หมวด พระเกจิภาคอีสานเหนือ
เหรียญซุ้มเรือนแก้วหลวงปู่ผ่าน วัดป่าประทีปปุญญาราม เนื้อเงินสร้างเพียง ๔๕ เหรียญ
ชื่อร้านค้า | wison - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | เหรียญซุ้มเรือนแก้วหลวงปู่ผ่าน วัดป่าประทีปปุญญาราม เนื้อเงินสร้างเพียง ๔๕ เหรียญ |
อายุพระเครื่อง | - |
หมวดพระ | พระเกจิภาคอีสานเหนือ |
ราคาเช่า | - |
เบอร์โทรติดต่อ | 0819460502 |
อีเมล์ติดต่อ | wison41505@gmail.com |
LINE |
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
|
สถานะ | |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | พ. - 23 มิ.ย. 2553 - 19:27.46 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | พ. - 16 มี.ค. 2554 - 07:45.15 |
รายละเอียด | |
---|---|
รุ่นที่ ๓๐ รุ่น"เงินไหลนอง ทองไหลมา" เนื้อเงิน สร้างเพียง ๔๕ เหรียญ “ขอ อย่าได้เจ็บ อย่าได้ป่วยไข้ และสุดท้ายอย่าลืมหายใจ” นี่คือพร ๓ ประการที่ หลวงปู่ผ่าน ปัญญาปทีโป วัดป่าประทีปปุญญาราม ต.เซือม อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร ให้แก่คณะศรัทธาญาติโยมที่เดินทางไปขอพรขอศีลจากท่าน พระหลวงปู่ผ่านนั้น ท่านเสกอย่างเข้มขลังทุกรุ่นครับไม่ต้องห่วง อำนาจจิตของท่านไม่ธรรมดา อากาศร้อนๆ อบอ้าวมากๆ ไฟฟ้าที่วัดก็เสีย ท่านถามว่า "ร้อนไหม ถ้าเบิ่งเด้อจะเอาลมมาให้ " ท่านนั่งนิ่งสักครู่เดียว ลมก็พัดมา จากค่อยๆ ไปหาแรง วันที่ไปตัดเล็บเท้าท่าน ผมนั่งห่างจากท่านไกลพอดู กระซิบถามลุงที่อยู่ในวัดว่าอยากขอเล็บมือเล็บเท้าท่าน(กลัวท่านได้ยิน) และไปกันหลายคน ได้ร้องบอกมาว่า "เล็บนะยังไม่ยาวบ่ตัดดอก" ..."บ่ยาวก็ช่างปู่ผมขอนิดเดียว" สิ่งที่ท่านแสดงให้เห็นเป็นสิ่งที่ข่าพเจ้าว่าไม่ธรรมดา (เล่าให้ฟังครับ ไม่ได้คิดเป็นการโฆษนาครับ) (ฤทธิ์ของพระอริยะองค์นี้ แม้เสกของแค่อึดใจ ก็เท่ากับกับเสกเป็นปี ไม่ต้องห่วงพุทธคุณใดๆ ใน พระเครื่องที่ท่านเสก) http://www.udon108.com/board/index.php?topic=9883.90 ประสบการณ์ ทิพยอำนาจจิตของ “หลวงปู่ผ่าน ปัญญาปทีโป”จากคำบอก เล่าของศิษย์ท่านหนึ่ง "........เรื่องราวที่ข้าพเจ้าจะเล่าให้สมาชิกทุกท่านได้ทราบถึงประสบการณ์ที่ได้ผ่าน มาเกี่ยวกับประสบการณ์ทางจิตนั้นมีมากมายนัก ทว่าขอยกขึ้นให้ฟังกันเกี่ยวกับเรื่องที่ข้าพเจ้าได้สัมผัสกับหลวงปู่ผ่าน ปัญญาปทีโป สักหนึ่งเรื่อง เมื่อประมาณ ๕ ปีที่ผ่านมา ข้าพเจ้าได้รู้จักกับน้องคนหนึ่งซึ่งได้บวชรุ่นเดียวกับน้องชายของข้าพเจ้า ที่วัดบวรนิเวศน์ น้องคนนี้เป็นคนที่คร่ำเคร่งในเรื่องอภิญญา ประสบการณ์ทางจิต พลังจิต ฯลฯ เป็นผู้ที่เดินทางแสวงหาความเป็นเลิศทางจิต ส่วนตัวผมนั้นไม่ค่อยจะเข้าทางนี้สักเท่าไหร่ วันหนึ่ง น้องเขาได้โทรมาหา แล้วบอกว่า พี่ยุทธ หลวงปู่ผ่านจะเดินทางลงมากรุงเทพฯ ท่านรับกิจนิมนต์โยมที่กรุงเทพฯได้ยินดังนั้นข้าพเจ้ายังเฉยๆ แต่น้ำเสียงของน้องเขาดีใจมาก ตอนแรกก็สวสัยว่าทำไมน้ำเสียงถึงดีใจขนาดนั้น แล้วน้องเขาได้ชวนผมว่า ไปกราบหลวงปู่กันไหม ท่านเป็นพระที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบองค์หนึ่งเลยนะ เอ๊ะ...