งั่ง หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน-ธนาภา - webpra

เว็บ-พระ ประมูลพระเครื่อง ร้านค้าพระเครื่องออนไลน์

ธนาภา

ขอให้เชื่อพระพุทธเจ้าเถิดว่า บาปมี บุญมี นรกมี สวรรค์มี พรหมโลกมี นิพพานมี ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว

หมวด เครื่องรางของขลัง

งั่ง หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน

ชื่อร้านค้า	ธนาภา - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	ธรณ์ (2175)
ชื่อพระเครื่อง	งั่ง หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน
อายุพระเครื่อง	-
หมวดพระ	เครื่องรางของขลัง
ราคาเช่า	3,500 บาท
เบอร์โทรติดต่อ	083 7347 967
อีเมล์ติดต่อ	Thanapaframe5@gmail.com line id thana_thanaframe
LINE	(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	ศ. - 28 ก.ย. 2561 - 21:31.06
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	พ. - 04 ม.ค. 2566 - 13:28.36

รายละเอียด
งั่งสายเขมร ตัวจริง เสียงจริง เนื้อชินตะกั่วจะออกปรอทแดงๆ เด่นเรื่องมหาเสน่ห์และเมตตมหานิยม หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดินเสก (ลูกตาเบ๊าะ) เป็นภาษาเขมรที่คนแถวนั้นเรียกหลวงปู่สรวง หรือภาษาไทยเราเรียกหลวงตาเบ๊าะ แห่งเขาภูตะแบง จังหวัดพระวิหาร ประเทศกัมพูชา คือสถานที่หลวงปู่สรวงเคยมาบำเพ็ญตบะ เมื่อตอนหลวงปู่ยังมีชีวิตอยู่ ท่านใดชอบของแรงๆเชิญทางนี้ (องค์ใหญ่) ฐานกว้าง 2.5 ซม. สูง 6.5 ซม. ต็อกโค๊ตด้านหลัง สร้างน้อยมาก เนื้อชินตะกั่ว เขาภูตะแบง จังหวัดพระวิหาร (เขมร: ខេត្តព្រះវិហារ) ประเทศกัมพูชา หรือ เปรียะวิเฮีย (เขมร: ព្រះវិហារ) เป็นจังหวัดสำคัญทางภาดเหนือของประเทศกัมพูชา มีชายแดนติดกับประเทศไทยทางด้านจังหวัดศรีสะเกษ เขาภูตะแบงที่สูงเสียดฟ้าในจังหวัดพระวิหาร ประเทศกัมพูชา ซึ่งมีบันไดที่ตัดตรงขึ้นไปเป็นทางชันที่ทุกคนจะต้องปีนป่ายขึ้นไปทั้งบันไดและหินผากว่า 3 กิโลเมตร จึงจะถึงวัดแห่งแรกบนภูเขาภูตะแบงแห่งนี้ ซึ่งมีมากมายถึง 6-7 วัดด้วยกัน และบนนั้นมีผู้คนอาศัยอยู่ประมาณ 20 ครัวเรือน ไม่มีทางลงทางไหนนอกจากทางนี้ ไม่มีพระลงมาบิณฑบาตร เพราะสูงเกินไป ขึ้นลงแทบคลานแล้ว สร้างตามความเชื่อของเขมรมีความศักดิ์สิทธิ์และความขลังตามความเชื่อของชาวเขมร เสิศทางแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี เลิศทางเมตตามหาเสน่แก่เพศตรงข้าม พกพาติดตัวอาจมีผู้หญิงหลงรักชอบพอ ผู้ชายหลงไหล เข้าพบหาผู้บังคับบัญชาก็ให้ความเมตตา ให้บำเเหน็จบำนาญ ถ้าเก็บไว้ในร้านค้าก็จักมีลูกค้ามากหน้าหลายตาเข้ามาอุดหนุนอย่างอุ่นหนาฝาคลั่ง ทั้งยังจะได้สมบัติ แก้วแหวนเงินทองเพชรนิลจินดาไว้ในครอบครองสมใจปรารถนา ผู้ใดมีพญางั่งไว้บูชาจักไม่ผิดหวัง การบูชา ใช้ผ้าขาว 1 ผืน ดอกไม้สีขาว ๕ คู่ พวงมาลัยขาว 1 พวง เทียนขาว 5 คู่ หมากพลูบุหรี่ 1 ชุด เงินกำนัลครู 6 บาท ขนมหวาน 1 ชุด จุดธูป 9 ดอก (หรือ 19 ดอก ) กล่าวคำบูชาท่านว่า ตั้ง นะโม 3 จบ แล้วกล่าว นะโมพุทธายะ อิติปิโสภควา อริยะ อ็องสรวง สัมปันโณ ยะธาพุทโมนะ นะมะพะทะ อะหังนุกา 9 จบ ดีนักแลฯ แล้วบอกกล่าวชื่อเสียงเรียงนามของเรากับท่านบอกความทุกข์บอกกล่าวในสิ่งที่ปรารถนาให้ท่านช่วย