หมวด พระกรุ เนื้อชิน

พระปิดตา กรุวัดโพธิ์ศรี ท่าวุ้ง ลพบุรี

พระปิดตา กรุวัดโพธิ์ศรี ท่าวุ้ง ลพบุรี - 3

พระปิดตา กรุวัดโพธิ์ศรี ท่าวุ้ง ลพบุรี - 4

พระปิดตา กรุวัดโพธิ์ศรี ท่าวุ้ง ลพบุรี - 5

ชื่อร้านค้า	wison - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	wison (207)
ชื่อพระเครื่อง	พระปิดตา กรุวัดโพธิ์ศรี ท่าวุ้ง ลพบุรี
อายุพระเครื่อง	-
หมวดพระ	พระกรุ เนื้อชิน
ราคาเช่า	-
เบอร์โทรติดต่อ	0819460502
อีเมล์ติดต่อ	wison41505@gmail.com
LINE	(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	ส. - 21 ส.ค. 2553 - 18:34.53
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	พ. - 16 มี.ค. 2554 - 08:06.11

รายละเอียด
พระปิดตา กรุวัดโพธิ์ศรี ท่าวุ้ง ลพบุรี พระปิดตา กรุวัดโพธิ์ศรี เนื้อตะกั่วสนิมแดง จ.ลพบุรี เป็นพระเก่าๆอายุประมาณ ๗๐๐ ปี เป็นพระยุคใกล้เคียงกับพระกรุวัดหนองมน ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี วัดโพธิ์ศรี ท่าวุ้ง ลพบุรี ตั้งอยู่หมู่ที่ ๒ ต.บางงา อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี เป็นวัดเก่าแก่ มีหลวงปู่ศรี เป็นเจ้าอาวาสองค์แรก ท่านเป็นผู้บุกเบิกบูรณฟื้นฟูวัดโพธิ์ศรีขึ้นมาอีกครั้ง ท่านเป็นที่เคารพบูชาของชาวตำบลบางงา จากปากคำของคนเก่าๆ วัดโพธิ์ศรี ท่าวุ้ง ลพบุรี เดิมเป็นวัดร้าง สันนิษฐานจากเศษซากปรักหักพังว่าเป็นวัดที่สร้างมาแต่สมัยอยุธยา แต่ผู้คนและพระในวัดคงจะหนีภัยสงครามพม่าไปหมด ปล่อยทิ้งให้รกร้างว่างไว้ คงเหลือแต่เศษซากเจดีย์เก่าๆ และกองอิฐที่น่าจะเป็นโบสถ์วิหารต่างๆ ต่อ มาหลวงปู่ศรี ได้ธุดงค์มาปักกรดพบเห็นว่าวัดแห่งนี้มีประวัติภูมิหลังสมควรแก่การบูรณขึ้น ใหม่ ให้เป็นศูนย์กลางในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาสืบไป จึงจัดตั้งเป็นวัดขึ้นมาใหม่อีกครั้งสืบทอดมาจนปัจจุบันมีเจ้าอาวาสต่อมารวม แล้วสิบสององค์ด้วยกันแล้วจนปัจจุบัน ในการก่อสร้างบูรณถาวรวัตถุต่างๆ ในวัดโพธิ์ศรี ได้ขุดค้นพบพระเครื่องต่างๆมากมาย หลายแหล่ง หลายวาระด้วยกัน มีทั้งเนื้อชินสนิมแดง เนื้อตะกั่วน้ำนม เนื้อดิน อีกทั้งพระทองคำและพระพุทธรูปอีกเป็นจำนวนมาก พระกรุวัดโพธิ์ศรี ได้แพร่หลายเข้าสู่วงการนักสะสมพระเครื่องมานานแล้ว แต่หาคนที่รู้จักที่ไปที่มาอย่างแท้จริงได้ยาก เช่าหาเก็บกันไว้แต่ที่สวยๆ โดยที่บางคนก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นพระกรุวัดโพธิ์ศรี ท่าวุ้ง ลพบุรี ชาว บ้านรอบวัดนำไปใช้บูชาติดตัวก็พบประสบการณ์ต่างๆนาๆ ทั้งด้านคงกระพัน แคล้วคลาด โดยเฉพาะทางด้านเมตตา