หมวด พระเกจิภาคอีสานเหนือ
สมเด็จโนนผึ้ง หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดโนนผึ้ง ศรีสะเกษ ๒๕๔๐
ชื่อร้านค้า | wison - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | สมเด็จโนนผึ้ง หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดโนนผึ้ง ศรีสะเกษ ๒๕๔๐ |
อายุพระเครื่อง | - |
หมวดพระ | พระเกจิภาคอีสานเหนือ |
ราคาเช่า | - |
เบอร์โทรติดต่อ | 0819460502 |
อีเมล์ติดต่อ | wison41505@gmail.com |
LINE |
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
|
สถานะ | |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | อ. - 26 ก.ค. 2554 - 19:42.19 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | พฤ. - 08 ก.ย. 2554 - 05:42.38 |
รายละเอียด | |
---|---|
".........แม้นว่าถ้าฉันตายไปของ ๆ ฉันจะขลังกว่านี้หลายร้อยเท่า น้ำลาย ไอปาก ลมปรานที่ประจุไปด้วยพลังจิตอัน เข้มขลังของฉัน ย่อมเป็นหนึ่งบ่มีสอง ครบเครื่องเป็นองค์พระ ดีทั้งนอก ดีทั้งใน ฝากไว้ให้แผ่นดิน ให้เลื่องชื่อลือนาม ลือเรื่องถึงเมืองแมน......“ ต้องลองบูชาดูแล้วจะรู้ว่าของดีราคาถูกมีจริง พุทธคุณ เมตตามหานิยม ต่อไปจะหายากมากครับ สำหรับองค์นี้ สภาพสวยงาม สมบรูณ์ น่าบูชา น่าสะสมยิ่งนัก หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล ปลุกเสกสมเด็จโนนผึ้ง เมื่อครั้งจำพรรษาที่ วัดโนนผึ้ง ซึ่งเป็นวัดที่หลวงปู่ประสาร ซึ่งเป็นสหธรรมมิกรุ่นน้องของท่านเป็นเจ้าอาวาสอยู่ จัดเป็นพระเครื่องรุ่นแรกๆของท่านครับ หลวง ปู่ประสาร ท่านจะเก่งมากด้านเมตตามหาเสน่ห์ ผูกดวงคู่ และเชี่ยวชาญทางด้านว่านยาต่างๆเป็นอย่างมาก จนหลวงปู่หมุนท่านถึงกับเอ่ยปากชมว่า หลวงปู่ประสารเป็นเอกทางด้านนี้หาคนเทียบรัศมีท่านยากในย่านนี้ เป็น ๑ ในไม่กี่คนที่หลวงปู่หมุน ท่านยอมรับว่าเก่ง และแตกฉานในวิชาความรู้ต่างๆท่านจึงไว้วางใจ และถ่ายทอดวิชาให้หลายอย่าง ครั้งหนึ่งมีชาว บ้านแถบวัดโนนผึ้งได้ขับรถมอเตอร์ไซค์ไปชนกับรถสิบล้อจังๆ รถบิดเป็นเลขแปด แต่คนขับไม่บาดเจ็บแต่อย่างใดเลยครับ กลับบอกว่า "...นอนมองใต้ท้องรถสิบล้อเห็นเพลามันตัวใหญ่ดี.." ในคนห้อยพระสมเด็จวัดโนนผึ้งองค์เดียว คนแถวนั้นเลยเรียก พระสมเด็จชุดนี้ว่า " พระสมเด็จสิบล้อ หลวงปู่ประสาร" อาจจะเพราะว่าท่านเก่งในวิชาผูกดวง ทำให้ผู้ที่บูชาไม่ตายโหงก็ได้ครับ พระสมเด็จโนนผึ้ง สร้างและเสกด้วยเจตนาบริสุทธิ์ มวลสารที่อยู่ในองค์นั้นหามารวมกันหลายชั่วอายุคน รุ่นต่อรุ่นมาจากอาจารย์สู่ลูกศิษย์ ผงนี้มี อาถรรพ์ยิ่งนัก มวลสารจากชานหมากครูบาอาจารย์อีกมากมาย หลวงปู่หมุนท่านลบผงช่วยด้วยในโบสถ์ หลวงปู่หมุนท่านบอกว่าการลบผงนี้ทำได้ ยากมากๆ ในชีวิตคนๆหนึ่งจะทำสำเร็จนั้นได้เพียงไม่กี่ครั้ง ยากนักจะหาใครทำได้ เห็นจะมีก็แต่สมเด็จพุฒจารย์โต แห่งวัดระฆังฯ หลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร และหลวงปู่สี แห่งวัดถ้ำเขาบุญนาค ซึ่งหลวงปู่หมุนท่านเคยไปขอศึกษาการลบผงตำรับของสมเด็จ พุฒาจารย์โต