พระสมเด็จขี่สิงห์ รุ่น๑ หลังยันต์ใบพัด ปี๒๕๑๒ หลวงพ่อหอม จันทโชโต (พระครูภาวนานุโยค) วัดซากหมาก จ.ระ-ศิลป์เจริญพร - webpra

เว็บ-พระ ประมูลพระเครื่อง ร้านค้าพระเครื่องออนไลน์

ศิลป์เจริญพร

"ร้านนี้พระเครื่องยุคเก่า น้อมบูชาคุณ พระสุปฏิปันโน ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ พุทธคุณ ล้ำค่ายิ่งทางใจ"

หมวด พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน ก่อนปี 2525

พระสมเด็จขี่สิงห์ รุ่น๑ หลังยันต์ใบพัด ปี๒๕๑๒ หลวงพ่อหอม จันทโชโต (พระครูภาวนานุโยค) วัดซากหมาก จ.ระ

พระสมเด็จขี่สิงห์ รุ่น๑ หลังยันต์ใบพัด ปี๒๕๑๒ หลวงพ่อหอม จันทโชโต (พระครูภาวนานุโยค) วัดซากหมาก จ.ระ - 3

พระสมเด็จขี่สิงห์ รุ่น๑ หลังยันต์ใบพัด ปี๒๕๑๒ หลวงพ่อหอม จันทโชโต (พระครูภาวนานุโยค) วัดซากหมาก จ.ระ - 4

ชื่อร้านค้า	ศิลป์เจริญพร - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	ศิลป์เจริญพร (2259)
ชื่อพระเครื่อง	พระสมเด็จขี่สิงห์ รุ่น๑ หลังยันต์ใบพัด ปี๒๕๑๒ หลวงพ่อหอม จันทโชโต (พระครูภาวนานุโยค) วัดซากหมาก จ.ระ
อายุพระเครื่อง	-
หมวดพระ	พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน ก่อนปี 2525
ราคาเช่า	1,000 บาท
เบอร์โทรติดต่อ	0811178991 (สะดวกรับสายเวลา 18.00 - 20.00 น.)
อีเมล์ติดต่อ	เนื่องจากมีลูกค้าติดต่อเช่าพระจำนวนมาก ดังนั้นเช่าผ่านLINE ID : @870rqvth จะติดต่อง่ายสะดวกสุดครับ
LINE	(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	พ. - 12 ต.ค. 2565 - 21:02.18
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	พฤ. - 13 ต.ค. 2565 - 12:27.54

รายละเอียด
รหัส ศ.ร.๑๘๖๖๘ พระสมเด็จขี่สิงห์ รุ่น๑ หลังยันต์ใบพัด ปี๒๕๑๒ หลวงพ่อหอม จันทโชโต (พระครูภาวนานุโยค) วัดซากหมาก จ.ระยอง *องค์นี้แบบผิวทาเคลือบเดิมจากวัด พบน้อยกว่าแบบเนื้อผงไม่เคลือบ จังหวัดระยองมิใช่จะมีหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ โด่งดังเพียงองค์เดียวเท่านั้น แต่เมืองระยองยังมีพระคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิวิทยาคมอยู่อีกองค์หนึ่ง ทั้งๆที่กิตติศัพท์ของท่านเคยโด่งดังมาก่อนหลวงปู่ทิมซะอีก แต่ที่มีคนรู้จักน้อย สืบเนื่องมาจากท่านไม่ค่อยให้ประวัติของท่านนำมาลงเผยแพร่ ด้วยเหตุนี้ หลวงพ่อหอม จึงโด่งดังในเฉพาะลูกศิษย์เท่านั้น จากประวัติเกียรติคุณของหลวงพ่อหอมนับว่าน่าสนใจยิ่งนัก ท่านมีวัตรปฎิปทาน่าเคารพศรัทธายิ่งนัก หลวงพ่อหอม ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดชากหมาก ตั้งอยู่ทางฝั่งชายทะเลตะวันออกชื่อเสียงของท่านเคยโด่งดังมาในอดีต ท่านมีคุณวิเศษต่างๆจนเป็นที่เคารพนับถือแก่บรรดาศิษยานุศิษย์ทั่วไป นับตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๙๐ ไม่ว่าพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลสำนักต่างๆทุกครั้งจะต้องปรากฎชื่อของท่านนั่งปรกปลุกเสกทุกครั้งไป แม้แต่พิธีที่ยิ่งใหญ่ นับเป็นประวัติศาสตร์ของประเทศไทย คือ ปี พ.ศ.๒๕๐๐ เรียกว่า กึ่งพุทธกาล รัฐบาลในยุคสมัย จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานจัดงานฉลอง ๒๕ พุทธศตวรรษขึ้น โดยการจัดพิธีพุทธาภิเษกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในพุทธอาณาจักร โดยทางราชการได้จัดสร้าง พระพุทธปางลีลา มีทั้งเนื้อโลหะและเนื้อดินเผาจำนวนมากมายมหาศาล พระชุดนี้ที่พวกเรารู้จักกันในนามพระ ๒๕ พุทธศตวรรษนั้นเอง พิธีพุทธาภิเษกในครั้งนั้น ทางราชการได้จัดขึ้น ณ ประรำพิธีที่ท้องสนามหลวง และวัดสุทัศนเทพวนาราม พระคณาจารย์ที่ทางราชการนิมนต์มาปลุกเสกจำนวนมากมายมหาศาลถึง ๒,๐๐๐ กว่าองค์ทั่วทุกทิศ ในพิธีนี้หลวงพ่อหอมก็เป็นพระเกจิอาจารย์องค์หนึ่งที่ได้รับนิมนต์มานั่งปรกร่วมด้วย กล่าวกันว่า เมื่อหลวงพ่อหอมมานั่งปรกในครั้งนั้นได้มีสาธุชนทั่วไปเข้าไปกราบนมัสการวัตถุมงคลจากท่าน บ้างก็ขอให้ลงกระหม่อมเป่าหัว และลงเหล็กจารแผ่นโลหะต่างๆ ตลอดเป่าปลุกเสกพระเครื่องต่างๆหลังจากเสร็จพิธีหลวงพ่อหอมได้มาพักผ่อนที่สำนักวัดสุทัศฯ ได้มีศิษยานุศิษย์ติดตามไปหาไม่ขาดระยะ จนแทบจะไม่มีเวลาพักผ่อนศิษย์ผู้ติดตามทำหน้าที่อุปัฎฐากถึงกับขอร้องเหล่าสาธุชนขอให้หลวงพ่อหอมมีเวลาพักผ่อนบ้าง แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะหลวงพ่อกลับพูดออกมาด้วยเสียงอันเต็มเปี่ยมไปด้วยเมตตากรุณาว่า “ช่างเขาเถอะลูก” และคำพูดคำนี้ ท่านก็ได้ใช้เรื่อยมาจนตลอดอายุขัยของท่าน

