พระผงเพชรพญาธร พิมพ์เล็กกรรมการ เนื้อเบญจรงค์ หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน ปลุกเสก ออกวัดซับลำใย ออกปี254-สุริยันจันทรภานุ - webpra

เว็บ-พระ ประมูลพระเครื่อง ร้านค้าพระเครื่องออนไลน์

สุริยันจันทรภานุ

ยินดีต้อนรับทางร้านมีพระสวยพุทธคุณสูง เก๊คืนเต็มไม่จำกัดเวลาขอเพียงพระอยู่ในสภาพเดิม (ไม่รับเช่าพระ)

หมวด หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน - หลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอร์เหนือ

พระผงเพชรพญาธร พิมพ์เล็กกรรมการ เนื้อเบญจรงค์ หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน ปลุกเสก ออกวัดซับลำใย ออกปี254

ชื่อร้านค้า	สุริยันจันทรภานุ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	มีเงินมีทอง (218)
ชื่อพระเครื่อง	พระผงเพชรพญาธร พิมพ์เล็กกรรมการ เนื้อเบญจรงค์ หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน ปลุกเสก ออกวัดซับลำใย ออกปี254
อายุพระเครื่อง	24 ปี
หมวดพระ	หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน - หลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอร์เหนือ
ราคาเช่า	-
เบอร์โทรติดต่อ	(ไม่แสดงเบอร์ เนื่องจากรายการนี้ไม่ได้ปล่อยเช่า)
อีเมล์ติดต่อ	chayooh@hotmail.com
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	พ. - 03 พ.ค. 2560 - 17:44.24
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	จ. - 11 ก.ย. 2560 - 16:59.05

