เหรียญหลวงปู่เล็ก อินทสโร รุ่นสุท้าย วัดบ้านหนอง ปี 34 จ.ชัยนาท-ส.พระเครื่อง - webpra
VIP
ข้อมูลธนาคาร ธ.ไทยพานิชย์ ออมทรัพย์ 044 241 9815 สาขาหัวหมาก บัญชี นาย ศุภชัย สุทธิเจริญ..

หมวด เหรียญปั๊ม ปี 2521 ถึง 2540

เหรียญหลวงปู่เล็ก อินทสโร รุ่นสุท้าย วัดบ้านหนอง ปี 34 จ.ชัยนาท

เหรียญหลวงปู่เล็ก อินทสโร รุ่นสุท้าย วัดบ้านหนอง ปี 34 จ.ชัยนาท - 1เหรียญหลวงปู่เล็ก อินทสโร รุ่นสุท้าย วัดบ้านหนอง ปี 34 จ.ชัยนาท - 2เหรียญหลวงปู่เล็ก อินทสโร รุ่นสุท้าย วัดบ้านหนอง ปี 34 จ.ชัยนาท - 3เหรียญหลวงปู่เล็ก อินทสโร รุ่นสุท้าย วัดบ้านหนอง ปี 34 จ.ชัยนาท - 4
ชื่อร้านค้า ส.พระเครื่อง - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
ชื่อพระเครื่อง เหรียญหลวงปู่เล็ก อินทสโร รุ่นสุท้าย วัดบ้านหนอง ปี 34 จ.ชัยนาท
อายุพระเครื่อง 34 ปี
หมวดพระ เหรียญปั๊ม ปี 2521 ถึง 2540
ราคาเช่า 200 บาท
เบอร์โทรติดต่อ 0909892466 / Line ID : chaiyo9150
อีเมล์ติดต่อ suphachaiyo@hotmail.com
LINE
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ พร้อมเช่า
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ อ. - 20 ต.ค. 2563 - 08:53.13
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ อา. - 08 พ.ย. 2563 - 22:03.15
รายละเอียด
เหรียญหลวงปู่เล็ก อินทสโร รุ่นสุท้าย วัดบ้านหนอง ปี 34 จ.ชัยนาท

หลวงปู่เล็กวัดบ้านหนองท่านเกิดปีมะแม25 พ.ค. 2437 ท่านบวชเมื่อปีมะโรงอายุ22 ปีณวัดอินทาราม (ตลุก) อ.สรรพยาจ.ชัยนาทพระอุปัชฌาชย์ของท่านคือหลวงพ่อคงวัดใหม่บำเพ็ญบุญห้วยกรดพระคู่สวดคือท่านเจ้าคุณอุดรอยู่วัดโพธิ์และพระสมุห์เชิดท่านบวชตั้งแต่เป็นสามเณรและไม่เคยสึกออกจากร่มกาสาวพัสตร์
หลวงพ่อเล็กหรือหลวงปู่เล็กท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดตลุก4-5 ปีกับพระอาจารย์องค์สำคัญคือหลวงพ่ออ่ำแห่งวัดตลุกท่านศึกษาวิชาจากหลวงพ่ออ่ำแห่งวัดตลุก พระอาจารย์ของท่านเป็นพระผู้ทรงคุณวิเศษเรื่องเวทย์อภิญญาสำเร็จวิชาธาตุ ทั้ง4 คือดินน้ำลมไฟสามารถเปลี่ยนธาตุต่างๆได้จากดินเป็นน้ำเป็นลมหรือไฟก็ได้หลวงพ่ออ่ำท่านเป็นพระสมัยเดียวกันกับหลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่าอ.วัดสิงห์จ.