เหรียญหลวงพ่อบัว วัดแสวงหา จังหวัดอ่างทอง ปี๒๕๑๙-อรัญรัตน์พระเครื่อง - webpra
พลัง.ศรัทธา.เชื่อมั่น.ศักดิ์สิทธิ์.สุจริต.เงินตราที่ได้มาไม่สำคัญกว่าความรู้สึกที่ดี.ศุ:099-1516190

หมวด เหรียญปั๊ม ก่อนปี 2520

เหรียญหลวงพ่อบัว วัดแสวงหา จังหวัดอ่างทอง ปี๒๕๑๙

เหรียญหลวงพ่อบัว วัดแสวงหา จังหวัดอ่างทอง ปี๒๕๑๙ - 1เหรียญหลวงพ่อบัว วัดแสวงหา จังหวัดอ่างทอง ปี๒๕๑๙ - 2
ชื่อร้านค้า อรัญรัตน์พระเครื่อง - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
ชื่อพระเครื่อง เหรียญหลวงพ่อบัว วัดแสวงหา จังหวัดอ่างทอง ปี๒๕๑๙
อายุพระเครื่อง 44 ปี
หมวดพระ เหรียญปั๊ม ก่อนปี 2520
ราคาเช่า -
เบอร์โทรติดต่อ (ไม่แสดงเบอร์ เนื่องจากรายการนี้ไม่ได้ปล่อยเช่า)
อีเมล์ติดต่อ akaradach.p@hotmail.com
สถานะ พระโชว์
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ ส. - 24 ส.ค. 2556 - 15:48.54
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ พฤ. - 05 ก.พ. 2558 - 23:26.16
รายละเอียด
ประวัติพอสังเขป ของ พระครูปัญญาสารคณี ( หลวงพ่อบัว )
วัดแสวงหา อ.แสวงหา จ.อ่างทอง

นามเดิม บัว นิ่มนาค
เกิดเมื่อวันพฤหัสบดี ที่ ๒๗ เมษายน ๒๔๕๔ ( แรม ๕ ค่ำ เดือน ๕ ปี กุน )
เป็นบุตรคนที่ ๒ ของ
นายจัน นางนาค นิ่มนาค ประกอบอาชีพทำนา
มีพี่น้องรวม บิดา-มารดา ๕ ท่านได้แก่

๑.นางสาว จวน นิ่มนาค
๒.พระครูปัญญาสารคณี (หลวงพ่อบัว)
๓.นายบุญ นิ่มนาค
๔.นางแป้น พึ่งผล
๕.นางตี๋ ทองนุ้ย

ชื่อ " บัว " เป็นชื่อที่ตั้งขึ้นตามตำราโหราศาสตร์ โดยสมัยนั้น โยมพ่อท่านว่าคนเกิดปีกุนตามตำราว่า
" ขวัญ " อยู่ที่ต้นบัว จึงตั้งชื่อให้ว่า " บัว " ซึ่งถือเป็นมงคลนามโดยไม่มีชื่อเล่นอย่างอื่น

ชีวิตวัยเด็กก่อนอุปสมบท
เมื่อเกิดมาท่านได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดี จากบิดา-มารดาของท่าน จนเมื่อถึงวัย ๑๒ ปี โยมแม่ได้ถึงแก่กรรม โยมพ่อจึงได้นำท่านมาฝากเป็นศิษย์วัดแสวงหา โดยท่านได้ศึกษาเล่าเรียนทั้งภาษาไทยและภาษาขอม กับ หลวงพ่ออ่อง ดิสโร อดีตเจ้าอาวาสวัดแสวงหาจนสามารถอ่านออกเขียนได้

จนถึง ปี พ.ศ. ๒๔๖๘ อายุได้ ๑๔ ปี โยมพ่อได้นำไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อเพิ่ม เจ้าอาวาสวัดสุวรรณราชหงษ์ (ตั้งอยู่ที่ ต.องครักษ์ อ.โพธิ์ทอง ปัจจุบัน) เพื่อศึกษาต่อ หลวงพ่อท่านเป็นบุคคลที่ ฉลาดและสติปัญญาดี เรียนรู้เร็ว ได้รับการคัดเลือกให้เรียนต่อแต่ โยมพ่อเป็นห่วงจึงรับตัวกลับมาบ้านเกรงว่าจะไกลบ้าน