ทุกข์โศกโรคภัยที่มีอยู่จะค่อยๆหายไปในที่สุด ขึ้นถวายวันพฤหัส ถือศีล ทำกรรมฐานนั่งสมาธิระลึกถึงท่านเพื่อเป็นการถวายทั้งอามิสบูชาและปฏิบัติภาวนา แล้วจะสำเร็จในสิ่งที่มุ่งหวัง หลวงพ่อทิน ปิยสีโล อดีตเจ้าอาวาสวัดสมบูรณ์ ท่านได้กรุณาเล่าเรื่องหลวงปู่สรวงให้ฟังมากมาย วันหนึ่งตอนเย็นๆใกล้ค่ำ อยู่ๆหลวงปู่สรวงก็ลุกขึ้นเอาข้าวเปลือกไปหว่านใส่ท้องนาแบบไม่มีปี่่มีขลุ่ยทั้งๆที่นาแห้งดินแตกแล้งจัด ไม่มีฝนตกมานานแล้ว ท่านหว่านข้าวเปลือกด้วยอาการประหนึ่งชาวนาหว่านข้าวเปลือกปลูกกล้า คืนนั้นเกิดพายุฝนอย่างหนัก จนถึงกับน้ำท่วมทุ่ง รุ่งขึ้นน้ำก็เต็มทุ่งเต็มท่าอย่างน่าอัศจรรย์อย่างยิ่งนัก ถ้าเอ๋ยถึงหลวงปู่สรวงคงไม่มีใครปฏิเสธว่าไม่รู้จัก หลวงปู่เป็นใคร มาจากไหน อายุเท่าไหร่ ไม่มีใครทราบ รู้แต่ว่า อริยะสงฆ์ผู้อยู่เหนือกาลเวลา ๕๐๐ พรรษา จำวัดทั่วจักรวาล นึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไป รูปหล่อ หลวงปู่สรวง วัดไพรพัฒนา สวรรค์มีตา เทวดาเดินดิน มีลูกศิษย์ลูกหานำไปบูชาเกิดประสบการณ์มามากมาย พุทธคุณ ทั้งด้านโชคลาภ หน้าที่การงานเจริญรุ่งเรือง การทำมาค้าขายดี แคล้วคลาดปลอดภัย วัตถุมงคลของหลวงปู่สรวง ที่โดดเด่น และเป็น ที่นิยมทั้งในด้านประสบการณ์และปาฏิหารย์ต่างๆ ในด้านโชคลาภ เมตตา มหาเสน่ห์และขอพรต่างๆ ความเป็นอยู่แม้จะธรรมดาแต่กลับมากด้วยปาฏิหาริย์ แม้กระทั่งหลวงปู่ละสังขารเข้าสู่นิพพาน ปาฏิหาริย์แห่งท่านก็ยังเล่าขานและปรากฏการเป็นอัศจรรย์อย่างเรื่อยมา ได้มีผู้เคยถาม หลวงปู่ฤทธิ์ รตนโชโต วัดชลประทานราชดำริ จ.บุรีรัมย์ว่า หลวงปู่รู้จัก หลวงปู่สรวง แห่งท้องทุ่งศรีสะเกษ หรือเปล่า หลวงปู่ฤทธิ์ ท่านบอกว่ารู้จัก และรู้จักมานานแล้ว เมื่อ คราวที่หลวงปู่ฤทธิ์ ทำบุญวางศิลาฤกษ์ สร้างศาลาการเปรียญหลังใหญ่ ที่วัดชลประทานราชดำริ หลวงปู่สรวงท่านก็มา เวลาท่านมาท่านก็มาของท่านเองไม่รู้ว่าท่านมาเมื่อไหร่ มารู้อีกทีก็เมื่อตอนที่เห็นท่าน เวลาท่านจะไปท่านก็ไปท่านเดินออกไปทางป่าด้านโน้น อยู่ด้านหน้าศาลาเป็นป่ากว้างมีน้ำท่วมขังเล็กน้อย ท่านเดินตรงไปแต่พอมองออกไปจะเห็นฝูงสัตว์เดินตามท่านเป็นพรวนแล้วสักพักท่านก็หายไป หลวงปู่ฤทธิ์ ท่านยังได้พูดว่า เรื่อง หลวงปู่สรวงพูดไปแล้วก็เหมือนกับนิยาย เป็นเรื่องเหลือเชื่อ แต่ท่านก็มีตัวตนจริง เมื่อหลายสิบปีก่อน ได้พบเห็นท่านอย่างไร เดี๋ยวนี้ก็เห็นท่านเหมือนเดิม ตัวของหลวงพ่อเองนี่ซิแก่ลงไปทุกวันทุกปีนี่ก็อายุ 82 แล้ว แต่หลวงปู่สรวงท่านก็อยู่ของท่านอย่างนั้น หลวงปู่สรวงท่านได้มรณภาพ เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2543 ขึ้น 10 ค่ำ เดือน 10 ปัจจุบันสรีระสังขารของท่านตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่วัดไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ตลอดระยะเวลา 10 กว่าปีที่ผ่านมาได้มีเรื่องเล่าขานถึงอิทธิปาฏิหารต่างๆ มากมายเกี่ยวกับสรีระสังขารของท่าน จนเป็นที่เลื่องลือมาจนถึงปัจจุบัน ทางวัดไพรพัฒนา ได้จัดสรงน้ำเปลี่ยนผ้าไตรหลวงปู่สรวง ในช่วงวันที่ 5-15 เมษายน ของทุกๆ ปี ((ความเป็นอยู่แม้จะธรรมดาแต่กลับมากด้วยปาฏิหาริย์ แม้กระทั่งหลวงปู่ละสังขารเข้าสู่นิพพาน ปาฏิหาริย์แห่งท่านก็ยังเล่าขานและปรากฏการเป็นอัศจรรย์อย่างเรื่อยมา))