ชัยนาทที่นับว่าเรืองวิชาอาคมสูงองค์หนึ่ง "ปากท่านศักดิ์สิทธิ์มาก" แม้แต่ "เรือกลไฟที่กำลังแล่นมาท่านบอกให้หยุดได้ทันที" ท่านยังเป็นพระที่ เก่งทางรักษาโรคด้วยสมุนไพรและถอนคุณไสยต่างๆอภินิหารและความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่ออ่ำยังมีอีกมากแต่ไม่อาจนำมาลงได้หมดที่นี้เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น
หลวงพ่อเล็กหรือหลวงปู่เล็กอินทสะระท่านเป็นพระสุปฏิปันโนองค์หนึ่งแห่งวัดบ้านหนองที่ชาวบ้านหนองเลื่อมใส
เมื่อสมัยที่ท่านจาริกธุดงค์นั้นหลวงปู่เล็กได้ยึดหลักประการแรกคือทำตนให้สะอาดบริสุทธิ์ด้วยศีลอย่างเคร่งครัดเพราะพระอาจารย์ของท่านคือหลวงพ่ออ่ำสอนย้ำแล้วย้ำอีกก่อนจะอนุญาตให้ท่านออกธุดงค์ว่าพระธุดงค์ถ้าศีลไม่บริสุทธิ์เมื่อไรก็มักจะเกิดมีเหตุร้ายขึ้นอย่างใดอย่างหนึ่งเสมอเพราะผีสางเทวดาสิ่งลี้ลับอาถรรพณ์ตลอดจนสัตว์ร้ายต่างๆมีความเคารพนับถือผู้มีศีลสะอาดบริสุทธิ์หากผู้ใดเป็นสมณะที่มีศีลด่างพร้อยย่อมจะถูกภัยอันตรายเล่นงานเอาได้ไม่รู้ตัว
หลวงปู่เล็กเดินธุดงค์ควัตรบำเพ็ญทางจิตแล้วท่านยังได้พยายามเสาะแสวงหาครูบาอาจารย์ผู้ยอดยิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่อย่างสันโดษตามถ้ำตามป่าลึกเพื่อขอฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาเพิ่มเติมในทางพุทธาคมไสยเวทอันลึกลับมหัศจรรย์ซึ่งแต่ละสำนักหรือเกจิอาจารย์ย่อมจะมีฤทธิ์ไม่เหมือนกันทุกอย่างต่างก็เก่งไม่เท่ากันไปคนละแนวทางไม่ทางใดก็ทางหนึ่งดังนั้นในสมัยก่อนนั้นการแสวงหาครูบาอาจารย์หลายๆองค์จึงเป็นเรื่องจำเป็นเพื่อจะได้รับวิทยายุทธทางจิตศาสตร์มหัศจรรย์ให้กว้างขวางไม่ยึดติดคับแคบหลงตนเองอยู่ในสำนักอาจารย์แห่งเดียว
หากเราท่านจะได้พิจารณาอย่างลึกซึ้งด้วยจิตใจเป็นธรรมแล้วจะเห็นว่าหลวงปู่หลวงพ่อครูบาอาจารย์นับตั้งแต่โบราณสมัยสืบเรื่อยมาพวกท่านศึกษาไสยเวท พุทธาคมควบคุู่ไปกับกรรมฐานเมื่อมีความเชี่ยวชาญแล้วก็มักจะสร้างพระเครื่องและของขลังเป็นงานอดิเรกซึ่งเป็นงานพิเศษสำคัญยิ่งเพื่อความเพลิดเพลินส่วนตัว
การที่พวกท่านสร้างสรรค์พระเครื่องก็ดีสร้างเครื่องรางของขลังต่างๆก็ดีล้วนดำเนินการอยู่ในกรอบของ "นักบุญ" ผู้ดำเนินปฎิปทาความประพฤติการปฎิบัติ จริยธรรมในแนวทางห่างไกลจากกิเลสอาสวะมากแล้วเบื่อหน่ายชือชาต่อทางโลกอันมีแต่ทุกข์มุ่งบำเพ็ญแต่ในทางสันโดษมักน้อยเจริญศีลภาวนาหวังเอามรรคผลเป็นที่ตั้ง
