เหรียญเสมา หลวงปู่ทวด พ่อท่านหวาน วัดสะบ้าย้อย สงขลา (G19)-ส.พระเครื่อง - webpra

เว็บ-พระ ประมูลพระเครื่อง ร้านค้าพระเครื่องออนไลน์

ส.พระเครื่อง

ข้อมูลธนาคาร ธ.ไทยพานิชย์ ออมทรัพย์ 044 241 9815 สาขาหัวหมาก บัญชี นาย ศุภชัย สุทธิเจริญ..

หมวด เหรียญปั๊ม ปี 2541 ถึง ปัจจุบัน

เหรียญเสมา หลวงปู่ทวด พ่อท่านหวาน วัดสะบ้าย้อย สงขลา (G19)

เหรียญเสมา หลวงปู่ทวด พ่อท่านหวาน วัดสะบ้าย้อย สงขลา (G19) - 3

เหรียญเสมา หลวงปู่ทวด พ่อท่านหวาน วัดสะบ้าย้อย สงขลา (G19) - 4

ชื่อร้านค้า	ส.พระเครื่อง - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	khunphan (6)
ชื่อพระเครื่อง	เหรียญเสมา หลวงปู่ทวด พ่อท่านหวาน วัดสะบ้าย้อย สงขลา (G19)
อายุพระเครื่อง	15 ปี
หมวดพระ	เหรียญปั๊ม ปี 2541 ถึง ปัจจุบัน
ราคาเช่า	300 บาท
เบอร์โทรติดต่อ	0909892466 / Line ID : chaiyo9150
อีเมล์ติดต่อ	suphachaiyo@hotmail.com
LINE	(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	พฤ. - 14 ก.ย. 2566 - 19:05.30
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	พฤ. - 14 ก.ย. 2566 - 19:05.30

