หมวด พระเกจิภาคใต้
เหรียญ หลวงพ่อดำ นนทิโย วัดตุยง จังหวัดปัตตานี
| ชื่อร้านค้า | ชมรมพระเครื่องเมืองศิลา - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
|---|---|
| ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
| ชื่อพระเครื่อง | เหรียญ หลวงพ่อดำ นนทิโย วัดตุยง จังหวัดปัตตานี |
| อายุพระเครื่อง | - |
| หมวดพระ | พระเกจิภาคใต้ |
| ราคาเช่า | 650 บาท |
| เบอร์โทรติดต่อ | 087 - 2474346 |
| อีเมล์ติดต่อ | Hell_boy_123456@hotmail.com |
| สถานะ |
|
| เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | อา. - 10 ก.พ. 2556 - 16:56.49 |
| แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | ส. - 02 มี.ค. 2556 - 22:16.41 |
| รายละเอียด | |
|---|---|
| เหรียญรุ่นที่ 2 พิมพ์พัดยศ พระราชพุทธิรังษี(หลวงพ่อดำ นนทิโย)วัดมุจลินทวาปีวิหาร(ตุยง)อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เนื้อทองแดงรมดำ สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2522 สภาพสวยเดิม ๆ (องค์จริงสวยกว่าในภาพ) สุดยอดประสบการณ์จากแดนใต้ องค์นี้สวยเดิม ๆ จ้า เรื่องพุทธคุณครอบจักรวาลไม่ต้องโม้ให้เสียเวลาจ้า สำหรับท่านที่กำลังมองหาวัตถุมงคลดีราคาย่อมเยา เรามีวัตถุมงคลหลายรายการไว้บริการท่าน ตามลิงค์นี้เลยจ้า http://www.web-pra.com/Shop/silalad ประวัติพระราชพุทธิรังษี วัดมุจลินทวาปีวิหาร เดิมชื่อ ดำ จันทรักษ์ เกิดเมื่อวันเสาร์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ ปีมะเมีย ตรงกับวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๓ บิดาชื่อ หลวงจรานุรักษ์เขตร (พลับ จันทรักษ์) มารดาชื่อ นางพ่วนเหนี่ยว จันทรักษ์ อยู่บ้านนาทับ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา มีพี่น้อง ๖ คนวัยเด็กเรียนหนังสือไทยกับบิดาที่บ้าน จนอ่านออกเขียนได้ อายุ ๑๙ ปีได้บรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดนาทับ และได้ลาสิกขาบทเพราะอาพาธ อายุได้ ๒๒ ปีอุปสมบทที่วัดนาทับ เมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๔๕๘ มีฉายานามว่า "นนทิยมาโน" อุปสมบทได้ครบ ๕ พรรษา ท่านได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อศึกษาภาษาบาลีและนักธรรมให้สูง ๆ ขึ้น ได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรมหลวงสิริวัฒน์ (หม่อมเจ้าภุชงค์) สมเด็จพระสังฆราชเจ้าฯ ได้ทรงเปลี่ยนนามฉายาใหม่ว่า "นนทิโย" ได้ศึกษานักธรรมและภาษาบาลีที่วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏิ์ เป็นเวลา ๓ ปี กลับมาจำพรรษาที่วัดมุจลินทวาปีวิหาร อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๗๖ และเป็นฐานานุกรมที่พระใบฎีกาของพระครูพิบูลย์สมณวัตร (ชุม จนทสุวณโณ) เจ้าคณะเมืองหนองจิก พ.ศ. ๒๔๖๙ เป็นฐานานุกรมที่พระปลัดของพระครูพิบูลย์สมณวัตร (ชุม จนทสุวณโณ) พ.ศ. ๒๔๗๖ พระเทพญาณเมธี เจ้าคณะจังหวัดปัตตานี ได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าคณะแขวงตุยง พ.ศ. ๒๔๗๗ พระญาณโมลี เจ้าคณะจังหวัดปัตตานี ได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะหมวดตุยง พ.ศ. ๒๔๗๙ ได้รับคำสั่งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้รักษาการในตำแหน่งคณะแขวงหนองจิก พ.