จากหลวงปู่สี จนสำเร็จมาจนครบกระบวนความรู้ ด้วยความอุตสาหะของท่าน ด้วยบุญญาธิการของท่าน ด้วยสายวิชาการเดินธาตุทั้ง ๔ ที่ท่านสำเร็จมา ท่านจึง เรียนและพยายามจนประสบผลสำเร็จ ได้ทุกประการ นับเป็น ๑ ใ นไม่กี่คนที่ศึกษาจนสำเร็จได้ จึงไม่ต้องสงสัยแต่อย่างใดเลยว่า จึงนับเป็นสุดยอดแห่งวัตถุมงคลของหลวงปู่หมุน หาใครเทียบเทียมไม่ได้อีกแล้วในยุคนี้ ระดับ พระเถระ ๕ แผ่นดิน ผู้ช่ำชองด้านอักขระวิธี สำเร็จคัมภีร์ทั้ง ๕ ทั้งเพียบพร้อมด้วยชาญ สมาบัติขั้นสูง อีกทั้งยังสำเร็จวิชาธาตุ ๔ ซึ่ง เป็นสุดยอดเคล็ดวิชาสายสำเร็จลุน แห่งนครจำปาสัก พุทธคุณย่อมไม่ธรรมดา พระสมเด็จวัดโนนผึ้งชุดนี้ดีจริงหรือไม่ เพราะเมื่อครั้งที่หลวงปู่หมุนมาจำพรรษา ที่วัดป่าหนองหล่มโดยการนิมนต์เชิญโดย พระ อาจารย์จ่อย สิริคุตโต หลวงปู่หมุน ได้นำพระสมเด็จโนนผึ้งติดย่ามมาด้วย ตอนนั้น เป็นพิธีหล่อพระแก้วมรกตองค์ใหญ่ ๕๙ นิ้ว ที่วัดป่าหนองหล่ม เมื่อปี ๒๕๔๑- ๒๕๔๒ หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ เป็นประธาน หลวงปู่หมุนท่านกำหนดราคาไว้ที่ทำบุญองค์ละ ๕๐๐ บาท มีคนถามว่าหลวงปู่ทำไมแพงจัง หลวงปู่หมุนท่านยิ้มๆ แล้วตอบว่าทำได้ยากนะ เก็บกันไว้เถอะ อนาคตจะแพง และหากันไม่ได้น่ะ สมัยนั้น ๕๐๐ บาท ถือว่าแพงมากๆสำหรับพระผงเนื้อว่านแบบนี้ หลวงปู่หมุนท่านมีพลังจิตสูงมากๆ กล่าวกัน ว่า การเสกวัตถุมงคลของท่านทำให้เหล็กธรรมดากลายเป็นเหล็กไหลได้ ไม่เคยพบในพระเครื่องของสำนักใดที่จะ มีพลังกระจายตัวออกมาถิง ๒๐–๓๐ วา รอบๆตัวพระเครื่องเอง เคย มีผู้มีอภิญาณ ( จับพลังพระเครื่องได้ ) ตรวจสอบว่าพลังมากถึงขนาดเอาเบญจภาคี ๕ องค์มารวมกัน ยังไม่ได้เท่า การตั้งธาตุ หนุนธาตุ ทำให้มีพลังงานสะสมจนสุดพิสดาร พิสดารจนไร้ผู้เทียมทาน อนาคตราคาเป็นหมื่นแล้วจะหากันไม่ได้แน่นอนครับ นอกจากนี้ หลวงปู่หมุนท่านยังเคยกล่าวไว้ว่า “ แม้นว่าถ้าฉันตายไปของ ๆ ฉันจะขลังกว่านี้หลายร้อยเท่า น้ำลาย ไอปาก ลมปรานที่ประจุไปด้วยพลังจิตอัน เข้มขลังของฉัน ย่อมเป็นหนึ่งบ่มีสอง ครบเครื่องเป็นองค์พระ ดีทั้งนอก ดีทั้งใน ฝากไว้ให้แผ่นดิน ให้เลื่องชื่อลือนาม ลือเรื่องถึงเมืองแมน “ หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล สกุลเดิม ศรีสงคราม เกิดเมื่อวันพฤหัสบดี เดือน ๕ ปีชวด พ.ศ. ๒๔๓๗ ณ บ้านจาน อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ บิดาชื่อดี มารดาชื่ออั๊ว บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ ๑๔ ปี ครอบครัวได้นำไปฝากกับพระอาจารย์สีดา เจ้าอาวาสวัดบ้านจานผู้เป็นพระที่เชี่ยวชาญด้านกัมมัฎฐานและมีวิชาอาคมที่ เก่งมาก กระทั่งปี พ.