จุดมุ่งหมายของพวกท่านในการสร้างสรรค์พระเครื่องและเครื่องรางของขลังต่างๆก็เพื่อจูงในศรัทธามหาชนให้เข้าวัดเข้าหาทางพระศาสนาเป็นการสืบต่อพระศาสนาให้ยืนยาวออกไปเป็นประการแรกและประการต่อมาก็ด้วยมีเมตตาธรรมอย่างกว้างขวางลึกซึ้งต่ออนุชนรุ่นหลังทั้งหลายโดยพวกท่านพิจารณาหยั่งรู้ได้ด้วยกระแสญาณว่าอนุชนรุ่นหลังใกล้กึ่งพุทธกาลและเลยกึ่งพุทธกาลไปแล้วนับว่าจะมีแต่เผชิญกับภัยอันตรายนานัปการน่าหวาดเสียวยิ่งนักหากได้มีพระเครื่องหรือเครื่องรางไว้ติดตัวเพื่อเป็นเครื่องอุ่นใจก็ย่อมจักช่วยคุ้มครองป้องกันผ่อนหนักเป็นเบา หรือช่วยให้ปลอดภัยเป็นสวัสดิมงคลทั้งตนเองและหมู่ณะจักเป็นเครื่องบำรุงศรัทธาความเลื่อมใสในอนุชนนั้นๆมีจิตใจฝักใฝ่ในศีลธรรมพระศาสนายิ่งขึ้นไปอี
หลังจากที่หลวงปู่เล็กได้ท่องเที่ยวธุดงค์บำเพ็ญภาวนาทางจิตใจรับความสงบในพระสมาธิธรรมและเจริญญาณเมตตาตลอดจนศึกษาพุทธาคมจากครูบาอาจารย์หลายสำนักพอสมควรแล้วท่านก็มาจำพรรษาที่วัดบ้านหนองตำบลตลุกอำเภอสรรพยาจังหวัดชัยนาทก่อนที่จะมาจำพรรษาอยู่วัดนี้ท่านเคยจำพรรษาวัดอื่นมาแล้วในสมัยธุดงค์เพราะการเที่ยวธุดงค์นั้นเมื่อใกล้พรรษาก็จะหาวัดใดวัดหนึ่งจำพรรษาครั้งออกพรรษาแล้วจึงจะธุดงค์ต่อไปอีกยกเว้นพระธุดงค์บางองค์หรือบางหมู่ที่จะอธิษฐานเข้าพรรษาตามถ้ำเขาลำเนาไพรตามสภาวะความเหมาะสมหลวงปู่เล็กเลยจำพรรษาเท่าที่จำได้มีวัดดอนรังนกวัดโสภารามเป็
ท่านได้เริ่มสร้าง "อิทธิวัตถุ" เป็นเหรียญรุ่นแรกที่วัดบ้านหนองเหรียญรุ่นนี้ท่านลงเหล็กจารกำกับทุกเหรียญเวลานี้หายากแล้วใครมีไว้ก็หวงแหนเพราะมีประสบการณ์ในความศักดิ์สิทธิ์มหัศจรรย์ยอดเยี่ยมในทุกด้านทั้งเมตตามหานิยมคงกระพันหนังเหนียวและมหาอุดรวมทั้งแคล้วคลาดสำหรับเหรียญรุ่นต่อมาคือเหรียญรุ่น๒รุ่น๓พอจะหาได้ในหมู่ลูกศิษย์ลูกหาและชาวบ้านแต่คงจะไม่ปล่อยให้ใครง่ายๆเพราะหวงแหนเอาไว้ป้องกันตัวเอง
หลวงปู่เล็กก็มีบุคลิกและอัธยาศัยสมถะพูดน้อยถ้าใครไม่ถามท่านจะไม่พูดอะไรเลยได้แต่นั่งสงบเงียบอยู่ตลอดทั้งวันดังนั้นเรื่องพูดโอ้อวดคุณวิเศษของตนจึงเป็นสิ่งที่ท่านไม่ประพฤติเลยท่านสงบเสงี่ยมเจียมตัวแต่ความเป็นจริงแล้วท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เปี่ยมล้นไปด้วยจิตภูมิธรรมขั้นสูงทรงคุณระดับขั้นอิทธิอภิญญาณเป็นที่ประจักษ์รู้เห็นในหมู่ศิษยานุศิษย์และผู้มีวาสนาได้ใกล้ชิดกราบไหว้ท่านมาแล้วเป็นต้นว่า

