พระยอดขุนพลบุเรงนอง พิมพ์พระฤาษีภูภูอ่อง รุ่นแรก ปี 2508 หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังวิเวกฯ จ.กาญจนบุรี มวลส-ศิลป์เจริญพร - webpra
VIP
"ร้านนี้พระเครื่องยุคเก่า น้อมบูชาคุณ พระสุปฏิปันโน ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ พุทธคุณ ล้ำค่ายิ่งทางใจ"

หมวด พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน ก่อนปี 2525

พระยอดขุนพลบุเรงนอง พิมพ์พระฤาษีภูภูอ่อง รุ่นแรก ปี 2508 หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังวิเวกฯ จ.กาญจนบุรี มวลส

พระยอดขุนพลบุเรงนอง พิมพ์พระฤาษีภูภูอ่อง รุ่นแรก ปี 2508 หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังวิเวกฯ จ.กาญจนบุรี มวลส - 1พระยอดขุนพลบุเรงนอง พิมพ์พระฤาษีภูภูอ่อง รุ่นแรก ปี 2508 หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังวิเวกฯ จ.กาญจนบุรี มวลส - 2พระยอดขุนพลบุเรงนอง พิมพ์พระฤาษีภูภูอ่อง รุ่นแรก ปี 2508 หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังวิเวกฯ จ.กาญจนบุรี มวลส - 3พระยอดขุนพลบุเรงนอง พิมพ์พระฤาษีภูภูอ่อง รุ่นแรก ปี 2508 หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังวิเวกฯ จ.กาญจนบุรี มวลส - 4พระยอดขุนพลบุเรงนอง พิมพ์พระฤาษีภูภูอ่อง รุ่นแรก ปี 2508 หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังวิเวกฯ จ.กาญจนบุรี มวลส - 5
ชื่อร้านค้า ศิลป์เจริญพร - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
ชื่อพระเครื่อง พระยอดขุนพลบุเรงนอง พิมพ์พระฤาษีภูภูอ่อง รุ่นแรก ปี 2508 หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังวิเวกฯ จ.กาญจนบุรี มวลส
อายุพระเครื่อง 60 ปี
หมวดพระ พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน ก่อนปี 2525
ราคาเช่า -
เบอร์โทรติดต่อ (ไม่แสดงเบอร์ เนื่องจากรายการนี้ไม่ได้ปล่อยเช่า)
อีเมล์ติดต่อ เนื่องจากมีลูกค้าติดต่อเช่าพระจำนวนมาก ดังนั้นเช่าผ่านLINE ID : @870rqvth จะติดต่อง่ายสะดวกสุดครับ
LINE
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ เช่าแล้ว
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ อ. - 23 เม.ย. 2567 - 21:40.15
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ ส. - 14 ธ.ค. 2567 - 21:58.55
รายละเอียด
**รหัส ศ.ร.๒๒๑๕๑
พระยอดขุนพลบุเรงนอง พิมพ์พระฤาษีภูภูอ่อง รุ่นแรก ปี 2508 หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังวิเวกฯ จ.กาญจนบุรี มวลสารจากพระยอดขุนพลบุเรงนองกรุเก่าแก่กว่า 400 ปี

" พระบุเรงนองรุ่นแรก " วัตถุมงคลของหลวงพ่ออุตตมะรุ่นนี้ นับว่าเป็นของดีที่น่าใช้มากที่สุดอย่างหนึ่งของหลวงพ่อ แต่หลาย ๆ คนไม่ค่อยรู้จัก บางคนก็รู้แต่มองข้ามไป โดยไม่รู้ว่านี่แหละคือ ของวิเศษสุดยอดจริง ๆ
พุทธลักษณะของพระผงบุเรงนองออกศึกของหลวงพ่ออุตตมะ สัณฐานคล้ายรูปไข่ผ่าซีก ด้านหน้าเป็นรูปพระพุทธปฏิมากรประทับนั่งขัดสมาธิราบแบบมารวิชัย มีเส้นไขว้เป็นรูปกากบาทบริเวณพระอุระ ( อก ) เหนือพระอังสา ( ไหล่ ) ทั้ง 2 ข้างปรากฎเส้นเฉียงขึ้นไป ดูเหมือนกับสะพายดาบคู่ แต่จริง ๆ แล้วเป็นพุทธลักษณะของพระพุทธปฏิมากรทรงเครื่องแบบศิลปะพม่า ส่วนด้านหลังมีลักษณะอูมเล็กน้อยไม่ปรากฎรายละเอียดและอักขระใด ๆ โดยพระบุเรงนองรุ่นแรกของหลวงพ่ออุตตมะนี้ ทำออกมาเป็น 2 สีด้วยกัน คือ สีดำ และสีน้ำตาล