รายละเอียด

**รหัส ศ.ร.๑๘๖๖๘
พระสมเด็จขี่สิงห์ รุ่น๑ หลังยันต์ใบพัด ปี๒๕๑๒ หลวงพ่อหอม จันทโชโต (พระครูภาวนานุโยค) วัดซากหมาก จ.ระยอง ***องค์นี้แบบผิวทาเคลือบเดิมจากวัด พบน้อยกว่าแบบเนื้อผงไม่เคลือบ

จังหวัดระยองมิใช่จะมีหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ โด่งดังเพียงองค์เดียวเท่านั้น
แต่เมืองระยองยังมีพระคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิวิทยาคมอยู่อีกองค์หนึ่ง ทั้งๆที่กิตติศัพท์ของท่านเคยโด่งดังมาก่อนหลวงปู่ทิมซะอีก แต่ที่มีคนรู้จักน้อย สืบเนื่องมาจากท่านไม่ค่อยให้ประวัติของท่านนำมาลงเผยแพร่ ด้วยเหตุนี้ หลวงพ่อหอม จึงโด่งดังในเฉพาะลูกศิษย์เท่านั้น
จากประวัติเกียรติคุณของหลวงพ่อหอมนับว่าน่าสนใจยิ่งนัก ท่านมีวัตรปฎิปทาน่าเคารพศรัทธายิ่งนัก

หลวงพ่อหอม ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดชากหมาก ตั้งอยู่ทางฝั่งชายทะเลตะวันออกชื่อเสียงของท่านเคยโด่งดังมาในอดีต ท่านมีคุณวิเศษต่างๆจนเป็นที่เคารพนับถือแก่บรรดาศิษยานุศิษย์ทั่วไป

นับตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๙๐ ไม่ว่าพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลสำนักต่างๆทุกครั้งจะต้องปรากฎชื่อของท่านนั่งปรกปลุกเสกทุกครั้งไป แม้แต่พิธีที่ยิ่งใหญ่ นับเป็นประวัติศาสตร์ของประเทศไทย คือ ปี พ.ศ.๒๕๐๐ เรียกว่า กึ่งพุทธกาล รัฐบาลในยุคสมัย จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานจัดงานฉลอง ๒๕ พุทธศตวรรษขึ้น โดยการจัดพิธีพุทธาภิเษกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในพุทธอาณาจักร โดยทางราชการได้จัดสร้าง พระพุทธปางลีลา มีทั้งเนื้อโลหะและเนื้อดินเผาจำนวนมากมายมหาศาล พระชุดนี้ที่พวกเรารู้จักกันในนามพระ ๒๕ พุทธศตวรรษนั้นเอง
พิธีพุทธาภิเษกในครั้งนั้น ทางราชการได้จัดขึ้น ณ ประรำพิธีที่ท้องสนามหลวง และวัดสุทัศนเทพวนาราม พระคณาจารย์ที่ทางราชการนิมนต์มาปลุกเสกจำนวนมากมายมหาศาลถึง ๒,๐๐๐ กว่าองค์ทั่วทุกทิศ ในพิธีนี้หลวงพ่อหอมก็เป็นพระเกจิอาจารย์องค์หนึ่งที่ได้รับนิมนต์มานั่งปรกร่วมด้วย

กล่าวกันว่า เมื่อหลวงพ่อหอมมานั่งปรกในครั้งนั้นได้มีสาธุชนทั่วไปเข้าไปกราบนมัสการวัตถุมงคลจากท่าน บ้างก็ขอให้ลงกระหม่อมเป่าหัว และลงเหล็กจารแผ่นโลหะต่างๆ ตลอดเป่าปลุกเสกพระเครื่องต่างๆหลังจากเสร็จพิธีหลวงพ่อหอมได้มาพักผ่อนที่สำนักวัดสุทัศฯ ได้มีศิษยานุศิษย์ติดตามไปหาไม่ขาดระยะ จนแทบจะไม่มีเวลาพักผ่อนศิษย์ผู้ติดตามทำหน้าที่อุปัฎฐากถึงกับขอร้องเหล่าสาธุชนขอให้หลวงพ่อหอมมีเวลาพักผ่อนบ้าง แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะหลวงพ่อกลับพูดออกมาด้วยเสียงอันเต็มเปี่ยมไปด้วยเมตตากรุณาว่า “ช่างเขาเถอะลูก” และคำพูดคำนี้ ท่านก็ได้ใช้เรื่อยมาจนตลอดอายุขัยของท่าน