๑ มีวาจาสิทธิ์พูดอะไรเป็นเช่นนั้น
๒ มีตาทิพย์
๓ หายตัวได้
๔ ถ่ายรูปไม่ติด
๕อิทธิวิธีหรือทรงฤทธิ์

วิชา๕ประการนี้หลวงพ่ออ่ำวัดตลุกผู้เป็นอาจารย์ใหญ่ได้ประสิทธิ์ประสาทให้แก่หลวงปู่เล็กอย่างเต็มภูมิและท่านยังได้รับการเสริมวิชชามหัศจรรย์ดังกล่าวนี้ให้มีอานุภาพยิ่งขึ้นจากครูบาอาจารย์เถื่อนถ้ำและสำนักสำคัญๆอีกหลายแห่งจนครบวงจรหรือสมบูรณ์แบบใน "วสีภาวะ" หรือความเชี่ยวชาญในการสำแดงให้สัมฤทธิ์ผลในชั่วพริบตานั่นแลฯ
จะได้สาธกยกตัวอย่างประกอบดังต่อไปนี้ซึ่งสดับตรับฟังจากชาวบ้านที่มีประสบการณ์และเป็นผู้มีศีลธรรมไม่พูดเหลวไหลไร้สาระดังนั้นคำพูดของบุคคลดังกล่าวพึงเชื่อถือได้
รายแรกคือ "ครูสอน" อยู่บ้านหนองได้ถ่ายรูปหลวงปู่เล็กโดยพลการเมื่อเอาฟิล์มไปล้างปรากฏว่าถ่ายติดแต่ฉากหลังหรือแบ็คกราวน์ส่วนภาพหลวงปู่เล็กถ่ายไม่ติด
เรื่องถ่ายภาพไม่ติดนี้มักปรากฏกับพระเกจิอาจารย์ดังๆอยู่เสมอเป็นเรื่องที่ช่างภาพกล่าวขวัญกันมาหลายสิบปีแล้วพลังจิตมหัศจรรย์เป็นของมีจริงครูบาอาจารย์หลวงปู่หลวงพ่อท่านไม่พอใจจะให้ถ่ายรูปของท่านเพียงแต่ท่านกำหนดจิตว่าไม่ให้ถ่ายติดอำนาจพลังจิตนั้นก็จะไปทำปฏิกิริยาทางฟิสิกส์เคมีหรือแปรธาตุให้เปลี่ยนแแปลงหมดสิ้น
ทีนี้มาว่าถึงตาทิพย์ของหลวงปู่เล็กวันหนึ่งนายประชาอยู่บ้านหนองใกล้ๆวัดนั่นเองได้ซื้อแตงโมลูกใหญ่สีเขียวอมดำไปถวายหลวงปู่เล็กแตงโมพันธุ์นี้คนขายยืนยันว่ามีเนื้อสีแดงแจ๋หวานจ๋อยและได้ผ่าลูกอื่นๆให้คนซื้อกินเห็นชัดๆว่าทุกลูกเนื้อแดงหวานกรอบจริง
แต่หลวงปู่เล็กบอกนายประชาว่าแตงโมลูกนี้เนื้อขาวซีดไม่เข้าท่าซื้อมาทำไมเนื้อขาวซีดไม่หวานกรอบ
นายประชาก็เถียงหลวงปู่เล็กว่าเนื้อแดงแน่เพราะซื้อจากเจ้าเดียวกันนี้คนอื่นที่ซื้อผ่าดูก็เห็นเนื้อแดงแจ๋ทุกรายไปและแตงโมลูกนี้ที่เขาซื้อมาแม่ค้าก็ยืนยันว่าเนื้อแดงหวานกรอบแน่นอนถ้าไม่จริงยินดีรับคืนว่าแล้วนายประชาก็ผ่าแตงโมลูกนี้ถวายหลวงปู่เล็ก
เมื่อผ่าออกมาก็ต้องตะลึงตาค้างเพราะเนื้อในแตงโมขาวซีดเหมือนสำลีเหมือนดังที่หลวงปู่เล็กมองเห็นด้วยตาในหรือทิพย์จักษุญาณของท่าน
นี้แสดงว่าตาทิพย์ของหลวงปู่เล็กแหลมคมน่าอัศจรรย์จริงๆ
ในด้านวาจาสิทธิ์ของหลวงปู่เล็กได้เกิดขึ้นกับกระทาชายคนหนึ่งชาวบ้านใกล้วัดของท่านนั่นเองแต่ไม่เอ่ยชื่อให้เขาได้อายจึงสมมุติชื่อว่า "ทิดมาก" คว้าแหเดินผ่านวัดจะไปทอดแหหาปลาในที่ของวัดบังเอิญหลวงปู่เล็กเห็นเข้าก็เตือนสติว่า
"ไอ้ทิดปลาวัดมันร้อนเหมือนไฟเอ็งจะจับเอาปลาวัดไปกินมันก็เป็นบาปซ้ำแหของเอ็งจะวายวอดหมดจะบอกให้"
ทิดมากหัวเราะขบขันเรื่องอะไรจะไปเชื่อหลวงตาวัยใกล้เข้าเมรุอันว่าพระสงฆ์องค์เจ้าก็ดีแต่เขียนเสือใวัวกลัวเทศน์ๆสอนๆให้แต่ชาวบ้านกลัวนรกและเอาสวรรค์เข้าล่อซ้ำยังเตือนให้นึกถึงแต่ความตาย วันละร้อยหนพันหนไม่ประมาทซึ่งตรงกันข้ามกับพวกพ่อค้าพูดคุยกันแต่เรื่องความร่ำรวย
วันนั้นทิดมากทอดแหจับเอาปลาในวัดตัวโตๆได้เกือบเต็มข้องพอถึงบ้านก็ทั้งต้มทั้งแกงและย่างไฟจิ้มแจ่วล่อกันพุงกางทั้งครอบครัวอิ่มหมีพีมันจนต้องเรอออกมาดังๆแสนจะสุโขเสียนี่กระไรปลาวัดมันช่างเนื้อนุ่มหวานมันอย่าบอกใครวันรุ่งขึ้นทิดมากตื่นอนขึ้นมากก็รู้สึกร้อนอกร้อนใจอย่างไรพิกลจะว่าท้องไส้วิปริตเพราะอาหารเป็นพิษก็ไม่ใช่มันหงุดหงิดขุ่นมัววิตกกังวลอะไรก็ไม่รู้จึงเดินถอนหายใจเฮือกๆออกมาหยุดยืนที่นอกชานแหงนหน้าขึ้นฟ้าสูดเอาอากาศโล่งๆเข้าปอดเป็นการขับไล่อารมณ์เครียด
หลวงปู่เล็กวัดบ้านหนองได้เคยเอ่ยกับลูกศิษย์ใกล้ชิดคนหนึ่งว่าปลัดขิกถ้าเป็นของดีจริงต้องวิ่งได้ว่ายน้ำได้ถ้าจับปลัดขิกใส่บาตรมันจะวิ่งเลาะขอบบาตรดังแกรกๆจะออกไปเที่ยวศิษย์คนนั้นไม่เชื่อจะเป็นไปได้หลวงปู่เล็กมีเมตตาแสดงให้ดูโดยให้ศิษย์รายนี้เอาบาตรใส่น้ำจนเต็มหลังจากนั้นหลวงปู่เล็กท่านก็เอาปลัดขิกที่ท่านปลุกเสกแล้วใส่ลงไปปรากฏมหัศจรรย์ปลัดขิกตัวนั้นวิ่งแหวกน้ำในบาตรไปรอบๆราวกับมังกรตาเดียวที่มีชีวิตจิตใจทำเอาศิษย์ถึงกับผงะตาค้างด้วยความขนพองสยองเกล้า นับตั้งแต่นั้นมาศิษย์รายนี้ก็เชื่อมั่นว่าปลัดขิกที่หลวงปู่เล็กทำการปลุกเสกมาตลอดพรรษามีอภินิหารจริงๆปราศจากข้อสงสัย
ตอนที่หลวงปู่เล็กมาเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านหนองใหม่ๆนั้นท่านได้แจกปลัดขิกและตะกรุดตลอดจนรูปถ่ายของท่านที่ปลุกเสกแล้วให้แก่ศรัทธาญาติโยมชาวบ้านในจำนวนไม่มากนักต่อจากนั้นมาหลายปีท่านก็ไม่ยอมทำอีกทั้งๆที่ลูกศิษย์ลูกหาได้อ้อนวอนรบเร้าให้ท่านทำแต่ท่านก็เฉยเสีย
