่วนใหญ่เป็นพระสมัยลพบุรี ทำให้คนส่วนมากสนใจกันอย่างกว้างขวาง ---ป่าไม้แดงอยู่ที่ไหน ---ป่าไม้แดงก็อยู่ในเขตอำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรีนี่เอง อยู่ในลุ่มแม่น้ำน้อยมีกรุพระที่ขึ้นชื่อลือชา คือพระร่วงและพระนาคปรกสนิมแดง มีลักษณะพิเศษกว่านาคปรกกรุอื่นๆ มาก คือ ประทับนั่งบนดอกบัว 3 กลีบที่กำลังบานเสียด้วย ---ลักษณะของพระร่วงยืนปางประทานพรนั้น มีขนาดส่วนสูง 7.5 ซม. กว้างประมาณ 2 ซม. มีลักษณะเดียวกันกับพระร่วงของลพบุรีที่วัดมหาธาตุและช่างกล เป็นพระสนิมแดงที่มีไขคลุมอยู่ด้านนอกงดงามมาก (เป็นสีขาว) คราบกรุคล้ายคราบแป้งเมื่อล้างออกจะเห็นเป็นสีแดงอมส้มมีรอยรานคล้ายใยแมงมุม บางองค์สนิมขุมเกาะแน่น บางองค์มีคราบตกผลึกติดที่รอยระเบิดของเนื้อตะกั่วก็มี ล้างออกยากถึงแม้ว่า จะใช้น้ำยาล้างก็ตามที ต้องใช้ของมีคมช่วยขูดจึงจะออก ---พระกรุป่าไม้แดงแทบทั้งหมดจะไม่ค่อยสมบูรณ์แบบมากนัก คือมีลักษณะเว้า แหว่ง อันแสดงถึงการหล่อเท แต่เดิมเลยจะมีที่สมบูรณ์แบบไม่มากนัก เหตุที่ไม่สมบูรณ์แบบคงเป็นพระตะกั่วเวลาหล่อเทนั้นทำยากกว่าเนื้อชิน การไหลลื่นของเนื้อตะกั่วเมื่อขณะร้อนหรืออยู่ในเตาที่ร้อนๆ การหลอมละลายก็ยังดีอยู่ พอยกออกจากเตาซึ่งห่างความร้อน เพียงไม่กี่นาที เนื้อตะกั่วจะรวมตัวกัน ไม่ลื่นไหลง่ายๆ เพราะการถูกอากาศนั่นเอง (ความเย็น) เมื่อเป็นเช่นนี้ช่างจึงทำการหล่อหลอมได้ยากมาก การไหลลื่นจึงไม่เสมอกันทำให้เกิดการเว้าการแหว่งขึ้น แลดูไม่สมบูรณ์แบบ แต่ที่สมบูรณ์แบบก็มีบ้าง มีความสวยงามความงามเหมือนพระร่วงกรุลพบุรีที่กล่าวมาแล้ว ด้านหลังขององค์พระจะเป็นรอยผ้า (ลายผ้ากด) บางองค์ก็มีรอยบุ๋มลึกด้วยแม่พิมพ์กดทับลงไปอีกที มีทั้งพระนาคปรกและพระร่วงยืน ส่วนพระสังกัจจายน์นั้นการหล่อเทใช้ตะกั่วมากองค์พระจะหนาความสมบรูณ์แบบจึงมีมากกว่า องค์ก็เล็กกว่าพระร่วงและพระนาคปรก ---พระป่าไม้แดงเป็นพระที่ถูกน้ำท่วมกรุมานาน ทำให้เกิดคราบกรุและผิวฝ้าต่างๆ คล้ายกรุพระเมืองสุพรรณบุรี บางกรุ หรือเกือบจะเหมือนกันแทบทุกกรุที่มีน้ำท่วมเท่าที่ได้สังเกตเห็นมาและก็เป็นที่น่าแปลก ที่พระกรุป่าไม้แดงมีพระหลายพิมพ์ทรงรวมอยู่ด้วยกันเวลาประชาชนขุดพบพระก็เกิดยื้อแย่งกันแต่ไม่ถึงกับทะเลาะเบาะแว้งเป็นที่สนุกสนานเฮฮาเป็นอันมาก การขุดกันครั้งนั้น มีคนจำนวนร้อยจำนวนพัน เข้าไปในพื้นที่วัดร้างดังกล่าวเมื่อใครได้พบพระก็นำกลับมาบ้านหรือบางคนก็มีคนเช่าไปสักการะบูชาเลยก็มี เพราะมีบรรดานักนิยมทั้งหลายก็คอยเฝ้าดูอยู่ ---พระกรุป่าไม้แดงเป็นพระที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากกรุหนึ่ง และเป็นพระที่มีราคาแพงมากเท่าที่ทราบปรากฏว่า พระนาคปรกองค์งามๆ มีผู้เช่าไปในราคาเกินกว่า 2 หมื่นบาท ก็นับว่าเป็นสิ่งที่ควรจะเป็นเช่นนั้น เพราะความสง่างามในองค์พระก็ดี องค์ประกอบแห่งศิลป์ก็ดีมีพร้อมอยู่ (ในจำนวนพระสนิมแดง) แม้แต่พระร่วงและพระสังกัจจายน์ก็เหมือนกัน ผมยังเชื่อว่า พระกรุป่าไม้แดง ยังมีศิลปที่งดงามจับใจมากทีเดียว ---ด้วยเหตุที่พระกรุป่าไม้แดงมีศิลปอันงดงามยิ่งนี่เองจึงทำให้คนคิดทำปลอมกันเรื่อยมา ช่างบางคนก็ทำได้ใกล้เคียง บางคนก็ทำได้ไม่เหมือนเลย ขอให้สังเกตไว้ว่า ของแท้ (ของจริง) นั้นจะมีรอยเว้ารอยแหว่งเสมอ หมายถึงความสมบูรณ์หายาก ก็ขอเตือนไว้เพียงเท่านี้ ที่พิเศษสุดนั้น พระนาคปรกพิมพ์ใหญ่ จะมีพระเกศมาลาเป็นแบบเทริดขนนก พิมพ์เล็กพระเกศธรรมดา

