พระสมเด็จพิมพ์แหวกม่าน หลวงปู่ชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี ปี 2518 เนื้อว่านดอกพยอม ปลุกเสก-ศิลป์เจริญพร - webpra
VIP
"ร้านนี้พระเครื่องยุคเก่า น้อมบูชาคุณ พระสุปฏิปันโน ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ พุทธคุณ ล้ำค่ายิ่งทางใจ"

หมวด พระสมเด็จทั่วไป

พระสมเด็จพิมพ์แหวกม่าน หลวงปู่ชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี ปี 2518 เนื้อว่านดอกพยอม ปลุกเสก

พระสมเด็จพิมพ์แหวกม่าน หลวงปู่ชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี ปี 2518 เนื้อว่านดอกพยอม ปลุกเสก - 1พระสมเด็จพิมพ์แหวกม่าน หลวงปู่ชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี ปี 2518 เนื้อว่านดอกพยอม ปลุกเสก - 2พระสมเด็จพิมพ์แหวกม่าน หลวงปู่ชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี ปี 2518 เนื้อว่านดอกพยอม ปลุกเสก - 3พระสมเด็จพิมพ์แหวกม่าน หลวงปู่ชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี ปี 2518 เนื้อว่านดอกพยอม ปลุกเสก - 4พระสมเด็จพิมพ์แหวกม่าน หลวงปู่ชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี ปี 2518 เนื้อว่านดอกพยอม ปลุกเสก - 5
ชื่อร้านค้า ศิลป์เจริญพร - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
ชื่อพระเครื่อง พระสมเด็จพิมพ์แหวกม่าน หลวงปู่ชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี ปี 2518 เนื้อว่านดอกพยอม ปลุกเสก
อายุพระเครื่อง -
หมวดพระ พระสมเด็จทั่วไป
ราคาเช่า 300 บาท
เบอร์โทรติดต่อ 0811178991 (สะดวกรับสายเวลา 18.00 - 20.00 น.)
อีเมล์ติดต่อ เนื่องจากมีลูกค้าติดต่อขอเช่าพระมาจำนวนมากต่อวัน ดังนั้นเช่าผ่านLINE จะติดต่อง่ายและสะดวกสุดครับ
LINE
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ จองแล้ว
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ พฤ. - 14 พ.ย. 2567 - 20:32.24
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ พฤ. - 14 พ.ย. 2567 - 20:57.47
รายละเอียด
**รหัส ศ.ร.๒๓๕๖๖
พระสมเด็จพิมพ์แหวกม่าน หลวงปู่ชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี ปี 2518 เนื้อว่านดอกพยอม ปลุกเสกโดยหลวงปู่ชา และเกจิสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต

*** องค์นี้สภาพผ่านการใช้ ตามรูปเลยครับ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


พระโพธิญาณเถระ หรือ หลวงพ่อชา พระอริยะแห่งวัดหนองป่าพง อ.วารินฯ จ.อุบลราชธานี สุดยอดพระองค์หนึ่งของเมืองไทยและต่างประเทศด้วยที่มีวัดสาขาของวัดหนองป่าพงถึง ๒๐๐ กว่าสาขาทั้งในประเทศและต่างประเทศ

หลวงปู่ชา สุภทฺโท วัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี

ชาติภูมิ

พระโพธิญาณเถระ (ชา สุภทฺโท) หรือ หลวงพ่อชา หรือ อาจารย์ชา เกิดเมื่อวันที่ ๑๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๑

จนจบชั้นประถมปีที่ ๑ แล้วได้ลาออกจากโรงเรียน เพราะมีจิตใจใฝ่ทางบวชเรียน ภายหลังเมื่อบวชเรียนแล้ว ได้เรียนหนังสือธรรมเรียนบาลีไวยากรณ์ เรียนมูลกัจจายน์ จนสามารอ่านแปลภาษาบาลีได้ และได้ศึกษาพระปริยัติธรรม จนสอบได้ชั้นสูงสุดสายนักธรรม คือ สอบได้นักธรรมชั้นเอก

ชีวิตในร่มกาสาวพัสตร์ โดยเมื่ออายุ ๑๓ ปี หลังจากลาออกจากโรงเรียนประถมศึกษาแล้ว โยมบิดาได้นำไปฝากกับเจ้าอาวาสเพื่อเรียนรู้ บุพกิจเบื้องต้นเกี่ยวกับบรรพชาวิธี จึงได้รับอนุญาตให้บรรพชาเป็น สามเณรชา โชติช่วง เมื่อเดือน มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๔ โดยมีท่านพระครูวิจิตรธรรมภาณี (พวง) อดีตเจ้าอาวาสวัดมณีวนาราม อุบลราชธานี เป็นอุปัชฌาย์ สามเณรชา โชติช่วง ได้อยู่จำพรรษา และศึกษาพระปริยัติธรรม ตลอดจนอยู่ปฏิบัติครูอาจารย์ เป็นเวลา ๓ ปี ได้เอาใจใส่ต่อภารกิจ ของสามเณร ท่องสวดมนต์ ทำวัตร ศึกษาหลักสูตรนักธรรมปฏิบัติพระเถระ แล้วจึงได้ลาสิกขาบทมาช่วยบิดามารดาทำไร่ทำนา ทั้งนี้ด้วยความจำเป็นของครอบครัวแบบชาวไร่ชาวนา อีสานทั่วไป

