พระผงพุทธชินราช หลวงพ่อหม่น วัดคลองสิบสอง ปทุมธานี เด่นดังทางเมตตามหานิยม แคล้วคลาดและคงกะพัน-สมนึก - webpra

เว็บ-พระ ประมูลพระเครื่อง ร้านค้าพระเครื่องออนไลน์

สมนึก

Tel / ID Line : 0895008566

หมวด พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน ก่อนปี 2525

พระผงพุทธชินราช หลวงพ่อหม่น วัดคลองสิบสอง ปทุมธานี เด่นดังทางเมตตามหานิยม แคล้วคลาดและคงกะพัน

ชื่อร้านค้า	สมนึก - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	สมนึก (20)
ชื่อพระเครื่อง	พระผงพุทธชินราช หลวงพ่อหม่น วัดคลองสิบสอง ปทุมธานี เด่นดังทางเมตตามหานิยม แคล้วคลาดและคงกะพัน
อายุพระเครื่อง	104 ปี
หมวดพระ	พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน ก่อนปี 2525
ราคาเช่า	999,999 บาท
เบอร์โทรติดต่อ	โทร.089-500-8566 / ID Line : 0895008566
อีเมล์ติดต่อ	jinn.jinn@hotmail.com
LINE	(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	พฤ. - 10 ต.ค. 2562 - 20:31.09
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	ศ. - 20 ต.ค. 2566 - 13:13.58