รายละเอียด

กรุที่มีการค้นพบ
- กรุป่าไม้แดง

ศิลปะยุค
- ศิลปะลพบุรี

จำนวน
- ประมาณ 40 องค์

บทความนี้ได้คัดลอกมาจาก saranugrompra.com
---บริเวณสระไม้แดง หรือป่าไม้แดงยังมีวัดร้างวัดหนึ่ง ซึ่งชาวบ้านเรียกกันว่า วัดยาง มีพระกรุพระเครื่องและกรุพระบูชาที่สำคัญยิ่งกรุหนึ่ง เป็นพระที่ชาวบ้านไถนาไปพบเข้าโดยบังเอิญ เมื่อปี พุทธศักราช 2505 เป็นการพบเหมือนกับกรุพระอื่นในหลายๆ กรุที่เคยพบมาแล้วนั้นเอง

---พระที่ได้ในกรุนี้เป็นพระสมัยลพบุรี มีด้วยกันหลายพิมพ์ เช่น นาคปรกสนิมแดง,พระร่วงยืนสนิมแดง, พระเขมรขนนกนั่ง, พระเขมรขนนกยืน, พระซุ้มกระรอกกระแต และพระสังกัจจายน์สมัยลพบุรี ทั้งหมดเป็นพระเนื้อตะกั่วสนิมแดงทั้งหมด เว้นไว้แต่พระแผงดินเท่านั้น (ซุ้มกระรอกกระแต) สำหรับชินเงินไม่มีเลย นอกจากพบพระเครื่องแล้ว ก็พบพระบูชาอีกจำนวนหนึ่งเป็นพระบูชาสมัยลพบุรีเช่นเดียวกัน มีทั้งนั่งและยืน อาทิเช่น พระนาคปรกสมัยลพบุรี พระนั่งลพบุรีจีโบ และพระยืนจีโบสมัยลพบุรีทั้งเล็กและใหญ่ปะปนคละเคล้ากันไป ผู้ที่ได้พระบูชานั้นได้แก่คนที่ท่าข้าม แต่บัดนี้พระเหล่านั้นได้ถูกอันเชิญ (นิมนต์) ไปอยู่ต่างประเทศหมดแล้ว เป็นเพราะเหตุผลกลใดไม่ปรากฏ

