พระพิมพ์สมเด็จพระแก้วมณีโชติ หลังยันต์ นะ พิธีจักรพรรดิ์ ปี ๒๕๑๕ พุทธาภิเษกแบบไตรภาคี สภาพสวย หายาก-ศิลป์เจริญพร - webpra
VIP
"ร้านนี้พระเครื่องยุคเก่า น้อมบูชาคุณ พระสุปฏิปันโน ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ พุทธคุณ ล้ำค่ายิ่งทางใจ"

หมวด พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน ก่อนปี 2525

พระพิมพ์สมเด็จพระแก้วมณีโชติ หลังยันต์ นะ พิธีจักรพรรดิ์ ปี ๒๕๑๕ พุทธาภิเษกแบบไตรภาคี สภาพสวย หายาก

พระพิมพ์สมเด็จพระแก้วมณีโชติ หลังยันต์ นะ พิธีจักรพรรดิ์ ปี ๒๕๑๕ พุทธาภิเษกแบบไตรภาคี สภาพสวย หายาก - 1พระพิมพ์สมเด็จพระแก้วมณีโชติ หลังยันต์ นะ พิธีจักรพรรดิ์ ปี ๒๕๑๕ พุทธาภิเษกแบบไตรภาคี สภาพสวย หายาก - 2พระพิมพ์สมเด็จพระแก้วมณีโชติ หลังยันต์ นะ พิธีจักรพรรดิ์ ปี ๒๕๑๕ พุทธาภิเษกแบบไตรภาคี สภาพสวย หายาก - 3พระพิมพ์สมเด็จพระแก้วมณีโชติ หลังยันต์ นะ พิธีจักรพรรดิ์ ปี ๒๕๑๕ พุทธาภิเษกแบบไตรภาคี สภาพสวย หายาก - 4
ชื่อร้านค้า ศิลป์เจริญพร - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
ชื่อพระเครื่อง พระพิมพ์สมเด็จพระแก้วมณีโชติ หลังยันต์ นะ พิธีจักรพรรดิ์ ปี ๒๕๑๕ พุทธาภิเษกแบบไตรภาคี สภาพสวย หายาก
อายุพระเครื่อง -
หมวดพระ พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน ก่อนปี 2525
ราคาเช่า 700 บาท
เบอร์โทรติดต่อ 0811178991 (สะดวกรับสายเวลา 18.00 - 20.00 น.)
อีเมล์ติดต่อ เนื่องจากมีลูกค้าติดต่อเช่าพระจำนวนมาก ดังนั้นเช่าผ่านLINE ID : @870rqvth จะติดต่อง่ายสะดวกสุดครับ
LINE
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ จองแล้ว
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ พ. - 05 ก.ค. 2566 - 20:42.51
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ พ. - 05 ก.ค. 2566 - 22:37.20
รายละเอียด
**รหัส ศ.ร.๒๐๒๑๙
พระพิมพ์สมเด็จพระแก้วมณีโชติ หลังยันต์ นะ พิธีจักรพรรดิ์ ปี ๒๕๑๕ พุทธาภิเษกแบบไตรภาคี สภาพสวย หายาก

