หมวด พระกรุ เนื้อดิน - เนื้อผง
พระกลีบบัวเนื้อดินกรุวัดบางสะแกนอก. ตลาดพลู ฝั่งธนบุรี กรุเทพฯ
ชื่อร้านค้า | ศิลป์เจริญพร - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | พระกลีบบัวเนื้อดินกรุวัดบางสะแกนอก. ตลาดพลู ฝั่งธนบุรี กรุเทพฯ |
อายุพระเครื่อง | - |
หมวดพระ | พระกรุ เนื้อดิน - เนื้อผง |
ราคาเช่า | - |
เบอร์โทรติดต่อ | (ไม่แสดงเบอร์ เนื่องจากรายการนี้ไม่ได้ปล่อยเช่า) |
อีเมล์ติดต่อ | เนื่องจากมีลูกค้าติดต่อขอเช่าพระมาจำนวนมากต่อวัน ดังนั้นเช่าผ่านLINE จะติดต่อง่ายและสะดวกสุดครับ |
LINE |
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
|
สถานะ | |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | พฤ. - 22 ต.ค. 2563 - 20:46.41 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | ส. - 28 ก.ย. 2567 - 15:46.56 |
รายละเอียด | |
---|---|
**รหัส ศ.ร.๑๕๐๔๒ พระกลีบบัวเนื้อดินกรุวัดบางสะแกนอก. ตลาดพลู ฝั่งธนบุรี กรุเทพฯ สภาพแบบนี้ เนื้อสองสี(ทูโทน) หายากครับ บทความด้านล่างจากหนังสือพิมพ์ข่าวสดครับ พันธุ์แท้พระเครื่อง โดย : ราม วัชรประดิษฐ์ ย้อนไปในปีพ.ศ.2511 "เจดีย์เก่าหลังอุโบสถ วัดบางสะแกนอก เขตตลาดพลู ฝั่งธนบุรี" ซึ่งสร้างมานานกว่า 100 ปี ได้ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ขณะที่พระลูกวัดกำลังทำความสะอาดบริเวณนั้นและช่วยกันรื้อพระเจดีย์เก่าเพื่อที่จะบูรณะใหม่ ก็ปรากฏ "พระเนื้อดิน" ไหลทะลักออกมาจำนวนมาก เมื่อเรื่องทราบถึงพระครูไพโรจนคุณ เจ้าอาวาสสมัยนั้น จึงให้ไปนำพระมาเก็บรักษาไว้ก่อนที่จะสูญหายไปเสียหมด เรียกกันว่า"พระกรุวัดสะแกนอก" พระกรุวัดสะแกนอกเป็นพระเนื้อดินเผาผสมใบลานเผาไฟ เนื้อองค์พระมีสีต่างๆ ตามธรรมชาติการเผาของพระเนื้อดินทั่วไป ส่วนใหญ่เป็นเนื้อดำจัดบ้างไม่จัดบ้าง ที่พบเห็นมี 2 พิมพ์ คือ พระนั่งสมาธิบนกลีบบัว และพระปิดตามหาลาภ (พระภควัมบดี) ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก โดยสภาพองค์พระที่อยู่หน้ากรุไม่ถูกน้ำจะงดงาม ส่วนองค์ที่แช่อยู่ในน้ำส่วนต่างๆ จึงลบเลือน ทำให้ด้อยความงดงามลงไป จากการสันนิษฐานที่ไปที่มาของพระกรุวัดสะแกนอกแล้ว ตามเนื้อหาและพุทธศิลปะนั้นมีเอกลักษณ์ต่างๆ ใกล้เคียงกันมากกับพระที่สร้างโดยหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า เหตุผลสนับสนุนอีกประการ คือ ถึงแม้เจดีย์จะอยู่ภายในพื้นที่วัดสะแกนอก แต่วัดที่อยู่ใกล้เคียงกับองค์เจดีย์มากที่สุด คือ "วัดบางสะแกใน" ซึ่งสมัยนั้นเจ้าอาวาสคือ หลวงปู่เม่ง ศิษย์เอกของหลวงปู่ศุข ที่ชาวบ้านตลาดพลูเคารพนับถืออย่างมาก ประกอบกับคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่จึงสันนิษฐานได้ว่า น่าจะเป็นพระที่หลวงปู่เม่งนำมาฝากกรุไว้ และหลวงปู่ศุขอาจได้ร่วมปลุกเสกพระชุดนี้ด้วย เพราะพุทธคุณที่ปรากฏนั้นเข้มขลังครบครันในทุกด้าน ซึ่งมีความเป็นไปได้ เนื่องจากหลวงปู่ศุขมักได้รับนิมนต์เข้ากรุงเทพฯ เพื่อร่วมปลุกเสกอธิษฐานจิตวัตถุมงคลต่างๆ เป็นเนืองนิตย์ และท่านก็สนิทกับพระเกจิหลายรูปแถบฝั่งธนบุรี จึงอาจจะมาจำพรรษากับหลวงปู่เม่ง ผู้เป็นศิษย์เอก อัตโนประวัติของหลวงปู่เม่งนั้น เดิมท่านเป็นชาวชัยนาท เกิดที่บ้านโคกหม้อ ต.