
หมวด จตุคามรามเทพ พ.ศ. 2530 ถึง 2549
จตุคามรามเทพ รุ่นบูรณะเจดีย์ราย ๒๕๔๕



ชื่อร้านค้า | wison - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | จตุคามรามเทพ รุ่นบูรณะเจดีย์ราย ๒๕๔๕ |
อายุพระเครื่อง | - |
หมวดพระ | จตุคามรามเทพ พ.ศ. 2530 ถึง 2549 |
ราคาเช่า | - |
เบอร์โทรติดต่อ | 0819460502 |
อีเมล์ติดต่อ | wison41505@gmail.com |
LINE |
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
|
สถานะ |
![]() |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | พฤ. - 24 พ.ค. 2555 - 17:14.32 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | อ. - 29 ม.ค. 2556 - 10:44.02 |
รายละเอียด | |
---|---|
เจตนาเริ่มต้นของการสร้าง จตุคามฯในรุ่นนี้ เปี่ยมไปด้วยเจตนาที่เป็นมหากุศลโดยแท้..อันเป็นที่มาของชื่อรุ่น ที่เราเรียกจนฮิตติดปากกันต่อมา.. เริ่มจากการดำริของ ท่านเจ้าคุณพระราชธรรมสุธี เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช และเจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารฯ จังหวัดนครศรีธรรมราช ท่านได้เล็งเห็นแล้วว่า พระเจดีย์ที่รายล้อมองค์พระบรมธาตุทั้งจำนวน ๑๖๓ องค์นั้น มีสภาพที่เก่าทรุดโทรมเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา(ปี ๒๕๔๕) จึงมีความคิดที่จะหาทุน เพื่อนำรายได้มาบูรณปฏิสังขรณ์ โดยได้ปรึกษากับทางท่านพล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช เพื่อจัดสร้างวัตถุมงคลจตุคามรามเทพขึ้น ทั้งมอบหมายให้ทางท่านขุนพันธ์เป็นแม่งาน ในการกำหนดพิมพ์ทรงวัตถุมงคล รวมถึงหาฤกษ์ยามในการกำหนดพิธีกรรมปลุกเสก เพื่อเป็นสิริมงคลแก่พุทธบริษัททั้งหลาย ในการที่ได้ร่วมกันบริจาคทรัพย์ในการบูรณะเจดีย์ราย ที่รายล้อมองค์พระบรมธาตุ พิธีกรรมดังกล่าวจึงได้ถูกกำหนดพิธีกรรมขึ้นโดยคงพิธีกรรม ตามลัทธิทางประเพณีนิยมตามแบบอย่าง ของชาวเมืองศรีวิชัย ๑๒ นักษัตร โดยกำหนดเป็น ๔ พิธี และ ๔ วัน ตามสถานที่และกำหนดการดังนี้.. พิธีครั้งที่ ๑ ได้กำหนดให้มีการจัดขึ้น ในวันอังคาร ที่ ๑๗ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๕ ตรงกับวันขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๑๐ เวลา ๐๙.๕๕ น. อันเป็นฤกษ์ภูมิปาโล ซึ่งหมายถึงฤกษ์ผู้ครองแผ่นดิน เป็นการจัดพิธีอัญเชิญ องค์พระนารายณ์เพื่อเสร็ดลงมาเป็นประธานอันเป็นปฐมฤกษ์ เพื่อก่อให้เกิดลาภผลทั้งความสำเร็จ ตลอดจนเป็นการบูชาพระบรมครู อธิษฐานจิต ณถ้ำฉัตรทันต์ ที่วัดเขาอ้อ.. พิธีครั้งที่ ๒ ได้กำหนดให้มีการจัดขึ้น ในวันเสาร์ ที่ ๒๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๕ ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ เวลา ๒๑.