หลวงปู่สิม พุทธาจาโร รุ่น 11 เนื้อนวโลหะ-เว็บพระแท้1 - webpra
VIP
***เกียรติยศย่อมเกิดจากการกระทำที่สุจริต***
หลวงปู่สิม พุทธาจาโร รุ่น 11 เนื้อนวโลหะ - 1หลวงปู่สิม พุทธาจาโร รุ่น 11 เนื้อนวโลหะ - 2หลวงปู่สิม พุทธาจาโร รุ่น 11 เนื้อนวโลหะ - 3หลวงปู่สิม พุทธาจาโร รุ่น 11 เนื้อนวโลหะ - 4
ชื่อร้านค้า เว็บพระแท้1 - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
ชื่อพระเครื่อง หลวงปู่สิม พุทธาจาโร รุ่น 11 เนื้อนวโลหะ
อายุพระเครื่อง -
หมวดพระ หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง – หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง - พระอาจารย์เปลี่ยน วัดอรัญวิเวก
ราคาเช่า -
เบอร์โทรติดต่อ (ไม่แสดงเบอร์ เนื่องจากรายการนี้ไม่ได้ปล่อยเช่า)
อีเมล์ติดต่อ gt540@hotmail.com
LINE
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ พระโชว์
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ ส. - 06 ธ.ค. 2551 - 00:04.39
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ พ. - 20 ก.พ. 2556 - 11:25.10
รายละเอียด
หลวงปู่สิม พุทธาจาโร เนื้อนวโลหะ รุ่นมหาลาโภ ที่ระลึกสร้างศาลา ปี.๒๕๑๗ หายาก รุ่นมหาลาโภในพิธีมีสร้างด้วยกันทั้งหมด 3 พิมพ์

เหรียญมหาลาโภ ของหลวงปู่สิม พุทธาจาโร ทางวัดมัชฌันติการาม(วัดน้อย) ได้ขออนุญาตจัดสร้างเพื่อหาปัจจัยก่อสร้างศาลาบำเพ็ญกุศล โดยหลวงปู่ได้ปลุกเสกให้เป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากเป็นวัดฝ่ายธรรมยุตินิกายและเป็นโรงเรียนพระปริยัติธรรมเป็นสาขาหนึ่งของวัดบวรนิเวศวิหาร ....ในชุดพิธีเดียวกันนี้มี พระปิดตามหาลาโภ พระปิดตามหาลาโภเนื้อผงและเหรียญมหาลาโภ สร้างปี.๒๕๑๗

ประวัติวัดมัชฌันติการาม(วัดน้อย)
วัดมัชฌันติการาม เป็นวัดราษฎร์ เป็นวัดของคณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุตินิกายหน้าวัดติดกับคลองบางเขนใหม่โดยมีซอยวงศ์สว่าง 11 ผ่านเขตแยกวัดกับโรงเรียนวัดมัชฌันติการามอยู่คนละฝั่งซอย เลขที่วัด 102 วัดมัชฌันติการาม ถนนวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ

เจ้าจอมมารดาเที่ยง ผู้ได้ให้การอุปถัมภ์ในการสร้างวัด เริ่มต้นนั้นไม่ทราบแน่ชัดว่าสร้างในสมัยใด มีผู้สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย เจ้าจอมมารดาเที่ยง เจ้าจอมมารดาในรัชกาลที่ 4 ทรงเข้ามาอุปถัมภ์ในปีพุทธศักราช 2417 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า “วัดมัชฌันติการาม” เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่ เจ้าจอมมารดาเที่ยง ผู้ทรงอุปถัมภ์ต่อการสร้างวัด

การตั้งชื่อวัดนั้นก็เนื่องมาจาก เจ้าจอมมารดาเที่ยงเป็นผู้อุปถัมภ์ ในรัชกาลที่ 5 จึงโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า “มัชฌันติการาม” ตามชื่อของผู้อุปถัมภ์ในการสร้างวัด คือ มัชฌันติก และอารามซึ่งแปลมาตัวว่า เที่ยง และ วัด เมื่อรวมกันจึงแปลได้ว่า “วัดของเจ้าจอมมารดาเที่ยง” คนส่วนมากชอบเรียกว่า วัดน้อย เพราะง่ายต่อการออกเสียงกว่าคำว่าวัดมัชฌันติการาม

สันนิษฐานว่าการเรียกวัดน้อยนี้ เพราะเป็นวัดของเจ้าจอมมารดาในรัชกาลที่ 4 ซึ่งให้การอุปถัมภ์ ชาวบ้านทั่วไปถือว่า เป็นนางสนม เพื่อให้เข้าใจง่ายคู่กับวัดหลวง ซึ่งเป็นวัดของภรรยาหลวงให้การอุปถัมภ์เช่นเดียวกัน (อยู่ในซอยถัดไป ปัจจุบันวัดหลวงไม่มี เหลือแต่ที่ดินของวัด ซึ่งสำนักงานศาสนสมบัติ สำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นผู้ดูแลอยู่)

เนื่องจากการคมนาคมไม่สะดวกในสมัยก่อน จึงมีพระอยู่จำพรรษาไม่กี่รูปต้องไปนิมนต์พระจากวัดอื่นมาอยู่จำพรรษาเช่น วัดราชาธิวาส วัดปทุมวนาราม วัดราชบพิธ และวัดบวรนิเวศวิหาร จนต่อมามีการตัดถนนวงศ์สว่างผ่านด้านหลังวัด ทางวัดพร้อมด้วยอุบาสกอุบาสิกา มีลุงแม้น-ป้าทองใบ ใบสนและราษฎรผู้มีจิตศรัทธา ช่วยกันบริจาคที่ดินตัดถนนเข้าวัดในสมัยพระครูวิจิตรธรรมสาร (อดีตเจ้าอาวาสรูปที่ 7)

หลังจากนั้นทางวัดได้ขออนุญาตเปิดโรงเรียนพระปริยัติธรรมทั้งแผนกนักธรรมและบาลีขึ้น โดยเป็นสาขาของวัดบวรนิเวศวิหาร จึงเป็นเหตุให้มีพระภิกษุสามเณรเข้ามาศึกษาเล่าเรียนเป็นจำนวนมาก ในแต่ละปีมีพระภิกษุสามเณรสอบได้ทั้งนักธรรมและบาลีเป็นจำนวนมาก จนได้รับการยกย่องจากพระเถรานุเถระชั้นผู้ใหญ่ตลอดมา

พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...

อื่นๆ...

กำหลังโหลด Comments
Top