รายละเอียด
....หลวงพ่อหม่น คลอง 12 รังสิต ปทุมธานี เป็นเกจิที่โด่งดังในย่านรังสิตในสมัย พ.ศ. 2448-2473 เนื่องจากเป็นทั้งพระหมอยา และพระขมังเวทย์ ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ชาวบ้านในย่านรังสิตในสมัยนั้น ให้ความเคารพนับถือดุจดังเทพเจ้า ....ปัจจุบันพระรูปเหมือนหล่อ หลวงพ่อหม่น ที่วัดถูกชาวบ้านปิดทอง จนไม่เห็นเนื้อองค์พระเดิม เป็นเครื่องยันยัน ในแรงศรัทธาที่ชาวบ้านมีต่อ หลวงพ่อหม่น พระเครื่องที่หลวงพ่อหม่นสร้าง อาทิเช่น เหรียญหล่อพุทธชินราช พระสมเด็จหนังควายเผือก พระผงพุทธชินราช พระผงพิมพ์สมเด็จขัดสมาธิเพชร 7 ชั้น ....สำหรับพระผงพุทธชินราชมีด้วยกัน 3 แบบ คือ 1.พิมพ์เล็ก เป็นพิมพ์สี่เหลี่ยมผืนผ้า ขอบยกสูง ตรงกลางเป็นรูปพระพุทธปางขัดสมาธิเพชร ประทับนั่งบนอาสนะบัวคว่ำบัวหงาย คล้ายเลขสามอารบิควางสลับกัน อยู่ภายในซุ้มเรือนแก้ว มีครอบแก้วอยู่ด้านนอก มี 2 เนื้อ เนื้อขาวจะใหญ่กว่าเนื้อแดง เนื้อแดงผสมว่านสบู่เลือด จึงหดตัวเล็กกว่าเนื้อขาว 2. พิมพ์ใหญ่แบบที่หนึ่ง พระบาทซ้ายขวาขององค์พระขัดกันไม่เด่นชัด ยอดซุ้มเรือนแก้วภายในเป็นอุนาโลม เส้นตัดฐานบัวเป็นเส้นตรง พระหัตถ์ทั้งสองไม่จดกัน พิมพ์นี้มีแต่เนื้อแดง 3. พิมพ์ใหญ่แบบที่สอง การวางวงแขนเป็นลักษณะสี่เหลี่ยม พระบาทเป็นแบบสมาธิราบ อาสนะเป็นแบบบัวคว่ำบัวหงาย แกะเป็นเส้นพริ้วอ่อนช้อยงดงาม เฉพาะพิมพ์นี้ตัดเป็นสองแบบ คือตัดสี่เหลี่ยม กับตัดเป็นห้าเหลี่ยมตามเส้นซุ้มเรือนแก้ว เนื้อขาวแกร่ง เส้นยกขอบบาง ไม่หนาเหมือนแบบอื่น ๆ ส่วนด้านหลังองค์พระ จะมีอักขระเลขยันต์หลายแบบ บ้างก็ระบุ พ.ศ.2463 ของปีที่สร้างพระ บ้างก็ลงเลขยันต์ต่าง ๆ หลายแบบ ....แต่จะมีใครรู้บ้างว่า พระเนื้อผงชินราชในซุ้มเรือนแก้วพิมพ์ต่าง ๆ ซึ่งสร้างในปี 2463 นั้น แท้จริงใครสร้างกันแน่ระหว่าง หลวงพ่อพัน วัดคลองเก้า หรือ หลวงพ่อหม่น วัดคลอง 12 แต่ที่แน่ ๆ เป็นพระสองคลองที่สร้าง และปลุกเสกโดยวิทยาคม ของหลวงพ่อทั้งสองวัดอย่างแน่นอน มาศึกษาประวัติการสร้างดูครับ ....หลวงพ่อหม่น วัดคลอง 12 เดิมทีเป็นชาวบ้านบางใหญ่ จ.นนทบุรี มีครอบครัวมีลูกเมียแล้ว ต่อมาย้ายไปอยู่ คลอง 12 รังสิต ปทุมธานี ....ส่วนหลวงพ่อพัน วัดคลอง 9 ปัจจุบันคือวัดสุวรรณราชบำรุง ซึ่งเป็นวัดที่ห่างจากวัดคลอง 12 ไป สามคลอง เดิมก็เป็นชาวบ้านบางมด จ.ธนบุรี ....หลวงพ่อหม่น สมัยยังหนุ่มแน่นยังไม่ได้บวชเป็นพระ ได้ไปร่วมงานบวชนาคของหนุ่มเพื่อนบ้าน ปรากฏว่าในคืนวันขานนาค เจ้านาคเกิดไม่สบาย ล้มฟุบขาดใจตายต่อหน้าแขกเหรื่อ ที่มาร่วมงาน ชาวบ้านต่างลงความเห็นว่าถูกยาสั่ง เพราะเนื้อตัวและเล็บเขียวไปหมด ยังความโศกเศร้า ให้กับพ่อแม่ของเจ้านาคเป็นอย่างยิ่ง แต่เพื่อให้การบวชเป็นไปตามความตั้งใจเดิม พ่อแม่ของเจ้านาคที่ตายไป ได้ขอร้องให้นายหม่น บวชแทน ซึ่งนายหม่นก็ไม่ขัดข้อง และได้เข้าพิธีขานนาคอุปสมบท เป็นพระจำวัดที่วัดคลอง 12 หรือชื่อทางการว่า “วัดพระยาปลา” หรือปัจจุบันนี้ เปลี่ยนชื่อเป็น “วัดนารีราชประดิษฐ์” ปรากฏว่าเมื่อพระหม่นได้บวชเรียนแล้ว เกิดติดใจในรสพระธรรม เลยบวชยาวไม่ยอมสึก และได้ศึกษาตำหรับตำราแพทย์ แผนโบราณ ว่านยา นวดน้ำมัน รักษาชาวบ้านที่เจ็บป่วย เป็นที่เคารพเหมือนดังเทพเจ้าของชาวบ้านแถบคลองรังสิต ตั้งแต่คลอง 1 ยัน คลอง 16 ....