ด้วยจิตใจที่ใฝ่ในการบวชเรียน จึงสำนึกอยู่ตลอดเวลาว่าจะต้องอุปสมบทเป็นพระให้ได้ เมื่ออายุครบ ๒๐ ปีบริบูรณ์ ภายหลังเมื่อตกลงกับบิดามารดา และท่านทั้ง ๒ ก็อนุญาตแล้ว จึงได้ฝากตัวที่วัดก่อในที่ใกล้บ้าน แล้วได้รับอนุญาตให้อุปสมบทได้

เมื่อวันที่ ๒๖ เมษายน พ.ศ. ๒๔๘๒ เวลา ๑๓.๕๕ น. ณ พัทธสีมา วัดก่อใน ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ อุบลราชธานี โดยมีพระเถระสำคัญที่ให้การอุปสมบทดังนี้

พระครูอินทรสารคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์

พระครูวิรุฬสุตการ เป็นพระกรรมวาจาจารย์

พระอธิการสอน เป็นพระอนุสาวนาจารย์

พระชา สุภทฺโท ได้จำพรรษาอยู่ ณ วัดก่อนอก ๒ พรรษา ตั้งใจศึกษาปริยัติธรรม ทั้ง จากตำรับตำราและจากครูอาจารย์ จนสอบนักธรรมชั้นตรีได้ในสำนักวัดก่อนอกนี้

เมื่อพระชา สุภทฺโท สอบนักธรรมตรีได้แล้ว ก็อยากเรียนให้สูงขึ้น เพราะมีจิตใจรักชอบ ทางธรรมอยู่แล้ว แต่ขาดครูอาจารย์ในการสอนระดับสูงต่อไป นึกถึงภาษิตอีสานที่ว่า.-

"บ่ออกจากบ้านบ่ฮู้ฮ่อมทางเทียว บ่เฮียนวิชาห่อนสิมีความฮู้"

ชีวิตช่วงนี้จะเห็นได้ชัดว่า พระชา สุภทฺโท มุ่งเรียนปริยัติให้สูงสุด จึงทุ่มเทให้การศึกษาทั้งนักธรรมและบาลี และผ่านสำนักต่างๆ มากมาย จนในที่สุดก็สอบนักธรรมได้ครบตามหลักสูตร คือ

สอบนักธรรมชั้นโทได้ ในสำนักของ พระครูอรรคธรรมวิจารณ์

สอบนักธรรมชั้นเอกได้ ในสำนักวัดบ้านก่อนอกถิ่นเกิด

สู่การปฏิบัติธรรม เสร็จภารกิจการศึกษา ประกอบกับเกิดธรรมสังเวชคราวโยมบิดาเสียชีวิต จึงหันมาสู่การปฏิบัติธรรม โดยออกธุดงค์ และศึกษาหาแนวทางปฏิบัติในสำนักต่างๆ ผ่านอาจารย์ก็มากมาย เช่น

หลวงปู่กินรี

พระเถระชาวเขมร

อาจารย์คำดี

พระอาจารย์มั่น

พออินทรีย์แก่กล้าแล้ว ก็ออกธุดงค์ปฏิบัติธรรมต่อไปเรื่อยๆ โดยยังดำรงสมณเพศเป็นพระมหานิกายอยู่ตลอดเวลา จนในที่สุดได้รับอาราธนาจากโยมมารดาและพี่ชาย เพื่อกลับไป โปรดสัตว์ที่บ้านเกิด เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๗ ก็ได้ดำเนินการ สร้างวัดป่าขึ้น ซึ่งเรารู้จักในปัจจุบัน คือ "วัดหนองป่าพง" และท่านดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดนี้มาโดยตลอด และถึงแก่มรณภาพเมื่อ ๑๖ มกราคม ๒๕๓๕ เวลา ๐๕.๓๐ น. อย่างสงบท่ามกลางธรรมสังเวชของศิษยานุศิษย์จากทุกสารทิศ

เกียรติประวัติที่สร้างไว้ในพระพุทธศาสนา

๒๙ เมษายน ๒๕๑๖ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองป่าพง

๕ ธันวาคม ๒๕๑๖ ได้รับการสถาปนาเป็นพระราชาคณะ พระโพธิญาณเถระ

๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๗ ได้รับแต่งตั้งเป็น พระอุปัชฌายะ

๖ มิถุนายน ๒๕๒๑ ได้รับพัด พัฒนาเชิดชูเกียรติ จากกรมการศาสนา

๓๐ กันยายน ๒๕๓๑ ได้รับยกย่องเป็นเป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง จากกรมการศาสนา

พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...

อื่นๆ...

Top