พระบุเรงนองรุ่นนี้หายากมาก โดยเฉพาะสภาพสวยแบบนี้พระบุเรงนองเนื้อผงผสมดินเก่าจากบุเรงนองในถ้ำ เนื้อเป็นดินผสมผง เป็นรุ่นแรกที่หลวงพ่ออุตตมะสร้างและปลุกเสก องค์นี้สวยเดิมๆ มีหน้าตา รับประกันความแท้ ด้านหน้าสวยคมชัดมากค๊าบบบ
ประวัติคร่าวๆของพระบุเรงนอง กรุถ้ำ(ที่เป็นส่วนผสมสำคัญในการสร้าง พระบุเรงนองออกศึก รุ่นแรกของ ลพ.อุตตมะปี 2508)...เป็นพระอายุกว่า 400 ปี เป็นจักรพรรดิ์พระเครื่องคู่บัลลังก์หงสาวดี ของพระเจ้าบุเรงนองผู้ชนะสิบทิศ พระดีที่หายากยิ่งแห่งลุ่มน้ำอิระวดีค่ะ เป็นพระที่หลวงพ่ออุตตมะ แห่งวัดวังก์วิเวการาม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ท่านได้มาจากถ้ำในประเทศพม่า...พระยอดขุนพลบุเรงนองกรุเก่า อายุกว่า 400 ปี จักรพรรดิพระเครื่องคู่บัลลังก์หงสาวดี พระดีที่หายากยิ่งแห่งลุ่มน้ำอิระวดี ประวัติความเป็นมาโดยสังเขป ของพระยอดขุนพลบุเรงนองรุ่นเก่า ซึ่งปัจจุบันเป็นสุดยอดวัตถุมงคลที่หาได้ยากยิ่ง จากคำบอกเล่าของพระเดชพระคุณหลวงพ่ออุตตมะ แห่งวัดวังก์วิเวการาม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี โดยหลวงพ่ออุตตมะท่านได้เคยอ่านพบใน " ตำราโบราณ " ที่อดีตโบราณาจารย์ฝ่ายพม่ารามัญ ได้จดบันทึกไว้สืบต่อกันมานานนับเป็นร้อย ๆ ปี มีดังนี้
พระยอดขุนพลบุเรงนองของเก่าแก่ดั้งเดิมนั้น เป็นพระพิมพ์ดินดิบผสมว่านยาวิเศษ โดยได้จำลองพุทธลักษณะจาก " พระมหามัยมุนี " เป็นพระเครื่องที่พระเจ้าบุเรงนอง บรมกษัตริย์ผู้มีพระเดชานุภาพมากแห่งกรุงหงสาวดี ได้โปรดให้ พระมหาฤาษี ภูภูอ่อง ผู้เป็นพระราชครูผู้ใหญ่ ประจำพระราชสำนักแห่งพระเจ้าบุเรงนอง ซึ่งได้สำเร็จมหิทธิฤทธิ์ขั้นสุดยอดด้วยองค์คุณ 4 ประการ คือ ยา ยันต์ ปรอท และ ประคำ จนมีฤทธิ์ มีเดชสูงส่งอย่างยิ่งยวด เป็นผู้จัดสร้างและปลุกเสกขึ้น เพื่อทรงพระราชทานแก่ข้าราชบริพาร และเหล่าทหารหาญ เพื่อใช้ในการศึกสงครามโดยทั่วไป โดยแกะพิมพ์จำลองพุทธลักษณะของพระมหามัยมุนี พระพุทธรูปสำคัญ อันเป็นที่เคารพสักการะสูงสุดของชาวพม่า ที่มีอายุการสร้างเกือบ 2,000 ปี ที่เดิมประดิษฐานอยู่ที่เมืองยะไข่ แต่ต่อมาได้อัญเชิญมาประดิษฐานที่เมืองมัณฑเลย์ ตราบจนกระทั่งถึงปัจจุบัน