ชื่อเสียงของหลวงพ่อหม่น ในสมัยนั้น เป็นที่เรื่องลือยิ่งนัก แม้กระทั่งพระผง พวกหนุ่ม ๆ ในสมัยนั้นก็ขูดเอาผง ผสมให้สาวกิน และเชื่อกันว่าสาว ๆ เมื่อกินแล้วจะหอบผ้าหอบผ่อน ตามมาอยู่กับเจ้าหนุ่มทันที ....ทั้งหลวงพ่อหม่นวัดคลอง 12 และหลวงพ่อพัน วัดคลอง 9 ต่างก็เป็นสหายสนิท พายเรือไปมาหาสู่แลกเปลี่ยนสนทนาธรรมกันเป็นประจำ แต่ทั้งสองหลวงพ่อ ต่างก็มีความชอบไม่เหมือนกัน เมื่อใดก็ตาม ที่ทั้งสองหลวงพ่อไปเดินธุดงค์ในป่าด้วยกัน ....หลวงพ่อหม่น ก็จะเสาะหาและเก็บแต่สมุนไพรยา เพื่อนำกลับวัด ไปใช้สำหรับปรุงยารักษาชาวบ้าน ....ส่วนหลวงพ่อพัน จะเสาะหาแต่หัวว่าน ซึ่งท่านมีความเชี่ยวชาญว่า ว่านชนิดไหนใช้ในทางเสน่ห์ เมตตามหานิยม หรืออยู่ยงคงกะพัน หรือว่านชนิดไหน ใช้แก้พิษ หรือมีพิษถึงตาย หรือใช้ทำหรือแก้ยาสั่ง ก็จะเก็บนำกลับไปปลูก ที่วัดคลองเก้า การปลูกว่านเพื่อให้มีฤทธิ์ก็ต้องดูฤกษ์ยาม เมื่อขุดดินลงหัวปลูกว่าน ใต้ว่านก็ต้องรองด้วยแผ่นยันต์ทองแดงที่จารเลขยันต์ ส่วนน้ำที่ใช้รดต้นว่าน ก็ต้องเป็นน้ำมนต์ที่ปลุกเสกเพื่อการนี้โดยเฉพาะ และปลูกพญาว่านล้อมรอบ บริเวณที่ปลูกว่านเพื่อให้พญาว่าน ควบคุมให้ว่านทั้งหลายที่ปลูกไว้ คงฤทธิ์เดชตามที่ต้องการ เมื่อหัวว่านแก่เต็มที่ จะทำการกู้หัวว่านก็ต้องดูฤกษ์ยาม มิใช่จะขุดขึ้นมาตามใจได้ ....เมื่อได้ปริมาณหัวว่านเพียงพอ ก็จะนำมาบดผสมกับผงวิเศษ ที่หลวงพ่อหม่น และหลวงพ่อพันช่วยกันลบถมไว้แล้ว นำไปกดพิมพ์เป็นพระผงชินราช ในพิมพ์ต่าง ๆ ซึ่งมีทั้งเนื้อขาว และเนื้อแดง พิมพ์ที่เป็นเนื้อสีแดงเป็นเพราะใช้ว่านสบู่เลือดผสม ....เมื่อได้พระพิมพ์จำนวนที่ต้องการแล้ว หลวงพ่อพัน ก็เอาพระทั้งหมดใส่เรือพายจากวัดคลอง 9 ไปหาหลวงพ่อหม่นที่วัดคลอง 12 แล้วช่วยกันปลุกเสก เมื่อเสร็จพิธีแล้ว หลวงพ่อพัน ก็แบ่งพระไว้จำนวนหนึ่ง นำกลับไปแจกที่วัดคลอง 9 ส่วนที่เหลือทั้งหมด ก็ยกให้หลวงพ่อหม่น เอาไว้แจกชาวบ้านที่วัดคลอง 12 จริง ๆ แล้วจะเห็นได้ว่า เป็นพระที่ทั้งสองหลวงพ่อ ช่วยกันสร้าง และปลุกเสก แต่เนื่องจากหลวงพ่อหม่น มีชื่อเสียงโด่งดังกว่า หลวงพ่อพันจึงถูกเหมาเรียก เป็นพระหลวงพ่อหม่น คลอง 12 มาตั้งแต่ยุคนั้น ....จะเห็นได้ว่า พระผงชินราชของหลวงพ่อหม่นน่าใช้เป็นอย่างยิ่ง จากความขลังในการสร้าง ตั้งแต่การลบถมผงวิเศษ เพื่อนำมาใช้ผสมกับเนื้อว่าน ทำองค์พระ การปลูกว่าน การกู้ว่านตามฤกษ์ยาม การรดน้ำว่านด้วยน้ำมนต์ เพื่อให้ได้หัวว่านที่ทรงฤทธิ์ เพื่อนำมาบดผสมกับผงวิเศษ เพื่อทำองค์พระ ล้วนแต่มีความขลังอลังการในตัวเองเป็นอย่างยิ่ง ส่วนพุทธคุณ เด่นดังทางเมตตามหานิยม แคล้วคลาดและคงกะพัน ขอขอบคุณข้อมูล http://forum.uamulet.com/view_topic.aspx?bid=10&qid=35284 ******************************************************************************************************************************************** สวยสมบูรณ์ เจ้าของบ้านเก็บไว้อย่างดี เก็บพระแท้ไว้ มีแต่กำไรครับ รับประกันพระแท้ตลอดชีพ