---พระนาคปรกป่าไม้แดงมีมากกว่าพิมพ์อื่นๆ ในกรุเดียวกันมีทั้งพิมพ์เล็กพิมพ์ใหญ่ประทับนั่งสมาธิ บนบัว 3 กลีบ มีรัดแขนพระเกศมาลาเป็นเทริดขนนกลักษณะทะมัดทะแมง ถมึงทึงมองดูซึ้งแข็งแกร่งน่าแกรงขาม

---ของดีที่ผมว่านี้ เมื่อ 36 ปี ล่วงมาแล้ว ผมและพันเอกจำรัส โสภาพันธ์ ร้อยโทบุญลือ อ่อนน้อมพันธ์ ผู้ล่วงลับไปแล้ว (ในดินแดงประเทศลาว) ได้ว่าจ้างรถแท็กซี่ไปดูเขาขุดกันวันละ 80 บาท พอถึงกรุก็มีชาวบ้านแถบนั้น นำมาจำหน่ายให้กับพวกผมในราคาองค์งามๆ ก็ 600 - 700 บาท เท่านั้นเอง ไม่สวยเลยก็ 300 บาท

---วันหนึ่งมีชาวบ้านละแวกนั้นทำการขุดคุ้ยหากันมาก และได้พระขึ้นมาอีก 1 ไห ภายในไหนั้นเป็นพระสังกัจจายน์ และพระร่วงยืนมากกว่า 30 องค์ ผมได้เช่ามากันทั้งหมดโดยใช้วิธีหารกัน

---ช่วงนั้นวงการพระเริ่มตื่นตัว ในขณะที่มีกรุพระต่างๆ แตกมากขึ้น เช่นที่ ลพบุรี สิงห์บุรี และชัยนาท และที่อื่นๆ อีกหลายแห่ง แต่ละแห่งแต่ละที่นั้นเป็นพระสมัยสูงๆ เกือบทุกที่ ส่วนใหญ่เป็นพระสมัยลพบุรี ทำให้คนส่วนมากสนใจกันอย่างกว้างขวาง

---ป่าไม้แดงอยู่ที่ไหน

---ป่าไม้แดงก็อยู่ในเขตอำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรีนี่เอง อยู่ในลุ่มแม่น้ำน้อยมีกรุพระที่ขึ้นชื่อลือชา คือพระร่วงและพระนาคปรกสนิมแดง มีลักษณะพิเศษกว่านาคปรกกรุอื่นๆ มาก คือ ประทับนั่งบนดอกบัว 3 กลีบที่กำลังบานเสียด้วย

---ลักษณะของพระร่วงยืนปางประทานพรนั้น มีขนาดส่วนสูง 7.5 ซม. กว้างประมาณ 2 ซม. มีลักษณะเดียวกันกับพระร่วงของลพบุรีที่วัดมหาธาตุและช่างกล เป็นพระสนิมแดงที่มีไขคลุมอยู่ด้านนอกงดงามมาก (เป็นสีขาว) คราบกรุคล้ายคราบแป้งเมื่อล้างออกจะเห็นเป็นสีแดงอมส้มมีรอยรานคล้ายใยแมงมุม บางองค์สนิมขุมเกาะแน่น บางองค์มีคราบตกผลึกติดที่รอยระเบิดของเนื้อตะกั่วก็มี ล้างออกยากถึงแม้ว่า จะใช้น้ำยาล้างก็ตามที ต้องใช้ของมีคมช่วยขูดจึงจะออก

