พระสมเด็จ หลังธรรมจักร หลวงพ่อสังวาลย์ เขมโก วัดทุ่งสามัคคีธรรม สามชุก จ.สุพรรณบุรี สภาพสวย หายากแล้-ศิลป์เจริญพร - webpra

เว็บ-พระ ประมูลพระเครื่อง ร้านค้าพระเครื่องออนไลน์

ศิลป์เจริญพร

"ร้านนี้พระเครื่องยุคเก่า น้อมบูชาคุณ พระสุปฏิปันโน ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ พุทธคุณ ล้ำค่ายิ่งทางใจ"

หมวด พระสมเด็จทั่วไป

พระสมเด็จ หลังธรรมจักร หลวงพ่อสังวาลย์ เขมโก วัดทุ่งสามัคคีธรรม สามชุก จ.สุพรรณบุรี สภาพสวย หายากแล้

พระสมเด็จ หลังธรรมจักร หลวงพ่อสังวาลย์ เขมโก วัดทุ่งสามัคคีธรรม สามชุก จ.สุพรรณบุรี สภาพสวย หายากแล้ - 3

ชื่อร้านค้า	ศิลป์เจริญพร - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	ศิลป์เจริญพร (2259)
ชื่อพระเครื่อง	พระสมเด็จ หลังธรรมจักร หลวงพ่อสังวาลย์ เขมโก วัดทุ่งสามัคคีธรรม สามชุก จ.สุพรรณบุรี สภาพสวย หายากแล้
อายุพระเครื่อง	-
หมวดพระ	พระสมเด็จทั่วไป
ราคาเช่า	250 บาท
เบอร์โทรติดต่อ	0811178991 (สะดวกรับสายเวลา 18.00 - 20.00 น.)
อีเมล์ติดต่อ	เนื่องจากมีลูกค้าติดต่อขอเช่าพระมาจำนวนมากต่อวัน ดังนั้นเช่าผ่านLINE จะติดต่อง่ายและสะดวกสุดครับ
LINE	(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	อา. - 06 มี.ค. 2565 - 21:35.33
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	อา. - 06 มี.ค. 2565 - 21:35.33