รายละเอียด

....หลวงพ่อหม่น คลอง 12 รังสิต ปทุมธานี เป็นเกจิที่โด่งดังในย่านรังสิตในสมัย พ.ศ. 2448-2473 เนื่องจากเป็นทั้งพระหมอยา และพระขมังเวทย์

ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ชาวบ้านในย่านรังสิตในสมัยนั้น ให้ความเคารพนับถือดุจดังเทพเจ้า

....ปัจจุบันพระรูปเหมือนหล่อ หลวงพ่อหม่น ที่วัดถูกชาวบ้านปิดทอง จนไม่เห็นเนื้อองค์พระเดิม เป็นเครื่องยันยัน ในแรงศรัทธาที่ชาวบ้านมีต่อ

หลวงพ่อหม่น พระเครื่องที่หลวงพ่อหม่นสร้าง อาทิเช่น

เหรียญหล่อพุทธชินราช

พระสมเด็จหนังควายเผือก

พระผงพุทธชินราช

พระผงพิมพ์สมเด็จขัดสมาธิเพชร 7 ชั้น

....สำหรับพระผงพุทธชินราชมีด้วยกัน 3 แบบ คือ

1.พิมพ์เล็ก เป็นพิมพ์สี่เหลี่ยมผืนผ้า ขอบยกสูง ตรงกลางเป็นรูปพระพุทธปางขัดสมาธิเพชร ประทับนั่งบนอาสนะบัวคว่ำบัวหงาย

คล้ายเลขสามอารบิควางสลับกัน อยู่ภายในซุ้มเรือนแก้ว มีครอบแก้วอยู่ด้านนอก มี 2 เนื้อ เนื้อขาวจะใหญ่กว่าเนื้อแดง

เนื้อแดงผสมว่านสบู่เลือด จึงหดตัวเล็กกว่าเนื้อขาว

2. พิมพ์ใหญ่แบบที่หนึ่ง พระบาทซ้ายขวาขององค์พระขัดกันไม่เด่นชัด ยอดซุ้มเรือนแก้วภายในเป็นอุนาโลม เส้นตัดฐานบัวเป็นเส้นตรง

พระหัตถ์ทั้งสองไม่จดกัน พิมพ์นี้มีแต่เนื้อแดง

3. พิมพ์ใหญ่แบบที่สอง การวางวงแขนเป็นลักษณะสี่เหลี่ยม พระบาทเป็นแบบสมาธิราบ อาสนะเป็นแบบบัวคว่ำบัวหงาย

แกะเป็นเส้นพริ้วอ่อนช้อยงดงาม เฉพาะพิมพ์นี้ตัดเป็นสองแบบ คือตัดสี่เหลี่ยม กับตัดเป็นห้าเหลี่ยมตามเส้นซุ้มเรือนแก้ว

เนื้อขาวแกร่ง เส้นยกขอบบาง ไม่หนาเหมือนแบบอื่น ๆ

ส่วนด้านหลังองค์พระ จะมีอักขระเลขยันต์หลายแบบ บ้างก็ระบุ พ.ศ.2463 ของปีที่สร้างพระ บ้างก็ลงเลขยันต์ต่าง ๆ หลายแบบ

....แต่จะมีใครรู้บ้างว่า พระเนื้อผงชินราชในซุ้มเรือนแก้วพิมพ์ต่าง ๆ ซึ่งสร้างในปี 2463 นั้น แท้จริงใครสร้างกันแน่ระหว่าง หลวงพ่อพัน วัดคลองเก้า