รายละเอียด

งั่งสายเขมร ตัวจริง เสียงจริง เนื้อชินตะกั่วจะออกปรอทแดงๆ เด่นเรื่องมหาเสน่ห์และเมตตมหานิยม หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดินเสก (ลูกตาเบ๊าะ) เป็นภาษาเขมรที่คนแถวนั้นเรียกหลวงปู่สรวง หรือภาษาไทยเราเรียกหลวงตาเบ๊าะ แห่งเขาภูตะแบง จังหวัดพระวิหาร ประเทศกัมพูชา คือสถานที่หลวงปู่สรวงเคยมาบำเพ็ญตบะ เมื่อตอนหลวงปู่ยังมีชีวิตอยู่
ท่านใดชอบของแรงๆเชิญทางนี้
(องค์ใหญ่) ฐานกว้าง 2.5 ซม. สูง 6.5 ซม. ต็อกโค๊ตด้านหลัง สร้างน้อยมาก เนื้อชินตะกั่ว

เขาภูตะแบง จังหวัดพระวิหาร (เขมร: ខេត្តព្រះវិហារ) ประเทศกัมพูชา
หรือ เปรียะวิเฮีย (เขมร: ព្រះវិហារ) เป็นจังหวัดสำคัญทางภาดเหนือของประเทศกัมพูชา มีชายแดนติดกับประเทศไทยทางด้านจังหวัดศรีสะเกษ เขาภูตะแบงที่สูงเสียดฟ้าในจังหวัดพระวิหาร ประเทศกัมพูชา ซึ่งมีบันไดที่ตัดตรงขึ้นไปเป็นทางชันที่ทุกคนจะต้องปีนป่ายขึ้นไปทั้งบันไดและหินผากว่า 3 กิโลเมตร จึงจะถึงวัดแห่งแรกบนภูเขาภูตะแบงแห่งนี้ ซึ่งมีมากมายถึง 6-7 วัดด้วยกัน และบนนั้นมีผู้คนอาศัยอยู่ประมาณ 20 ครัวเรือน ไม่มีทางลงทางไหนนอกจากทางนี้ ไม่มีพระลงมาบิณฑบาตร เพราะสูงเกินไป ขึ้นลงแทบคลานแล้ว

