พระผงว่านอุดมโชค๘อรหันต์รุ่นบูรณะเจดีย์รายปี 2545เนื้อว่านสีดำกดนำฤกษ์จารในพิธี 2545-สุริยันจันทรภานุ - webpra
- สุริยันจันทรภานุ
- พระผงว่านอุดมโชค๘อรหันต์รุ่นบูรณะเจดีย์รายปี 2545เนื้อว่านสีดำกดนำฤกษ์จารในพิธี 2545
พระผงว่านอุดมโชค๘อรหันต์รุ่นบูรณะเจดีย์รายปี 2545เนื้อว่านสีดำกดนำฤกษ์จารในพิธี 2545
ชื่อร้านค้า |
สุริยันจันทรภานุ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
ชื่อเจ้าของร้านค้า |
|
ชื่อพระเครื่อง |
พระผงว่านอุดมโชค๘อรหันต์รุ่นบูรณะเจดีย์รายปี 2545เนื้อว่านสีดำกดนำฤกษ์จารในพิธี 2545
|
อายุพระเครื่อง |
22 ปี |
หมวดพระ |
จตุคามรามเทพ พ.ศ. 2530 ถึง 2549 |
ราคาเช่า |
80,000 บาท
|
เบอร์โทรติดต่อ |
0639291944 |
อีเมล์ติดต่อ |
chayooh@hotmail.com |
สถานะ |
|
Facebook |
|
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ |
พฤ. - 09 ก.พ. 2566 - 08:00.09 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ |
พฤ. - 09 ก.พ. 2566 - 08:00.09 |
รายละเอียด |
ประวัติและเจตนาการสร้าง จตุคามรามเทพ รุ่นบูรณะเจดีย์ราย ปี2545 พระผงอุดมโชค 8 อรหันต์ สุวรรณภูมิ จตุคามรุ่นบูรณะเจดีย์ราย ปี 2545 ท่ามกลางความซบเซา ของวัตถุมงคลทางสาย จตุคามรามเทพฉุดดึงให้นักลงทุนในกลุ่มต่างๆที่เข้าเสาะแสวงหาผลประโยชน์ เมื่อยุคจตุคามฯเฟื่องฟู พากันติดลบติดบัญชีแดงไปตามๆ กัน ย่านท่าพระจันทร์ รวมถึงหน้าวัดพระบรมธาตุฯ ที่เมืองนคร ก่อนหน้าที่เคยคึกคัก ก็ได้กลับเข้าสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง สิ่งที่น่าสงสารและน่าเห็นใจมากก็คือ กลุ่มธุรกิจที่ลง ทุนเกี่ยวกับตลับจตุคามฯ คงจะแปลงสินทรัพย์ดังกล่าว ให้กลับมาเป็นทุนอีกคง ยาก หากกระแสจตุคามฯ ยังคงนิ่ง เหมือนกับถึงเวลาหยุดพักขององค์ท่าน เมื่อย้อนมองกลับไปเมื่อช่วงกลางปี ๔๙ ข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์เริ่มประโคม ข่าวอาชญากรรม ประเภทที่ว่า ผู้ที่ห้อยองค์พ่อจตุคามฯ แคล้วคลาดจากคมกระสุน ปืนอาวุธสงคราม เรียกกันว่าปืนไม่ระคายผิว มีวัตถุมงคลในสายจตุคามฯอยู่สองรุ่น ในช่วงนั้น ที่เบียดกันขึ้นช่วงชิง หน้าข่าวดังกล่าว หนึ่งในจตุคามฯรุ่นนั้นก็คือ พระผงอุดมโชคปฐมอรหันต์สุวรรณภูมิ หรือที่เราท่านมักจะเรียกกันว่า รุ่นบูรณะเจดีย์รายปี ๔๕ ซึ่งเป็นวัตถุมงคลทางฝั่งสายท่านพล.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช และ มีหลักฐานเป็นที่แน่ชัดว่า ท่านได้มีส่วนร่วมในฐานะเป็นเจ้าพิธี รวมถึงการ นั่งปลุกเสกร่วมกับสุดยอดพระเกจิอาจารย์ชื่อดังทางสายใต้ในยุคนั้น อีก ๒๕ รูป เช่น พ่อท่านสังข์ วัดดอนตรอ, พ่อท่านนวล วัดไสหร้า, หลวงปู่ไข่ วัดลำนาว ฯลฯซึ่งเป็นจุดแข็งของการโหมกระพือ สำหรับจตุคามฯ รุ่นนี้ จากการบันทึกที่มาของประวัติและเจตนาเริ่มต้นของการสร้างจตุ คามฯ ในรุ่นนี้ ก็เปี่ยมไปด้วยเจตนาที่เป็นมหากุศลโดยแท้..