รายละเอียด
รหัส ศ.ร.๑๗๕๒๖ พระสมเด็จ หลังธรรมจักร หลวงพ่อสังวาลย์ เขมโก วัดทุ่งสามัคคีธรรม สามชุก จ.สุพรรณบุรี หายากแล้วครับ * องค์นี้ผิวด้านหน้ามีรอยแยกเป็นเส้น ตามอายุความเก่า แต่พระไม่ผ่านการใช้ เปิดเบาๆ อริยะโลกที่ 6 - “หลวงพ่อสังวาลย์ เขมโก” อดีต เจ้าอาวาสวัดทุ่งสามัคคีธรรม อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี หรือ “หลวงพ่อใหญ่” พระนักปฏิบัติ พระนักเทศน์ที่มี ลูกศิษย์ลูกหาเลื่อมใสศรัทธาท่านเป็นจำนวนมาก ผลงานของท่านได้ถูกขยายผลเป็นงานเขียนที่ทรงคุณค่า ทิ้งเป็นมรดกธรรมให้ลูกศิษย์รุ่นหลังได้เสพสุขกับธรรมที่อ่านและเข้าใจง่าย นามเดิม สังวาลย์ จันทร์เรือง อยู่บ้านหนองผักนาก อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี เกิดเมื่อวันจันทร์ เดือนมีนาคม พ.ศ.2459 ปีมะโรง ครอบครัวประกอบอาชีพทำนา เคยบวชมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ด้วยความที่ท่านเป็นคนไม่รู้หนังสือ บทสวดมนต์บางบทต้องจำจากที่แม่ชีสวดกัน จึงสวดมนต์ได้แค่อิติปิโส-พาหุง เท่านั้น ก่อนลาสิกขา ต่อมา ได้สมรสอยู่กับสาวชาวบ้าน เมื่ออายุ 26 ปี ในปี 2448 แต่ไม่มีบุตรด้วยกัน ยึดอาชีพทำนา แต่ด้วยเหตุที่ท่านมีสุขภาพไม่ค่อยจะแข็งแรง บางครั้งขณะที่ทำงานเกิดเจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมาด้วยความเบื่อหน่ายทางโลก ตั้งใจอันแน่วแน่ที่จะไปสู่ผ้าเหลือง เข้าพิธีอุปสมบทอีกครั้ง เมื่อวันที่ 25 เม.ย.2494 ณ วัดนางบวช ต.นางบวช อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี โดยมี พระครูแขก วัดหัวเขา เป็นพระอุปัชฌาย์, พระสมุห์ทองย้อย เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการไสว เป็นพระอนุสาวนาจารย์ จำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านทึง อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี เลือกภาวนาอยู่ในป่าช้าของวัด สมถะเรียบง่าย ไม่รับกิจนิมนต์ ในเวลานั้นพระมหาทอง โสภโณ จำพรรษาอยู่ก่อนแล้ว และเป็นพระที่เก่งด้านปริยัติธรรมและเป็นพระตรง คือตรงต่อหลักและการถ่ายทอด หลวงพ่อสังวาลย์จึงยอมรับเป็นครูที่แท้จริงในชีวิต พ.ศ.2499 ธุดงค์มาปักกลดอยู่บริเวณวัดทุ่งสามัคคีธรรม โดยอาศัยวิหารร้างหลังเก่าเป็นที่อาศัย ภายในวิหารมีพระพุทธรูป 3 องค์ ประดิษฐานอยู่ ท่านได้พัฒนาวัดทุ่งสามัคคีธรรมให้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม จากนั้นได้ธุดงค์ไปพัฒนาวัดตามจังหวัดต่างๆ จนไปถึงวัดเขาดีสลัก เขตอ.ศรีประจันต์ ไปสร้างวัด เขาดีสลัก และส่งพระไปอยู่ เดินไปแถว อ.เดิมบาง นางบวช ก็ได้ไปสร้างวัดเขาคีรีทรงธรรมขึ้น จวบจน พ.ศ.2523 วัดทุ่งสามัคคีธรรมตกอยู่ในสภาพเสื่อมโทรม กลับมาพัฒนาตามเดิมตามสัญญาที่ให้ไว้กับญาติโยม จุดเริ่มต้นที่พัฒนาอันดับแรก คือ อุโบสถ สร้างเป็นแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ชั้น ชั้นบนสำหรับให้พระภิกษุสามเณรลงทำสังฆกรรม อุปสมบท สวดมนต์ภาวนา ชั้น 2 ใช้เป็นที่บำเพ็ญภาวนาเจริญกัมมัฏฐาน อบรมธรรมไหว้พระสวดมนต์ของพุทธศาสนิกชนทั่วไป ส่วนหลักการสอนของหลวงพ่อ สังวาลย์ ท่านเน้นการอบรมสั่งสอนบรรดาศิษย์ในเรื่องกัมมัฏฐาน เบื้องต้นของการปฏิบัติ ท่านพยายามให้เจริญสมถกัมมัฏฐานเสียก่อน โดยใช้ภาวนาว่าพุทโธ ให้บริกรรมภาวนาคู่กับอานาปานสติ กัมมัฏฐาน กัมมัฏฐานมีกำหนดความรู้กับลมหายใจเข้า ลมหายใจออก พยายามทำสติ พยายามเจริญสติอยู่กับกองลมเข้า กองลมออก ไม่ปล่อยอารมณ์ไปในภายนอก เมื่อจิตสามารถสงบระงับดับนิวรณ์ได้แล้ว จึงสอนให้เจริญวิปัสสนากัมมัฏฐานสืบต่อไป คำเทศนาเป็นธรรมที่ง่ายๆ อาทิ “เมล็ดผัก เมล็ดต้นไม้จะกลายพันธุ์ไม่ได้ แต่จิตของคนมันมีความถี่เหมือนกระแสไฟฟ้าเกิดขึ้นถี่มาก ตะเกียงที่เรามองเห็นว่าเป็นแสงสว่างดวงเดียว แต่จริงแล้วมันเป็นคลื่นติดๆ กันมาถี่มาก เรามองไม่เห็นด้วยตาเปล่า จิตของคนเราก็มองไม่เห็นเหมือนกับไฟนี่แหละ” วัตรปฏิบัติที่งดงามตลอดเวลาที่อยู่ในเพศบรรพชิต ดำเนินรอยตามบรมศาสดาเจ้าอย่างไม่มีสิ่งด่างพร้อย จึงยกให้เป็นพระดีศรีสุพรรณอีกรูป มรณภาพอย่างสงบ เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.2547 สิริอายุ 88 ปี พรรษา 5

