หมวด พระเกจิสายนครปฐม

หลวงพ่อสุบิน วัดวังตะกู จ. นครปฐมเหรียญรุ่นแรก

ชื่อร้านค้า	ล้านมาแชร์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	ล้านมาแชร์ (132)
ชื่อพระเครื่อง	หลวงพ่อสุบิน วัดวังตะกู จ. นครปฐมเหรียญรุ่นแรก
อายุพระเครื่อง	-
หมวดพระ	พระเกจิสายนครปฐม
ราคาเช่า	-
เบอร์โทรติดต่อ	Line ID: weep9019 เบอร์โทรศัพท์ 099-2542365
อีเมล์ติดต่อ	weep293@hotmail.com
LINE	(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	ส. - 19 ส.ค. 2560 - 17:46.44
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	อา. - 01 ก.ค. 2561 - 06:21.22

รายละเอียด
หลวงพ่อสุบิน วัดวังตะกู จ. นครปฐมเหรียญรุ่นแรก//นานๆๆเจอซักเหรียญครับ ประวัติความเป็นมา ของพระอธิการสุบิน อิสโร นามเดิม นายสุบิน นามสกุล ชุ่มบุญชู (ตั้งขึ้นทีหลังหลวงปู่) เกิดวันและเดือน ไม่ทราบได้ แต่ปีพุทธศักราช 2411 (ปีเดียวกับหลวงพ่อพูน เกสโร วัดใหม่ปิ่นเกลียว) อยู่บ้านเดิมที่ตำบลวังตะกู จังหวัดนครปฐม ข้อสังเกตุของหลวงปู่ คือ ขาทั้งสองข้างของหลวงปู่ไม่เท่ากัน จึงทำให้เดินได้ไม่ค่อยเหมือนคนทั่วไป บรรพชาและอุปสมบท ปีพ.ศ. 2421 โดยมี พระครูอุตรการบดี ทา วัดพะเนียงแตก เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า "อิสโร" ปฐมเหตุของการบวช คือ ท่านมีความน้อยใจที่เกิดมาแล้วมีความบกพร่องทางร่างกายจึงทำให้ไม่สามารถเป็นทหารได้เหมือนกับพี่น้องคนอื่นๆ ท่าจำพรรษาอยู่ที่วัดวังตะกูมาโดยตลอดอายุขัยของท่าน สหธรรมิก 1.หลวงพ่อแช่ม อินทโชโต วัดตาก้อง ท่านทั้งสองสนิทกันมาก เนื่องจากหลวงปู่บินเดินไม่ค่อยสะดวก หลวงพ่อแช่มจึงนำมาที่เลี้ยงไว้มาให้ใช้เป็นพาหนะในการเดินทางของท่าน จากคำบอกเล่าของหลานสาวที่ยังมีชีวิตอยู่เล่าว่า "เมื่อสมัยหลวงปู่บิน ยังมีชีวิตอยู่ ฉันไปทำบุญที่วัด คนเก่าคนแก่ของวังตะกูในสมัยนั้น มักจะเห็นหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง ขี่ม้ามาที่วัดวังตะกู อยู่เป็นประจำ" หลวงปู่บิน ยังเคยเล่าให้ฟังว่า ไอ้แช่มนะรึ มันร้อนวิชา ปีหนึ่งมันอาบ โกนหัว โกนหนวด ครั้งเดียว เวลามันบิณฑบาต ถ้าหากมันเดินตกคลองล่ะก้อมันจะแช่น้ำจนกว่าตะวันจะตกดินถึงจะขึ้นมาได้ ปัจจุบันหลานสาวของท่านก้อไปมีครอบครัวอยู่ที่ตำบลตาก้อง ชื่อนางสำรวม หลุ่มมาบแค เกิดปี พ.ศ. 2460 2.พระครูอุตรการบดี สุข ปทุมสุวัณโณ วัดห้วยจระเข้ ในยุคหลวงปู่บิน ท่านจะมาเป็นอุปัชฌาย์ที่วัดวังตะกูเสมอ จนกระทั่งท่านละสังขาร หลักฐานคือ คนตำบลวังตะกู ในสมัยที่หลวงพ่อสุข มาเป็นอุปัชฌาย์ จะมีพระปิดตา เนื้อเมฆพัตร ติดตัวเสมอคนละองค์ 3.พระไพโรจน์วุฒาจารย์ รุ่ง วัดท่ากระบือ หลักฐาน คือ หลวงพ่อใหญ่ พระประธานประจำพระอุโบสถ (ปัจจุบัน พระธรรมเสนานี ชุณห์ ได้ย้ายจากโบสถ์เก่ามาโบสถ์หลังใหม่ ในปี พ.