หมวด พระสมเด็จทั่วไป
พระสมเด็จพิมพ์คะแนนเกศบัวตูม พิมพ์เล็ก พระครูมูล วัดสุทัศน์ ปี ๒๔๙๕ เนื้อจัด แก่ผงเก่าวัดระฆัง
ชื่อร้านค้า | ศิลป์เจริญพร - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | พระสมเด็จพิมพ์คะแนนเกศบัวตูม พิมพ์เล็ก พระครูมูล วัดสุทัศน์ ปี ๒๔๙๕ เนื้อจัด แก่ผงเก่าวัดระฆัง |
อายุพระเครื่อง | - |
หมวดพระ | พระสมเด็จทั่วไป |
ราคาเช่า | 700 บาท |
เบอร์โทรติดต่อ | 0811178991 (สะดวกรับสายเวลา 18.00 - 20.00 น.) |
อีเมล์ติดต่อ | เนื่องจากมีลูกค้าติดต่อเช่าพระจำนวนมาก ดังนั้นเช่าผ่านLINE ID : @870rqvth จะติดต่อง่ายสะดวกสุดครับ |
LINE |
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
|
สถานะ | |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | พ. - 19 ก.ค. 2566 - 21:06.46 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | ศ. - 29 พ.ย. 2567 - 14:42.58 |
รายละเอียด | |
---|---|
**รหัส ศ.ร.๒๐๒๙๖ พระสมเด็จพิมพ์คะแนนเกศบัวตูม พิมพ์เล็ก พระครูมูล วัดสุทัศน์ ปี ๒๔๙๕ เนื้อจัด แก่ผงเก่าวัดระฆัง (ยุคแรกพิมพ์เล็กสุด) พระสมเด็จพระครูลมูล วัดสุทัศน์ พระดี พุทธาคมเข้มขลัง มีส่วนผสมของมวลสารพระสมเด็จวัดระฆังไว้มากที่สุด* พระครูมูล วัดสุทัศน์ ท่านมีฐานะเป็นเพียงพระลูกวัดธรรมดาของวัดสุทัศน์ เท่านั้น เป็นพระสวดพิธีธรรมในพิธีปลุกเสกพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ของวัดสุทัศน์ที่วัด สุทัศน์จัดขึ้นไม่ค่อยปรากฎชื่อเสียงทางวิทยาคมเหมือนพระเกจิอาจารย์ท่าน อื่น ๆ ในยุคสมัย 65-75 ปีก่อน แต่ความรู้เรื่องวิทยาคมลูกศิษย์บอกว่าท่านก็มีพอตัวอยู่ เพราะว่าพระสงฆ์สมัยก่อนเมื่อบวชแล้วหรือยิ่งบวชนานหลาย ๆ พรรษา ก็มักจะมีการเรียนวิชาอาคมเพื่อประดับตัวเอาไว้เสมอ พระครูมูลท่านรู้กิตติศัพธ์ของพระสมเด็จวัดระฆังมานานแล้ว ท่านจึงพยายามเก็บรวบรวมพระสมเด็จวัดระฆังที่ชำรุดแตกหักเป็นท่อน ๆ เอาไว้ คนเมื่อรู้ว่าพระครูมูลเก็บรวบรวมชิ้นส่วนชำรุดของพระสมเด็จวัดระฆังเพื่อจะ สร้างพระขึ้นใหม่ จึงนำเอาชิ้นส่วนของพระสมเด็จวัดระฆังมาถวายท่านกันเรื่อย ๆ เนื่องจากสมัยนั้นคนยังมีคติไม่นิยมเอาพระที่แตกหักชำรุดไว้ในบ้าน จึงทำให้มีคนนำเอาพระสมเด็จวัดระฆังที่ชำรุดแตกหักมามอบให้พระครูมูลมากขึ้น ทุก ที ๆ ว่ากันว่าพระครูมูลท่านเก็บสะสมชิ้นส่วนแตกหักของพระสมเด็จวัดระฆังได้เป็น จำนวนมากเป็นปี๊บ ๆ กันเลย เมื่อเก็บรวบรวมชิ้นชิ้นส่วนแตกหักของพระสมเด็จวัดระฆังได้เป็นจำนวนมาก เพียงพอต่อความต้องการแล้ว พระครูมูลจึงเอาชิ้นส่วนพระสมเด็จวัดระฆังเหล่านั้นมาป่นให้ละเอียดและผสม กับปูนขาวจากเปลือกหอยป็นเนื้อหลัก แล้วสร้างเป็นพระสมเด็จขึ้นใหม่เมื่อระหว่างปี พ.