ศ. ๒๔๘๑ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะแขวงเมืองปัตตานี พ.ศ. ๒๔๘๒ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ที่ พระครูมานิตสมณวัตร พ.ศ. ๒๔๙๑ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นเอก และได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ประเภทวิสามัญ พ.ศ. ๒๔๙๕ ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้รักษาการในตำแหน่งสาธารณูปการ จังหวัดปัตตานีและได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่พระมุ จลินทโมลี พ.ศ.๒๕๑๕ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดปัตตานี พ.ศ.๒๕๑๖ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์จากพระราชาชั้นสามัญ เป็น พระราชาคณะชั้นราชที่ "พระพุทธิรังษี" พ.ศ. ๒๕๒๒ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสพระอารามหลวง ท่านมรณภาพ เมื่อวันที่ ๒๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๖ เวลา ๒๓.๑๐ น. สิริรวมอายุได้ ๙๘ ปี ๑๐ เดือน ๑๔ วัน มีพรรษา ๖๘ พรรษา ผลงานหรือเกียรติคุณที่ได้รับ ๑. บูรณะปฏิสังขรณ์วัดในอำเภอหนองจิก ๓ วัด คือ วัดสุวรรณากร วัดสุนันทาราม และวัดโคกตา ๒. นำเอาวิปัสสนากรรมฐานมาสอนในวัดมุจลินทวาปีวิหาร เป็นแห่งแรกของจังหวัดปัตตานี ๓. เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม วัดมุจลินทวาปีวิหาร ๔. เป็นกรรมการตรวจธรรมสนามหลวง ๕. จัดเปิดโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ๖. ตัดตั้งมูลนิธิโมลีธรรมพินิต เพื่อนำเอาดอกผลมาใช้เพื่อการศึกษาของพระภิกษุสามเณร ประวัติวัดมุจลินทวาปีวิหาร (วัดตุยง) สภาพฐานะและที่ตั้งวัด วัดมุจลินทวาปีหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ตั้งอยู่เลขที่ 10 ตำบลตุยง อำเภอหนองจิก จังหวัด ปัตตานี อาณาเขต ติดต่อที่ดินที่มีการครอบครองทางสาธารณประโยชน์ รอบอาณาเขตบริเวณวัด ทั้งทางด้านทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ลักษณะพื้นที่โดยทั่วไป เป็นพื้นที่ ดินปนทราย มีต้นไม้ขึ้นเรียงรายร่มรื่นสมเป็นพระอารามหลวง วัดอยู่ห่างจากถนนสายปัตตานี-โคกโพธิ์ ประมาณ 4 เส้น ห่างจากทะเลประมาณ 2 กิโลเมตร เนื้อที่ เนื้อที่ตั้งวัดมีทั้งสิ้น 35 ไร่ 3 งาน 82 ตารางวา ที่ธรณีสงฆ์ มี 2 แปลงแปลงที่ 1 อยู่ที่ตำบลตุยง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี แปลงที่ 2 อยู่ที่ ตำบลลิปะสะโง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เนื้อที่ 58 ไร่ 2 งาน 60 ตารางวา ความเป็นมา เมื่อ พ.ศ. 2338 เจ้าพระยาพลเทพฯ แม่ทัพใหญ่ ขอพระบรมราชานุญาตแบ่งเมืองปัตตานีออกเป็น 7 หัวเมือง คือ เมืองตานี เมืองสาย เมืองยะลา เมืองรามันห์ เมืองยะหริ่ง เมืองระแงะและเมืองหนองจิก เพื่อสะดวกต่อการปกครอง โดยมีพระยาวิเชียรคีรี (เถี้ยนเส้ง) เป็นผู้ควบคุมหัวเมืองทั้ง 7 พ.ศ. 2388 พระยาวิเชียรภักดีศรีสงคราม (เกลี้ยง) ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นเจ้าเมืองหนองจิก และได้อพยพครอบครัวคนไทยมาจำนวนหนึ่ง พร้อมกันนี้ได้นิมนต์พระจารย์พรหม ธมฺมสโร ซึ่งเป็นพระจารย์ของท่านสมัยอยู่ยะหริ่งมาจำพรรษาที่ ศาลาพักสงฆ์ท่ายะลอ |
พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...
อื่นๆ...
กำหลังโหลด Comments