อันเป็นที่มาของ ชื่อรุ่น ที่เราเรียกจนฮิตติดปากกันต่อมา เริ่มจากการดำริของท่านเจ้าคุณพระราชธรรมสุธีเจ้าคณะ จังหวัดนครศรีธรรมราชและเจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช ท่านได้เล็งเห็นแล้วว่า พระเจดีย์ที่รายล้อมองค์พระบรมธาตุทั้ง จำนวน ๑๖๓ องค์นั้น มีสภาพที่เก่าทรุดโทรมเสื่อมสภาพไปตามกาล เวลา (ปี ๒๕๔๕) จึงมีความคิดที่จะหาทุน เพื่อนำรายได้มาบูรณปฏิสังขรณ์ โดย ได้จตุคามฯ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่พุทธบริษัททั้งหลาย ในการที่ได้ร่วมกัน บริจาคทรัพย์ในการบูรณะเจดีย์ราย ที่รายล้อมองค์พระบรมธาตุ พิธีกรรมดังกล่าวจึงได้ถูกกำหนดพิธีกรรมขึ้นโดยคงพิธีกรรม ตามลัทธิทางประเพณีนิยมตามแบบอย่าง ของชาวเมืองศรีวิชัย ๑๒ นักษัตร โดยกำหนด เป็น ๔ พิธี และ ๔ วัน ตามสถานที่และกำหนดการดังนี้ พิธีครั้งที่๑ ได้กำหนดให้มีการจัดขึ้นในวัน อังคาร ที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๔๕ ตรงกับวันขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๑๐ เวลา ๐๙. ๕๕ น. อันเป็นฤกษ์ภูมิปาโล ซึ่งหมายถึงฤกษ์ผู้ครองแผ่นดิน เป็นการจัดพิธี อัญเชิญองค์พระนารายณ์เพื่อเสด็จลงมาเป็นประธานอันเป็นปฐมฤกษ์เพื่อก่อให้ เกิดลาภผลทั้งความสำเร็จ ตลอดจนเป็นการบูชาพระบรมครู อธิษฐานจิต ณ ถ้ำฉัตร ทันต์ ที่วัดเขาอ้อ จ.พัทลุง พิธีครั้งที่๒ ได้กำหนดให้มีการจัดขึ้นในวัน เสาร์ ที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๔๕ ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ เวลา ๒๑. ๐๖ น. อันเป็นฤกษ์ราชา ซึ่งหมายถึงฤกษ์อันสูงศักดิ์กว่ามนุษย์ทั้งปวง ซ้ำ ยังเป็นคืนจันทร์เพ็ญ อันเป็น บูรณมี หมายความถึงเป็นวันอันเป็นมหามงคล อย่างยิ่ง เหมาะแก่การจัดพิธีอันเป็นมงคลทั้งปวง ทั้งยังเป็นการจัดพิธีปลุก เสกบนเรือกลางทะเล ณ อ่าวปากพนัง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เป็นการบูชา พระสมุทร (พลีทะเล) ในวาระเดียวกันอีกด้วย พิธีครั้งที่ ๓ ได้กำหนดให้มีการจัดขึ้นในวัน อาทิตย์ ที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๔๕ ตรงกับวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๐ เวลา ๑๓. ๑๙ น. อันเป็นฤกษ์ราชาเช่นกัน โดยเลือกจัดสถานที่ปลุกเสกอันเปี่ยมไปด้วย ความศักดิ์สิทธิ์ ณ โบสถ์มหาอุตม์ ที่หอพระสูง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พิธีครั้งที่๔ ได้กำหนดให้มีการจัดขึ้นในวันพุธ ที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๔๕ ตรงกับวันแรม ๔ ค่ำ เดือน ๑๐ โดยได้มีการจัดพิธีเทวา ภิเษกและพิธีพุทธาภิเษก ในเดียวกัน เพื่อเป็นการบูชาเทพเทวดา ตลอดจน บรรพบุรุษผู้มีคุณแก่อาณาจักรศรีวิชัย ตั้งแต่ครั้งอดีต