ประวัติการสร้างพระแก้วมณีโชติ
พระพิมพ์ สมเด็จพระแก้วมณีโชติ เป็นสุดยอดต้นตำรับ “สูตรมหาจักรพรรดิ์” ซึ่งเป็นสูตรที่ผ่านกระบวนการคิดวิเคราะห์โดยท่านพระครูศีลสารสัมบัน (สำรวย สมฺปนฺโน) เป็นผู้คิดค้นไว้เป็นการเฉพาะ ดังนั้นพระเครื่องของวัดสระแก้วปทุมทองจึงเน้นสร้างพระเครื่อง “เนื้อดินผสมผงเก่า” โดยสร้างด้วยกรรมวิธี “การเผา” เช่นเดียวกับพระเครื่องโบราณชนิดต่างๆ เช่น พระคงลำพูน พระรอดลำพูน พระนางพญาพิษณุโลก พระกรุวัดท่ามะปราง และพระกรุสุโขทัย เป็นต้น ในบันทึกการจัดสร้างระบุไว้ว่า วัสดุที่ใช้สร้างพระเนื้อดินผสมผง ประกอบด้วยดินที่ขุดจากกรุใต้ฐานสมเด็จพระนางพญา วัดนางพญา จังหวัดพิษณุโลก เป็นมวลสารหลัก เพราะดินบริเวณนั้นมีพระนางพญา อายุ 700– 800 ปี ฝั่งอยู่จึงได้รับมวลสารจากพระนางพญามาด้วย ทั้งยังติดชิ้นส่วนพระนางพญาสมบูรณ์บ้างไม่สมบูรณ์บ้างมาเป็นมวลสาร นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมอื่น ๆ ในการสร้างอีกมากเช่น ผงเกสรดอกไม้ 108จากวัดสำคัญทุกภูมิภาค ทองคำที่ลอกจากองค์พระสำคัญ เช่น พระพุทธโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร เป็นต้น ว่าน 108 ชนิด ดินจากหน้าพระอุโบสถและพระวิหารประจำจังหวัดต่าง ๆ จากนั้นยังมีดินจากสังเวชนียสถาน 4 ตำบลในประเทศอินเดีย รวมทั้งผงจากพระเครื่องโบราณที่ชำรุดแตกหัก เช่น ผงพระสมเด็จวัดระฆัง สมเด็จวัดบางขุนพรหม พระนางพญา พระรอด พระขุนแผน พระผงสุพรรณ และผงนวโลหะชนวนพระกริ่งของสมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทโว) และท่านเจ้าคุณศรี (สนธ์) วัดสุทัศน์เทพวราราม นำมาผสมด้วยน้ำอภิเษกสำหรับการบรมราชาภิเษกในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระมหากษัตริย์ไทยและน้ำสรงพระแก้วมรกต เมื่อสร้างเสร็จได้นำเข้าเตาเผาที่โรงหล่อพระ จ่าสิบเอก ดร.ทวี บูรณเขตต์ ด้วยความร้อนสูงจึงปรากฏว่ามีสีที่แตกต่างกัน เช่น สีดำ สีเทา สีขาวนวล สีดอกพิกุลแห้ง น้ำตาลไหม้ เป็นต้น