หรือ หลวงพ่อหม่น วัดคลอง 12 แต่ที่แน่ ๆ เป็นพระสองคลองที่สร้าง และปลุกเสกโดยวิทยาคม ของหลวงพ่อทั้งสองวัดอย่างแน่นอน

มาศึกษาประวัติการสร้างดูครับ

....หลวงพ่อหม่น วัดคลอง 12 เดิมทีเป็นชาวบ้านบางใหญ่ จ.นนทบุรี มีครอบครัวมีลูกเมียแล้ว ต่อมาย้ายไปอยู่ คลอง 12 รังสิต ปทุมธานี

....ส่วนหลวงพ่อพัน วัดคลอง 9 ปัจจุบันคือวัดสุวรรณราชบำรุง ซึ่งเป็นวัดที่ห่างจากวัดคลอง 12 ไป สามคลอง เดิมก็เป็นชาวบ้านบางมด จ.ธนบุรี

....หลวงพ่อหม่น สมัยยังหนุ่มแน่นยังไม่ได้บวชเป็นพระ ได้ไปร่วมงานบวชนาคของหนุ่มเพื่อนบ้าน ปรากฏว่าในคืนวันขานนาค

เจ้านาคเกิดไม่สบาย ล้มฟุบขาดใจตายต่อหน้าแขกเหรื่อ ที่มาร่วมงาน ชาวบ้านต่างลงความเห็นว่าถูกยาสั่ง เพราะเนื้อตัวและเล็บเขียวไปหมด

ยังความโศกเศร้า ให้กับพ่อแม่ของเจ้านาคเป็นอย่างยิ่ง แต่เพื่อให้การบวชเป็นไปตามความตั้งใจเดิม พ่อแม่ของเจ้านาคที่ตายไป ได้ขอร้องให้นายหม่น

บวชแทน ซึ่งนายหม่นก็ไม่ขัดข้อง และได้เข้าพิธีขานนาคอุปสมบท เป็นพระจำวัดที่วัดคลอง 12 หรือชื่อทางการว่า “วัดพระยาปลา” หรือปัจจุบันนี้

เปลี่ยนชื่อเป็น “วัดนารีราชประดิษฐ์” ปรากฏว่าเมื่อพระหม่นได้บวชเรียนแล้ว เกิดติดใจในรสพระธรรม เลยบวชยาวไม่ยอมสึก และได้ศึกษาตำหรับตำราแพทย์

แผนโบราณ ว่านยา นวดน้ำมัน รักษาชาวบ้านที่เจ็บป่วย เป็นที่เคารพเหมือนดังเทพเจ้าของชาวบ้านแถบคลองรังสิต ตั้งแต่คลอง 1 ยัน คลอง 16

....ชื่อเสียงของหลวงพ่อหม่น ในสมัยนั้น เป็นที่เรื่องลือยิ่งนัก แม้กระทั่งพระผง พวกหนุ่ม ๆ ในสมัยนั้นก็ขูดเอาผง ผสมให้สาวกิน และเชื่อกันว่าสาว ๆ

เมื่อกินแล้วจะหอบผ้าหอบผ่อน ตามมาอยู่กับเจ้าหนุ่มทันที

....ทั้งหลวงพ่อหม่นวัดคลอง 12 และหลวงพ่อพัน วัดคลอง 9 ต่างก็เป็นสหายสนิท พายเรือไปมาหาสู่แลกเปลี่ยนสนทนาธรรมกันเป็นประจำ

แต่ทั้งสองหลวงพ่อ ต่างก็มีความชอบไม่เหมือนกัน เมื่อใดก็ตาม ที่ทั้งสองหลวงพ่อไปเดินธุดงค์ในป่าด้วยกัน

....หลวงพ่อหม่น ก็จะเสาะหาและเก็บแต่สมุนไพรยา เพื่อนำกลับวัด ไปใช้สำหรับปรุงยารักษาชาวบ้าน

....ส่วนหลวงพ่อพัน จะเสาะหาแต่หัวว่าน ซึ่งท่านมีความเชี่ยวชาญว่า ว่านชนิดไหนใช้ในทางเสน่ห์ เมตตามหานิยม หรืออยู่ยงคงกะพัน