หลวงพ่อกลับมาอยู่บ้านหลังจากนั้น ประมาณ ๔-๕ ปี
แล้วเมื่ออายุครบ ๒๐ บริบูรณ์ได้บรรพชาเป็นสามเณรก่อนโดยโยมพ่อให้เหตุผลว่าจะเสียความตั้งใจถ้า บวชพระแล้วโดนทหาร จึงบรรพชาเป็นสามเณรอยู่ระยะนึง
จึงได้อุปสมบทเมื่อวันที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๗๕ ตรงกับวัน แรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีวอก
โดยมี พระอุปัชฌาย์ คือ หลวงพ่อพระครูศรี วิรายะโสภิต เจ้าอาวาสวัดพระปรางค์ อ.ค่ายบางระจันทร์ จ.สิงห์บุรีพระอธิการอ้อน (บุญปลีก) เจ้าอาวาสวัดโคกพุทธทรา เป็นกรรมวาจาจารย์ และ หลวงปู่โล่ ทัพพิโย เป็น อนุสาวนาจารย์
ในการอุปสมบทนั้นหลวงพ่อมีความปรารถนาเพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้โยมแม่ โดยหลวงพ่อท่านได้ตั้งใจไว้ ๓ ประการว่า

ประการที่ ๑ จะอุปสมบทอย่างน้อย ๓ พรรษา
ประการที่ ๒ จะต้องท่องพระปาฏิโมกข์ให้ได้
ประการที่ ๓ จะต้องเทศน์ให้ได้

เหตุการณ์หลังอุปสมบท

พ.ศ.๒๔๗๕ บวชเป็นพรรษาแรกหลวงพ่ออ่อง ดิสโร ท่านได้ เมตตาหลวงพ่อให้หลวงพ่อท่านท่องหนังสือและตำราที่ใช้ในการสวดมนต์ทั่วไป

พ.ศ.๒๔๗๖ พรรษาที่สองสอบนักธรรมชั้นตรีได้ และท่องปาฏิโมกข์ ได้สมดังปรารถนา ประการที่ ๒

พ.ศ.๒๔๗๗ พรรษาที่สามสอบนักธรรมชั้นโทได้

พ.ศ.๒๔๗๘ พรรษาที่สี่สอบนักธรรมชั้นเอกได้

พ.ศ.๒๔๘๒ พรรษาที่แปด ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส แทน หลวงพ่อ อ่อง ดิสโร

พ.ศ.๒๔๘๕ พรรษาที่สิบ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลแสวงหา

พ.ศ.๒๔๘๘ พรรษาที่สิบสาม ได้รับแต่งตั้งเ็ป็นพระอุปัชฌาย์

พ.ศ.๒๔๙๖ พรรษาที่ยี่สิบเอ็ด ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอแสวงหา

พ.ศ.๒๕๐๐ พรรษาที่ยี่สิบห้า ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครู ชั้นโท โดยพระราชทินนามว่า
"พระครูปัญญาสารคณี"

พ.ศ.๒๕๐๗ พรรษาที่สามสิบสอง ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอก โดยใช้พระราชทินนามเดิม จากสังฆราช อยู่ ญาโณทัยมหาเถระ

พ.ศ.๒๕๑๗ พรรษาที่สี่สิบสอง ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นพิเศษ โดยใช้พระราชทินนามเดิม จากสังฆราช วาสน์ วาสนมหาเถระ

ทั้งหมดนี้ก็ได้สมปรารถนา ประการที่ ๑ แล้วว่าจะต้องบวชอย่างน้อย ๓ พรรษา
ขอบคุณเจ้าของกระทู้http://www.watkositaram.com/forum/index.php?topic=7976.0 สำหรับข้อมูลครับ

พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...

อื่นๆ...

กำหลังโหลด Comments
Top