จากบันทึกการจัดสร้างที่กล่าวมานี้แสดงให้เห็นว่า พระพิมพ์ สมเด็จพระแก้วมณีโชติ เนื้อดินผสมผง มีหลากหลายสีที่เกิดจาก “การเผา” หรือ “ปาฏิหาริย์” ก็เป็นเรื่องตามแต่วิจารณญาณและความศรัทธาของแต่ละคน พระพิมพ์ที่ถูกเผาดังเช่นพระเนื้อดินโบราณนี้จะมีขนาดและสีที่ แตกต่างกันอย่างเช่น พระรอดลำพูน พระคง พระบาง พระเปิม พระนางพญา ฯลฯ และพระบางองค์ที่ผสมผงเกสรหรือว่านมากไปก็จะกลายเป็น สีดำ หรือ สีเทา และบางองค์ที่มี ผงนวโลหะ (ผงตะไบจากวัดสุทัศน์เทพวราราม) ผสมอยู่มากเมื่อถูกความร้อนสูงผงนวโลหะก็จะละลายแผ่ซึมเข้าไปในเนื้อพระทำให้เป็น สีดำ หรือหากถูกความร้อนมากผงนวโลหะที่ละลายก็จะผุดออกมาจับที่ “ผิวพระด้านนอก” เป็นปุ่มสีดำ ที่มีทั้งผิวพระด้านและแวววาว เมื่อสะท้อนแสง โดยพระเนื้อนี้กลับกลายเป็นที่นิยมกันมากโดยเรียกว่า “พระเนื้อแร่ผงตะไบ” ตามแบบฉบับเนื้อพระกริ่งของวัดสุทัศน์เทพวราราม ที่สำคัญพระเนื้อแร่นี้จะมีความ “แข็งและแกร่ง” คือแตกหักหรือชำรุดได้ยากกว่าเนื้ออื่น ๆ ส่วนพระเนื้อที่ผสมผงเกสรหรือผสมผงนวโลหะน้อยก็จะมีสีสันเป็นธรรมชาติของเนื้อดินกรุวัดนางพญา เช่น เนื้อสีแดงแบบอิฐ สีขาวนวลเรียกว่าดอกพิกุล ที่มีจุดสีส้มเรียกว่า เกสรดอกมะขาม สีครีม สีน้ำตาลไหม้ สีช็อกโกแลต เป็นต้น บางองค์ก็ปรากฏพรายน้ำซึ่งก็คือ ซากพืชซากสัตว์ ที่ทับถมอยู่ในดินนับล้าน ๆ ปีนั่นเองและเมื่อมีพระ “เนื้อพิเศษ” ดังกล่าวและมีน้อยกว่าเนื้ออื่น ๆ เช่น “สีดำ” หรือ “สีช็อกโกแลต” กลายเป็นเนื้อยอดนิยมกลายเป็นของหายากจึงทำให้คน คิดนำพระแท้สีเทาไปทาสีเพื่อทำให้เป็น “เนื้อสีดำหรือช็อกโกแลต” พอนำออกขายก็จะได้ราคามากขึ้น แม้จะมีความพยายามเช่นไรแต่ก็มีพิรุธอยู่ดี คือเนื้อพระจะฉ่ำเยิ้มมีรอยแตกระแหงชำรุดง่าย การสร้างพระพิมพ์ทั้งสิ้นทั้งปวงนั้น ไม่มีฆราวาสคนใดได้จับหรือแตะต้อง มีเพียงพระภิกษุและสามเณรที่ปลงอาบัติและต่อศีลจนบริสุทธิ์ครบถ้วนแล้วเท่านั้นที่ช่วยกันบดผงด้วยครกเหล็กและกดพิมพ์พระจนบริบูรณ์

พระพิมพ์ สมเด็จพระแก้วมณีโชติ เนื้อดินผสมผง พิมพ์เล็กและพิมพ์ใหญ่ มีทั้งหมด 8 สี คือ สีดำเงา สีขาว สีอิฐ สีอรุณ สีคราม สีน้ำตาลอ่อน สีเทา และสีน้ำตาล เรียกกันว่า พระอรหันต์ 8 ทิศ
พระพิมพ์ สมเด็จพระแก้วมณีโชติ เนื้อผง พิมพ์เล็กและพิมพ์ใหญ่ สีขาว เป็นเนื้อมวลสารสมเด็จวัดระฆัง และสมเด็จวัดบางขุนพรหม กรุงเทพมหานคร ผสมไว้จำนวนมาก และเป็นมวลสารที่บริสุทธิ์กว่าพระพิมพ์ชนิดอื่นๆ จนมีผู้เล่ากันว่า ท่านพระครูศีลสารสัมบันเป็นผู้กดพิมพ์พระเองเสียด้วยซ้ำ พระพิมพ์ชนิดนี้จัดสร้างไว้จำนวนน้อยคำนวณนับได้ไม่ถึง 100 องค์ เพราะมวลสารสำหรับพิมพ์พระมีน้อย อุปมาดังเช่น พระพุทธเจ้า อันเป็นบุคคลที่หาได้ยากในโลก จึงแทน “พระสัมมาสัมพุทธเจ้า”

มหาพิธีพุทธาภิเษกแบบไตรภาคี(ปลุกเสก 3 วาระ 3 สถานที่)

