เหรียญทองแดงหลังราหู หลวงพ่อหล่ำ สิริธมฺโม วัดสามัคคีธรรมกรุงเทพฯ รุ่นแรก-ศิลป์เจริญพร - webpra
VIP
"ร้านนี้พระเครื่องยุคเก่า น้อมบูชาคุณ พระสุปฏิปันโน ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ พุทธคุณ ล้ำค่ายิ่งทางใจ"

หมวด เหรียญปั๊ม ก่อนปี 2520

เหรียญทองแดงหลังราหู หลวงพ่อหล่ำ สิริธมฺโม วัดสามัคคีธรรมกรุงเทพฯ รุ่นแรก

เหรียญทองแดงหลังราหู หลวงพ่อหล่ำ สิริธมฺโม วัดสามัคคีธรรมกรุงเทพฯ รุ่นแรก - 1เหรียญทองแดงหลังราหู หลวงพ่อหล่ำ สิริธมฺโม วัดสามัคคีธรรมกรุงเทพฯ รุ่นแรก - 2เหรียญทองแดงหลังราหู หลวงพ่อหล่ำ สิริธมฺโม วัดสามัคคีธรรมกรุงเทพฯ รุ่นแรก - 3
ชื่อร้านค้า ศิลป์เจริญพร - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
ชื่อพระเครื่อง เหรียญทองแดงหลังราหู หลวงพ่อหล่ำ สิริธมฺโม วัดสามัคคีธรรมกรุงเทพฯ รุ่นแรก
อายุพระเครื่อง -
หมวดพระ เหรียญปั๊ม ก่อนปี 2520
ราคาเช่า 1,000 บาท
เบอร์โทรติดต่อ 0811178991 (สะดวกรับสายเวลา 18.00 - 20.00 น.)
อีเมล์ติดต่อ เนื่องจากมีลูกค้าติดต่อขอเช่าพระมาจำนวนมากต่อวัน ดังนั้นเช่าผ่านLINE จะติดต่อง่ายและสะดวกสุดครับ
LINE
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ จองแล้ว
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ อ. - 29 เม.ย. 2557 - 20:39.37
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ พฤ. - 09 ก.ย. 2564 - 11:53.37
รายละเอียด
**รหัส ศ.ร.๒๐๕๖
เหรียญทองแดงหลังราหู หลวงพ่อหล่ำ สิริธมฺโม วัดสามัคคีธรรมกรุงเทพฯ รุ่นแรก

ความวุ่นวายของเมืองหลวง ความเร่งรีบในการดำเนินชีวิต ผู้คนมีโอกาสแสวงหาความสงบทางจิตใจได้น้อยลง

แต่ใจกลางเมืองกรุง ปรากฏ 'วัดสามัคคีธรรม' ถนนลาดพร้าว 64 แขวงและเขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ

ปัจจุบัน มีพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง 'หลวงปู่หล่ำ สิริธัมโม' หรือ 'พระครูสิริธรรมรัต' เป็นเจ้าอาวาส ที่พัฒนาวัดอย่างต่อเนื่อง ก่อสร้างอุโบสถและปรับปรุงเสนาสนะหลายอย่าง จนมีความเจริญรุ่งเรืองตามลำดับ

หลวงปู่หล่ำ เป็นพระสงฆ์ที่เคร่งครัด และเปี่ยมด้วยคุณธรรม เป็นที่พึ่งของชาวบ้านและสาธุชน และมีจิตที่เปี่ยมด้วยความเมตตา

ชื่อเสียงของท่าน เป็นที่รับรู้กันมีความโดดเด่นในด้านวัตถุมงคล

ปัจจุบัน สิริอายุ 83 พรรษา 63

อัต โนประวัติ มีนามเดิมว่า หล่ำ แซ่เจ็ง เป็นชาวไทยเชื้อสายจีน เกิดเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2472 ที่บ้านหมู่ที่ 1 ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จ.สมุทรปรา การ โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายจุ๊ยเตียง แซ่เจ็ง และนางปิ่น แซ่ซิ้ม

