ปิดตารุ่นแรกท้องอุ เนื้อผงว่านผสมน้ำนมควาย หลวงพ่อเขียว วัดหรงบล จ.นครศรีธรรมราช พ.ศ. 2510 (B2)-ภาณุภัณฑ์ พระเครื่อง - webpra
"ศึกษา สะสม สมบัติ ผลัดกันชม" ดำเนินการโดย Ting_sathu

หมวด พระเกจิภาคใต้

ปิดตารุ่นแรกท้องอุ เนื้อผงว่านผสมน้ำนมควาย หลวงพ่อเขียว วัดหรงบล จ.นครศรีธรรมราช พ.ศ. 2510 (B2)

ปิดตารุ่นแรกท้องอุ เนื้อผงว่านผสมน้ำนมควาย หลวงพ่อเขียว วัดหรงบล จ.นครศรีธรรมราช พ.ศ. 2510 (B2) - 1ปิดตารุ่นแรกท้องอุ เนื้อผงว่านผสมน้ำนมควาย หลวงพ่อเขียว วัดหรงบล จ.นครศรีธรรมราช พ.ศ. 2510 (B2) - 2ปิดตารุ่นแรกท้องอุ เนื้อผงว่านผสมน้ำนมควาย หลวงพ่อเขียว วัดหรงบล จ.นครศรีธรรมราช พ.ศ. 2510 (B2) - 3ปิดตารุ่นแรกท้องอุ เนื้อผงว่านผสมน้ำนมควาย หลวงพ่อเขียว วัดหรงบล จ.นครศรีธรรมราช พ.ศ. 2510 (B2) - 4ปิดตารุ่นแรกท้องอุ เนื้อผงว่านผสมน้ำนมควาย หลวงพ่อเขียว วัดหรงบล จ.นครศรีธรรมราช พ.ศ. 2510 (B2) - 5
ชื่อร้านค้า ภาณุภัณฑ์ พระเครื่อง - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
ชื่อพระเครื่อง ปิดตารุ่นแรกท้องอุ เนื้อผงว่านผสมน้ำนมควาย หลวงพ่อเขียว วัดหรงบล จ.นครศรีธรรมราช พ.ศ. 2510 (B2)
อายุพระเครื่อง -
หมวดพระ พระเกจิภาคใต้
ราคาเช่า 2,500 บาท
เบอร์โทรติดต่อ 083-2699000
อีเมล์ติดต่อ Ting_ptk@yahoo.com หรือ Tingsathu@gmail.com
LINE
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ พร้อมเช่า
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ จ. - 08 ต.ค. 2555 - 12:03.28
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ ศ. - 09 ก.ค. 2564 - 11:52.29
รายละเอียด
ปิดตารุ่นแรกท้องอุ เนื้อผงว่านผสมน้ำนมควาย หลวงพ่อเขียว วัดหรงบล จ.นครศรีธรรมราช พ.ศ. 2510 (B2)

พ่อ ท่าน เขียว เกิดปี พ.ศ. 2424 อุปสมบทที่วัดคงคาวดีเมื่ออายุได้ 22 ปี ท่านศึกษาวิชากับสำนักพ่อท่านเอียด วัดหรงบน ซึ่งเชี่ยวชาญวิปัสสนา คาถาอาคม อักขระโบราณต่าง ๆ พ่อท่านเป็นพระคงแก่เรียน ปฏิบัติพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด มีอาจารย์ดีหลายท่านถ่ายทอดวิชาอาคมให้ พ่อท่านเขียวออกธุดงค์ จาริกตามป่าเขาในเขตภาคใต้จนถึงปี 2459 ท่านกลับไปวัดหรงบนแต่อาจารย์เอียดมรณภาพไปแล้ว ชาวบ้านจึงอาราธนาท่านขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัดหรงบน ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ยุคเดียวกับอาจารย์นำ วัดดอนศาลาและพ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง ซึ่งทั้งสามท่านได้รับนิมนต์ร่วมในงานปลุกเสกวัตถุมงคลของหลวงปู่เพิ่มที่ วัดกลางบางแก้วในปี 2513 เกียรติคุณของพ่อท่านเขียวยิ่งโด่งดังเมื่อท่านมรณภาพแล้ว (ปี 2519) ทางวัดทำพิธีฌาปนกิจท่านแต่ปรากฏว่าเผาแล้วร่างท่านไม่ไหม้ไฟ แม้กระทั่งจีวรเก็บไว้ก็ไม่เน่าเปื่อยกลายเป็นหินเป็นความมหัศจรรย์จากความ ศักดิ์สิทธิ์ของพ่อท่านเขียว