วาระที่1: วันพุธ ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2515
พิธีพุทธาภิเษกจัดขึ้น ณ ศาลาโรงพุทธาภิเษก วัดสระแก้วปทุมทอง จังหวัดพิษณุโลก ในพิธีนี้ ท่านพระครูศีลสารสัมบัน เป็นเจ้าพิธีได้กำหนดและควบคุมดำเนินการประกอบพิธี "จักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก" ครบถ้วนตามแบบฉบับของโบราณพิธีทุกประการตามวิธีการสายพระวิปัสสนาจารย์ โดยมีอาจารย์เทพย์ สาริกบุตร ถวายคำแนะนำ
- ประธานฝ่ายสงฆ์ พระครูศีลสารสัมบัน เจ้าอาวาสวัดสระแก้วปทุมทอง และเจ้าคณะอำเภอเมืองพิษณุโลก เป็นประธานจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยและจุด เทียนชัย
- ประธานบริกรรมปลุกเสก 9 รูปตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน ดังนี้
1.พระพิษณุบุราจารย์ เจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร พิษณุโลก
2.พระอาจารย์นวล วัดนิมิตรธรรมาราม พิษณุโลก
3.พระสมุห์ละมัย (พระวรญาณมุนี) วัดอรัญญิก พิษณุโลก
4.พระครูอภัยจริยาภรณ์ วัดใหม่อภัยยาราม พิษณุโลก
5.พระครูวินัยธรสุเทพ วัดแสงดาว พิษณุโลก
6.พระอาจารย์ถนอม วัดนางพญา พิษณุโลก
7.พระครูประภาสธรรมาภรณ์ (หลวงพ่อแขก) วัดสุนทรประดิษฐ์ พิษณุโลก
8.พระครูศรีรัตนาภรณ์ (หลวงพ่อไซ่) วัดจูงนาง (วัดศรีรัตนาราม) พิษณุโลก
9.หลวงพ่อเปรื่อง วัดคูหาสวรรค์ พิษณุโลก
พระคณาจารย์นั่งปรกปลุกเสกทั้งคืน ดังนี้
1.พระครูศีลสารสัมบัน เจ้าอาวาสวัดสระแก้วปทุมทอง และเจ้าคณะอำเภอเมืองพิษณุโลก
2.พระอาจารย์พิมพ์ วัดคูหาสวรรค์ พิษณุโลก
3.หลวงพ่อเปรื้อง วัดโพธิญาณ พิษณุโลก
4.พระอาจารย์ชุ่ม วัดกรมธรรม์ พิษณุโลก
5.พระอาจารย์โต วัดสมอแข พิษณุโลก
6.พระครูประพันธ์ (หลวงพ่อพัน) วัดบางสะพาน พิษณุโลก
7.พระครูวิจารย์ศุภกิจ (อาจารย์ทองม้วน) วัดวังทองวราราม พิษณุโลก
8.พระอาจารย์ธงชัย วัดวชิรธรรมราชา พิษณุโลก

วาระที่ 2: วันพฤหัสบดี ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2515
พิธีพุทธาภิเษกจัดขึ้น ณ พระวิหารพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดใหญ่) จังหวัดพิษณุโลก ในพิธีนี้ พระอาจารย์ผ่อง จินดา วัดจักรวรรดิราชาวาส กทม. และ อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร ซึ่งเป็นเจ้าพิธีได้กำหนด และควบคุมดำเนินการประกอบพิธี "จักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก" ครบถ้วนตามแบบฉบับของโบราณ

คณะกรรมการพิธีจักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก
- ประธานฝ่ายสงฆ์ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสโน) ทรงเป็นประธานจุดเทียนชัย
- ประธานฝ่ายฆราวาส ศาสตราจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ นายกพุทธสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานในพิธีจุดเทียนบูชาพระรัตนตรัย
- ประธานบริกรรมปลุกเสก พระครูศรีพรหมโสภิต (หลวงพ่อแพ) วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี
พระคณาจารย์นั่งปรกปลุกเสก 109 รูป ดังนี้
1. หลวงพ่อทอง (พระครูวิริยะโสภิต) วัดพระปรางค์ จ.สิงห์บุรี
2. หลวงพ่อเงิน (พระราชธรรมมาภรณ์) วัดดอนยาหอม จ.นครปฐม
3. หลวงพ่อนาค (พระครูจันทรโสภณ) วัดนรนาถสุนทริการาม กรุงเทพฯ
4. หลวงพ่อแดง (พระครูญาณวิลาศ) วัดเขาบันไดอิฐ จ.เพชรบุรี
5. หลวงพ่อหอม (พระครูภาวนาณุโยค) วัดซากหมากป่าเรไร จ.ระยอง
6. หลวงพ่อสุข วัดโพธิ์ทรายทอง จ.บุรีรัมย์
7. หลวงพ่อสด (พระครูวิจิตนชัยการ) วัดหางน้ำ จ.ชัยนาท
8. หลวงพ่อชื่น (พระครูนนทกิจวิมล) วัดตำหนักเหนือ จ.นนทบุรี
9. หลวงพ่อบุญ (พระครูประดิษฐ์นวการ) วัดวังมะนาว จ.ราชบุรี
10. หลวงปู่ทองอยู่ (พระครูสุตาธิการี) วัดใหม่หนองพระองค์ จ.สมุทรสาคร
11. หลวงพ่อกรับ (พระครูธรรมสาคร) วัดโกรกกราก จ.สมุทรสาคร
12. หลวงพ่อเจริญ (พระครูปัญญาโชติ) วัดทองนพคุณ จ.เพชรบุรี
13. หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู จ.ลพบุรี
14. หลวงพ่อชื่น วัดคุ้งท่าเลา จ.ลพบุรี
15. พระครูสนิทวิทยการ วัดท่าโขลง จ.ลพบุรี
16. พระครูปิยะธรรมโสภิณ (หลวงพ่อคำ) วัดบำรุงธรรม จ.สระบุรี
17. พระครูกิตพิจารณ์ (หลวงพ่อผัน) วัดราฎร์เจริญ จ.สระบุรี
18. พระครูพุทธฉายาภิบาล วัดพระพุทธฉาย จ.สระบุรี
19. พระครูสุวรรณวุฒาจารย์ (หลวงพ่อมุ่ย) วัดดอนไร่ จ.สุพรรณบุรี
20. พระวินัยรักขิตาวันมุนี (หลวงพ่อถิร) วัดป่าเลไลย์ จ.สุพรรณบุรี
21. พระวิบูลเมธาจารย์ วัดดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี
22. หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว จ.สุพรรณบุรี
23. หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง จ.นนทบุรี
24. หลวงพ่อเผือก วัดสาลีโข จ.นนทบุรี
25. พระครูประกาศสมาธิคุณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ฯกรุงเทพฯ
27. พระเทพโสภณ (สมเด็จพระมหาธีราจารย์) (นิยม ฐานิสฺสโร) วัดชนะสงคราม กรุงเทพฯ
28. หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม จ.นครปฐม
29. พระครูสาธุกิจวิมล (หลวงพ่อเล็ก) วัดหนองดินแดง จ.นครปฐม
30. หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ จ.กาญจนบุรี