ศ.2537) มีการจารึกชื่อ ผู้สร้างเอาไว้ว่า พระครูรุ่ง วัดท่ากระบือ สร้างถวาย 4.พระอธิการพูน เกสโร วัดใหม่ปิ่นเกลียว เป็นสหธรรมิกที่สนิทกันมาก เนื่องจากเกิดปีพ.ศ.2411 เหมือนกันและวัดอยู่ใกล้กัน ตำแหน่งทางคณะสงฆ์ หลวงปู่บิน ไม่ได้เป็นเจ้าอาวาสมาตั้งแต่แรก แต่หลวงปู่อยู่มาถึงห้าเจ้าอาวาส เนื่องจากแต่ละรูปได้ลาสิกขาบท ไปมีครอบครัวกันจนหมด อีกนัยหนึ่ง คือ หลวงปู่ไม่ชอบที่จะมียศตำแหน่งใดใดทั้งสิ้น จนกระทั่งสมัย พระอาจารย์สวัสดิ์ กมลศรี เป็นเจ้าอาวาสแล้วลาสิกขาบทไป ท่านจึงต้องรับตำแหน่งเจ้าอาวาสโดยมิอาจปฏิเสธได้ จนทางคณะสงฆ์แต่งตั้ง พระครูวินัยธร ชุณห์ กิตติวัณโณ มารับตำแหน่งเจ้าอาวาสในปี พ.ศ. วัตถุมงคล เหรียญรูปเหมือน หลวงปู่สุบิน อิสโร มีสองรุ่น คือ เหรียญรุ่นแรก เขียนว่า อิสโร อันเป็นฉายาของท่าน หลังยันต์แม่ธาตุทั้งสี่เหมือนกับเหรียญพระครูสุกิจธรรมสร สว่าง วัดกำแพงแสน พระอุปัชฌาย์ หลวงปู่แผ้ว และหลวงพ่อฉาว สร้างเมื่อปีพ.ศ.2492 จำนวนไม่เกิน 200 เหรียญ ตามจำนวนครัวเรือนของชาวบ้านในบริเวณตำบลวังตะกู มีเนื่้อทองแดงเพียงอย่างเดียว (หลานสาวของหลวงปู่บิน เล่าว่าสมัยก่อนเหรียญรุ่นแรกของท่าน คนทางตำบลบ้านยาง หนองปากโลง รังจิก นำเหรียญหนึ่งเหรียญไปแลกวัวได้หนึ่งตัว) เหรียญพระประธานโบสถ์ แบบเดียวกับเหรียญหลวงพ่อยิ้ว วัดบางแขม ปีพ.ศ.2494 พิมพ์ดอกจิก มีจำนวนสามเนื้อด้วยกัน เนื้อทองแดงกะไหล่ทอง ทองแดงรมดำ ตะกั่ว หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือสร้างและปลุกเสกให้ เพื่อสำหรับฉลองพระประธานโบสถ์ เหรียญรุ่นสอง เขียนชื่อหลวงพ่อสุบิน อิสโร ไว้อย่างชัดเจน หลังยันต์และมีปีพ.ศ.2504 บอกไว้ด้วย สร้างเพื่อให้ผู้บริจาคทรัพย์สร้างชานคอนกรีต รอบโบสถ์ มีเนื้อทองแดงอย่างเดียว ประวัติการสร้างเหมือนเหรียญของวัดสวนส้ม คือสร้างมาก่อนหลวงปู่มรณภาพ รูปภาพกระดาษ สร้างเพื่อให้ผู้บริจาคทรัพย์สร้างชานคอนกรีต รอบโบสถ์ เหมือนกัน มรณภาพ ปีพ.ศ.2503 สิริอายุได้ 92 ปี จากหลักฐานที่ภาพตั้งหน้าศพของท่านระบุไว้ หลวงปู่สุบิน อิสโร เป็นพระภิกษุผู้เคร่งครัดในศีลจริยวัตร และเจริญวิปัสสนากรรมฐานอยู่เป็นเนื่องนิจ และไม่ยึดติดในลาภยศสรรเสริญใดใดทั้งสิ้น สังเกตุได้จากการที่ พระธรรมเสนานี ชุณห์ กิตติวัณโณ ให้ความเคารพนับถือท่านเป็นอย่างมาก หากหลวงพ่อชุณห์จต้องการทำสิ่งใด ท่านก้อจะระลึกถึงหลวงปู่บิน หากสำเร็จท่านจะมาหาหรือมาปรากฏให้เห็น เป็นต้น (หลวงพ่อชุณห์ท่านพูดเอง ในสมัยที่ท่านยังแข็งแรง) ความเข้มขลังในพุทธาคมของท่าน คือ ในสมัยที่ท่านมรณภาพคนแก่แถววัดวังตะกู เล่าว่า สัปเหร่อที่ชื่อ ตาฮก(เสียชีวิตไปหลายสิบปีแล้ว) เผาสังขารท่านบนเชิงตะกอนอย่างไรก้อไม่ไหม้ จึงต้องใช้มีดเลาะหนังและเนื้ออกจากกระดูกแล้วนำกระดูกมาเผาบนเชิงตะกอนอีกที เรื่องทั้งหมดได้มาจาก หลานของท่านที่ยังมีชีวตอยู่ คือ 92 ปี