ซึ่งพระยอดขุนพลบุเรงนองนี้ปรากฎพุทธคุณอันยอดเยี่ยมดีเด่นในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นในทางเมตตา แคล้วคลาด แต่จะหนักไปในแนว " อิทธิฤทธิ์ " คือทางด้านอยู่ยงคงกระพันชาตรี มหาอุด มหาอำนาจ เป็นหลักใหญ่ จนกระทั่งกองทัพของพระเจ้าบุเรงนอง สามารถปราบปรามหัวเมืองใหญ่น้อยในทุกหนแห่ง จนราบคาบอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนในพงศาวดาร ซึ่งนี่ก็เป็นเหตุให้พระเจ้าบุเรงนองได้รับพระสมัญญานามอีกพระนามหนึ่งว่า " ผู้ชนะสิบทิศ " ในเวลาต่อมา
โดยพระบุเรงนองนี้ พระฤาษีภูภูอ่องได้บรรจุไว้ที่ถ้ำแถวเมืองมะละแหม่ง ใกล้ชายแดนไทย-พม่า อยู่ 2 ถ้ำด้วยกัน คือ ถ้ำผาบง และ ถ้ำผาพะ แต่ก็ไม่มีผู้ใดทราบว่าถ้ำทั้งสองแห่งนี้อยู่ที่ไหนกันแน่
อนึ่ง พระมหาฤาษีภูภูอ่องนั้น แต่เดิมเคยบวชเป็นพระภิกษุในบวรพระพุทธศาสนา มีนามว่า " ญาณรังสี " แต่ต่อมาพระญาณรังสีพิจารณาเห็นว่าการที่พระภิกษุอยู่ในป่า บางครั้งก็มีเหตุให้จำต้องล่วงอาบัติของพระพุทธองค์อยู่เนือง ๆ ก็ให้รู้สึกไม่สะดวกใจ ด้วยเกรงจะเป็นบาปเป็นกรรม พระญาณรังสีจึงลาสิกขาออกมาถือพรตเป็นฤาษี พร้อมตั้งใจประพฤติพรหมจรรย์ รักษาศีล 8 ได้เป็นอย่างดีจนบรรลุอภิญญาสมาบัติขั้นสูงสุด จนได้สำเร็จฤทธิ์อภินิหารอันยอดยิ่งด้วยเหตุถึง 4 สถาน คือ
1. ยา ( รอบรู้ในตัวยาสมุนไพร และว่านยาที่มีฤทธิ์ทุกประเภทอย่างเจนจบ )
2. ยันต์ ( ปรีชาในอักขระคาถายันต์อันศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวง )
3. ปรอท ( สำเร็จในการเรียกและใช้ปรอท ธาตุกายสิทธิ์ที่มีฤทธิ์กว่าธรรมดา จนถึงขั้นเหาะเหินเดินอากาศได้ )
4. ประคำ ( เครื่องช่วยกำหนดจิตภาวนาให้บังเกิดสมาธิจิต อันเป็นบาทฐานแห่งอภิญญาฤทธิ์ ซึ่งเป็นของมีมาเก่าแก่ สืบทอดมาแต่โบราณกาลนับเป็นพัน ๆ ปี )
สำหรับเหตุที่หลวงพ่ออุตตมะได้พระยอดขุนพลบุเรงนองมานั้น ต้องเท้าความไปตั้งแต่เมื่อครั้งที่หลวงพ่ออุตตมะยังเดินธุดงค์อยู่ มีเด็กชายชาวกะเหรี่ยงคริสต์คนหนึ่ง ( ซึ่งต่อมาได้เป็นหัวหน้ากะเหรี่ยง ) ซึ่งอยู่ในเขตประเทศพม่า ได้ป่วยเป็นโรคร้าย จนเพื่อนบ้านต่างพากันทอดทิ้ง ไม่มีใครกล้ามาดูแล และบังเอิญหลวงพ่ออุตตมะได้ธุดงค์มาพบเข้า ด้วยความเมตตาหลวงพ่อจึงได้ช่วยรักษาจนหาย ทำให้เด็กชายคนนี้นับถือหลวงพ่ออุตตมะเป็นอย่างยิ่ง กาลต่อมาหัวหน้ากะเหรี่ยงคริสต์รายนี้ได้มาเล่าให้หลวงพ่ออุตตมะฟังว่า ( ตอนนั้นหลวงพ่อมาอยู่เมืองไทยใหม่ ๆ ราวปี พ.