31. พระครูอุดมสิทธาจารย์ (หลวงพ่ออุตตมะ) วัดวังก์วิเวการาม จ.กาญจนบุรี
32. พระครูจันทสโรภาส (หลวงพ่อเที่ยง) วัดม่วงชุม จ.กาญจนบุรี
33. พระครูโกวิทยาสมุทคุณ (หลวงพ่อเนื่อง) วัดจุฬามณี จ.สมุทรสงคราม
34. พระครูศรีพรหมโสภิต (หลวงพ่อแพ) วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี
35. พระอาจารย์ผ่อง (จินดา) วัดจักรวรรคิ์ราชาวาส กรุงเทพฯ
36. พระครูศรีปริยานุรักษี วัดพันอ้น จ.เชียงใหม่
37. พระครูวิรุฬห์ธรรมโกวิทย์ วัดเจดีย์สถาน จ.เชียงใหม่
38. พระครูมงคลคุณาธร วัดหม้อตองคำ จ.เชียงใหม่
39. หลวงพ่อบุญมี วัดท่าสต๋อย จ.เชียงใหม่
40. หลวงพ่อแสน วัดท่าแหน จ.ลำปาง
41. หลวงพ่อเมือง วัดท่าแหน จ.ลำปาง
42. หลวงพ่อชุบ วัดเกาะวาลุการาม จ.ลำปาง
43. หลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง
44. หลวงพ่อเงิน วัดเขาสาก จ.ลำปาง
45. หลวงพ่อบุญสม วัดหัวข่วง จ.ลำปาง
46. พระวิบูลวชิรธรรม วัดท่าพุทรา จ.กำแพงเพชร
47. หลวงพ่อจ้อย วัดศรีอุทุมพร จ.นครสวรรค์
48. หลวงพ่อพรหม ถาวโร วัดช่องแค จ.นครสวรรค์
49. หลวงพ่อโอด (พระครูนิสัยจริยคุณ) วัดจันเสน จ.นครสวรรค์
50. หลวงพ่อคัด วัดท่าโบสถ์ จ.ชัยนาท
51. หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม จ.ชัยนาท
52. หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม จ.สิงห์บุรี
53. หลวงพ่อดวง วัดทอง จ.สิงห์บุรี
54. พระครูอาทรสิกขการ (หลวงพ่อโต๊ะ) วัดเกศไชโย จ.อ่างทอง
55. พระครูสันทัดธรรมคุณ (หลวงพ่อออด) วัดท่าช้าง จ.อยุธยา
56. พระครูประภาสธรรมคุณ (หลวงพ่อแจ่ม) วัดวังแดง จ.อยุธยา
57. พระครูประสาทวิทยาคม (หลวงพ่อนอ) วัดกลางท่าเรือ จ.อยุธยา
58. พระครูพิพิธวิหารการ (หลวงพ่อเทียม) วัดกษัตราธิราช จ.อยุธยา
59. พระครูสาธรพัฒนกิจ (หลวงพ่อลมูล) วัดเสด็จ จ.ปทุมธานี
60. พระครูวิเศษมงคลกิจ (หลวงพ่อมิ่ง) วัดกก กรุงเทพฯ
61. พระครูอนุกูลวิทยา (หลวงพ่อเส็ง) วัดน้อยนางหงษ์ กรุงเทพฯ
62. พระครูพิริยกิจติ (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ
63. พระครูภาวณาภิรมย์ วัดปากน้ำภาษีเจริญ กรุงเทพฯ
64. พระครูโสภณกัลป์ยานุวัฒน์ (หลวงพ่อเส่ง) วัดกัลยาณ์ กรุงเทพฯ
65. พระครูพินิจสมาจารย์ (หลวงพ่อโด่) วัดนามะตูม จ.ชลบุรี
66. หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง
67. พระครูวชิรรังษี วัดมฤคทายวัน จ.ประจวบคีรีขันธ์
68. พระครูวชิรคุณาญาณ วัดในกลาง จ.ประจวบคีรีขันธ์
69. หลวงพ่อเกตุ วัดเกาะหลัก จ.ประจวบคีรีขันธ์
70. พระครูอุดมศีลจารย์ (พ่อท่านเย็น) วัดโคกสะท้อน จ.พัทลุง
71. พระครูพิศาลพัฒนกิจ (พ่อท่านพระครูปลัดบุญรอด) วัดประดู่พัฒนาราม จ.พัทลุง

พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...

อื่นๆ...

Top