ศ. 2484-2485 เป็นพิมพ์เกศบัวตูม เมื่อกดพิมพ์พระได้จำนวนเท่าที่ต้อง การแล้ว พระครูมูลท่านได้นำเอาพระสมเด็จที่ท่านสร้างนี้เข้าร่วมพิธีปลุกเสกพร้อมกับ พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ที่ทางวัดสุทัศน์จัดขึ้น ความจริงแล้วพระสมเด็จที่พระครูมูลสร้างขึ้นมาในครั้งนั้นถึงจะไม่นำฝากเข้า ร่วมพิธีปลุกเสก ก็มีความศักสิทธิ์ในตัวอยู่แล้ว เนื่องมาจากมีผงเก่าผสมอยู่เป็นจำนวนมากนั่นเอง แต่ด้วยความที่อยากให้พระสมเด็จมีพุทธคุณมากยิ่ง ๆ ขึ้น พระครูมูลท่านจึงเอาพระเข้าร่วมพิธีปลุกเสกด้วย ระหว่างนั้นเมื่อมีใครมาขอพระสมเด็จจากพระครูมูลท่านก็จะหยิบแจกให้ฟรี ๆ ไปเรื่อย ๆ ส่วนที่เหลือเมื่อมีพิธีปลุกเสกที่วัดสุทัศน์ครั้งใด ท่านก็จะนำเอาพระสมเด็จฝากเข้าร่วมในพิธีอีก ใครมาขอก็แจกให้ ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งพระสมเด็จที่ท่านสร้างครั้งแรกหมดไป จนกระทั่งมาในปี พ.ศ. 2495 พระครูมูลท่านได้เอาชิ้นส่วนของพระสมเด็จวัดระฆังที่เหลือจากการสร้างพระ สมเด็จครั้งแรก มาผสมกับชิ้นส่วนของพระสมเด็จวัดระฆัง และพระสมเด็จบางขุนพรหมที่ท่านหามาเพิ่มเติมทีหลังสร้างขึ้นใหม่อีก ครั้งนี้ท่านสร้างเป็นพิมพ์พระธาน แบบมีหน้าตา ซึ่งจะปรากฏรายละเอียดสวยงามกว่าพระสมเด็จพิมพ์เกศบัวตูมที่ท่านสร้างขึ้น ครั้งแรก นอกจากนี้ยังมีการสร้างเป็นพิมพ์นางพญา พิมพ์สามเหลี่ยม และ พิมพ์พระคะแนน ด้วย ซึ่งการสร้างพระสมเด็จของพระครูมูลครั้งหลังนี้ท่านก็ทำเหมือนครั้งแรก คือฝากเข้าพิธีปลุกเสกที่วัดสุทัศน์จัดขึ้นทุกครั้ง แล้วก็แจกไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งหมดไปในที่สุด พระสมเด็จของพระครูมูลมีการนิยมมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้ว สมัยนั้นคนที่ได้รับแจกพระสมเด็จจากท่านต่างมีประสบการณ์ทางด้านนิรันตราย กันมาก จึงนิยมใช้แทนพระสมเด็จวัดระฆังนับแต่นั้นมา พูดถึงพุทธคุณทางด้านเมตตามหานิยมของพระสมเด็จพระครูมูลก็มีผู้มีประสบการณ์ กันมากไม่รู้เท่าไหร่ ๆ กันแล้ว เพราะว่าไปแล้วการใช้พระสมเด็จพระครูมูลก็เหมือนใช้พระสมเด็จวัดระฆังดี ๆ นั่นเอง นอกจากนี้พระสมเด็จของพระครูมูล โดยเฉพาะพิมพ์ทรงเจดีย์ที่เป็นพระยุคแรกของท่าน จะมีเนื้อหามวลสารเข้มจัดคล้ายกับเนื้อพระสมเด็จวัดระฆังมาก มีการนำพระของท่านมาแกะเปลี่ยนพิมพ์ขายเป็นพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ทรงเจดีย์ ไปแล้วมากมาย แม้แต่ชิ้นส่วนแตกหักของพระสมเด็จของท่านก็นำไปแกะเป็นพระคะแนนแล้วหลอกว่า