รายละเอียด

**รหัส ศ.ร.๑๗๕๒๖
พระสมเด็จ หลังธรรมจักร หลวงพ่อสังวาลย์ เขมโก วัดทุ่งสามัคคีธรรม สามชุก จ.สุพรรณบุรี หายากแล้วครับ *** องค์นี้ผิวด้านหน้ามีรอยแยกเป็นเส้น ตามอายุความเก่า แต่พระไม่ผ่านการใช้ เปิดเบาๆ

อริยะโลกที่ 6 - “หลวงพ่อสังวาลย์ เขมโก” อดีต เจ้าอาวาสวัดทุ่งสามัคคีธรรม อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี หรือ “หลวงพ่อใหญ่” พระนักปฏิบัติ พระนักเทศน์ที่มี ลูกศิษย์ลูกหาเลื่อมใสศรัทธาท่านเป็นจำนวนมาก ผลงานของท่านได้ถูกขยายผลเป็นงานเขียนที่ทรงคุณค่า ทิ้งเป็นมรดกธรรมให้ลูกศิษย์รุ่นหลังได้เสพสุขกับธรรมที่อ่านและเข้าใจง่าย

นามเดิม สังวาลย์ จันทร์เรือง อยู่บ้านหนองผักนาก อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี เกิดเมื่อวันจันทร์ เดือนมีนาคม พ.ศ.2459 ปีมะโรง ครอบครัวประกอบอาชีพทำนา

เคยบวชมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ด้วยความที่ท่านเป็นคนไม่รู้หนังสือ บทสวดมนต์บางบทต้องจำจากที่แม่ชีสวดกัน จึงสวดมนต์ได้แค่อิติปิโส-พาหุง เท่านั้น ก่อนลาสิกขา

ต่อมา ได้สมรสอยู่กับสาวชาวบ้าน เมื่ออายุ 26 ปี ในปี 2448 แต่ไม่มีบุตรด้วยกัน ยึดอาชีพทำนา แต่ด้วยเหตุที่ท่านมีสุขภาพไม่ค่อยจะแข็งแรง บางครั้งขณะที่ทำงานเกิดเจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมาด้วยความเบื่อหน่ายทางโลก ตั้งใจอันแน่วแน่ที่จะไปสู่ผ้าเหลือง เข้าพิธีอุปสมบทอีกครั้ง เมื่อวันที่ 25 เม.ย.2494 ณ วัดนางบวช ต.นางบวช อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี โดยมี พระครูแขก วัดหัวเขา เป็นพระอุปัชฌาย์, พระสมุห์ทองย้อย เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการไสว เป็นพระอนุสาวนาจารย์

จำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านทึง อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี

