หมวด พระเกจิภาคอีสานเหนือ
สมเด็จว่านชานหมาก(ว่านอุดมมงคล) ปี2538 ญาท่านสวน วัดนาอุดม
ชื่อร้านค้า | wison - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | สมเด็จว่านชานหมาก(ว่านอุดมมงคล) ปี2538 ญาท่านสวน วัดนาอุดม |
อายุพระเครื่อง | - |
หมวดพระ | พระเกจิภาคอีสานเหนือ |
ราคาเช่า | - |
เบอร์โทรติดต่อ | 0819460502 |
อีเมล์ติดต่อ | wison41505@gmail.com |
LINE |
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
|
สถานะ | |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | อ. - 22 ธ.ค. 2552 - 21:38.13 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | จ. - 10 พ.ค. 2553 - 09:11.16 |
รายละเอียด | |
---|---|
สมเด็จว่านชานหมาก(ว่านอุดมมงคล) ปี2538 ญาท่านสวน วัดนาอุดม สภาพไม่สวย แต่เข้มขลังในพุทธคุณ เพราะ.......... หลวงปู่ปลุกเสกนานมากถึง ๙ ปี(๓๘-๔๖) หายากมากๆในขณะนี้ พุทธคุณสุดๆครับ องค์นี้พิเศษเก่าได้ยุค มวลสารจัดมีพระธาตุขึ้นแล้ว พระอาจารย์ชิง ธัมมทินโน เจ้าอาวาสวัดไตรมิตร อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ได้เมตตาเล่าให้ฟังว่า.. .... ท่าน(พระอาจารย์ชิง) ได้นำพระกริ่งและพระชัยวัฒน์ รุ่นปฐวีธาตุ ไปให้หลวงปู่ญาท่านสวนปลุกเสกให้ หลังจากพูดคุยกันสักพักพระอาจารย์ชิง จึงได้นำพระทั้งหมดมาจัดวางไว้ตรงหน้าหลวงปู่ญาท่านสวน พร้อมโยงด้ายสายสิญจน์มาให้หลวงปู่ญาท่านสวน เมื่อ หลวงปู่ฯได้รับสายสิญจน์แล้วท่านจึงมองมาที่วัตถุมงคลทั้งหมดแล้วค่อยๆเข้า สู่สมาธิ พระอาจารย์ชิงเล่าว่า หลวงปู่ญาท่านสวนท่านนั่งนิ่งมาก นิ่งจนขนาดที่ทำให้พระอาจารย์ชิงอยากรู้ว่าหลวงปู่ท่านปลุกเสกอย่างไร พระ อาจารย์ชิงท่านจึงได้เข้าสมาธิเอาจิตตามเข้าไปดูว่าท่านปลุกเสกอย่างไร แต่ยังไม่ทันได้เข้าไปก็โดนรัศมีของหลวงปู่ญาท่านสวนเหวี่ยงกระเด็นออกมา ท่านจึงได้ตั้งจิตอธิษฐานขอขมาและขออนุญาตเข้าไปดูใหม่ ก็สามารถดูได้ “............. อาตมา ได้เห็นลำแสงพวยพุ่งออกจากฝ่ามือของท่าน แล้ววิ่งไปตามเส้นด้ายสายสิญจน์ สว่างเหมือนลำแสงของหลอดไฟนีออนและวิ่งไปสปาร์คที่กองพระกริ่งพระชัยวัฒน์ เกิดเป็นแสงสว่างไสวมากและคุมอยู่อย่างนั้นเป็นเวลานานเกือบครึ่งชั่วโมง ......” หลังเสร็จสิ้นการอธิษฐานจิต หลวงปู่ญาท่านสวนได้มองเล็งมายังท่านพร้อมกับอมยิ้มแล้วพูดกับท่านว่า “เป็นพระหนุ่มนี่ ใจร้อนเน๊อะ...” พระอาจารย์ชิง ท่านได้แต่ยิ้มรับและยังไม่ทันที่จะได้ตอบอะไร หลวงปู่ญาท่านสวนท่านได้พูดกระแทกตรงใจท่านอีกว่า “ถ้าอยากทำเป็น ก็หมั่นฝึกเอาทำเอา ไม่นานเดี๋ยวก็เป็นเอง..” หลวงปู่ญาท่านสวน ฉันทโร วัดนาอุดม ศิษย์เอกพระอาจารย์กัมมัฏฐานแพง วัดสิงหาญ จ.