ปรกฤาษีรุ่นแรก หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร เนื้อนวะ หลังจาร-สุริยันจันทรภานุ - webpra
ยินดีต้อนรับทางร้านมีพระสวยพุทธคุณสูง เก๊คืนเต็มไม่จำกัดเวลาขอเพียงพระอยู่ในสภาพเดิม (ไม่รับเช่าพระ)

หมวด หลวงปู่ญาท่านสวน วัดนาอุดม - หลวงพ่อชา วัดหนองป่าพง – หลวงปู่คำบุ วัดกุดชมภู

ปรกฤาษีรุ่นแรก หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร เนื้อนวะ หลังจาร

ปรกฤาษีรุ่นแรก หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร เนื้อนวะ หลังจาร - 1ปรกฤาษีรุ่นแรก หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร เนื้อนวะ หลังจาร - 2
ชื่อร้านค้า สุริยันจันทรภานุ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
ชื่อพระเครื่อง ปรกฤาษีรุ่นแรก หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร เนื้อนวะ หลังจาร
อายุพระเครื่อง 24 ปี
หมวดพระ หลวงปู่ญาท่านสวน วัดนาอุดม - หลวงพ่อชา วัดหนองป่าพง – หลวงปู่คำบุ วัดกุดชมภู
ราคาเช่า 3,500 บาท
เบอร์โทรติดต่อ 0639291944
อีเมล์ติดต่อ chayooh@hotmail.com
สถานะ พร้อมเช่า
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ พฤ. - 11 ต.ค. 2555 - 16:41.29
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ ส. - 07 ก.ย. 2556 - 08:55.09
รายละเอียด
หลวงปู่พรหมมา วัดสวนหินผานางคอย จ.อุบลราชธานี พระเกจิอาจารย์แห่งแดนอีสาน บวชเป็นสามเณรเมื่ออายุ12 ปี จากนั้นได้ศึกษาวิชากับสมเด็จลุน แห่งนครจำปาศักดิ์ นานถึง 6 พรรษา หลังจากที่สมเด็จลุนได้มรณภาพลง หลวงปู่พรหมมาก็ได้ร่วมเดินธุดงค์ไปยังที่ต่างๆ และหลวงปู่พรหมา ยังได้ไปศึกษากรรมฐานกับหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ต่อจากนั้นท่านได้ธุดงค์ไปจำพรรษาที่ถ้ำแห่งหนึ่งบนยอดภูเขาควายนานถึง 45 พรรษา ต่อมาได้ธุดงค์ข้ามมายังฝั่งไทยเมื่อปีพ.ศ.2533 หลวงปู่พรหมมาได้เห็นว่าถ้ำสวนหิน ภูกระเจียว ในวันเดือนหงายจะมีสัตว์ป่านานาชนิดวิ่งกันขวักไขว่ จึงได้พักบำเพ็ญเพียรแต่นั้นมา ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เคยเสด็จฯมานมัสการหลวงปู่พรหมมาถึง 2 ครั้ง โดยก่อนจะมรณภาพหลวงปู่ได้ดูแลชาวบ้านดงนาและใกล้เคียงเพื่อพัฒนาในบางส่วนให้เรียบร้อยสวยงามโดยเน้นการรักษาป่าสงวน หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำสวนหินแก้ว ( ผานางคอย ) ภูกระเจียว บ้านดงนา อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี ได้มรณภาพอย่างสงบด้วยโรคหัวใจ วันที่ 23 ส.ค.2545 สิริอายุ105 ปี