หลวงปู่เล็กนับว่าเป็นพระที่อาวุโสองค์หนึ่ง ของชาวจังหวัดชัยนาทที่น่าเคารพนับถือและกราบไหว้ท่านไม่เคยคุยโม้โอ้อวดไม่ถือชั้นวรรณะท่านมีเมตตาและสันโดษทุกวันนี้มีคนเดินทางไปกราบสรีระท่านเสมอทั้งใกล้และไกลคนแถวบ้านหนองทราบกันดีว่า "ปากท่านศักดิ์สิทธิ์" แม้แต่ชานหมากของยังมีผู้นำไปบูชาติดตัวพุทธคุณในวัตถุมงคลของท่านที่ปลุกเสก ลูกศิษย์ทั่วไปต่างกราบและประจักษ์กันดีว่าพุทธคุณดีเด่นครบทุกด้านเป็นอย่างไร
เวลาท่านปลุกเสกพระบางคนจะเห็นลำแสงพวยพุงวิ่งไปตามสายสินธ์เลยทีเดียวชานหมากของท่านเรียกว่าไม่มีได้เจอเพราะศิษย์ต่างเก็บกันหมดไม่มีให้เห็นกันเลยท่านเป็นพระที่ถือธุดงค์เป็นอาจิณแม้ตอนที่ท่านอาพาธอยู่ท่านก็ไม่ละทิ้งธุดงค์และท่านมีความเมตตาต่อลูกศิษย์ทุกคนที่ไปหาแม้ร่างกายจะไม่ไหวแล้วแต่หากต้องการให้ท่านได้ช่วยเป่ากระหม่อมให้ท่านก็ทำให้ถึงแม้จะนอนอยุ่ก็ตามทีวัตถุมงคลของท่านปัจจุบันหาไม่ค่อยได้แล้วครับเชื่อว่าคนมีก็หวงและเก็บหมดเพราะเชื่อมั่นในพุทธคุณและความเข้มขังในองค์พระที่ท่านปลุกเสกหลายๆคนบอกว่ามีพระเครื่องของท่านแล้วสบายใจทำการค้าขายก็เจริญรุ่งเรืองดีไม่ติดขัดยิ่งเก็บมากก็ยิ่งมีทรัพย์มากว่ากันอย่างนั้นครับ
หลวงปู่เล็กนั้นแม้ท่านจะชราภาพอายุถึง97ปีในปีพ.ศ.2534 แต่ท่านก็ยังมีความจำดีไม่เสื่อมคลายท่านยังปลุกเสกวัตถุมงคลได้จนกระทั่งปลายปี2534 หลวงปู่เล็กได้อาพาธหนักได้เข้ารักษาตัวที่รพ.ชัยนาท (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นรพ.ชัยนาทนเรนทร)จนกระทั่งเข้ารักษาตัวในห้องไอซียูจนถึงเมื่อวันที่12 มกราคม2535 หลวงปู่เล็กได้ละสังขารมรณภาพจากไปอย่างสงบท่ามกลางความเสียใจของศิษย์และชาวบ้านหนองตลอดจนชาวชัยนาทได้มาร่วมงานศพของหลวงปู่เล็กกันมากมาย
แรกเริ่มทีเดียวทางวัดได้ตั้งสวดพระอภิธรรมแต่เมื่อตั้งศพสวดพระอภิธรรมนานๆเข้าได้สังเกตุเห็นร่างของหลวงปู่เล็กไม่เน่าเปื่อยไปตามกาลเวลาทางวัดจึงปรึกษาหารือกันสรุปว่าเก็บร่างหลวงปู่เล็กไว้ในโลงแก้วเพื่อให้ศิษย์และประชาชนทั่วไปมากราบไหว้หลวงปู่เล็กอินทะสะระจนถึงปัจจุบัน

พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...

อื่นๆ...

กำหลังโหลด Comments
Top