อุบล ผู้ทรงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ ท่านมีนามเดิมว่า “สวน แสงเขียว” เกิดเมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2453 ตรงกับวันศุกร์ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 ปีจอ ที่บ้านนาทม ต.คำหว้า อ.ตาลสุม จ.อุบลราชธานี บิดาชื่อ “คูณ” เป็นชาวบ้านสำโรง มารดาชื่อ “ผุย” เป็นชาวบ้านนาทม ประกอบอาชีพทำนา มีพี่น้องท้องเดียวกันรวม 8 คน ชีวิตตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยรุ่นเป็นผู้ที่มีจิตใจสุขุมเยือกเย็น มีใจโอบอ้อมอารีเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อเพื่อนฝูง และมีจิตศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนามากกว่าคนรุ่นราวคราวเดียวกัน เมื่ออายุครบ 20 ปีได้ขอบิดามารดาเข้าอุปสมบทที่วัดนาอุดม (บ้านนาทม) อ.ตาลสุม เมื่อวันที่ 30 พ.ค. 2473 โดยมีเจ้าอธิการพรหมมา วัดบ้านระเว ต.ทรายมูล (ปัจจุบัน ต.ระเว) อ.พิบูลมังสาหาร เป็นพระอุปัชฌาย์ พระดี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระบัว เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “ฉนฺทโร” เมื่ออุปสมบทแล้วได้เรียนสวดมนต์และปาติโมกข์อยู่ในสำนักของเจ้าอธิการสวน เจ้าอาวาสวัดนาอุดมในขณะนั้น ประมาณ 3 ปีจึงย้ายไปศึกษาต่อเพิ่มเติมที่วัดบ้านนาหว้า อ.ตาลสุม เป็นเวลา 3 เดือน แล้วไปเรียนต่อที่วัดบ้านสำโรงใหญ่ ต.สำโรง ซึ่งเป็นบ้านเกิดของโยมบิดา ขณะนั้นมีอาจารย์หม่อน แสงเขียว เป็นเจ้าอาวาสเมื่อ พ.ศ.2478 ต่อมาปี พ.ศ.2480 อาจารย์หม่อนได้อาพาธด้วยโรคเหน็บชาและมรณภาพลง พระแก้ว ธมฺมฐิติ ได้รับการแต่งตั้งให้ปกครองวัดสืบแทนเพราะมีอาวุโสที่สุด ในช่วงนั้นหลวงปู่สวนได้ช่วยเหลือพระแก้วพัฒนาวัด สร้างศาลาการเปรียญขึ้น แต่ยังไม่สำเร็จพระแก้วได้ลาสิกขาเสียก่อน ท่านจึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดสำโรงใหญ่แทน และได้สร้างศาลาจนเสร็จลุล่วง ในปี พ.ศ.2517 ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์สัญญาบัตรพัดยศที่ พระครูอาทรพัฒนคุณ” ปี พ.