ข่าวตังเกระยองแห่มาบูชา จากการที่ชายฉกรรจ์ประมาณสิบกว่าคน เหมารถตู้เดินทางที่บ้านคุณชินพร แล้วขอบูชาปรกพ่อปู่ฤาษี ซึ่งเหลือเฉพาะเนื้อทองแดงไปเป็นจำนวนมากจนคุณชินพรแปลกใจ เมื่อได้สอบถามจากคุณไมตรี เภตราสุวรรณ์ ชึ่งเป็นเจ้าของห้องภาพและเจ้าของเรือประมงหลายลำ ได้เรื่องเรื่องที่ต้องยกโขยงกันมาบูชาปรกพ่อปู่ฤาษีก็เพราะว่า"ไต้ก๋งเรือ สำราญ ทองนพคุณแห่งเรือประมง"ขุนพลสมุทร"ได้นำพระเครื่องชนิดต่างๆไปลองยิงกันใน ขณะที่ออกเรือจับปลา ปรากฏว่ามีพระเครื่องอยู่เพียง 2ชนิดของหลวงพ่อเท่านั้นที่ยิงไม่ออกและหนึ่งใน 2 นั้นก็คือ ปรกปู่ฤาษีเนื้อทองแดงที่คุณชินพรและคุณจุลวัฒน์ สร้าง คุณไมตรีเล้าว่าไต้ก๋งสำราญได้นำปรกพ่อปูฤาษีใส่ในปากกระบอกปืน .357 แม็กนั่ม ยิงไม่ลั่นทั้ง 3นัดกระสุนแต่ละนัดมีรอยแทงของเข็มแทงชนวน ซึ่งทำให้บรรดาลูกเรือที่มุงดูอยู่ตกตะลึงไปตามๆกัน เพื่อความแน่ใจว่าไม่ใช่เหตุบังเอิญ จึงได้นำกระสุนที่ยิงแล้วไม่ลั่นทั้ง 3 นัดมาลองยิงใหม่ ปรากฏว่ากระสุนสามารถยิงลั่นทั้ง 3นัด(ไม่ใช่กระสุนด้าน)เมื่อขึ้นฝั่งก็รีบชวนกันมาบูชาก่อนที่ของจะหมด
ประวัตการสร้างปรกปู่ฤาษีที่คัดลอกมาจากหนังสือพระเครื่องสยาม ฉบับปีที่ 3ฉบับที่ 1 เดือนสิงหาคม 2537
เมื่อคราวที่ผมได้ทำล็อกเก๊ตรุ่นแรก และพระเครื่องบางอย่างชึ้นไปให้หลวงปู่พรหมมาปลุกเสกเมื่อ26พฤษภาคม 2536 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ผมไปพบท่าน รู้สึกว่าได้พบพระเก่งพระดีท่เพรียบพร้อมไปด้วยอิทธิฤทธิ์ไม่แพ้หลวงปู่ทิม ระหว่างที่เดินทางกลับก็ได้เอ่ยกับเพื่อนฝูงว่าหาพระเก่งๆอย่างนี้ยาก น่าจะสร้างพระปรกใบมะขามซึ่งเป็นพระชุดเล็กที่สุดให้ลือลั่นสักครั้งซึ่งคิด ว่าคงดังไม่แพ้ปรกองค์จ้อยของหลวงปู่ทิมที่เคยสร้างไว้เมื่อปี 2517จากราคาองค์ละ 20 บาทกลายเป็นหมื่น แต่แล้วก็ไม่ได้สร้างปรกใบมะขามเพราะมีคนสร้างไปก่อนแล้วและเหมืนหลวงปู่จะ ล่วงรู้ความนึกคิดของผม ท่านเลยบอกว่า"สร้างปรกใบมะขามพ่อปูฤาษีซิลูก จะได้เป็นรุ่น 1 และเป็นปรกใบมะขามพ่อปู่ฤาษีรุ่นหนึ่งในประเทศไทยด้วย" ผมและคุณจุลวัฒน์ จุลสุคนธ์ จึงได้สร้างปรกใบมะขามพ่อปูฤาษีขึ้น และปรกใบมะขามนี้ก็เต็มไปด้วยอุปสรรคถูกกีดขวางทุกวิถีทางนานับประการ เมื่อแกะแม่พิมพ์เสร็จแล้ว ผมก็ให้อดีตพระอาจารย์ทองเจือโหรใหญ่ที่ผมให้ตวามเคารพกำหนดวันลงมือปั๊นและ นำไปปลุกเสก ปรากฏว่าเมื่อหมดฤกษ์ในการปั๊มปรกพ่อปู่ฤาษียังตัดขอบไม่หมด ต้องแบกไปปลุกเสกทั้งยังไม่ตัดขอบเหมือนกับปรกองค์จ้อยของหลวงปู่ทิมที่ต้อง ยกไปเสกทั้งๆที่ยังตัดขอบไม่หมดเช่นเดียวกัน เลยเป้นเหตุให้ต้องแบกนำหนักเกินจากของเดืมไปถึง 3 เท่า เพราะปีกที่ไม่ตัดขอบมีขนาดใหญ่กว่าองค์พระถึง 3 เท่าพระปรกใบมะขามพ่อปู่ฤาษีชุดนี้มีเนื้อนวะโลหะและเนื้อทองแดงกว่าครึ่ง ที่ต้องนำมาตัดขอบภายหลัง แต่ก็ดีไปอีกอย่างที่ได้เศษโลหะที่ผ่านการปลุกเสกอย่างดีมาแล้ว อุปสรรคอีกประการหนึ่งคือมีการกีดกันไม่ให้มีโอกาสเอาปรกพ่อปู่ขึ้นไปปลุก เลก ต้องเอาปรกพ่อปู่ฤาไปไว้ในถ้ำ เพราะหลวงปู่ท่านอนุญาตให้สร้างไว้ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2536แล้วตั้งใจว่าจะไปรับปรกพ่อปู่ฤาษีกลับตอนปีหใม่ 2537เพื่อให้หลวงปู่ปลุกเสกนานที่สุด เพราะท่านได้รับปากไว้แล้ว กว่าจะได้รับปรกพ่อปู่ฤาษีกลับมาเป็นของขวัญปีใหม่ได้ เราต้องไปคอยหลวงปู่พรหมมาอยู่ที่อุบลเกือบอาทิตย์ จึงได้พบท่านเมื่อเย็นวันที่ 1 มกราคม 2537และหลวงปู่พรหมมาท่านก็เมตตาปลุกเสกปรกพ่อปู่ฤาษีให้เป็นครั้งสุดท้ายใน คืนวันที่ 1 มกราคม 2537อันเป็นวันขึ้นปีใหม่ ทานยังเมตตาบอกว่า พ่อมอบให้เป็นของขวัญปีใหม่แก่ผู้มีบุญวาสนาผู้ที่เช่าบูชาปรกพ่อปู่ฤาษีไป แล้วเท่านั้นจึงจะได้ของดีของวิเศษไว้ป้องกันตัว เมื่อผมรับปรกพ่อปู่ฤาษีมาจากหลวงปู่พรหมมาเมื่อเช้าวันที่ 2 มกราคม2537 ผมได้เรียนกับหลวงปู่ว่าสมัยนี้คนเขาไม่เขื่ออะไรง่ายๆ ถ้าใครเขาเอาปรกพ่อปู่ฤาษีไปลองยิงจะออกไหมครับ ท่านตอบผม พร้อมกับเอามือขี้มาที่ตัวท่านว่า ไม่ต้องไปลองปรกหรอกมาลองที่นี่ก็ได้ผมเลยกราบขอโทษก่อนจะลงเรือเดินทางกลับ หลวงปู่ท่านได้เอาโคตเอามาให้ผมกับจุลวัฒน์ 3 ตัว เป็นโคตที่แกะใหม่ยังไม่ได้ใช้ตอกพระเครื่องใดๆเลย ท่านบอกให้เอามาตอกปรกพ่อปู่ฤาษีเวลาตอกให้จุ่มน้ำมันเหล็กไหลด้วยและมีคน 2 คนมาช่วยกันตอกและนับพระและช่วยขานลำดับเลขกันผิดพลาดหรือจารนำมันซ้ำอีก ด้วย ซึ่งใช้เวลาถีง 3 วันก็พอดีกับลูกน้องของคุณจุลวัฒน์มาหาพอดี ผมเลยเค๊ตทั้ง 3 ตัวฝากคืนคุณจุลวัฒน์ไปด้วยเลย ผู้ที่มีน้ำใจทั้งสองท่านคือคุณธนะวัฒน์ และคุณเรืองกิจ บุคคลทั้งสองไม่เคยรู้จักมาก่อนเลย เมื่อนำพระออกให้บูชาบางคนก็นำไปใส่ปากปลาซ่อนฟันไม่เข้า คนฟันบอกว่าเหมือนฟันยางรถยนต์
ถ้าท่านใดหา พระปรกองค์จ้อย ของหลวงปู่ทิมฯ ไม่ได้ ก็ลองหาพระชุดนี้ใช้ดู เชื่อว่าพุทธคุณไม่ด้อยและไม่น้อยหน้ากว่าของ หลวงปู่ทิมฯ ที่สร้างไว้ในปี พ.ศ.๒๕๑๗ และราคาถูกกว่ามาก
ครับ และที่สำคัญที่สุด พระชุดนี้สร้างโดย อาจารย์ชินพร สุขสถิตย์ คือ "พระปรกฤาษี หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร" เทพเจ้าลุ่มแม่น้ำโขง วัดสวนหินผานางคอย อ.ศรีเมืองใหม่ จังหวัด
อุบลราชธานี สร้างไว้ในปี พ.ศ. ๒๕๓๘ ในเวลา เสาร์ ๕ เดือน ๕ ขึ้น ๕ ค่ำ และ ลป.พรหมมา ท่านได้นำน้ำมันเหล็กไหลของท่านผสมลงไปคลุกเคล้ากับพระปรกฤาษีนี้ด้วย
จากคำบอกเล่าของ อาจารย์ชินพรฯ นะครับ ท่านบอกว่า ลป.พรหมมา ท่านเก่งจริง และของที่สร้างในครั้งนี้ ได้มีการลองกันด้วยอาวุธที่มีอานุภาพร้ายแรง เชียวล่ะครับ คือ
ทดลองยิงกันด้วยปืนขนาด .๓๕๗ แมกนั่ม ปรากฎว่า ยิงไปถึง ๓ นัด ลูกปืนด้านทั้งหมด เพื่อความแน่ใจจริงๆว่าลูกปืนทั้ง ๓ นัดนี้ไม่เสื่อมแน่ จึงนำลูกปืนทั่ง ๓ นัด มาลองใหม่ โดย
หันปากกระบอกปืนไปทางด้านอื่น ผลปรากฎว่าลั่นทั้ง ๓ นัดครับ นี่ละครับไม่ใช่เหตุบังเอิญแน่นอน. นี่ก็เป็น พระชุดเล็ก อีกชุดหนึ่ง ที่จุ๋มจิ๋ม เล็กดี แต่รสโต ครับ

พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...

อื่นๆ...

กำหลังโหลด Comments
Top