ศ. 2490 กว่า ) วันหนึ่งขณะที่พวกตนถูกพวกพม่าตามไล่ล่า จนกระทั่งหนีเข้าไปหลบซ่อนในถ้ำ ๆ หนึ่ง แถวเมืองมะละแหม่ง พวกทหารพม่าได้ใช้ปืนกล และอาวุธสงครามยิงกรอกปากถ้ำ เพื่อฆ่าพวกตนให้ตายคาถ้ำ นับเป็นพัน ๆ หมื่น ๆ นัด จนพวกทหารพม่าคิดว่าพวกกะเหรี่ยงที่อยู่ในถ้ำคงจะตายกันไปหมดแล้ว จึงได้ถอยทัพกลับไป ครั้นพอรุ่งเช้าพวกบรรดากะเหรี่ยงที่ไม่ได้รับอันตรายใด ๆ เลยแม้แต่น้อย ก็ออกจากที่ซ่อนในถ้ำมาสังเกตุการณ์ เห็นปลอกกระสุน และลูกปืนตกกระจายอยู่เต็มไปหมด แต่ไม่มีกระสุนแม้แต่เพียงนัดเดียว ที่จะวิ่งผ่านเข้ามาถึงข้างในที่พวกตนซ่อนอยู่ได้ ก็แปลกใจ เลยคิดว่าถ้ำแห่งนี้คงต้องมีของดีของวิเศษอยู่แน่ ๆ เลยสำรวจในถ้ำดูว่ามีอะไรดี จึงได้เจอกับ กองพระขนาดย่อม ๆ ที่วางกองกันไว้อยู่ในถ้ำนั้น แต่พวกตนเป็นกะเหรี่ยงคริสต์จึงไม่ทราบว่าคืออะไร จึงได้นำมาให้หลวงพ่ออุตตมะดู เมื่อได้พิจารณาดูหลวงพ่อก็ทราบทันทีว่านี่คือ พระยอดขุนพลบุเรงนอง ที่เคยได้ยินเรื่องราวมานั่นเอง จึงได้สั่งให้หัวหน้ากะเหรี่ยงคนนี้พาคนไปช่วยกันขนพระออกมาจากถ้ำ และนี่เองคือปฐมเหตุแห่งการ แตกกรุ ของพระยอดขุนพลบุเรงนอง
สำหรับพระยอดขุนพลบุเรงนองนี้ ปัจจุบันได้กลายเป็นของดีที่หาได้ยากเป็นอย่างยิ่ง อันเป็นที่ใฝ่ฝันสำหรับบรรดาศิษย์ใกล้ชิดของหลวงพ่ออุตตมะ รวมทั้งผู้ที่รู้ประวัติความเป็นมา เพราะนอกจากผู้ที่รู้ความเป็นมาที่แท้จริง ต่างก็พากันหวงสุด ๆ แล้ว ด้วยระยะเวลาที่ล่วงเลยมาเนิ่นนานถึง 400 กว่าปีมาแล้ว พระบุเรงนองที่สร้างด้วยเนื้อดินผสมว่าน ได้ชำรุดแตกหักไปเป็นอันมาก จึงทำให้มีน้อยคนนักที่จะได้ครอบครองพระยอดขุนพลที่นับเป็นจักรพรรดิ์พระเครื่องแห่งลุ่มแม่น้ำอิระวดีอย่างแท้จริง พระบุเรงนองจะมีด้วยกันหลายพิมพ์ทรง ซึ่งจะมีความแปลกอยู่ที่ว่าแต่ละองค์นั้นจะไม่มีองค์ไหนเหมือนกันเลย จะมีความแตกต่างกันไปเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว (ขอบคุณข้อมูลของคุณศิพนันทน์ ทองดีเลิศ)

พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...

อื่นๆ...

Top