เลือกภาวนาอยู่ในป่าช้าของวัด สมถะเรียบง่าย ไม่รับกิจนิมนต์ ในเวลานั้นพระมหาทอง โสภโณ จำพรรษาอยู่ก่อนแล้ว และเป็นพระที่เก่งด้านปริยัติธรรมและเป็นพระตรง คือตรงต่อหลักและการถ่ายทอด หลวงพ่อสังวาลย์จึงยอมรับเป็นครูที่แท้จริงในชีวิต

พ.ศ.2499 ธุดงค์มาปักกลดอยู่บริเวณวัดทุ่งสามัคคีธรรม โดยอาศัยวิหารร้างหลังเก่าเป็นที่อาศัย ภายในวิหารมีพระพุทธรูป 3 องค์ ประดิษฐานอยู่ ท่านได้พัฒนาวัดทุ่งสามัคคีธรรมให้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม

จากนั้นได้ธุดงค์ไปพัฒนาวัดตามจังหวัดต่างๆ จนไปถึงวัดเขาดีสลัก เขตอ.ศรีประจันต์ ไปสร้างวัด เขาดีสลัก และส่งพระไปอยู่ เดินไปแถว อ.เดิมบาง นางบวช ก็ได้ไปสร้างวัดเขาคีรีทรงธรรมขึ้น

จวบจน พ.ศ.2523 วัดทุ่งสามัคคีธรรมตกอยู่ในสภาพเสื่อมโทรม กลับมาพัฒนาตามเดิมตามสัญญาที่ให้ไว้กับญาติโยม จุดเริ่มต้นที่พัฒนาอันดับแรก คือ อุโบสถ สร้างเป็นแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ชั้น ชั้นบนสำหรับให้พระภิกษุสามเณรลงทำสังฆกรรม อุปสมบท สวดมนต์ภาวนา ชั้น 2 ใช้เป็นที่บำเพ็ญภาวนาเจริญกัมมัฏฐาน อบรมธรรมไหว้พระสวดมนต์ของพุทธศาสนิกชนทั่วไป

ส่วนหลักการสอนของหลวงพ่อ สังวาลย์ ท่านเน้นการอบรมสั่งสอนบรรดาศิษย์ในเรื่องกัมมัฏฐาน เบื้องต้นของการปฏิบัติ ท่านพยายามให้เจริญสมถกัมมัฏฐานเสียก่อน โดยใช้ภาวนาว่าพุทโธ ให้บริกรรมภาวนาคู่กับอานาปานสติ กัมมัฏฐาน

กัมมัฏฐานมีกำหนดความรู้กับลมหายใจเข้า ลมหายใจออก พยายามทำสติ พยายามเจริญสติอยู่กับกองลมเข้า กองลมออก ไม่ปล่อยอารมณ์ไปในภายนอก เมื่อจิตสามารถสงบระงับดับนิวรณ์ได้แล้ว จึงสอนให้เจริญวิปัสสนากัมมัฏฐานสืบต่อไป

คำเทศนาเป็นธรรมที่ง่ายๆ อาทิ “เมล็ดผัก เมล็ดต้นไม้จะกลายพันธุ์ไม่ได้ แต่จิตของคนมันมีความถี่เหมือนกระแสไฟฟ้าเกิดขึ้นถี่มาก ตะเกียงที่เรามองเห็นว่าเป็นแสงสว่างดวงเดียว แต่จริงแล้วมันเป็นคลื่นติดๆ กันมาถี่มาก เรามองไม่เห็นด้วยตาเปล่า จิตของคนเราก็มองไม่เห็นเหมือนกับไฟนี่แหละ”

วัตรปฏิบัติที่งดงามตลอดเวลาที่อยู่ในเพศบรรพชิต ดำเนินรอยตามบรมศาสดาเจ้าอย่างไม่มีสิ่งด่างพร้อย จึงยกให้เป็นพระดีศรีสุพรรณอีกรูป

มรณภาพอย่างสงบ เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.2547 สิริอายุ 88 ปี พรรษา 5