มหาอำนาจเป็นเยี่ยมไม่แพ้พระกรุดังๆเลย ใน โอกาสที่ผมได้มาทำงานในเขตอำเภอท่าวุ้ง และได้รู้จักพบเห็นพระกรุนี้ และเก็บรวบรวมข้อมูลของกรุวัดโพธิ์ศรีมาบ้าง จะพยายามเก็บรวบรวมข้อมูลทั้งประวัติเรื่องราว และภาพถ่ายพระเครื่องมานำเสนอต่อสมาชิก เว็บ-พระ ต่อไปเป็นระยะๆ โปรดติดตามนะครับ ประวัติ/ตำนานพระปิดตา พระปิดตา ชนิดปิดตานั่งขัดสมาธิ ยกหัตถ์ทั้งสองขึ้นปิดพระพักตร์ เว้นส่วนอื่น เป็นพระเมตตามหานิยมและลาภผล เรียกว่า “พระควัมปติ” พระปิดตาสองมือมหาลาภจะมีลาภกินมิรู้สิ้นเอยตกไปแห่งใดมิเดือดร้อน พระปิดตาก็คือองค์พระสังกัจจายน์เถระ ซึ่งการปิดตานั้นมีที่มาดังนี้ครั้น หนึ่ง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและคณะพระอริยสาวกเดินทางไปยัง เมือง เมืองหนึ่ง ครั้นนั้นพระทรง ตรัสถาม ว่า พระสีวลีได้เดินทางร่วมมาด้วยหรือไม่ พระสาวกตรัสทูลตอบว่า พระสีวลีเถระมิได้เดินทางมาด้วยในครานี้ องค์สมเด็จพระพุทธเจ้า ท่านจึงเปล่งวาจาว่า เมื่อสีวลีเถระมิได้เดินทางมาด้วยแล้วพระมหากัจจายนะเดินทางมาด้วยหรือไม่ พระพุทธสาวก ทูลตอบว่าพระมหากัจจายนะเดินมาร่วมมาด้วยพระพุทธเจ้าขา องค์สมเด็จพระพุทธเจ้า จึงตอบเหล่าคณะพระอริยสาวกว่า เมื่อพระมหากัจจายนะเดินทางมาด้วยก็ให้ใช้เส้นทางลัด ยังเป็นความสงสัยบังเกิดแก่พระมหากัจจายนะยิ่งนัก ซึ่งทรงตัรสว่า ทำไมพระผู้มีพระภาคเจ้าจึงเดินทางไปทางลัดโดยมีตัวตามไปด้วยเรา ตัวเรานี้มีดีหรือมีวามสำคัญอะไรในการเดินทางในครั้งนี้ขนาดจะต้องมีเราตามเสด็จไปด้วย ในที่สุดพระมหากัจจายนะ ท่านจึงทรงตั้งจิตอธิฐานยกมือสองข้างปิดหน้า รำลึกถึงเหตุในอดีตชาติที่ผ่านมา ด้วยอดีตญาณ ท่านจึงทราบว่า อดีตชาติ ท่านเป็นหมอรักษาคนป่วยทั้งหลายโดยมิคิดค่าตอบทาน (บำเพ็ญทานบารมี) เหล่าคนป่วยทั่งหลายจึงโมทนา ท่าน ให้พร ขอให้ท่านผู้เจริญด้วยกุศลผลบุญและผลานิสงส์นี้ ขอให้ท่านเป็นผู้ที่มีความเจริญอุดมสมบรูณ์ในโภคทรัพย์และลาภสักการะด้วย เถิด ท่านจึงได้ทราบเรื่องราวทั้งหมด ครั้นรุ่งเช้าพระผู้มีพระภาคเจ้าพร้อมด้วยพระสาวก เสด็จออกเดินทางจาริกธุดงค์ไปยังจุดหมายปลายทางโดยใช้ทางลัดอันเป็นทาง ทุรกันดาร ปรากฏว่า ระหว่างทางมีทั้งมนุษย์และเทวดาทั้งหลายต่างพากันมาใส่บาตรถวายภัตตาหารที่ ประณีตมากมาย จึงถือได้ว่าพระมหากัจจายนะมีความโดนเด่นในด้านโภคทรัพย์และลาภสักการะ และบังเกิด พระปิดตามหาลาภ ที่เราบูชากันในสมัยนี้ก็มาจาก ปางของพระมหากัจจายนะเข้านิโรธสมาบัติยกมือสองข้างปิดตา คาถาอาราธนา พระครัมปติ (พระปิดตา) อิทธิริทธิ พุทธนิมิตตัง อรหัง สุคโต ภควา สิทธิลาโภ ชะโยนิจจัง นะโมพุทธายะ