ศ.2525 เลื่อนสมณศักดิ์จากเจ้าคณะตำบลชั้นตรี เป็นชั้นโท ในราชทินนามเดิม ในด้านพระเวทวิทยาคมนั้นได้ร่ำเรียนมาจากสำเร็จลุน และญาท่านกรรมฐานแพง อดีตเกจิอาจารย์จอมขมังเวทย์แห่งลุ่มน้ำโขง โดยท่านได้มองการณ์ไกลไปข้างหน้าว่า พระเวทวิทยาคมที่ท่านศึกษาอยู่นี้จะเป็นประโยชน์มากแก่การทะนุบำรุงพระพุทธศาสนา และจะได้ช่วยเหลือสงเคราะห์ญาติโยมและผู้เดือดร้อนในอนาคต ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ท่านมีความขยันหมั่นเพียรศึกษาทางด้านการเจริญสามธิเพิ่มพูนพลัง จิต ควบคู่กับการเรียนวิชาอาคมต่างๆ ส่งผลให้ท่านมีความจำแม่นยำเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว มีการทดสอบจากผู้เป็นอาจารย์จนเป็นที่พอใจ โดยเฉพาะญาท่านกรรมฐานแพง ได้มีเมตตาถ่ายทอดสุดยอดวิชาและเคล็ดลับต่างๆ ให้ท่านจนหมดสิ้น ทั้งนี้ วิชาที่ท่านได้ศึกษากับ 2 ปรมาจารย์ดังคือ การสร้างเครื่องรางของขลังต่างๆ เช่น การลงตะกรุด เท่าที่รวบรวมได้มีดังนี้ ตะกรุด 5 กษัตริย์ มีผลทางมหาอุด แคล้วคลาด คงกระพัน ,ตะกรุดสายรกพระพุทธเจ้า,ตะกรุดโทน,ตะกรุดกับระเบิด,ตะกรุดอุปคุต,ตะกรุดสาลิกาตอมเหว่ ,ตะกรุดหนังกลองแตก เป็นสุดยอดของตะกรุดเมตตา,ตะกรุดไก่ขึ้นรถลงรา (มีผลทางด้านเมตตาค้าขายดีนักแล) ,ตะกรุดเข้าตา ทำจากเงินปากผีเผาวันอังคาร ใส่เข้าใต้เปลือกตาได้เพราะมีขนาดเล็กมาก,ตะกรุดคลอดลูกง่าย นอกจากนี้ ยังมีวิชาการทำผ้ายันต์ เสื้อยันต์ การสร้างลูกปะคำโทน(ลูกอม) สร้างรูปนางกวัก,ปลัดขิก,ราหูอมจันทร์,สีผึ้งมหาเสน่ห์,วิชาการเรียกสูตร ลบผงอิทธิเจ ผงปถมัง และผงวิเศษอื่นๆ ,การทำน้ำพระพุทธมนต์ซึ่งมีเคล็ดลับพิสดารมากมาย,วิชาหมากินใจ (หมากินความคิด) เป็นสุดยอดแห่งวิชาเมตตาอีกวิชาหนึ่ง และอีกหนึ่งวิชานั่นคือ “การฝังเข็มดำ” ซึ่งเป็นวิชาสุดยอดทางด้านคงกระพัน ป้องกันศาสตราวุธต่างๆ ซึ่งน้อยคนนักที่จะมีวาสนาได้เรียนและเรียนได้สำเร็จ ญาท่านสวนเป็นพระเถระผู้เปี่ยมล้นด้วยเมตตาบารมี บุ.ลักษณะของท่านน่าเลื่อมใสศรัทธา ใบหน้าเอิบอิ่มยิ้มแย้ม ใครมีทุกข์มาหาจะไม่เคยปฏิเสธ และไม่เลือกชนชั้นวรรณะ อีกทั้งยึดมั่นเคารพในพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด มีศีลาจารวัตรงดงาม ชอบบำเพ็ญกุศล ทำประโยชน์ให้แก่ส่วนรวม ให้ความเป็นธรรมแก่ศิษยานุศิษย์เพื่อเป็นแบบอย่างแก่ภิกษุสามเณรถือปรนิบัติตาม จึงทำให้มีลูกศิษย์จำนวนมาก และปรากฏผลงานการสร้างสรรค์ของท่านอยู่ในหลายสถานที่ สำหรับเรื่องพุทธคุณดีทั้งทางเมตตาค้าขาย และแคล้วคลาดปลอดภัย ซึ่งบรรดาลูกศิษย์ลูกหาประสบกันมาอย่างน่าอัศจรรย์ เมื่อคราวที่หลวงปู่ญาท่านสวน ฉันทโร ได้รับกิจนิมนต์ไปร่วมพิธีมหาพุทธาภิเษกวัตถุมงคล ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) พระบรมมหาราชวัง กรุงเทพฯ เมื่อถึงกำหนดเวลา เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปกราบนิมนต์พระภิกษุสงฆ์ทุกรูป โดยมีหลวงปู่ญาท่านสวนนั่งอยู่ด้านหน้า เจ้า หน้าที่ได้เดินนำหลวงปู่เข้าไปในพระอุโบสถ พระรูปที่สองที่เดินตามท่านมาก็คือ หลวงปู่ทิม อัตตสันโต วัดพระขาว จ.