เป็นชิ้นส่วนสมเด็จวัดระฆังขายไปองค์ละหลายหมื่นบาท เป็นเหตุที่ทำให้ท่านต้องทำพิมพ์พระสมเด็จขึ้นใหม่เป็นพิมพ์แบบมีหน้าตา ในปี 2495 เพื่อแก้ปัญหาคนนำพระของท่านไปหลอกขายแก่ผู้ไม่รู้เสียมากมาย สำหรับค่านิยมในการเล่นหาของพระสมเด็จพระครูมูล ถ้าเป็นของแท้แล้ว โดยเฉพาะพิมพ์เกศบัวตูมจะมีราคาสูงถึงหลักพันปลายๆ แต่ถ้าเนื้อจัดมวลสารเข้มแบบวัดระฆัง ราคาอาจจะสูงขึ้นไปจนถึงหลักหมื่น ส่วนพิมพ์พระประธานที่มีหน้าตาก็อยู่ที่หลักพันกลางๆ แต่ถ้าสวยมากก็อยู่ที่หลักพันปลายๆ แต่ถ้าสวยมากและเนื้อจัดแก่มวลสาร ก็จะมีราคาสูงถึงหลักหลักหมื่นได้เช่นกัน สำหรับพิมพ์สามเหลี่ยม พิมพ์นางพญา และพิมพ์คะแนน ราคาจะอยู่ที่หลักพันกลาง แต่ค่อนข้างหายากอยู่เหมือนกัน สรุปว่าพระสมเด็จของพระครูมูล เป็นพระที่น่าใช้มาก เพราะเป็นพระตระกูลสมเด็จยุคปลายที่มีส่วนผสมของมวลสารของพระสมเด็จวัดระฆัง ไว้มากที่สุด ในระดับเดียวกับ พระสมเด็จของหลวงปู่นาค วัดระฆัง ที่สร้างยุคต้น พ.ศ. 2484 ทำให้น่าเก็บไว้ศึกษาและบูชาอย่างยิ่ง พระสมเด็จมีหน้ามีตาที่พระครูมูลสร้าง ขึ้นในปี 2495 ได้ถูกพระครูสมุหอำพน วัดประสาทฯ นำมาถอดพิมพ์สร้างเมื่อปี 2506 แม้พระที่ออกมาพิมพ์จะตื้น และการพิมพ์พระจะไม่ค่อยประณีต แต่ก็มีวัสดุที่เป็นผงเก่าชั้นยอดผสมเป็นจำนวนมาก เช่น พระแตกหักสมเด็จบางขุนพรหมพระแตกหักวัดสามปลื้มพระปิลันทน์ ฯลฯ พระส่วนใหญ่เนื้อจะออกขาวแก่ปูน พระบางองค์อมเขียวอ่อน ๆ และก็มีพระอีกบางองค์ที่มีผงเก่าผสมอยู่มาก เนื้อหาจึงจัดจ้านมาก และมีบางองค์ผิวคล้ายกับพระสมเด็จพระครูมูลของเดิมมาก ความแตกต่างมีเพียงว่า พระสมเด็จพระครูมูลของเดิมนั้นมีพิมพ์ที่คมชัดลึก ส่วนของวัดประสาทจะตื้นกว่าเส้นสายบางกว่า ในหน้านี้มีพระพิมพ์สมเด็จพระครูมูลวัดประสาทองค์หนึ่ง มีลักษณะค่อนไปทางพระสมเด็จครูมูลของเดิม พระแบบนี้เอาให้เซียนส่อง ก็ปรากฏว่ามีบางชนิดตกม้าตาย เกิด “ตาเดี้ยง” ตีเป็นของวัดสุทัศน์เลยทีเดียว โดยสรุปพระครูมูลมีการสร้างทั้งหมดสองครั้ง คือปี 2485 กับปี 2495 ปี 2485 จะมีสร้างเพียงพิมพ์เดียว คือ 1.พิมพ์เกศบัวตูม 2.พิมพ์เจดีย์ ปี2495 จะมีสร้างทั้งหมด 5 แม่พิมพ์หลักๆ คือ 1.พิมพ์เกศบัวตูม 2. พิมพ์เจดีย์ 3.พิมพ์พระประธานมีหน้าตา 4.พิมพ์สมเด็จคะแนน สามารถแยกออกได้อีก2-3แม่พิมพ์ 5.พิมพ์นางพญา สามารถแยกออกได้อีก2พิมพ์ คือ สามเหลี่ยมเล็ก และสามเหลี่ยมใหญ่ *พระที่สร้างในยุคแรกนั้น (ปี 2485) เนื้อหาจะจัดมาก และลักษณะของพิมพ์จะออกไปทางพิมพ์เจดีย์ ของวัดระฆัง มากกว่าในยุคหลัง (ปี 2495) ครับ. . ขอขอบคุณบทความโดย... จรณ์ บางขุนพรหม |