รายละเอียด

พระปิดตา กรุวัดโพธิ์ศรี ท่าวุ้ง ลพบุรี

พระปิดตา กรุวัดโพธิ์ศรี เนื้อตะกั่วสนิมแดง จ.ลพบุรี เป็นพระเก่าๆอายุประมาณ ๗๐๐ ปี เป็นพระยุคใกล้เคียงกับพระกรุวัดหนองมน ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี
วัดโพธิ์ศรี ท่าวุ้ง ลพบุรี ตั้งอยู่หมู่ที่ ๒ ต.บางงา อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี เป็นวัดเก่าแก่ มีหลวงปู่ศรี เป็นเจ้าอาวาสองค์แรก ท่านเป็นผู้บุกเบิกบูรณฟื้นฟูวัดโพธิ์ศรีขึ้นมาอีกครั้ง ท่านเป็นที่เคารพบูชาของชาวตำบลบางงา จากปากคำของคนเก่าๆ วัดโพธิ์ศรี ท่าวุ้ง ลพบุรี เดิมเป็นวัดร้าง สันนิษฐานจากเศษซากปรักหักพังว่าเป็นวัดที่สร้างมาแต่สมัยอยุธยา แต่ผู้คนและพระในวัดคงจะหนีภัยสงครามพม่าไปหมด ปล่อยทิ้งให้รกร้างว่างไว้ คงเหลือแต่เศษซากเจดีย์เก่าๆ และกองอิฐที่น่าจะเป็นโบสถ์วิหารต่างๆ
ต่อ มาหลวงปู่ศรี ได้ธุดงค์มาปักกรดพบเห็นว่าวัดแห่งนี้มีประวัติภูมิหลังสมควรแก่การบูรณขึ้น ใหม่ ให้เป็นศูนย์กลางในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาสืบไป จึงจัดตั้งเป็นวัดขึ้นมาใหม่อีกครั้งสืบทอดมาจนปัจจุบันมีเจ้าอาวาสต่อมารวม แล้วสิบสององค์ด้วยกันแล้วจนปัจจุบัน
ในการก่อสร้างบูรณถาวรวัตถุต่างๆ ในวัดโพธิ์ศรี ได้ขุดค้นพบพระเครื่องต่างๆมากมาย หลายแหล่ง หลายวาระด้วยกัน มีทั้งเนื้อชินสนิมแดง เนื้อตะกั่วน้ำนม เนื้อดิน อีกทั้งพระทองคำและพระพุทธรูปอีกเป็นจำนวนมาก
พระกรุวัดโพธิ์ศรี ได้แพร่หลายเข้าสู่วงการนักสะสมพระเครื่องมานานแล้ว แต่หาคนที่รู้จักที่ไปที่มาอย่างแท้จริงได้ยาก เช่าหาเก็บกันไว้แต่ที่สวยๆ โดยที่บางคนก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นพระกรุวัดโพธิ์ศรี ท่าวุ้ง ลพบุรี
ชาว บ้านรอบวัดนำไปใช้บูชาติดตัวก็พบประสบการณ์ต่างๆนาๆ ทั้งด้านคงกระพัน แคล้วคลาด โดยเฉพาะทางด้านเมตตา มหาอำนาจเป็นเยี่ยมไม่แพ้พระกรุดังๆเลย
ใน โอกาสที่ผมได้มาทำงานในเขตอำเภอท่าวุ้ง และได้รู้จักพบเห็นพระกรุนี้ และเก็บรวบรวมข้อมูลของกรุวัดโพธิ์ศรีมาบ้าง จะพยายามเก็บรวบรวมข้อมูลทั้งประวัติเรื่องราว และภาพถ่ายพระเครื่องมานำเสนอต่อสมาชิก เว็บ-พระ ต่อไปเป็นระยะๆ โปรดติดตามนะครับ