หน้าพระลาน อ.สรรคบุรี ฐานะทางบ้านยากจน จึงได้ส่งท่านไปอยู่วัดตั้งแต่เด็ก จนเมื่อมีอายุครบบวชได้อุปสมบทที่ วัดท่าวน อ.สรรคบุรี ศึกษาคันถธุระและวิปัสสนาธุระ รวมทั้งวิชาอาคมต่างๆ ได้ระยะหนึ่ง ก็เดินทางไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมที่วัดใหม่บำเพ็ญบุญ ต่อมาเดินทางสู่วัดปากคลองมะขามเฒ่า เพื่อฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาวิทยาอาคมและไสยศาสตร์ชั้นสูงจากหลวงปู่ศุข ด้วยความที่ท่านเป็นคนใฝ่ใจศึกษาและสนใจในด้านนี้เป็นทุนเดิม จึงสามารถเรียนรู้จนแตกฉานเชี่ยวชาญในทุกวิชาที่หลวงปู่ศุขถ่ายทอดให้ หลังจากนั้นได้ออกธุดงค์มายังกรุงเทพมหานคร เพื่อศึกษาพระธรรมเพิ่มเติม จนกระทั่งมาจำพรรษาที่วัดบางสะแกใน เขตตลาดพลู ท่านเป็นที่เคารพรักและศรัทธาของชาวบ้านอย่างมาก ครั้นในปีพ.ศ.2460 เจ้าอาวาสองค์เดิมลาสิกขา ชาวบ้านจึงร่วมใจกราบเรียนให้หลวงปู่รับตำแหน่งเจ้าเอาวาสสืบต่อ แต่ด้วยท่านรักสันโดษและสมถะจึงได้ปฏิเสธไป จนชาวบ้านต้องไปกราบเรียนท่านเจ้าคุณทักษิณคณิสร (สาย) วัดอิน (วัดใต้) ให้มาช่วยพูดให้รับตำแหน่งเจ้าอาวาส เพื่อดูแลสืบสานพระบวรพุทธศาสนาและเผยแผ่ธรรมะสู่ญาติโยม หลวงปู่จึงยอมรับและได้ปกครองวัดบางสะแกในสืบมา วัตถุมงคลของท่านเป็นที่นิยมอย่างมากของชาวตลาดพลูและพุทธศาสนิกชนทั่วไป เป็นที่ร่ำลือกันว่า "เหนียวยิ่งนัก" ทีเดียว สมัยก่อนนั้นชาวตลาดพลูมักกล่าวกันว่า ... "ถ้าจะหาพระด้านเมตตา ค้าขาย ต้องแขวนพระเครื่องหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี แต่ถ้าจะหาพระที่เหนียวสุดๆ ต้องพระของหลวงปู่เม่ง วัดบางสะแกใน" สำหรับ "พระกรุวัดสะแกนอก" นี้แรกเริ่มหลังแตกกรุไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร ด้วยเป็นพระกรุที่มีอายุการสร้างยังไม่มากนัก และในช่วงนั้นมีพระกรุอื่นๆ มากมายที่มีอายุอานามมากกว่า เป็นที่น่าสนใจให้เช่าหาบูชาสะสม แต่ต่อเมื่อ 10 ปีให้หลังปรากฏว่าผู้มีไว้ครอบครองต่างประสบปาฏิหาริย์เป็นที่ปรากฏ ทั้งแคล้วคลาด เมตตา มหานิยม และคงกระพันครบครันเป็นเลิศ จนเป็นที่เลื่องลือของชาวตลาดพลู ต่างเสาะแสวงหามาคู่กาย เมื่อข่าวแพร่กระจายออกไป "พระกรุวัดสะแกนอก" จึงกลายเป็นที่นิยมในแวดวงนักนิยมสะสมพระเครื่องพระบูชา ได้ข่าวว่ามีชาวสิงคโปร์ได้เข้ามากว้านเช่าจากคนในพื้นที่ไปคราวละหลายองค์ ทำให้ค่านิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ ลดหลั่นกันไปตามความสมบูรณ์สวยงามขององค์พระตอนนี้หาสวยๆสมบูรณ์ยาก ใครสะสมได้สะสมไหว แนะนำให้เก็บพระดีๆ ราคาก็ถูก เคยเห็น เซียนพระสาย ชัยนาท นำภาพที่สะสมพระชุดนี้มาให้ชม สะสมเป็นโหลใหญ่ๆเลยครับท่าน ลักษณะของพระ เป็นพระเนื้อดิน พิมพ์กลีบบัว มีสีต่างๆตามธรรมชาติการเผาของพระเนื้อดิน พิมพ์นี้โดยมากจะกดพิมพ์มีปีกด้านข้าง และจะมีรอยบิ่นมากบ้างน้อยบ้างในแต่ละองค์ พระกรุอายุเป็นร้อยปี มีรอยบิ่นแบบนี้ไม่แปลกครับ ที่สำคัญหลายๆองค์จะมีรารัก(ราที่เกิดบนผิวพระเนื้อดิน) นำไปเป็นศึกษาพระกรุเนื้อดินกรุอื่นๆได้ พระกรุวัดบางสะแกในสมัยก่อนยังพอมีให้เก็บหากันได้ ปัจจุบันองค์สวยๆโดนเซียนใหญ่เก็บเข้ารังหมด องค์ไม่สวยยังเริ่มหายากเลย พระดี ประสบการณ์สูงมาก |