รายละเอียด
เหรียญเสมา หลวงปู่ทวด พ่อท่านหวาน วัดสะบ้าย้อย สงขลา รุ่นฉลองอายุ 92 ปี พระครูไพบูลย์สิกขาการ หรือ หลวงปู่หวาน อภโย “ พระครูไพบูลย์สิกขการ” หรือ พ่อท่านหวาน อภโย เจ้าอาวาสวัดสะบ้าย้อย ถือเป็นหนึ่งในพระคณาจารย์ที่ร่วมพิธีสร้างพระหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน ปี ๒๔๙๗ และยังเป็นสหมิกธรรมของ “ พระครูวิสัยโสภณ” หรือ “พระอาจารย์ทิม” แห่งวัดช้างให้ ปัจจุบันเป็นเจ้าอาวาสวัดสะบ้าย้อยที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา อายุ ๙๓ ปี พรรษา ๗๓ (พ.ศ.๒๕๕๔) เดิมชื่อหวาน เดชพุฒ เกิดที่บ้านปลักโพธิ์ ต.บางโกระ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เมื่อวันเสาร์ขึ้น ๕ ค่ำเดือน ๑๐ ปีมะเมีย ตรงกับวันเสาร์ที่ ๑๓ กันยายน พ.ศ. ๒๔๖๑ จากโยมบิดา นายแก้ว เดชพุฒ โยมมารดา นางจันทร์ เดชพุฒ เมื่อ ๒ กรกฏาคม พ.ศ. ๒๔๘๑ เข้าบรรพชาอุปสมบท ณ วัดมะเดื่อทอง ต.โคกโพธิ์ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี มีพระครูมนัสสมณคุณ เป็นพระอุปัชฌายาจารย์ พระอธิการแดง สุนทโร เป็นพระกรรมวาจารย์ พระชุม เกสฺสโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ๒. วิทยฐานะ สำเร็จชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนวัดมะเดื่อทอง ต.บางโกระ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี นักธรรมชั้นโท สำนักเรียนวัดมะเดื่อทอง ต.บางโกระ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ๓. สมณศักดิ์และการปกครอง หลังจากสอบได้นักธรรมชั้นตรี ก็ได้ช่วยเหลือเจ้าอาวาสในการสอบนักธรรม แก่พระภิกษุสามเณรบวชใหม่ และเป็นผู้ช่วยเหลือในการสร้างอุโบสถ วัดมะเดื่อทอง จนสำเร็จ พร้อมกันนี้ได้สร้างกุฏิเจ้าอาวาส และกุฏิสงฆ์ จำนวน ๒ หลัง ต่อมาได้ย้ายสังกัดไปรักษาการตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดคลองยอ ต.วังใหญ่ อ.เทพา จ.สงขลา เมื่อวันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๔๙๓ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการศึกษาคณะสงฆ์ อ.เทพา-สะบ้าย้อย ได้เลื่อนสมณศักดิ์ชั้นตรีเป็น พระครูไพบูลย์สิกขาการ เมื่อ พ.ศ.๒๕๐๐ ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อ พ.ศ.๒๕๐๓ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอสะบ้าย้อย กระทั่ง พ.ศ.๒๕๒๐ ได้เดินทางมาจำพรรษา ณ วัดสะบ้าย้อย หลังจากอดีตเจ้าอาวาสวัดสะบ้าย้อย คือ พระใบฏีกาจ้วน สุปญฺโญ ได้อาพาธและมรณภาพ เมื่อวันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๒๐ ต่อมาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดสะบ้าย้อย เมื่อวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๒๑ ปฏิบัติหน้าที่เจ้าคณะอำเภอสะบ้าย้อยตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา พ.ศ.๒๔๙๓ รักษาการเจ้าอาวาสวัดคลองยอ ต.วังใหญ่ อ.เทพา จ.สงขลา พ.ศ.๒๔๙๔ เจ้าอาวาสวัดคลองยอ ต.วังใหญ่ อ.เทพา จ.สงขลา พ.ศ.๒๔๙๗ กรรมการศึกษาคณะสงฆ์อำเภอเทพา – สะบ้าย้อย พ.ศ.๒๕๐๓ ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.๒๕๒๐ รักษาการเจ้าอาวาสวัดสะบ้าย้อย พ.ศ.๒๕๒๐ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอสะบ้าย้อย พ.ศ.๒๕๒๑ เจ้าอาวาสวัดสะบ้าย้อย พ.ศ.๒๕๔๑ ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอสะบ้าย้อย “จะนะ เทพา นาทวีและสะบ้าย้อย”เป็น ๔ อำเภอของ จ.สงขลา ที่มีรอยต่อติดกับ ๓ จังหวัดชายแดนใต้ (ยะลา ปัตตานี นราธิวาส) ทำให้ตลอด ๖ ปีที่ผ่านมา พื้นที่ เหล่านี้หลีกเลี่ยงไม่พ้นจากการตกเป็นส่วนหนึ่งในการก่อเหตุการณ์ความรุนแรงของกลุ่มผู้ก่อการความไม่สงบ โดยเฉพาะ “ อ.สะบ้าย้อย” ปรากฏความรุนแรงมากที่สุด หากเทียบกับ ๓ อำเภอ ที่อยู่ใกล้เคียงกันหนึ่งในเหตุการณ์ที่สะเทือนความรู้สึกของสังคมมากที่สุด นั่นคือ “เหตุการณ์ ๑๙ ศพ ที่บ้านสุโสะ” ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันเดียวกับเหตุการณ์ “ มัสยิดหรือเซะเลือด” ที่จ.ปัตตานี เมื่อปี ๒๕๔๗ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ชาวบ้านจะตกอยู่ในสภาวะอกสั่นขวัญกระเจิงในทุกคราวที่ คนร้ายลงมือสร้างสถานการณ์ด้วยความรุนแรง แต่นับเป็นความโชคดีไม่น้อย สำหรับชาวสะบ้าย้อย โดยเฉพาะผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ เนื่องจากพื้นที่แห่งนี้ยังมี “ พระครูไพบูลย์สิกขการ” หรือ พ่อท่านหวานเจ้าอาวาสวัดสะบ้าย้อย พระผู้เป็นดั่งขวัญและกำลังใจในการดำรงชีวิตของชาวพุทธ ท่ามกลาง พ่อท่านหวานถือเป็นหนึ่งในพระคณาจารย์ที่ร่วมพิธีสร้างพระหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน ปี ๒๔๙๗ และยังเป็นสหมิกธรรมของ “ พระครูวิสัยโสภณ” หรือ “พระอาจารย์ทิม” แห่งวัดช้างให้ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจ หากพระภิกษุรูปนี้จะเป็นที่พึ่งพาและเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพุทธสะบ้าย้อยในยามนี้ ด้วยความที่เป็นพระที่ไม่ยึดติดกับวัตถุและใช้ชิวิตอย่างสมถะ สิ่งที่ชาวพุทธทุกคนที่ได้รับจากการมากราบเจ้าอาวาสวัดสะบ้าย้อยแห่งนี้ นั่นคือ “ ธรรมะ” เพื่อนำไปเป็น “หลักคิด” เพื่อ “ดำเนินชีวิต” อย่างรู้เท่าทันสถานการณ์ และไม่ตกเป็นเหยื่อความรุนแรงที่ผู้ไม่หวังดีก่อขึ้น อย่างไรก็ตาม นับแต่ พ่อท่านหวาน ได้เดินทางมาจำพรรษา ณ วัดสะบ้าย้อย ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๒๐ ถึงวันนี้ พ่อท่านหวานได้สร้างคุณูปการแก่ชาวสะบ้าย้อย และพัฒนาวัดให้มีความสวยงาม อีกทั้งยังสร้างถาวรวัตถุ และอาคารเสนาสนะต่างๆ มากมาย ทั้งอุโบสถ กุฏิสงฆ์ จำนวน ๗ หลัง หอระฆัง และหอฉัน แต่ในทางกลับกันเจ้าอาวาสกลับเลือกจำวัดอยู่ในกุฏิเก่าหลังเล็กๆ รายล้อมไปด้วยลูกสุนัข และแมวจำนวนมาก