ศ. ๒๔๖๐ ทำการอุปสมบท โดยมีหลวงพ่อสีดา เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อเพ็ง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า "ฐิตสีโล" แปลว่าผู้มีศีลตั้งมั่น หลังจากบวชแล้วได้จำพรรษาที่วัดบ้านจาน ศึกษาเล่าเรียนอักษรไทย อักษรขอม ฝึกกัมมัฎฐานในหมวดสมถะและวิปัสสนากรรมฐานจากพระอุปัชฌาย์ ครูบาอาจารย์ต่างๆ ในแถบนั้นเป็นเวลา ๔ ปีเต็ม จากนั้นท่านมีความคิดว่าจะต้องแสวงหาครูบาอาจารย์อื่นๆ เพื่อศึกษาคันถธุระและวิปัสสนาธุระในชั้นที่สูงๆ ขึ้นไปอีก จึงออกธุดงค์ไปตามที่ต่างๆ และร่ำเรียนวิชาอาคมกับพระเถระชื่อดังหลายรูปเกือบทั่วประเทศจนถึงประเทศลาว มาเลเซีย และ อินโดนีเซีย ตลอดชีวิตแห่งการครองเพศบรรพชิต อุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา ก็ได้อุทิศตน ปฏิบัติตนตามแนวทางแห่งคำสอนของพระศาสดาอันพึงจะกระทำ สมกับฉายานามอันได้รับเมื่อครั้งอุปสมทบคือ "ฐิตสีโล" แปลความว่า ผู้ตั้งมั่นในศีล ๘๕ พรรษาแห่งการครองผ้ากาสาวพัตร ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยออกจาริกธุดงค์ ปฏิบัติบำเพ็ญเพียรทางจิตเพื่อวิมุติ คือ ความหลุดพ้นตลอดจนออกโปรดญาติโยมไปยังทิศานุทิศ ทั่วทุกภาคของประเทศตลอดไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว เขมร พม่า มาเลเซีย อินโดนีเซีย ในช่วงปัจฉิมวัย ตราบจนล่วงเข้าอายุ ๘๐ ปี จึงได้หยุดจารึก กลับสู่มาตุภูมิ คือแดนแห่งบ้านเกิด คือวัดบ้านจานในปัจจุบัน และเป็นหลักชัยให้แก่ชาวบ้าน ต.บ้านจาน อันเปรียบเสมือน ลูก หลาน เหลน ของท่าน ไม่อาจจะพยากรณ์ได้ว่าพระเดชคุณ “ หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล” จะเป็นพระอริยะสงฆ์ผู้สามารถประหารกิเลส บรรลุสู่คุณธรรมชั้นสูงหรือไม่ แต่ ศิษยานุศิษย์ก็กราบไหว้และเคารพนับถือท่านด้วยความสนิทใจในปฏิปทาอาจาริ ยวัตรที่ท่านประพฤติ ปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ เมื่อเวลา ๐๗.๓๐ น. วันที่ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๖ วงการสงฆ์และฆราวาส จ.ศรีสะเกษ ต้องพบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ โดย หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านจาน ต.จาน อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ มรณภาพอย่างสงบด้วยโรคชรา รวมอายุ ๑๐๙ ปี ๘๗ พรรษา หลวงตามหาบัว บอกให้ไปหา ช่วงที่พระอาจารย์ตั้ว ศิษย์เอกหลวงพ่อกวยตระเวนหาพระอาจารย์ที่เก่งๆ ได้เข้าไปกราบหลวงตามหาบัว และขอของดีจากท่าน ปรากฏว่าท่านบอกว่าไม่มี ถ้าชอบในวัตถุมงคลอิทธิปาฏิหาริย์ให้ไปหาหลวงตาหมุนโน่น ซึ่งกว่าพระอาจารย์ตั้วจะค้นหาหลวงปู่หมุนได้เป็นเวลาถึง ๑๕ ปี กว่าจะได้เจอ โดยคำบอกเล่าของพระอาจารย์มงคล วัดสุทัศน์ จึงได้เดินทางไปกราบนมัสการด้วยกัน ในช่วงหนึ่งพระคุณเจ้าทั้งสองได้เรียนถามหลวงปู่ว่า “รู้จักหลวงพ่อกวยไหม” ท่านตอบว่ารู้จักซิ องค์นี้เก่ง เคยพบกันในป่า ซึ่งคำตอบนี้ยังความปลื้มปีติแก่พระอาจารย์ตั้วเป็นอย่างมาก เพราะก่อนหน้านั้นหลวงพ่อกวยสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ได้บอกกับพระอาจารย์ตั้วว่า “มีพระที่เก่งมากอยู่รูปหนึ่งอยู่ในป่าแถบขอนแก่น ท่านสำเร็จแล้ว ต้องไปหาท่านให้พบ ชื่อหลวงพ่อหมุน” ซึ่งเป็นคำบอกเล่าของหลวงพ่อกวยโดยตรง |
พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...
อื่นๆ...
กำหลังโหลด Comments