รายละเอียด
พระเนื้อผงหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล รุ่น เพชรพญาธร สร้างปี ๒๕๔๓ ออกที่วัดซับลำใย เพชรพญาธรเป็นเทวดาบนสวรรค์ เจ้าชู้ ยิ่งนัก มักมากในกามารมณ์ เมื่อต้องการสาวใดแล้วก็จะแอบไปหาตอนกลางคืนร่ายมนต์ให้เกิดกามารมณ์จนต้องหลวมตัวเสร็จทุกรายไป เพชรพญาธรโดยรวมๆ แล้วจะมีสองรูปแบบด้วยกัน คือ รูปแบบที่เป็นลักษณะกึ่งเทวดากึ่งภูติ มีรูปร่างหน้าตางดงามเป็นที่ดึงดูดใจเพศตรงข้ามยิ่งนัก มักมากในกามารมณ์ เมื่อต้องการสาวใดแล้วก็จะแอบไปหาตอนกลางคืนร่ายมนต์ให้เกิดกามารมณ์จนต้องหลวมตัวเสร็จทุกรายไป ในรูปแบบนี้มักจะทำอยู่ในรูปเครื่องรางเช่นผ้ายันต์ หรือ พระผง แต่ถ้าคนที่ดูไม่เป็นก็จะนึกว่าเป็นพระขุนแผน ที่จริงแล้วบางองค์จะเป็นเพชรพญาธร ส่วนอีกรูปแบบหนึ่งจะมีลักษณะคล้ายอวัยวะเพศชาย สายนี้เป็นสายที่เรียนมาจากทางเขมรโบราณเสียมากกว่า ซึ่งต้องมองให้ออกว่าอันไหนคือเพชรพญาธรอันไหนคือปลัดขิก ให้ดูที่เพชรพญาธรจะมีร่างกายมีขาหน้าขาหลังมีหาง บางทีก็ดูเป็นสิงห์ บางทีก็ดูเป็นกิเลน หรือบางทีก็ติดปีกให้ด้วย เพราะในมนต์คาถาจะมีบทหนึ่งที่กล่าวว่า โอมพระเพชรพญาธรเสด็จขจรอยู่บนเวหา กูจะเรียกให้มึงมา…. ก็แปลว่าเพชรพญาธรนั้นบินได้ ในส่วนนี้จะนิยมในกลุ่มของพระเกจิอาจารย์เป็นผู้สร้างเสียส่วนใหญ่ เพราะในยุคสมัยก่อนปลัดขิกนั้นฮิตมากๆ ไล่ตั้งแต่หลวงพ่ออี๋ หลวงพ่อเหลือ หลวงพ่อยิด ล้วนแต่นิยมสร้างปลัดขิกกันจนโด่งดังทั้งนั้น จึงมีพระเกจิบางองค์ได้ทำเพชรพญาธรเป็นรูปปลัดขิกบ้าง แต่เสริมตรงมีขาหน้า ขาหลังมีหางให้ดูมีชีวิตเหมือนเช่นดังสัตว์ มีการเคลื่อนไหว จะได้ดูว่าบินไปหาคนรักไปเรียกคนรักได้ หลวงปู่หมุนเสกเพื่อให้เป็นเมตตามหานิยม และโชคลาภ โดยพระอาจารย์ตั๋ว ศิษย์เอกของหลวงพ่อกวย ได้ถวาย ผงชมพูนุช ในการจัดสร้างของดีของขลังรุ่นนี้ด้วย ผงชมพูนุชเป็นผงด้านเสน่ห์ พระเณรใครอยากลองของ เป็นอันสึกแทบทุกราย จนต้องเอาผงนี้ถวายหลวงปู่หมุนจนหมด เพื่อใช้ทำเครื่องรางด้านเมตตามหาเสน่ห์แก่ผู้คนทั่วไป สายของอาจารย์หนู (โตมร บุญนาค) ซึ่งเป็นหลานของหลวงพ่อกลั่น วัดพระยาญาติ จ.อยุธยา อดีตเกจิเรืองเวทชื่อดังของประเทศไทยรูปหนึ่ง ซึ่งอาจารย์หนูได้ถ่ายทอดวิชาอาคมให้แก่อาจารย์อ้วน (มณฑป รัตนวิหค) และซึ่งอาจารย์อ้วนได้ถ่ายทอดวิชาอาคมให้กับอาจารย์ทูลอีกต่อหนี่ง โดยเฉพาะวิชาเพชรพญาธร เป็นศาสตร์โบราณตามตำราซึ่งกล่าวไว้ว่าเพชรพญาธรเป็นเทพองค์หนึ่ง เป็นตัวแทนของเทพแห่งความเมตตาและโชคลาภ ให้คุณแก่ผู้ที่ได้สวดบูชาองค์เพชรพญาธร และสามารถสวดอธิฐานขอพรจากองค์เทพเพชรพญาธรได้ตามแต่จะพึงปารถนาสำหรับวิชาเพชรพญาธรสายนี้ อาจารย์อ้วนได้ถ่ายถ่ายทอดวิชานี้ให้แก่ศิษย์ 2 คน คืออาจารย์ทูล และอีกคนคือพระอาจารย์ตั้ว แห่งวัดซับลำใย จ.ลพบุรี (ปัจจุบัน มรณภาพแล้ว) ซึ่งวิชานี้เป็นที่โจษจันไปทั่ว จ.ลพบุรี (ไม่ทราบว่า อ.ตั้ว ได้ถ่ายทอดวิชานี้ให้แก่ผู้ใดก่อนมรณภาพหรือไม่) ส่วนอาจารย์ทูลได้รับการถ่ายทอดวิชาเพชรพญาธรนี้จากท่านอาจารย์อ้วน จนมีความชำนาญในการเขียนอักขระเลขยันต์ อาจารย์อ้วนได้ถ่ายทอดวิชาให้แก่อาจารย์ทูลซึ่งได้รับการถ่ายทอดวิชานี้อย่างถึงแก่นแท้ของวิชานี้อย่างแท้จริงจนขึ้นชื่อมากจนลูกศิษย์ที่มาสักยันต์หรือวัตถุมงคลที่ลงเพชรพญาธรหรือขอผ้ายันต์เพชรพญาธรไปใช้เป็นเมตตาติดต่องานหรือเจรจาค้าขายได้ดีจนเป็นที่กล่าวขานว่าวิชาเพชรพญาธรของอาจารย์ทูลไม่เป็นสองรองใครอาจารย์ตั้วสร้างและหลวงปู่หมุนเสกให้ บอกได้เลยครับว่าเข้มขลังจริงๆ ครับ