เป็นการขอพรเพื่อ ประกอบพิธี ซึ่งจัดขึ้นในวิหารหลวง วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรี ธรรมราช จตุคามฯ รุ่น บูรณะเจดีย์รายปี ๔๕ ที่ได้มี การจัดสร้างในคราวนั้น สามารถแยกได้เป็น วัตถุมงคลประเภทเนื้อผง, มีทั้งที่ มีประเภทเคลือบและไม่เคลือบ, ทั้งยังมีวัตถุมงคลที่จัดทำเป็นประเภทเนื้อ โลหะ, ซึ่งยังแบ่งเป็นทั้งชนิดเหรียญ รวมถึงรูปหล่อลอยองค์พ่อจตุคามฯ ที่เป็นประเภทลอยองค์, และเหรียญที่เป็นพระปิดตาพังพระกาฬอีกด้วย แต่ในแวดวงวัตถุมงคลทางสายจตุคามฯในบ้านเรา กลับมักนิยมเช่าหาบูชา วัตถุมงคลรุ่นนี้ที่เด่นชัดก็เป็นประเภทชนิดเนื้อผง อาจเป็นเพราะความชินตา หรือจากข่าวคราวทางด้านปฏิหาริย์ก็ไม่ทราบ ทำให้วัตถุมงคลประเภทชนิด เนื้อผงที่เป็นประเภทชนิดเคลือบด้วยแล้ว ราคาเคยทะยาน จนเกือบแตะเลขหกหลัก เลยทีเดียว จากข้อมูลที่ได้มีการบันทึกไว้พอที่จะได้จำแนกวัตถุมงคลที่เป็นชนิดเนื้อผงได้ดังนี้ -เนื้อผงว่าน สีแดง ,สีดำ ,สีขาว จำนวนสร้างรวม 3 สี จำนวน 50,000 องค์ พิพม์กรรมการ กดมือ (ไม่มีเม็ดยา) สีขาว ,สีแดง , สีดำ ,สีชมพู สีขาว จำนวนสร้าง 170 องค์ สีแดง จำนวนสร้าง 170 องค์ สีดำ จำนวนสร้าง 170 องค์ สีชมพู จำนวนสร้าง 19 องค์ พิพม์กรรมการ กดมือ (มีเม็ดยา) สีขาว ,สีแดง , สีดำ ,สีชมพู สีขาว จำนวนสร้าง 50 องค์ สีแดง จำนวนสร้าง 20 องค์ สีดำ จำนวนสร้าง 50 องค์ สีน้ำตาล จำนวนสร้าง 50 องค์ -เนื้อผงดินเผาเคลือบ สีเขียว จำนวนสร้าง 4,999 องค์ สีฟ้า จำนวนสร้าง 4,999 องค์ สีเหลือง จำนวนสร้าง 10,000 องค์ (บรรจุกรุวัดพระมหาธาตุ) สีเหลืองบ้างก็ว่า 11000 องค์ (ไม่มีกรรมการนะครับ ) ประเภทผงว่านสามารถจัดแบ่งได้เป็น๓ สี คือ สีขาว, สีแดง, สี ดำ ซึ่งมีจำนวนสร้างรวมกัน ๕ หมื่นองค์ แต่เมื่อมีการรวมพระที่ได้มีการปั๊ม เผื่อชำรุด อีก ๗๖๖ องค์ รวมทั้งหมดจึงมี ๕๐,๗๖๖ องค์ ประเภทดินเผาเคลือบซึ่งเมื่อรวมประเภทเคลือบสีเขียวและสี ฟ้ารวมกัน มีทั้งหมด ๔,๙๙๙ องค์ เนื้อผงว่านดินเผาเคลือบเหลือง มีจำนวนการ สร้างทั้งหมด ๑.๑ หมื่นองค์ โดยนำเข้าบรรจุกรุ ใต้ฐานพระบรมธาตุ เจดีย์ ๑ หมื่นองค์ ส่วนที่เหลืออีก ๑,๐๐๐ องค์ ก็ได้นำออกเพื่อแจกจ่ายให้ แก่ผู้บริจาคเงินสมทบทุนเพื่อบูรณะเจดีย์ราย ตามวัตถุประสงค์ของคณะผู้จัด สร้างต่อไป #ความหมายของเหรียญด้านหน้า ของพระผงอุดมโชค 8 พระอรหันต์ มีรายละเอียด 1.มีรูปขอท้าวจตุคาม ท้าวรามเทพ (รวมอยู่เป็นรูปองค์เดียวกัน) มือขวาถือจักรกับวชิระ มีความหมามว่าเป็นเทพเสื้อ เมืองและเทพทรงเมือง 2.ส่วนมือซ้ายถือหอยยอด มีความหมายว่าเป็นกษัตริย์ที่ปกป้องดูแลรักษาปวงชน 3.ล้อมรอบด้วยดวงตราประจำเมืองนครศรีธรรมราช คือ 12 นักษัตร เพื่อให้ระลึก ถึงบรรพบรุษไทย คือขุนชายทั้ง 12 คน ที่ดำเนินชีวิตรอดด้วยการคิดค้นเครื่องมือเครื่องใช้ในการดำรงชีพ จนมีลูกหลานไทยสือต่อกันมา นับว่าเป็นบรมครู ต้นของไทย 4.