รายละเอียด

เหรียญเสมา หลวงปู่ทวด พ่อท่านหวาน วัดสะบ้าย้อย สงขลา รุ่นฉลองอายุ 92 ปี

พระครูไพบูลย์สิกขาการ หรือ หลวงปู่หวาน อภโย “ พระครูไพบูลย์สิกขการ” หรือ พ่อท่านหวาน อภโย เจ้าอาวาสวัดสะบ้าย้อย

ถือเป็นหนึ่งในพระคณาจารย์ที่ร่วมพิธีสร้างพระหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน ปี ๒๔๙๗ และยังเป็นสหมิกธรรมของ “ พระครูวิสัยโสภณ” หรือ “พระอาจารย์ทิม” แห่งวัดช้างให้

ปัจจุบันเป็นเจ้าอาวาสวัดสะบ้าย้อยที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา อายุ ๙๓ ปี พรรษา ๗๓ (พ.ศ.๒๕๕๔) เดิมชื่อหวาน เดชพุฒ เกิดที่บ้านปลักโพธิ์ ต.บางโกระ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เมื่อวันเสาร์ขึ้น ๕ ค่ำเดือน ๑๐ ปีมะเมีย ตรงกับวันเสาร์ที่ ๑๓ กันยายน พ.ศ. ๒๔๖๑ จากโยมบิดา นายแก้ว เดชพุฒ โยมมารดา นางจันทร์ เดชพุฒ

เมื่อ ๒ กรกฏาคม พ.ศ. ๒๔๘๑ เข้าบรรพชาอุปสมบท ณ วัดมะเดื่อทอง ต.โคกโพธิ์ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี มีพระครูมนัสสมณคุณ เป็นพระอุปัชฌายาจารย์ พระอธิการแดง สุนทโร เป็นพระกรรมวาจารย์ พระชุม เกสฺสโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์

๒. วิทยฐานะ

สำเร็จชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนวัดมะเดื่อทอง ต.บางโกระ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี
นักธรรมชั้นโท สำนักเรียนวัดมะเดื่อทอง ต.บางโกระ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี

๓. สมณศักดิ์และการปกครอง

หลังจากสอบได้นักธรรมชั้นตรี ก็ได้ช่วยเหลือเจ้าอาวาสในการสอบนักธรรม แก่พระภิกษุสามเณรบวชใหม่ และเป็นผู้ช่วยเหลือในการสร้างอุโบสถ วัดมะเดื่อทอง จนสำเร็จ พร้อมกันนี้ได้สร้างกุฏิเจ้าอาวาส และกุฏิสงฆ์ จำนวน ๒ หลัง

ต่อมาได้ย้ายสังกัดไปรักษาการตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดคลองยอ ต.วังใหญ่ อ.เทพา จ.สงขลา เมื่อวันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๔๙๓ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการศึกษาคณะสงฆ์ อ.เทพา-สะบ้าย้อย ได้เลื่อนสมณศักดิ์ชั้นตรีเป็น พระครูไพบูลย์สิกขาการ เมื่อ พ.ศ.๒๕๐๐ ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อ พ.ศ.๒๕๐๓ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอสะบ้าย้อย

กระทั่ง พ.ศ.๒๕๒๐ ได้เดินทางมาจำพรรษา ณ วัดสะบ้าย้อย หลังจากอดีตเจ้าอาวาสวัดสะบ้าย้อย คือ พระใบฏีกาจ้วน สุปญฺโญ ได้อาพาธและมรณภาพ เมื่อวันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๒๐ ต่อมาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดสะบ้าย้อย เมื่อวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๒๑ ปฏิบัติหน้าที่เจ้าคณะอำเภอสะบ้าย้อยตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