รายละเอียด

พระเนื้อผงหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล รุ่น เพชรพญาธร สร้างปี ๒๕๔๓ ออกที่วัดซับลำใย เพชรพญาธรเป็นเทวดาบนสวรรค์ เจ้าชู้ ยิ่งนัก มักมากในกามารมณ์ เมื่อต้องการสาวใดแล้วก็จะแอบไปหาตอนกลางคืนร่ายมนต์ให้เกิดกามารมณ์จนต้องหลวมตัวเสร็จทุกรายไป เพชรพญาธรโดยรวมๆ แล้วจะมีสองรูปแบบด้วยกัน คือ รูปแบบที่เป็นลักษณะกึ่งเทวดากึ่งภูติ มีรูปร่างหน้าตางดงามเป็นที่ดึงดูดใจเพศตรงข้ามยิ่งนัก มักมากในกามารมณ์ เมื่อต้องการสาวใดแล้วก็จะแอบไปหาตอนกลางคืนร่ายมนต์ให้เกิดกามารมณ์จนต้องหลวมตัวเสร็จทุกรายไป ในรูปแบบนี้มักจะทำอยู่ในรูปเครื่องรางเช่นผ้ายันต์ หรือ พระผง แต่ถ้าคนที่ดูไม่เป็นก็จะนึกว่าเป็นพระขุนแผน ที่จริงแล้วบางองค์จะเป็นเพชรพญาธร ส่วนอีกรูปแบบหนึ่งจะมีลักษณะคล้ายอวัยวะเพศชาย สายนี้เป็นสายที่เรียนมาจากทางเขมรโบราณเสียมากกว่า ซึ่งต้องมองให้ออกว่าอันไหนคือเพชรพญาธรอันไหนคือปลัดขิก ให้ดูที่เพชรพญาธรจะมีร่างกายมีขาหน้าขาหลังมีหาง บางทีก็ดูเป็นสิงห์ บางทีก็ดูเป็นกิเลน หรือบางทีก็ติดปีกให้ด้วย เพราะในมนต์คาถาจะมีบทหนึ่งที่กล่าวว่า โอมพระเพชรพญาธรเสด็จขจรอยู่บนเวหา กูจะเรียกให้มึงมา…. ก็แปลว่าเพชรพญาธรนั้นบินได้ ในส่วนนี้จะนิยมในกลุ่มของพระเกจิอาจารย์เป็นผู้สร้างเสียส่วนใหญ่ เพราะในยุคสมัยก่อนปลัดขิกนั้นฮิตมากๆ ไล่ตั้งแต่หลวงพ่ออี๋ หลวงพ่อเหลือ หลวงพ่อยิด ล้วนแต่นิยมสร้างปลัดขิกกันจนโด่งดังทั้งนั้น จึงมีพระเกจิบางองค์ได้ทำเพชรพญาธรเป็นรูปปลัดขิกบ้าง แต่เสริมตรงมีขาหน้า ขาหลังมีหางให้ดูมีชีวิตเหมือนเช่นดังสัตว์ มีการเคลื่อนไหว จะได้ดูว่าบินไปหาคนรักไปเรียกคนรักได้ หลวงปู่หมุนเสกเพื่อให้เป็นเมตตามหานิยม และโชคลาภ โดยพระอาจารย์ตั๋ว ศิษย์เอกของหลวงพ่อกวย ได้ถวาย ผงชมพูนุช ในการจัดสร้างของดีของขลังรุ่นนี้ด้วย ผงชมพูนุชเป็นผงด้านเสน่ห์ พระเณรใครอยากลองของ เป็นอันสึกแทบทุกราย จนต้องเอาผงนี้ถวายหลวงปู่หมุนจนหมด เพื่อใช้ทำเครื่องรางด้านเมตตามหาเสน่ห์แก่ผู้คนทั่วไป สายของอาจารย์หนู (โตมร บุญนาค) ซึ่งเป็นหลานของหลวงพ่อกลั่น วัดพระยาญาติ จ.อยุธยา อดีตเกจิเรืองเวทชื่อดังของประเทศไทยรูปหนึ่ง ซึ่งอาจารย์หนูได้ถ่ายทอดวิชาอาคมให้แก่อาจารย์อ้วน (มณฑป รัตนวิหค) และซึ่งอาจารย์อ้วนได้ถ่ายทอดวิชาอาคมให้กับอาจารย์ทูลอีกต่อหนี่ง โดยเฉพาะวิชาเพชรพญาธร เป็นศาสตร์โบราณตามตำราซึ่งกล่าวไว้ว่าเพชรพญาธรเป็นเทพองค์หนึ่ง เป็นตัวแทนของเทพแห่งความเมตตาและโชคลาภ ให้คุณแก่ผู้ที่ได้สวดบูชาองค์เพชรพญาธร และสามารถสวดอธิฐานขอพรจากองค์เทพเพชรพญาธรได้ตามแต่จะพึงปารถนาสำหรับวิชาเพชรพญาธรสายนี้ อาจารย์อ้วนได้ถ่ายถ่ายทอดวิชานี้ให้แก่ศิษย์ 2 คน คืออาจารย์ทูล และอีกคนคือพระอาจารย์ตั้ว แห่งวัดซับลำใย จ.ลพบุรี (ปัจจุบัน มรณภาพแล้ว) ซึ่งวิชานี้เป็นที่โจษจันไปทั่ว จ.ลพบุรี (ไม่ทราบว่า อ.ตั้ว ได้ถ่ายทอดวิชานี้ให้แก่ผู้ใดก่อนมรณภาพหรือไม่) ส่วนอาจารย์ทูลได้รับการถ่ายทอดวิชาเพชรพญาธรนี้จากท่านอาจารย์อ้วน จนมีความชำนาญในการเขียนอักขระเลขยันต์ อาจารย์อ้วนได้ถ่ายทอดวิชาให้แก่อาจารย์ทูลซึ่งได้รับการถ่ายทอดวิชานี้อย่างถึงแก่นแท้ของวิชานี้อย่างแท้จริงจนขึ้นชื่อมากจนลูกศิษย์ที่มาสักยันต์หรือวัตถุมงคลที่ลงเพชรพญาธรหรือขอผ้ายันต์เพชรพญาธรไปใช้เป็นเมตตาติดต่องานหรือเจรจาค้าขายได้ดีจนเป็นที่กล่าวขานว่าวิชาเพชรพญาธรของอาจารย์ทูลไม่เป็นสองรองใครอาจารย์ตั้วสร้างและหลวงปู่หมุนเสกให้ บอกได้เลยครับว่าเข้มขลังจริงๆ ครับ