---พระกรุป่าไม้แดงแทบทั้งหมดจะไม่ค่อยสมบูรณ์แบบมากนัก คือมีลักษณะเว้า แหว่ง อันแสดงถึงการหล่อเท แต่เดิมเลยจะมีที่สมบูรณ์แบบไม่มากนัก เหตุที่ไม่สมบูรณ์แบบคงเป็นพระตะกั่วเวลาหล่อเทนั้นทำยากกว่าเนื้อชิน การไหลลื่นของเนื้อตะกั่วเมื่อขณะร้อนหรืออยู่ในเตาที่ร้อนๆ การหลอมละลายก็ยังดีอยู่ พอยกออกจากเตาซึ่งห่างความร้อน เพียงไม่กี่นาที เนื้อตะกั่วจะรวมตัวกัน ไม่ลื่นไหลง่ายๆ เพราะการถูกอากาศนั่นเอง (ความเย็น) เมื่อเป็นเช่นนี้ช่างจึงทำการหล่อหลอมได้ยากมาก การไหลลื่นจึงไม่เสมอกันทำให้เกิดการเว้าการแหว่งขึ้น แลดูไม่สมบูรณ์แบบ แต่ที่สมบูรณ์แบบก็มีบ้าง มีความสวยงามความงามเหมือนพระร่วงกรุลพบุรีที่กล่าวมาแล้ว ด้านหลังขององค์พระจะเป็นรอยผ้า (ลายผ้ากด) บางองค์ก็มีรอยบุ๋มลึกด้วยแม่พิมพ์กดทับลงไปอีกที มีทั้งพระนาคปรกและพระร่วงยืน ส่วนพระสังกัจจายน์นั้นการหล่อเทใช้ตะกั่วมากองค์พระจะหนาความสมบรูณ์แบบจึงมีมากกว่า องค์ก็เล็กกว่าพระร่วงและพระนาคปรก

---พระป่าไม้แดงเป็นพระที่ถูกน้ำท่วมกรุมานาน ทำให้เกิดคราบกรุและผิวฝ้าต่างๆ คล้ายกรุพระเมืองสุพรรณบุรี บางกรุ หรือเกือบจะเหมือนกันแทบทุกกรุที่มีน้ำท่วมเท่าที่ได้สังเกตเห็นมาและก็เป็นที่น่าแปลก ที่พระกรุป่าไม้แดงมีพระหลายพิมพ์ทรงรวมอยู่ด้วยกันเวลาประชาชนขุดพบพระก็เกิดยื้อแย่งกันแต่ไม่ถึงกับทะเลาะเบาะแว้งเป็นที่สนุกสนานเฮฮาเป็นอันมาก การขุดกันครั้งนั้น มีคนจำนวนร้อยจำนวนพัน เข้าไปในพื้นที่วัดร้างดังกล่าวเมื่อใครได้พบพระก็นำกลับมาบ้านหรือบางคนก็มีคนเช่าไปสักการะบูชาเลยก็มี เพราะมีบรรดานักนิยมทั้งหลายก็คอยเฝ้าดูอยู่

---พระกรุป่าไม้แดงเป็นพระที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากกรุหนึ่ง และเป็นพระที่มีราคาแพงมากเท่าที่ทราบปรากฏว่า พระนาคปรกองค์งามๆ มีผู้เช่าไปในราคาเกินกว่า 2 หมื่นบาท ก็นับว่าเป็นสิ่งที่ควรจะเป็นเช่นนั้น เพราะความสง่างามในองค์พระก็ดี องค์ประกอบแห่งศิลป์ก็ดีมีพร้อมอยู่ (ในจำนวนพระสนิมแดง) แม้แต่พระร่วงและพระสังกัจจายน์ก็เหมือนกัน ผมยังเชื่อว่า พระกรุป่าไม้แดง ยังมีศิลปที่งดงามจับใจมากทีเดียว

---ด้วยเหตุที่พระกรุป่าไม้แดงมีศิลปอันงดงามยิ่งนี่เองจึงทำให้คนคิดทำปลอมกันเรื่อยมา ช่างบางคนก็ทำได้ใกล้เคียง บางคนก็ทำได้ไม่เหมือนเลย ขอให้สังเกตไว้ว่า ของแท้ (ของจริง) นั้นจะมีรอยเว้ารอยแหว่งเสมอ หมายถึงความสมบูรณ์หายาก ก็ขอเตือนไว้เพียงเท่านี้ ที่พิเศษสุดนั้น พระนาคปรกพิมพ์ใหญ่ จะมีพระเกศมาลาเป็นแบบเทริดขนนก พิมพ์เล็กพระเกศธรรมดา