รายละเอียด

หลวงพ่อสุบิน วัดวังตะกู จ. นครปฐมเหรียญรุ่นแรก//นานๆๆเจอซักเหรียญครับ

ประวัติความเป็นมา ของพระอธิการสุบิน อิสโร

นามเดิม นายสุบิน นามสกุล ชุ่มบุญชู (ตั้งขึ้นทีหลังหลวงปู่) เกิดวันและเดือน ไม่ทราบได้ แต่ปีพุทธศักราช 2411 (ปีเดียวกับหลวงพ่อพูน เกสโร วัดใหม่ปิ่นเกลียว) อยู่บ้านเดิมที่ตำบลวังตะกู จังหวัดนครปฐม ข้อสังเกตุของหลวงปู่ คือ ขาทั้งสองข้างของหลวงปู่ไม่เท่ากัน จึงทำให้เดินได้ไม่ค่อยเหมือนคนทั่วไป

บรรพชาและอุปสมบท ปีพ.ศ. 2421 โดยมี พระครูอุตรการบดี ทา วัดพะเนียงแตก เป็นพระอุปัชฌาย์

ได้รับฉายาว่า "อิสโร"

ปฐมเหตุของการบวช คือ ท่านมีความน้อยใจที่เกิดมาแล้วมีความบกพร่องทางร่างกายจึงทำให้ไม่สามารถเป็นทหารได้เหมือนกับพี่น้องคนอื่นๆ ท่าจำพรรษาอยู่ที่วัดวังตะกูมาโดยตลอดอายุขัยของท่าน

สหธรรมิก

1.หลวงพ่อแช่ม อินทโชโต วัดตาก้อง ท่านทั้งสองสนิทกันมาก เนื่องจากหลวงปู่บินเดินไม่ค่อยสะดวก หลวงพ่อแช่มจึงนำมาที่เลี้ยงไว้มาให้ใช้เป็นพาหนะในการเดินทางของท่าน จากคำบอกเล่าของหลานสาวที่ยังมีชีวิตอยู่เล่าว่า "เมื่อสมัยหลวงปู่บิน ยังมีชีวิตอยู่ ฉันไปทำบุญที่วัด คนเก่าคนแก่ของวังตะกูในสมัยนั้น มักจะเห็นหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง ขี่ม้ามาที่วัดวังตะกู อยู่เป็นประจำ" หลวงปู่บิน ยังเคยเล่าให้ฟังว่า ไอ้แช่มนะรึ มันร้อนวิชา ปีหนึ่งมันอาบ โกนหัว โกนหนวด ครั้งเดียว เวลามันบิณฑบาต ถ้าหากมันเดินตกคลองล่ะก้อมันจะแช่น้ำจนกว่าตะวันจะตกดินถึงจะขึ้นมาได้ ปัจจุบันหลานสาวของท่านก้อไปมีครอบครัวอยู่ที่ตำบลตาก้อง ชื่อนางสำรวม หลุ่มมาบแค เกิดปี พ.ศ. 2460

2.พระครูอุตรการบดี สุข ปทุมสุวัณโณ วัดห้วยจระเข้ ในยุคหลวงปู่บิน ท่านจะมาเป็นอุปัชฌาย์ที่วัดวังตะกูเสมอ จนกระทั่งท่านละสังขาร หลักฐานคือ คนตำบลวังตะกู ในสมัยที่หลวงพ่อสุข มาเป็นอุปัชฌาย์ จะมีพระปิดตา เนื้อเมฆพัตร ติดตัวเสมอคนละองค์

3.พระไพโรจน์วุฒาจารย์ รุ่ง วัดท่ากระบือ หลักฐาน คือ หลวงพ่อใหญ่ พระประธานประจำพระอุโบสถ (ปัจจุบัน พระธรรมเสนานี ชุณห์ ได้ย้ายจากโบสถ์เก่ามาโบสถ์หลังใหม่ ในปี พ.ศ.2537) มีการจารึกชื่อ ผู้สร้างเอาไว้ว่า พระครูรุ่ง วัดท่ากระบือ สร้างถวาย

4.พระอธิการพูน เกสโร วัดใหม่ปิ่นเกลียว เป็นสหธรรมิกที่สนิทกันมาก เนื่องจากเกิดปีพ.ศ.2411 เหมือนกันและวัดอยู่ใกล้กัน