สร้างตามความเชื่อของเขมรมีความศักดิ์สิทธิ์และความขลังตามความเชื่อของชาวเขมร
เสิศทางแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี เลิศทางเมตตามหาเสน่แก่เพศตรงข้าม
พกพาติดตัวอาจมีผู้หญิงหลงรักชอบพอ ผู้ชายหลงไหล เข้าพบหาผู้บังคับบัญชาก็ให้ความเมตตา
ให้บำเเหน็จบำนาญ ถ้าเก็บไว้ในร้านค้าก็จักมีลูกค้ามากหน้าหลายตาเข้ามาอุดหนุนอย่างอุ่นหนาฝาคลั่ง
ทั้งยังจะได้สมบัติ แก้วแหวนเงินทองเพชรนิลจินดาไว้ในครอบครองสมใจปรารถนา
ผู้ใดมีพญางั่งไว้บูชาจักไม่ผิดหวัง

การบูชา
ใช้ผ้าขาว 1 ผืน
ดอกไม้สีขาว ๕ คู่
พวงมาลัยขาว 1 พวง
เทียนขาว 5 คู่
หมากพลูบุหรี่ 1 ชุด
เงินกำนัลครู 6 บาท
ขนมหวาน 1 ชุด จุดธูป 9 ดอก (หรือ 19 ดอก )
กล่าวคำบูชาท่านว่า
ตั้ง นะโม 3 จบ แล้วกล่าว นะโมพุทธายะ อิติปิโสภควา อริยะ อ็องสรวง สัมปันโณ ยะธาพุทโมนะ นะมะพะทะ อะหังนุกา 9 จบ ดีนักแลฯ
แล้วบอกกล่าวชื่อเสียงเรียงนามของเรากับท่านบอกความทุกข์บอกกล่าวในสิ่งที่ปรารถนาให้ท่านช่วย ทุกข์โศกโรคภัยที่มีอยู่จะค่อยๆหายไปในที่สุด
ขึ้นถวายวันพฤหัส ถือศีล ทำกรรมฐานนั่งสมาธิระลึกถึงท่านเพื่อเป็นการถวายทั้งอามิสบูชาและปฏิบัติภาวนา แล้วจะสำเร็จในสิ่งที่มุ่งหวัง

หลวงพ่อทิน ปิยสีโล
อดีตเจ้าอาวาสวัดสมบูรณ์
ท่านได้กรุณาเล่าเรื่องหลวงปู่สรวงให้ฟังมากมาย
วันหนึ่งตอนเย็นๆใกล้ค่ำ
อยู่ๆหลวงปู่สรวงก็ลุกขึ้นเอาข้าวเปลือกไปหว่านใส่ท้องนาแบบไม่มีปี่่มีขลุ่ยทั้งๆที่นาแห้งดินแตกแล้งจัด ไม่มีฝนตกมานานแล้ว
ท่านหว่านข้าวเปลือกด้วยอาการประหนึ่งชาวนาหว่านข้าวเปลือกปลูกกล้า คืนนั้นเกิดพายุฝนอย่างหนัก จนถึงกับน้ำท่วมทุ่ง รุ่งขึ้นน้ำก็เต็มทุ่งเต็มท่าอย่างน่าอัศจรรย์อย่างยิ่งนัก