ประวัติ/ตำนานพระปิดตา
พระปิดตา ชนิดปิดตานั่งขัดสมาธิ ยกหัตถ์ทั้งสองขึ้นปิดพระพักตร์ เว้นส่วนอื่น เป็นพระเมตตามหานิยมและลาภผล เรียกว่า “พระควัมปติ” พระปิดตาสองมือมหาลาภจะมีลาภกินมิรู้สิ้นเอยตกไปแห่งใดมิเดือดร้อน
พระปิดตาก็คือองค์พระสังกัจจายน์เถระ ซึ่งการปิดตานั้นมีที่มาดังนี้ครั้น หนึ่ง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและคณะพระอริยสาวกเดินทางไปยัง เมือง เมืองหนึ่ง ครั้นนั้นพระทรง ตรัสถาม ว่า พระสีวลีได้เดินทางร่วมมาด้วยหรือไม่ พระสาวกตรัสทูลตอบว่า พระสีวลีเถระมิได้เดินทางมาด้วยในครานี้ องค์สมเด็จพระพุทธเจ้า ท่านจึงเปล่งวาจาว่า เมื่อสีวลีเถระมิได้เดินทางมาด้วยแล้วพระมหากัจจายนะเดินทางมาด้วยหรือไม่ พระพุทธสาวก ทูลตอบว่าพระมหากัจจายนะเดินมาร่วมมาด้วยพระพุทธเจ้าขา องค์สมเด็จพระพุทธเจ้า จึงตอบเหล่าคณะพระอริยสาวกว่า เมื่อพระมหากัจจายนะเดินทางมาด้วยก็ให้ใช้เส้นทางลัด
ยังเป็นความสงสัยบังเกิดแก่พระมหากัจจายนะยิ่งนัก ซึ่งทรงตัรสว่า ทำไมพระผู้มีพระภาคเจ้าจึงเดินทางไปทางลัดโดยมีตัวตามไปด้วยเรา ตัวเรานี้มีดีหรือมีวามสำคัญอะไรในการเดินทางในครั้งนี้ขนาดจะต้องมีเราตามเสด็จไปด้วย
ในที่สุดพระมหากัจจายนะ ท่านจึงทรงตั้งจิตอธิฐานยกมือสองข้างปิดหน้า รำลึกถึงเหตุในอดีตชาติที่ผ่านมา ด้วยอดีตญาณ ท่านจึงทราบว่า อดีตชาติ ท่านเป็นหมอรักษาคนป่วยทั้งหลายโดยมิคิดค่าตอบทาน (บำเพ็ญทานบารมี) เหล่าคนป่วยทั่งหลายจึงโมทนา ท่าน ให้พร ขอให้ท่านผู้เจริญด้วยกุศลผลบุญและผลานิสงส์นี้ ขอให้ท่านเป็นผู้ที่มีความเจริญอุดมสมบรูณ์ในโภคทรัพย์และลาภสักการะด้วย เถิด ท่านจึงได้ทราบเรื่องราวทั้งหมด
ครั้นรุ่งเช้าพระผู้มีพระภาคเจ้าพร้อมด้วยพระสาวก เสด็จออกเดินทางจาริกธุดงค์ไปยังจุดหมายปลายทางโดยใช้ทางลัดอันเป็นทาง ทุรกันดาร ปรากฏว่า ระหว่างทางมีทั้งมนุษย์และเทวดาทั้งหลายต่างพากันมาใส่บาตรถวายภัตตาหารที่ ประณีตมากมาย จึงถือได้ว่าพระมหากัจจายนะมีความโดนเด่นในด้านโภคทรัพย์และลาภสักการะ และบังเกิด พระปิดตามหาลาภ ที่เราบูชากันในสมัยนี้ก็มาจาก ปางของพระมหากัจจายนะเข้านิโรธสมาบัติยกมือสองข้างปิดตา

คาถาอาราธนา พระครัมปติ (พระปิดตา)
อิทธิริทธิ พุทธนิมิตตัง อรหัง สุคโต ภควา สิทธิลาโภ ชะโยนิจจัง นะโมพุทธายะ