ช่วงวัยเยาว์ อายุ 7 ขวบ มารดาได้ถึงแก่กรรม จึงย้ายมาอยู่กับตาและยาย พ.ศ.2482 เข้าโรงเรียนประชาบาลวัดแหลม จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากนั้นจึงออกมาช่วยครอบครัวทำสวน

เมื่อ อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดบางหญ้าแพรก จ.สมุทร ปราการ มี พระครูสิริศีลคุณ เจ้าคณะจังหวัดสมุทรปราการ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูเผย เจ้าอาวาสวัดบางหญ้าแพรก เป็นพระ กรรมวาจาจารย์ และพระสมุห์ผ่อง เจ้าอาวาสวัดปุณหังสนาวาส เป็นพระอนุสาวนาจารย์

เมื่ออุปสมบทเข้า อยู่ในสังกัดวัดบางหญ้า แพรก ได้ท่องสวดมนต์ เรียนพระปริยัติธรรมและเรียนวิปัสสนากัมมัฏฐาน ในปี พ.ศ.2492 สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี

หลวงปู่หล่ำ เป็นศิษย์ของหลวงพ่อเผย วัดบางหญ้าแพรก อีกทั้งได้สืบสานวิชาของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า กับอาจารย์พานต์ นนทตา ฆราวาสศิษย์เอกของหลวงพ่อครื้น วัดสังโฆ จ.สุพรรณบุรี

ลำดับความทรงจำ พระภิกษุหล่ำได้มีโอกาสเรียนวิทยาคมกับหลวงพ่อเผย ที่เป็นพระเกจิอาจารย์ในขณะนั้น ท่านได้ฝึกออกท่องธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพร เพื่อฝึกฝนจิตใจให้มั่นคง

ยาม ว่างจากธุดงค์อยู่กับวัด ท่านก็มิได้อยู่นิ่งเฉย ขออนุญาตหลวงพ่อเผย นำสมุดข่อยโบราณมาศึกษา ในช่วงที่หลวงพ่อเผยชรา ภาพมาก ท่านได้มอบหมายหน้าที่ทั้งหมดให้พระภิกษุหล่ำเป็นผู้ดำเนินการแทน แม้กระทั่งการสร้างวัตถุมงคลของหลวงพ่อเผย

นอกจากนี้ ยังเป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อ ครื้น วัดสังโฆสิตาราม จ.สุพรรณบุรี ครั้งหนึ่งท่านเดินทางธุดงค์ผ่านไปแถบเมืองสุพรรณบุรี ได้ยินกิตติศัพท์ของหลวงพ่อครื้น จึงเดินทางไปฝากตัวขอเป็นศิษย์เรียนวิทยาคม

หลวงพ่อครื้น ได้ถ่ายทอดวิทยาคมและการสร้างเครื่องรางของขลัง อาทิ การสร้างยันต์ ผ้าประเจียด ตะกรุดนานาชนิด โดยเฉพาะวิชาที่เลื่องชื่อของหลวงพ่อครื้น คือ วิชาทำตุ๊กแก

หลวงปู่หล่ำ อธิบายว่า "หลวงพ่อครื้นได้ถ่ายทอดการสร้างตุ๊กแก คือ การสร้างหุ่นพยนต์ ตามแบบพระเกจิอาจารย์โบราณ แต่แทนที่จะสร้างเป็นหุ่นแบบคน ก็สร้างเป็นตุ๊กแก ปกติสร้างด้วยดิน แล้วนำไปเผาไปทาสีให้เหมือนจริง แต่หัวใจสำคัญคือการปลุกเสกวิทยาคมลงไป ให้ตุ๊กแกพยนต์มีธาตุทั้งสี่ ทำให้เสมือนมีชีวิต"