ใช้สรรพนามแทนว่า “องค์” เลยรึ ในใจคิดว่า น้องเขาก็ทราบดีอยู่ว่าสรรพนามนี้ใช้แทนองค์อรหันต์....งงงวยอยู่ในใจ แต่ก็ไม่คิดอะไรให้เลยเถิด ก่อนวันที่หลวงปู่จะเดินทางมา น้องได้โทรมากำชับอีกครั้ง ว่าพรุ่งนี้ให้ไปเจอ ผมก็เออ...ออ...ห่อหมกไป เพราะภาระกิจช่วงนั้นค่อนข้างมากนัก พอถึงวัน ใกล้เวลาที่นัดหมาย ผมได้เดินทางไปยังสถานที่นัดหมาย ไปบ้านหลังหนึ่งแถวลาดพร้าว เมื่อไปถึง...แม่บ้านบอกว่า หลวงปู่ยังไม่กลับมาจากกิจนิมนต์เลย รอสักแค่เพียงไม่กี่อึดใจ รถก็เลี้ยวเข้ามาในบ้าน น้องเขารีบกุลีกุจอลงเรือนไปรับหลวงปู่ถึงที่รถ ส่วนผมก็เป็นเหมือนไอ้ปื๊ดเดินตาม เพราะไม่รู้จักใคร...ฮึ...หลวงปู่ยังไม่รู้จักเลย...เชยชมัด เมื่อหลวงปู่ผ่านลงจากรถ ท่านจัดแจงห่มจีวรใหม่ให้งามเรียบร้อย น้องเขายกมือขึ้นพนม นมัสการหลวงปู่ มือผมก็อัตโนมัติ ยกขึ้นนมัสการหลวงปู่ จากนั้นหลวงปู่กับบรรดาศิษย์ประมาณ 4-5 คน ก็เดินขึ้นเรือน ไปที่ห้องหนึ่งที่โยมหลวงปู่ได้จัดแจงเตรียมการต้อนรับ ในห้องนั้นมีคนนั่งสมาธิรอหลวงปู่อยู่ประมาณ 2-3 คน ในห้องเปิดแอร์เย็นสบาย หลวงปู่เดินไปที่อาสนะ ขยับจีวร นั่งลงยังอาสนะนั้น ส่วนลูกศิษย์ทั้งหลายก็เดินตามไปใกล้หลวงปู่ นั่งลง ก้มลงกราบหลวงปู่กันถ้วนหน้า ส่วนผมนั้นเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบไปนั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่ข้างหน้า...ประมาณ ว่าไม่ค่อยชอบคนเยอะ จึงนั่งรั้งท้ายสุดปลายห้อง ครั้นก้มลงกราบพระพุทธ ๓ ครั้งแล้ว ก็หันมากราบหลวงปู่อีก ๓ ครั้ง...แฮะ โดยอัตโนมัติอีกละ เมื่อหลวงปู่และศิษย์นั่งเข้าที่เหมาะทาง บรรดาศิษย์ก็เริ่มการสนทนากับหลวงปู่ หลวงปู่ก็สนทนาอย่างโอภาปราศัย น้ำเสียงหลวงปู่นั้นช่างเปี่ยมไปด้วยเมตตาจิตเสียนี่กระไร ในใจคิด... ส่วนลูกศิษย์ที่นั่งสมาธิอยู่ได้ลุกขึ้นกราบหลวงปู่ แล้วก็เข้าสมาธิกันต่อ โดยไม่พูดอะไร เรื่องราวการสนทนากันนั้นผมก็ฟังบ้างไม่ฟังบาง เพราะตามัวแต่มองไปรอบๆ เพ่งจิตไปที่คนนั่งสมาธิบาง ดูหลวงปู่หลับตาเป็นระยะๆ สักพัก...เริ่มเย็นค่ำ แอร์ที่เปิดก็เริ่มเย็นขึ้น ในใจคิดว่า...ทำไมแอร์มันโคตะระหนาวขนาดนี้ว๊ะ...อะนะ...ฮืม...ฮืม หลวงปู่ ซึ่งนั่งสนทนากับบรรดาศิษย์อยู่ หันมาบอกว่า “ถ้าแอร์หนาวเกินก็ไปหรี่ซิ” ไอ้หยา...โดนเข้าแล้วซิ หลวงปู่อ่านจิตเข้าให้แล้ว คงเพราะมั่วแต่นั่งเหม่อมองซุกซนไปทั่ว ไม่ทันระวังจิตให้ดี...โดนซะ...พอสิ้นเสียงหลวงปู่ ผมก็เดินเข่าไปยังสวิตปิด-เปิดแอร์ เอื้อมมือขึ้นไปที่ตัวหรี่หมุนองศาความเย็นให้ลดลง จาก ๑๙ ไป ๒๐ ไป ๒๑ ไป ๒๒ พอถึง ๒๓ ในใจก็คิดว่า “แค่นี้คงพอแล้วมั้ง” เท่านั้นละห |
พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...
อื่นๆ...
กำหลังโหลด Comments