หรือว่านชนิดไหน ใช้แก้พิษ หรือมีพิษถึงตาย หรือใช้ทำหรือแก้ยาสั่ง ก็จะเก็บนำกลับไปปลูก ที่วัดคลองเก้า การปลูกว่านเพื่อให้มีฤทธิ์ก็ต้องดูฤกษ์ยาม

เมื่อขุดดินลงหัวปลูกว่าน ใต้ว่านก็ต้องรองด้วยแผ่นยันต์ทองแดงที่จารเลขยันต์ ส่วนน้ำที่ใช้รดต้นว่าน ก็ต้องเป็นน้ำมนต์ที่ปลุกเสกเพื่อการนี้โดยเฉพาะ

และปลูกพญาว่านล้อมรอบ บริเวณที่ปลูกว่านเพื่อให้พญาว่าน ควบคุมให้ว่านทั้งหลายที่ปลูกไว้ คงฤทธิ์เดชตามที่ต้องการ เมื่อหัวว่านแก่เต็มที่

จะทำการกู้หัวว่านก็ต้องดูฤกษ์ยาม มิใช่จะขุดขึ้นมาตามใจได้

....เมื่อได้ปริมาณหัวว่านเพียงพอ ก็จะนำมาบดผสมกับผงวิเศษ ที่หลวงพ่อหม่น และหลวงพ่อพันช่วยกันลบถมไว้แล้ว นำไปกดพิมพ์เป็นพระผงชินราช

ในพิมพ์ต่าง ๆ ซึ่งมีทั้งเนื้อขาว และเนื้อแดง พิมพ์ที่เป็นเนื้อสีแดงเป็นเพราะใช้ว่านสบู่เลือดผสม

....เมื่อได้พระพิมพ์จำนวนที่ต้องการแล้ว หลวงพ่อพัน ก็เอาพระทั้งหมดใส่เรือพายจากวัดคลอง 9 ไปหาหลวงพ่อหม่นที่วัดคลอง 12 แล้วช่วยกันปลุกเสก

เมื่อเสร็จพิธีแล้ว หลวงพ่อพัน ก็แบ่งพระไว้จำนวนหนึ่ง นำกลับไปแจกที่วัดคลอง 9 ส่วนที่เหลือทั้งหมด ก็ยกให้หลวงพ่อหม่น เอาไว้แจกชาวบ้านที่วัดคลอง 12

จริง ๆ แล้วจะเห็นได้ว่า เป็นพระที่ทั้งสองหลวงพ่อ ช่วยกันสร้าง และปลุกเสก แต่เนื่องจากหลวงพ่อหม่น มีชื่อเสียงโด่งดังกว่า หลวงพ่อพันจึงถูกเหมาเรียก

เป็นพระหลวงพ่อหม่น คลอง 12 มาตั้งแต่ยุคนั้น

....จะเห็นได้ว่า พระผงชินราชของหลวงพ่อหม่นน่าใช้เป็นอย่างยิ่ง จากความขลังในการสร้าง ตั้งแต่การลบถมผงวิเศษ เพื่อนำมาใช้ผสมกับเนื้อว่าน

ทำองค์พระ การปลูกว่าน การกู้ว่านตามฤกษ์ยาม การรดน้ำว่านด้วยน้ำมนต์ เพื่อให้ได้หัวว่านที่ทรงฤทธิ์ เพื่อนำมาบดผสมกับผงวิเศษ เพื่อทำองค์พระ

ล้วนแต่มีความขลังอลังการในตัวเองเป็นอย่างยิ่ง

ส่วนพุทธคุณ เด่นดังทางเมตตามหานิยม แคล้วคลาดและคงกะพัน

ขอขอบคุณข้อมูล http://forum.uamulet.com/view_topic.aspx?bid=10&qid=35284

********************************************************************************************************************************************
สวยสมบูรณ์ เจ้าของบ้านเก็บไว้อย่างดี

เก็บพระแท้ไว้ มีแต่กำไรครับ

รับประกันพระแท้ตลอดชีพ