หลวงพ่อครื้น เคยให้หลวงปู่หล่ำเสกตุ๊กแก โดยท่านนั่งสมาธิคุมอยู่ด้านหลังพิธีกรรม ในครั้งนั้นหลวงพ่อครื้น เอ่ยปากชมว่า "หล่ำทำได้เหมือนพ่อเลยนะ" จากนั้นหลวงปู่หล่ำได้รับความไว้วางใจ เสกตุ๊กแกแทนหลวงพ่อครื้นตลอดเวลา

หลวง ปู่หล่ำ เป็นศิษย์ที่หลวงพ่อครื้นให้ความเมตตาเป็นอย่างยิ่ง ช่วงที่หลวงพ่อครื้นใกล้มรณภาพท่านได้อยู่ในอ้อมกอดของหลวงปู่หล่ำ ท่ามกลางศิษยานุศิษย์มากมาย ท่านได้บอกว่า "หล่ำเอย พ่อจะไปแล้วนะ วิชาของพ่อมอบให้หล่ำไปหมดแล้ว ต่อไปต้องสงเคราะห์ชาวบ้านแทนพ่อด้วยนะ"

จวบจนหลวงพ่อครื้นได้ละสังขาร หลวงปู่หล่ำได้ย้ายไปพำนักที่วัดไกรสีห์(น้อย)อยู่ได้ระยะหนึ่ง ญาติโยมที่วัดคลองบางปิ้ง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ได้นิมนต์ให้ท่านมาช่วยพัฒนาวัด

ได้ไปช่วยพัฒนาวัดคลองบางปิ้งอยู่ 2 พรรษา จนกระทั่งวัดคลองบางปิ้งมีความเจริญรุ่งเรือง

ต่อ มา หลวงปู่หล่ำได้รับนิมนต์จากศรัทธาญาติโยมให้มาช่วยสร้างวัดสามัคคีธรรม แขวงวังทองหลาง ที่เพิ่งเริ่มสร้างเมื่อปี พ.ศ.2510 จนวัดเริ่มเป็นปึกแผ่นมั่นคง

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2522 ได้รับพระราชทานแต่งตั้งให้เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ในราชทินนามพระครูสิริธรรมรัต

กว่ากึ่งศตวรรษแห่งการครองสมณเพศ หลวงปู่หล่ำได้สั่งสมประสบการณ์ รู้หนาวรู้ร้อน ผ่านกาลฝนมามาก มีประสบการณ์ทุกอย่าง

เกียรติคุณ ของหลวงปู่หล่ำ เป็นที่รู้จักศรัทธาเลื่อมใส ความชราไม่เป็นปัญหา ด้วยความเมตตาที่เปี่ยมล้น หากใครมาขอพบ ท่านไม่เคยปฏิเสธ ญาติโยมที่มีทุกข์นานา จะมาขอให้ท่านช่วยปัดเป่าสิ่งอัปมงคลออกไปจากตัว ด้วยวิทยาคมที่ได้ร่ำเรียนมา จนเป็นที่เลื่องลือ

บางครั้งลูกศิษย์ของท่านเองต้องขอร้อง เพราะเป็นห่วงเรื่องสุขภาพ

หลวง ปู่หล่ำ ได้ปรารภสอนศิษย์ ว่า "มนุษย์เราเกิดมาใช้ชีวิตในโลกนี้สั้นนัก อย่ามัวแต่เล่นหัวสนุกสนาน กินแล้วนอน นอนจนมากกว่าทำงาน เรียกว่าเสียเวลาเปล่า เราควรเอาเวลานอนส่วนหนึ่งมาทำงาน มาสวดมนต์ไหว้พระ ทำบุญ นั่งสมาธิ มาทำอะไรที่มันเกิดประโยชน์แก่สังคมส่วนรวม"

แม้ปัจจุบัน หลวงปู่หล่ำ จะมีวัย 82 ปี แต่สุขภาพร่างกายของท่านยังคล่องแคล่วแข็งแรง เป็นพระเกจิของเมืองกรุงอีกรูปที่มีชื่อเสียงในขณะนี้

พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...

อื่นๆ...

Top