ถัดออกไปมีราหูล้อมรอบ 8 ตน เป็นตัวแทนของ อักษรทิศ เทพทั้ง 8 องค์ ผู้รักษา ทิศทั้ง 8 ซึ่งตามปูมโหรถือว่าเทพทั้ง 8 องค์นี้เป็นเทวดารักษาจักรวาลนี้ส่วน จักรวาลอื่นไม่เกี่ยว #ความหมายของเหรียญด้านหลัง 1.กึ่งกลางเป็นกระดุมและล้อเกวียน ใช้แทนเครื่องหมายธรรมจักร 2.ระหว่างซี่ล้อธรรมจักรทั้ง 4 ช่อง มีเลข 1-3 บอกถึงพุทธันดรที่ 4 พระเจ้า สมณะโคดมองค์ปัจจุบัน ความหมายเหล่านี้ ปรากฏอยู่ในพระผล เก่า ๆ ที่ขุดได้เป็นพระดินเผาองค์ใหญ่ๆ ด้านหลังที่ชัด ๆจะบอกพุทธันดรแบบเดียวกัน 3.ใต้รูป กวางนอน จะมีชื่อ ธัมมสุนันโท เป็นภาษาขอม เป็นชื่อของเชื้อพระวงศ์กษัตริย์ ที่บวชในพระพุทธศาสนา พระองค์แรกของประเทศไทย 4.ถัดออกไปเป็นรูปดวงตะวัน ซึ่ง ชาวสุวรรณภูมิใช้แทนตัวพระเจ้าตะวันอธราชกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่พระองค์หนึ่งซึ่งเคย ยก ทัพไปตีนานาประเทศ ได้ดินแดนในคาบสมุทร ทะเลใต้ถึงออสเตรเลีย ตามตำนานบอกว่ามีประเทศต่าง ๆ ที่ขึ้นกับสุ วรรณภุมิถึง 112 ประเทศ 5.ถัดจากรัศมีดวงตะวันมีวงกลม 8 ดวง มีความหมายระลึกถึงพระเจ้าเดือนเด่นฟ้า และดาวเด่นฟ้า ซึ่งตามปูมโพรหมาย ถึงดาวนพเคราะห์ที่หมุดรอบดวงอาทิตย์และหมุนรอบตัวเอง จึงเกิดเป็นพลังจักรวาลและวิถีชีวิตที่หมุนเวียนไปตามจัก ราศรี 6.อักขระที่อยู่ในวงกลมทั้ง 8ดวง เป็นหัวใจอริยสัจ 4 ซึ่งเป็นสิ่งที่มนุษย์ต้องประสบทุกคน และอักขระอีก 4 ตัว มีความ หมายเป็นธาตุทั้ง 4 ของมนุษย์ ที่อาศัยอยู่บนดาวนพเคราะห์และอยู่ในระบบสุริยะจักรวาลเพราะมนุษย์ทุกชีวิตย่อมเวียน ว่ายตายเกิดไปตามกาลเวลา ตราบใดที่ยังไม่บรรลุชั้นสูงกงล้อชีวิตจะต้องหมุนเวียนไปเช่นนี้หลายภพหลายชาตอ ซึ่งบาง ช่วงของการเดินทางของชีวิต อาจจะหมดกลิ้งลงไปในขวากหนามบ้าง ลงไปในโคลนตมบ้างเป็นความจริงตามธรมจักร และโลกธรรม 8 ที่สำคัญก็คือเพื่อให้พุทธบริษัทได้ระลึก ถึงพระเจ้าเดือนเด่นฟ้าและพระเจ้าดาวเด่นฟ้า ผู้สร้างเจดีย์ทรง ศรีวิชัยเอาไว้เดิม 7.ช่องว่างระหว่าดวงดาวทั้ง 8 ดวง เป็นที่วางเปรียบเสมือนท้องฟ้าอันเป็นที่สิงสถิตของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จึงเป็นชื่อพระ อรหันต์ชุดแรก 8 พระองค์ ที่เป็นต้นกำเนินสงฆ์ไทย และได้นำเอาพุทธศาสนามาประดิษฐานไว้ในประเทศไทยเป็นครั้ง แรกตามประวัติที่ปรากฎอยู่ในกระเบื้องจารที่ได้ถูกค้นพบ และเพื่อเป็นการให้พุทธบริษัท ประชาชนชาวไทยได้รู้จัก และระลึกถึงบุญคุณของพระอรหันต์ชุดนี้ องค์ที่1 พระปุณณะมหาเถระ องค์ที่2 พระสัจจะพันธะ องค์ที่3 พระโสณะมหาเถระ องค์ที่4 พระอุตระมหาเถระ องค์ที่5 พระฌาณียะมหาเถระ องค์ที่6 พระภูริยะมหาทเทระ องค์ที่7 พระมูนียะมหาเถระ องค์ที่8 พระญาณะจรณะมหาเถระ |
พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...
อื่นๆ...
Top