อยุธยา ซึ่งท่านเป็นพระอริยสงฆ์ผู้ปฏิบัติปฏิบัติชอบที่ได้รับการกล่าวขานจาก ศานุศิษย์ว่าท่านเป็น "เทพเจ้าแห่งความเมตตา" เจ้าหน้าที่ได้จัดอาสนะสำหรับพระที่มาร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสกที่ระเบียงด้านขวา เมื่อหลวงปู่ญาท่านสวนเดินไปถึงและเจ้าหน้าที่ได้กราบนิมนต์ท่านนั่งหัวแถวรูปแรก แต่ท่านไม่ยอมขึ้น เจ้าหน้าที่กราบนิมนต์ท่านขึ้นนั่ง ๓-๔ ครั้ง ท่านก็ไม่ยอมขึ้น ท่านยืนรอหลวงปู่ทิม ที่เดินตามท่านมา เมื่อหลวงปู่ทิมเดินมาถึง หลวงปู่ญาท่านสวนจึงได้นิมนต์หลวงปู่ทิมขึ้นนั่งหัวแถวก่อน... ส่วนหลวงปู่ทิมท่านก็ไม่ยอมขึ้นนั่ง.. ท่านนิมนต์ให้หลวงปู่ญาท่านสวนขึ้นก่อน... ต่างคนต่างยิ้มให้เกียรติกันและกัน จนในที่สุดหลวงปู่ญาท่านสวนท่านจึงจำใจขึ้นนั่งก่อนและตามด้วยหลวงปู่ทิมเป็นรูปที่สอง หลัง จากเสร็จพิธีมหาพุทธาภิเษก ลูกศิษย์ชาวกรุงเทพฯ ได้พากันถามหลวงปู่ทิมว่า "ทำไมหลวงปู่ไม่ขึ้นไปนั่งก่อน..ทำไมถึงให้หลวงปู่รูปนั้นขึ้นไปนั่งก่อน หลวงปู่ ...ไม่รู้ว่าอยู่วัดไหน...พวกกระผมไม่เคยเห็นและไม่เคยรู้จัก" หลวงปู่ทิมได้เมตตาตอบลูกศิษย์ของท่านว่า " จะให้เราไปนั่งก่อนพระอรหันต์ได้อย่างไรล่ะ ก็ต้องให้ท่านขี้นนั่งก่อนสิ" บัด นี้ลูกศิษย์พวกนั้น คงจะได้ทราบชื่อหลวงปู่รูปนั้นแล้วว่าท่านคือ "หลวงปู่ญาท่านสวน ฉันทโร" แห่งวัดนาอุดม อำเภอตาลสุม จ.อุบลราชธานี แล้วกระมัง... วันที่ 14 มี.ค. 2549 วงการสงฆ์เมืองอุบลราชธานีได้สูญเสียพระครูอาทรพัฒนคุณ หรือที่เรียกขานกันว่า “ญาท่านสวน ฉนฺทโร” เจ้าอาวาสวัดนาอุดม อ.ตาลสุม จ.อุบลราชธานี ท่านมรณภาพลงด้วยโรคชราเมื่อเวลาประมาณ 6 โมงเช้า สิริอายุได้ 95 ปี หลวงปู่เกลี้ยง วัดโนนแกดท่านกล่าวว่า “ตอนนี้ท่านได้เป็นพระอรหันต์แล้วนะ” แม้แต่เส้นเกศาหรือชานหมาก เมื่อตอนท่านยังไม่ละสังขารก็ยังกลายเป็นพระธาตุ ท่านเป็นศิษย์สายสำเร็จลุน และญาท่านกรรมฐานแพง 2 ปรมาจารย์ผู้มีพลังจิตอันลึกล้ำ มีอิทธิปาฏิหาริย์มากมาย เป็นที่เลื่องลือแห่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือแถบลุ่มแม่น้ำโขงในอดีต ขอบคุณข้อมูลจาก เซียนย่ามขาว : http://apichoke.com/index.php?topic=6538.0 |
พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...
อื่นๆ...
กำหลังโหลด Comments