เมืองสิงห์บุรี
ประวัติ พระกรุ
เมืองสิงห์บุรี
จากสภาพทางภูมิศาสตร์ของพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งเป็นชุมชนโบราณในลุ่มน้ำเจ้าพระยา และตั้งเป็นบ้านเมืองมาตั้งแต่ครั้งสมัยทวาราวดี สมัยลพบุรี จนถึงกรุงศรีอยุธยานั้น ศาสตราจารย์ซอง บวสเซอลิเย นักโบราณคดีชาวฝรั่งเศสได้ทำการศึกษาค้นคว้าพบว่า บริเวณบ้านคูเมืองที่อำเภออินทร์บุรีนั้น เป็นเมืองเก่าที่มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยม มีคูล้อมรอบ แต่ไม่สามารถพบซากอาคารหรือสิ่งก่อสร้างอย่างอื่นหลงเหลืออยู่เลย นอกจากเศษเครื่องถ้วยชามและลูกปัดจำนวนมาก
โบราณวัตถุที่ขุดพบในชั้นดินระดับต่างๆที่บ้านคูเมืองในเวลาต่อมา คือ ตุ้มหูดีบุก จำนวน 3 ชิ้น สันนิฐานว่าเป็นตุ้มหูดีบุกที่มีลักษณะเดียวกันกับที่ขุดพบในออกแก้วประเทศกัมพูชา ซึ่งปรากฏในพุทธศตวรรษที่ 8-10 ฉะนั้นจึงมีความเป็นไปได้ว่า บ้านคูเมืองอำเภออินทร์บุรีแห่งนี้เป็นชุมชนโบราณร่วมสมัยตั้งแต่อาณาจักรฟูนันของขอมเป็นต้นมา
ต่อมานักโบราณคดียังได้ขุดพบภาชนะดินเผาสมัยทวาราวดี และพบเศษภาชนะเคลือบแบบสุโขทัย หรือพบเครื่องทอง เช่น ตะกรุดทอง สมัยอยุธยา เป็นต้น แสดงให้เห็นว่า บริเวณแถบนี้เป็นชุมชน ที่มีผู้คนเข้ามาอาศัยติดต่อกันมาอย่างไม่ขาดสาย จนกระทั่งถึงยุคปัจจุบัน
นอกจากนี้นักโบราณคดียังได้ทำการขุดค้นพบการตั้งถิ่นฐานของชุมชนโบราณที่อยู่ในเขตจังหวัดสิงห์บุรีอีกหลายแห่ง เช่น บ้านชีน้ำร้าย เขตอำเภอเมืองสิงห์บุรี แหล่งโบราณคดีบ้านคีม ตำบลสระแอง อำเภอบางระจัน เป็นต้น
สำหรับต้นเมืองสิงห์บุรีนั้น ล้วนเป็นเมืองเก่าที่สร้างมานาน สันนิษฐานว่าเป็นเมืองที่สร้างมาก่อนกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี ตัวเมืองเดิมของสิงห์บุรีนั้นตั้งอยู่ในท้องที่ ตำบลจักรสีห์ ใกล้ลำน้ำจักรสีห์ เขตอำเภอเมือง
สิงห์บุรีในปัจจุบัน อยู่ตรงบริเวณใกล้ๆกับวัดหน้าพระธาตุซึ่งเป็นเมืองเก่าที่ชาวบ้านเรียกว่า “บ้านหน้าพระลาน” มีปรากฏให้เห็นอยู่จนทุกวันนี้โดยเชื่อกันว่า พระเจ้าไกรสร โอรสพระเจ้าพรหม ผู้ครองเมืองฝาง(ชัยนาท) ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเมืองขึ้น เมื่อราวปีพุทธศักราช 1650
ต่อมาสิงห์บุรีก็มีชื่อปรากฏอยู่ในสมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี ฐานะเป็นเมืองหน้าด่านของแผ่นดินพระร่วงอย่างไรก็ตาม เมืองสิงห์บุรีได้มีการย้ายเมืองถึง4ครั้งด้วยกัน ซึ่งแต่เดิมนั้นเมืองสิงห์บุรีตั้งอยู่ที่บริเวณลำน้ำจักรสีห์ตำบลจักรสีห์ อำเภอสิงห์บุรี มีหลักฐานยืนยันความเป็นเมืองโบราณครั้งแรกที่วัดหน้าพระธาตุ ซึ่งยังปรากฏเป็นซากของหมู่บ้านโบราณเหลืออยู่ คือ บ้านหน้าพระลาน ดังได้กล่าวมาแล้วนั่นเอง
โบราณวัตถุของเมืองสิงห์บุรีนั้นมีตั้งแต่สมัยทวาราวดี ลพบุรีจนถึงสมัยอยุธยา ที่ปรากฏให้เห็นจะได้แก่พระพุทธรูป เทวรูป สมัยลพบุรีมีพบจำนวนมาก ไม่แพ้เมืองลพบุรีเลยทีเดียว ด้านพระเครื่องนั้นที่มีชื่อเสียงก็ได้แก่ พระนาคปรกกรุป่าไม้แดง ซึ่งเป็นพระศิลปะสมัยลพบุรี พระซุ้มนครโกษากรุวัดสว่างอารมณ์
มีพระเครื่องของเมืองสิงห์บุรีอยู่พิมพ์หนึ่งซึ่งสร้างชื่อเสียงสิงห์บุรีให้โด่งดัง จนเป็นที่รู้จักของนักนิยมสะสมพระเครื่องทั่วๆไปก็คือ พระร่วงยืนหลังกาบหมากกรุศรีโสฬส ถือเป็นพระ “ในฝัน” พิมพ์หนึ่งของนักนิยมสะสมพระเครื่องเลยทีเดียว เพราะพระร่วงยืนกรุศรีโสฬสนั้นเป็นพระตระกูลเดียว และสร้างพร้อมๆกันกับพระร่วงรางปืนของจังหวัดสุโขทัย และพระร่วงยืนหลังลายผ้าของเมืองลพบุรี จึงเป็นที่ต้องการของบุคคลทั่วไปเป็นจำนวนมาก
ข้อมูลอ้างอิง : คัดลอกมาจาก "หนังสือ อมตพระกรุ"
ทางทีมงานขอขอบคุณทางเจ้าของหนังสือมา ณ โอกาสนี้