๐๖ น. อันเป็นฤกษ์ราชา ซึ่งหมายถึงฤกษ์อันสูงศักดิ์กว่ามนุษย์ทั้งปวง ซ้ำยังเป็นคืนจันทร์เพ็ญ อันเป็น “บูรณมี” หมายความถึงเป็นวันอันเป็นมหามงคลอย่างยิ่ง เหมาะแก่การจัดพิธีอันเป็นมงคลทั้งปวง ทั้งยังเป็นการจัดพิธีปลุกเสกบนเรือกลางทะเล ณอ่าวปากพนัง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เป็นการบูชาพระสมุทร(พลีทะเล)ในวาระเดียวกันอีกด้วย.. พิธีครั้งที่ ๓ ได้กำหนดให้มีการจัดขึ้น ในวันอาทิตย์ ที่ ๒๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๕ ตรงกับวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๐ เวลา ๑๓.๑๙ น. อันเป็นฤกษ์ราชาเช่นกัน โดยเลือกจัดสถานที่ปลุกเสกอันเปี่ยมไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์ ณโบสถ์มหาอุตม์ ที่หอพระสูง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช.. พิธีครั้งที่ ๔ ได้กำหนดให้มีการจัดขึ้น ในวันพุธ ที่ ๒๕ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๕ ตรงกับวันแรม ๔ ค่ำ เดือน ๑๐ โดยได้มีการจัดพิธีเทวาภิเษกและพิธีพุทธาภิเษก ในเดียวกันเพื่อเป็นการบูชาเทพเทวดา ตลอดจนบรรพบุรุษผู้มีคุณแก่อาณาจักรศรีวิชัยตั้งแต่ครั้งอดีต เป็นการขอพรเพื่อประกอบพิธี ซึ่งจัดขึ้นในวิหารหลวงวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช อันมีหมายกำหนดการดังนี้..เวลา ๐๙.๕๙ น. พิธีจุดเทียนชัย โดยเลือกเอาฤกษ์มหัทธโณ อันเป็นฤกษ์เศรษฐีผู้บริบูรณ์ไปด้วยทรัพย์ ซึ่งถือเป็นเคล็ดในความสำเร็จทางลาภะผลเงินทอง เพื่อประจุลงในตัววัตถุมงคลตลอดจนในความสัมฤทธิ์ผลของเจตนาของคณะผู้จัดสร้าง ในการบูรณะเจดีย์รายอันเป็นเจตนาหลัก.. เวลา ๑๓.๐๙ น. เป็นพิธีบวงสรวงเทพเทวาและบรรพบุรุษดังที่ได้กล่าวมา โดยเลือกเอาฤกษ์สมโณ อันเป็นฤกษ์ของผู้เจริญในทางธรรม เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของพิธีบวงสรวงเทพเทวาทั้งบรรพบุรุษ.. สุดท้ายในเวลา ๑๔.๑๙ น. อันเป็นพิธีมหาพุทธาภิเษก ซึ่งลัคณาจรของวันเดินเข้าสู่ราศีธนู ซึ่งเป็นราศีศุภะอันหมายถึงความสำเร็จในทางพิธีกรรมและทางศาสนาที่สมบูรณ์.. โดยในพิธีพุทธาภิเษกดังกล่าว ทางคณะกรรมการผู้จัดสร้าง ได้นิมนต์ยอดเกจิคณาจารย์ทางสายใต้ในยุคนั้นถึง ๒๕ รูปเพื่อเข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษก อาทิเช่น พ่อท่านสังข์ วัดดอนตรอ, พ่อท่านนวล วัดไสร้า, หลวงปู่ไข่ วัดลำนาว ฯลฯ โดยมีท่านขุนพันธ์เป็นเจ้าพิธีกรรม ทั้งร่วมนั่งปลุกเสก อันเป็นพิธีกรรมสุดท้ายในวาระบั้นปลายชีวิตของท่านด้วย.. วัตถุมงคลจตุคามรามเทพ รุ่น “บูรณะเจดีย์ราย ปี ๔๕”ที่ได้มีการจัดสร้างในคราวนั้น สามารถแยกได้เป็น