พ.ศ.๒๔๙๓ รักษาการเจ้าอาวาสวัดคลองยอ ต.วังใหญ่ อ.เทพา จ.สงขลา

พ.ศ.๒๔๙๔ เจ้าอาวาสวัดคลองยอ ต.วังใหญ่ อ.เทพา จ.สงขลา

พ.ศ.๒๔๙๗ กรรมการศึกษาคณะสงฆ์อำเภอเทพา – สะบ้าย้อย

พ.ศ.๒๕๐๓ ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์

พ.ศ.๒๕๒๐ รักษาการเจ้าอาวาสวัดสะบ้าย้อย

พ.ศ.๒๕๒๐ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอสะบ้าย้อย

พ.ศ.๒๕๒๑ เจ้าอาวาสวัดสะบ้าย้อย

พ.ศ.๒๕๔๑ ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอสะบ้าย้อย

“จะนะ เทพา นาทวีและสะบ้าย้อย”เป็น ๔ อำเภอของ จ.สงขลา ที่มีรอยต่อติดกับ ๓ จังหวัดชายแดนใต้ (ยะลา ปัตตานี นราธิวาส) ทำให้ตลอด ๖ ปีที่ผ่านมา พื้นที่ เหล่านี้หลีกเลี่ยงไม่พ้นจากการตกเป็นส่วนหนึ่งในการก่อเหตุการณ์ความรุนแรงของกลุ่มผู้ก่อการความไม่สงบ โดยเฉพาะ “ อ.สะบ้าย้อย” ปรากฏความรุนแรงมากที่สุด หากเทียบกับ ๓ อำเภอ ที่อยู่ใกล้เคียงกันหนึ่งในเหตุการณ์ที่สะเทือนความรู้สึกของสังคมมากที่สุด นั่นคือ “เหตุการณ์ ๑๙ ศพ ที่บ้านสุโสะ” ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันเดียวกับเหตุการณ์ “ มัสยิดหรือเซะเลือด” ที่จ.ปัตตานี เมื่อปี ๒๕๔๗
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ชาวบ้านจะตกอยู่ในสภาวะอกสั่นขวัญกระเจิงในทุกคราวที่ คนร้ายลงมือสร้างสถานการณ์ด้วยความรุนแรง แต่นับเป็นความโชคดีไม่น้อย สำหรับชาวสะบ้าย้อย โดยเฉพาะผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ เนื่องจากพื้นที่แห่งนี้ยังมี “ พระครูไพบูลย์สิกขการ” หรือ พ่อท่านหวานเจ้าอาวาสวัดสะบ้าย้อย พระผู้เป็นดั่งขวัญและกำลังใจในการดำรงชีวิตของชาวพุทธ ท่ามกลาง พ่อท่านหวานถือเป็นหนึ่งในพระคณาจารย์ที่ร่วมพิธีสร้างพระหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน ปี ๒๔๙๗ และยังเป็นสหมิกธรรมของ “ พระครูวิสัยโสภณ” หรือ “พระอาจารย์ทิม” แห่งวัดช้างให้
ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจ หากพระภิกษุรูปนี้จะเป็นที่พึ่งพาและเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพุทธสะบ้าย้อยในยามนี้ ด้วยความที่เป็นพระที่ไม่ยึดติดกับวัตถุและใช้ชิวิตอย่างสมถะ สิ่งที่ชาวพุทธทุกคนที่ได้รับจากการมากราบเจ้าอาวาสวัดสะบ้าย้อยแห่งนี้ นั่นคือ “ ธรรมะ” เพื่อนำไปเป็น “หลักคิด” เพื่อ “ดำเนินชีวิต” อย่างรู้เท่าทันสถานการณ์ และไม่ตกเป็นเหยื่อความรุนแรงที่ผู้ไม่หวังดีก่อขึ้น

อย่างไรก็ตาม นับแต่ พ่อท่านหวาน ได้เดินทางมาจำพรรษา ณ วัดสะบ้าย้อย ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๒๐ ถึงวันนี้ พ่อท่านหวานได้สร้างคุณูปการแก่ชาวสะบ้าย้อย และพัฒนาวัดให้มีความสวยงาม อีกทั้งยังสร้างถาวรวัตถุ และอาคารเสนาสนะต่างๆ มากมาย ทั้งอุโบสถ กุฏิสงฆ์ จำนวน ๗ หลัง หอระฆัง และหอฉัน แต่ในทางกลับกันเจ้าอาวาสกลับเลือกจำวัดอยู่ในกุฏิเก่าหลังเล็กๆ รายล้อมไปด้วยลูกสุนัข และแมวจำนวนมาก