ถ้าเอ๋ยถึงหลวงปู่สรวงคงไม่มีใครปฏิเสธว่าไม่รู้จัก หลวงปู่เป็นใคร มาจากไหน อายุเท่าไหร่ ไม่มีใครทราบ รู้แต่ว่า อริยะสงฆ์ผู้อยู่เหนือกาลเวลา ๕๐๐ พรรษา จำวัดทั่วจักรวาล นึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไป
รูปหล่อ หลวงปู่สรวง วัดไพรพัฒนา สวรรค์มีตา เทวดาเดินดิน มีลูกศิษย์ลูกหานำไปบูชาเกิดประสบการณ์มามากมาย พุทธคุณ ทั้งด้านโชคลาภ หน้าที่การงานเจริญรุ่งเรือง การทำมาค้าขายดี แคล้วคลาดปลอดภัย วัตถุมงคลของหลวงปู่สรวง ที่โดดเด่น และเป็น
ที่นิยมทั้งในด้านประสบการณ์และปาฏิหารย์ต่างๆ ในด้านโชคลาภ เมตตา มหาเสน่ห์และขอพรต่างๆ ความเป็นอยู่แม้จะธรรมดาแต่กลับมากด้วยปาฏิหาริย์ แม้กระทั่งหลวงปู่ละสังขารเข้าสู่นิพพาน ปาฏิหาริย์แห่งท่านก็ยังเล่าขานและปรากฏการเป็นอัศจรรย์อย่างเรื่อยมา

ได้มีผู้เคยถาม หลวงปู่ฤทธิ์ รตนโชโต วัดชลประทานราชดำริ จ.บุรีรัมย์ว่า หลวงปู่รู้จัก หลวงปู่สรวง แห่งท้องทุ่งศรีสะเกษ หรือเปล่า หลวงปู่ฤทธิ์ ท่านบอกว่ารู้จัก และรู้จักมานานแล้ว เมื่อ คราวที่หลวงปู่ฤทธิ์ ทำบุญวางศิลาฤกษ์ สร้างศาลาการเปรียญหลังใหญ่ ที่วัดชลประทานราชดำริ หลวงปู่สรวงท่านก็มา เวลาท่านมาท่านก็มาของท่านเองไม่รู้ว่าท่านมาเมื่อไหร่ มารู้อีกทีก็เมื่อตอนที่เห็นท่าน เวลาท่านจะไปท่านก็ไปท่านเดินออกไปทางป่าด้านโน้น อยู่ด้านหน้าศาลาเป็นป่ากว้างมีน้ำท่วมขังเล็กน้อย ท่านเดินตรงไปแต่พอมองออกไปจะเห็นฝูงสัตว์เดินตามท่านเป็นพรวนแล้วสักพักท่านก็หายไป หลวงปู่ฤทธิ์ ท่านยังได้พูดว่า เรื่อง หลวงปู่สรวงพูดไปแล้วก็เหมือนกับนิยาย เป็นเรื่องเหลือเชื่อ แต่ท่านก็มีตัวตนจริง เมื่อหลายสิบปีก่อน ได้พบเห็นท่านอย่างไร เดี๋ยวนี้ก็เห็นท่านเหมือนเดิม ตัวของหลวงพ่อเองนี่ซิแก่ลงไปทุกวันทุกปีนี่ก็อายุ 82 แล้ว แต่หลวงปู่สรวงท่านก็อยู่ของท่านอย่างนั้น

หลวงปู่สรวงท่านได้มรณภาพ เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2543 ขึ้น 10 ค่ำ เดือน 10 ปัจจุบันสรีระสังขารของท่านตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่วัดไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ตลอดระยะเวลา 10 กว่าปีที่ผ่านมาได้มีเรื่องเล่าขานถึงอิทธิปาฏิหารต่างๆ มากมายเกี่ยวกับสรีระสังขารของท่าน จนเป็นที่เลื่องลือมาจนถึงปัจจุบัน ทางวัดไพรพัฒนา ได้จัดสรงน้ำเปลี่ยนผ้าไตรหลวงปู่สรวง ในช่วงวันที่ 5-15 เมษายน ของทุกๆ ปี

((ความเป็นอยู่แม้จะธรรมดาแต่กลับมากด้วยปาฏิหาริย์ แม้กระทั่งหลวงปู่ละสังขารเข้าสู่นิพพาน ปาฏิหาริย์แห่งท่านก็ยังเล่าขานและปรากฏการเป็นอัศจรรย์อย่างเรื่อยมา))