วัตถุมงคลประเภทเนื้อผง,มีทั้งที่มีประเภท เคลือบและไม่เคลือบ,ทั้งยังมีวัตถุมงคลที่จัดทำเป็นประเภทเนื้อโลหะ,ซึ่งยังแบ่งเป็นทั้งชนิดเหรียญรวมถึงรูปหล่อลอยองค์พ่อจตุคามฯที่เป็นประเภทลอยองค์ ,และเหรียญที่เป็นพระปิดตาพังพระกาฬอีกด้วย.. แต่ในแวดวงวัตถุมงคลทางสายจตุคามฯในบ้านเรา กลับมักนิยมเช่าหาบูชา วัตถุมงคลรุ่นนี้ที่เด่นชัดก็เป็นประเภทชนิดเนื้อผง อาจเป็นเพราะความชินตาหรือจากข่าวคราวทางด้านปฏิหาริย์ก็ไม่ทราบ ทำให้วัตถุมงคลประเภทชนิดเนื้อผงที่เป็นประเภทชนิดเคลือบด้วยแล้ว ราคาเคยทะยาน จนเกือบแตะเลขหกหลักเลยทีเดียว.. จากข้อมูลที่ได้มีการบันทึกไว้ พอที่จะได้จำแนกวัตถุมงคลที่เป็นประชนิดเนื้อผงได้ดังนี้.. วัตถุมงคลที่เป็นเนื้อหลัก ประเภทผงว่าน สามารถจัดแบ่งได้เป็น ๓ สี คือ สีขาว,สีแดง,สีดำ ซึ่งมีจำนวนสร้างรวมกัน ๕๐,๐๐๐ องค์ แต่เมื่อมีการรวมพระที่ได้มีการปั๊มเผื่อชำรุด อีก ๗๖๖ องค์ รวมทั้งหมดจึงมี ๕๐,๗๖๖ องค์.. ส่วนวัตถุมงคลประเภทดินเผาเคลือบ ซึ่งเมื่อรวมประเภทเคลือบสีเขียวและสีฟ้ารวมกัน มีทั้งหมด ๔,๙๙๙ องค์. ส่วนประเภทเนื้อผงว่านดินเผาเคลือบเหลือง มีจำนวนการสร้างทั้งหมด ๑๑,๐๐๐ องค์ โดยนำเข้าบรรจุกรุ ใต้ฐานพระบรมธาตุเจดีย์ ๑๐,๐๐๐ องค์ ส่วนที่เหลืออีก ๑,๐๐๐ องค์ ก็ได้นำออกเพื่อแจกจ่ายให้กับ ผู้บริจาคเงินสมทบทุนเพื่อบูรณะเจดีย์ราย ตามวัตถุประสงค์ของคณะผู้จัดสร้าง ในส่วนของส่วนผสมหลักของวัตถุมงคลประเภทเนื้อผงว่าน ที่บันทึกไว้มีดังนี้ ผงปูนจากองค์พระบรมธาตุเจดีย์ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นส่วนที่เหลือจากการบูรณะเมื่อ ปี ๒๕๓๘ ,ผงจากคราบปูนจากองค์จริงองค์จตุคาม องค์รามเทพ เมื่อครั้งบูรณะเมื่อ ปี ๒๕๔๔ , ผงพระกรุท่าเรือ , ผงพระกรุนาตรา , ผงมหาว่านเขาอ้อ , ผงตะไบพระพุทธชินราช รุ่น อินโดจีน ปี ๒๔๘๕ , ผงพระยอดขุนพล ปี ๒๔๙๗ , ผงพระภูทราวี ปี ๐๕ , ผงมหาว่านที่ขุดและลงอักขระโดยท่านขุนพันธ์ฯ ,ผงสำเร็จจากพระเกจิอาจารย์ทางสายใต้อีกมากมาย.. สำหรับอนาคตแล้วพระผงอุดมโชค ๘ อรหันต์สุวรรณภูมิ หรือ “บูรณะเจดีย์ราย ปี ๔๕” ถือว่าเป็นวัตถุงมงคลทางสายจตุคามฯ ที่ถูกจัดอยู่ในชั้นแนวหน้าเสมอ หากจะเอ่ยถึงการเช่าหาบูชาจตุคามฯ แค่เจตนาของการจัดสร้าง รวมถึงการมีส่วนร่วมตลอดถึงการทุ่มเทในการจัดสร้างวัตถุมงคลชุดนี้ ของท่านพล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดชแล้ว จตุคามฯรุ่น “บูรณะเจดีย์ราย ปี ๔๕” จึงขึ้นแท่นเป็นอมตะวัตถุทางสายจตุคามฯอย่างที่ไม่มีใครกล้าที่จะปฏิเสธได้.. ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.thanadech.com/index.aspx?ContentID=ContentID-090216164517533 |
อื่นๆ...
กำหลังโหลด Comments