พ่อท่าน เขียว วัดหรงบน สมัยท่านมีชีวิตอยู่คนไม่ค่อยจะรู้จัก เคยอ่านพบในหนังสือเล่มหนึ่งว่าตอนที่ท่านมาปลุกเสกพระกริ่งพุทธชัยศรีที่ วัดกลางบางแก้วช่วงที่นั่งพักผ่อน ญาติโยมที่ไปร่วมงานไม่มีใครสนใจท่านเพราะไม่เป็นที่รู้จัก แต่พระดังๆในสมัยนั้นคนรุมล้อมเพียบ

คนที่เขียน บทความนั้นก็ไม่รู้จักท่านแต่ได้เข้าไปถามท่านว่ามาจากไหน ท่านบอกว่ามาจากวัดหรงบน ท่านได้มอบรูปหล่อให้ด้วย ตอนท่านอยู่ชื่อเสียงของท่านเป็นที่รู้จักในวงแคบ วัตถุมงคลของท่านมีประสบการณ์มากมายในพื้นที่ แต่ไม่มีการประชาสัมพันธ์ จนหลังจากท่านมรณภาพไปแล้วก็ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก ท่านมาดังเอาจริง ๆจัง ๆก็ตอนงานฌาปนกิจศพของท่าน หลังจากท่านมรณภาพแล้วศพของท่านไม่เน่าเปื่อย กลับแข็งเป็นหิน พอถึงวันฌาปนกิจ ศพของท่านเผาไฟไม่ไหม้ แม้แต่จีวรห่อศพก็ไม่ไหม้ เป็นที่อัศจรรย์ ทางวัดจึงเก็บสรีระของท่านเอาไว้ให้คนไปกราบไหว้ นอกจากสังขารของท่านจะไม่เน่าเปื่อยแล้ว เล็บและผมของท่านงอกยาวออกมาเรื่อยๆ ต้องได้ปลงทุกปี

วัตถุมงคล อย่างหนึ่งที่ท่านได้สร้างเอาไว้ องค์นี้ก็คือ พระปิดตา ซึ่งสร้างเพื่อแจกแก่ผู้มาร่วมทำบุญในงานก่อเจดีย์ทรายของวัดหรงบนในปี 2510 พ่อท่านเขียวได้มอบผงวิเศษให้ลูกศิษย์นำไปผสมกับมวลสารอย่างอื่น เช่น ว่าน เกสรดอกไม้ ดินกรุ ชันโรง ชานหมาก เส้นเกศา ฯลฯ โดยนำมวลสารมาคลุกเคล้าให้เข้ากันโดยมี "น้ำนมควาย" เป็นตัวผสมช่วยในการประสานเนื้อพระ โดยในครั้งนั้นได้พระจำนวนมากพอสมควร จากนั้นท่านได้ปลุกเสกเดี่ยวตลอด 15 คืน แล้วนำออกแจกในงานก่อเจดีย์ทราย เมื่อปี 2510 พระปิดตารุ่นนี้ส่วนมากเนื้อหาจะแก่ว่านและผงมาก มีหลายโซนสีทั้งสีออกแดง ,เทา สีใบลานผิวไขหว่านขาว ๆ นอกจากนี้ในคราวเดียวกัน พ่อท่านเขียวก็ได้สร้างพระปิดตาด้วยเนื้อตะกั่วลงถม ขนาดเท่านิ้วก้อย อีกด้วยจำนวนการสร้างก็พอ ๆ กับเนื้อว่านผสมชานหมาก

ว่าไปแล้ว ชาวบ้านทางใต้ เขานิยมใช้พระปิดตาของท่าน มากกว่าเหรียญกับรูปเหมือนของท่านเสียอีกเพราะท่านพูดเสมอๆ ว่าเหรียญกับรูปเหมือนเป็นของที่คนอื่นทำมาให้ท่านปลุกเสก สู้ของที่ท่านทำเอง สร้างเองไม่ได้ ประสบการณ์ก็ดีครบทุกด้าน ตั้งแต่เมตตามหานิยม โชคลาภ แคล้วคลาด คงกระพัน มหาอุตม์

ท่านบอกวัน มรณะภาพให้ศิษย์และพระในวัดรู้ แต่ก็ไม่มีใครสนใจกันนัก คงจะลืม แล้วท่านก็จากไปด้วยความสงบเมื่อเผาร่างของท่านเป็นชั่วโมง ๆ ไฟที่จุดนั้นไม่ลุกติดจีวรของท่านเลยแสดงถึงบุญอภินิหาร และท่านฉันว่านยาเป็นนิจ ทำให้ร่างกายของท่านเผาไม่ไหม้ไฟปัจจุบันร่างท่านแข็งเป็นหินไปแล้วพระสงฆ์ ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ขนาดว่ามรณะภาพแล้วเผาไฟก็ไม่ไหม้ นานไปร่างก็แข็งเป็นหินอีก ในประเทศไทยมีกี่รูปกันครับ

รับประกันพระแท้ สนใจข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 081-622-1037 083-2699000 Email : Ting_ptk@yahoo.com

พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...

อื่นๆ...

กำหลังโหลด Comments
Top