ตำแหน่งทางคณะสงฆ์

หลวงปู่บิน ไม่ได้เป็นเจ้าอาวาสมาตั้งแต่แรก แต่หลวงปู่อยู่มาถึงห้าเจ้าอาวาส เนื่องจากแต่ละรูปได้ลาสิกขาบท ไปมีครอบครัวกันจนหมด อีกนัยหนึ่ง คือ หลวงปู่ไม่ชอบที่จะมียศตำแหน่งใดใดทั้งสิ้น

จนกระทั่งสมัย พระอาจารย์สวัสดิ์ กมลศรี เป็นเจ้าอาวาสแล้วลาสิกขาบทไป ท่านจึงต้องรับตำแหน่งเจ้าอาวาสโดยมิอาจปฏิเสธได้ จนทางคณะสงฆ์แต่งตั้ง พระครูวินัยธร ชุณห์ กิตติวัณโณ มารับตำแหน่งเจ้าอาวาสในปี พ.ศ.

วัตถุมงคล

เหรียญรูปเหมือน หลวงปู่สุบิน อิสโร มีสองรุ่น คือ

เหรียญรุ่นแรก เขียนว่า อิสโร อันเป็นฉายาของท่าน หลังยันต์แม่ธาตุทั้งสี่เหมือนกับเหรียญพระครูสุกิจธรรมสร สว่าง วัดกำแพงแสน พระอุปัชฌาย์ หลวงปู่แผ้ว และหลวงพ่อฉาว สร้างเมื่อปีพ.ศ.2492 จำนวนไม่เกิน 200 เหรียญ ตามจำนวนครัวเรือนของชาวบ้านในบริเวณตำบลวังตะกู มีเนื่้อทองแดงเพียงอย่างเดียว (หลานสาวของหลวงปู่บิน เล่าว่าสมัยก่อนเหรียญรุ่นแรกของท่าน คนทางตำบลบ้านยาง หนองปากโลง รังจิก นำเหรียญหนึ่งเหรียญไปแลกวัวได้หนึ่งตัว)

เหรียญพระประธานโบสถ์ แบบเดียวกับเหรียญหลวงพ่อยิ้ว วัดบางแขม ปีพ.ศ.2494 พิมพ์ดอกจิก มีจำนวนสามเนื้อด้วยกัน เนื้อทองแดงกะไหล่ทอง ทองแดงรมดำ ตะกั่ว หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือสร้างและปลุกเสกให้ เพื่อสำหรับฉลองพระประธานโบสถ์

เหรียญรุ่นสอง เขียนชื่อหลวงพ่อสุบิน อิสโร ไว้อย่างชัดเจน หลังยันต์และมีปีพ.ศ.2504 บอกไว้ด้วย สร้างเพื่อให้ผู้บริจาคทรัพย์สร้างชานคอนกรีต รอบโบสถ์ มีเนื้อทองแดงอย่างเดียว ประวัติการสร้างเหมือนเหรียญของวัดสวนส้ม คือสร้างมาก่อนหลวงปู่มรณภาพ

รูปภาพกระดาษ สร้างเพื่อให้ผู้บริจาคทรัพย์สร้างชานคอนกรีต รอบโบสถ์ เหมือนกัน

มรณภาพ ปีพ.ศ.2503 สิริอายุได้ 92 ปี จากหลักฐานที่ภาพตั้งหน้าศพของท่านระบุไว้

หลวงปู่สุบิน อิสโร เป็นพระภิกษุผู้เคร่งครัดในศีลจริยวัตร และเจริญวิปัสสนากรรมฐานอยู่เป็นเนื่องนิจ และไม่ยึดติดในลาภยศสรรเสริญใดใดทั้งสิ้น สังเกตุได้จากการที่ พระธรรมเสนานี ชุณห์ กิตติวัณโณ ให้ความเคารพนับถือท่านเป็นอย่างมาก หากหลวงพ่อชุณห์จต้องการทำสิ่งใด ท่านก้อจะระลึกถึงหลวงปู่บิน หากสำเร็จท่านจะมาหาหรือมาปรากฏให้เห็น เป็นต้น (หลวงพ่อชุณห์ท่านพูดเอง ในสมัยที่ท่านยังแข็งแรง)

ความเข้มขลังในพุทธาคมของท่าน คือ ในสมัยที่ท่านมรณภาพคนแก่แถววัดวังตะกู เล่าว่า สัปเหร่อที่ชื่อ ตาฮก(เสียชีวิตไปหลายสิบปีแล้ว) เผาสังขารท่านบนเชิงตะกอนอย่างไรก้อไม่ไหม้ จึงต้องใช้มีดเลาะหนังและเนื้ออกจากกระดูกแล้วนำกระดูกมาเผาบนเชิงตะกอนอีกที

เรื่องทั้งหมดได้มาจาก หลานของท่านที่ยังมีชีวตอยู่ คือ 92 ปี