หมวด พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน ก่อนปี 2525
พระพิมพ์ซุ้มกอ พิมพ์ใหญ่(หายาก) หลวงพ่อปี้ ทินโน วัดลานหอย ต.ลานหอย อ.บ้านด่านลานหอย จ.สุโขทัย ปี 25
ชื่อร้านค้า | ศิลป์เจริญพร - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | พระพิมพ์ซุ้มกอ พิมพ์ใหญ่(หายาก) หลวงพ่อปี้ ทินโน วัดลานหอย ต.ลานหอย อ.บ้านด่านลานหอย จ.สุโขทัย ปี 25 |
อายุพระเครื่อง | 62 ปี |
หมวดพระ | พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน ก่อนปี 2525 |
ราคาเช่า | 500 บาท |
เบอร์โทรติดต่อ | 0811178991 (สะดวกรับสายเวลา 18.00 - 20.00 น.) |
อีเมล์ติดต่อ | เนื่องจากมีลูกค้าติดต่อขอเช่าพระมาจำนวนมากต่อวัน ดังนั้นเช่าผ่านLINE จะติดต่อง่ายและสะดวกสุดครับ |
LINE |
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
|
สถานะ | |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | พ. - 07 ต.ค. 2563 - 20:32.32 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | อา. - 17 พ.ย. 2567 - 15:33.50 |
รายละเอียด | |
---|---|
**รหัส ศ.ร.๑๔๙๗๒ พระพิมพ์ซุ้มกอ พิมพ์ใหญ่(หายาก) หลวงพ่อปี้ ทินโน วัดลานหอย ต.ลานหอย อ.บ้านด่านลานหอย จ.สุโขทัย ปี 2505 เนื้อดินผสมผงเป็นพิเศษ ประสบการณ์มากมาย สวยสมบูรณ์แบบนี้ไม่ค่อยพบแล้วครับ สร้างขึ้น เพื่อส่วนหนึ่งทูลเกล้าถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เมื่อครั้งเสด็จเมืองเก่า สุโขทัย ครั้งกระโน้น น่าจะมีความเป็นพิเศษยิ่ง หลวงพ่อปี้ จึงตั้งใจจะนำขึ้นทูลเกล้าฯโดยเฉพาะ พระพิมพ์นี้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2505 นอกจาก หลวงพ่อปี้ จะปลุกเสกเองแล้ว ยังได้อาราธนา พระเกจิอาจารย์สหธรรมิกร่วมสมัย มาชุมนุมรุมบรรจุพุทธาคมอีกหลายองค์ อาทิเช่น ครูบาวัง วัดบ้านเด่น หลวงพ่อเขียน วัดถ้ำขุนเณร หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ หลวงพ่อทบ วัดชนแดน หลวงปู่เฮี้ยง วัดป่าอรัญญิกาวาส หลวงพ่อกัน วัดเขาแก้ว เป็นต้น เปิดประวัติ"หลวงพ่อปี้" เกจิสุโขทัย-สรงน้ำในโหล (จบ) คอลัมน์ มุมพระเก่า อภิญญา "พระครูสุวิชานวรวุฒิ" หรือ "หลวงพ่อปี้ ทินโน"อดีตเจ้าอาวาสวัดลานหอย จ.สุโขทัย ท่านเป็นที่พึ่งทางใจของพระสงฆ์และประชาชนได้เป็นอย่างดี และเป็นพระที่ทำประโยชน์ให้แก่พระพุทธศาสนาและประเทศชาติเป็นอย่างมากรูปหนึ่ง โดยได้อบรมพระภิกษุสามเณร และอุบาสก อุบาสิกาที่ไปกราบนมัสการในเทศกาลต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นไปในแบบ "สนทนาธรรม" และ "ปริศนาธรรม" ท่านมีปริศนาธรรมมาก ได้แนะนำให้ประชาชนงดเว้นจากการทุจริต กลับมาประพฤติตนเป็นสุจริตชนได้เป็นจำนวนมาก คนที่มีปัญหาเดือดร้อนถ้าช่วยได้ท่านก็จะช่วยทันที พร้อมกับให้คติธรรมแนะนำสั่งสอนให้ทำแต่ความดี นอกจากนี้ ได้ให้การอุปถัมภ์การสร้างถาวรวัตถุให้กับวัดในอำเภอ และจังหวัดอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก ทุกวันจะมีผู้มากราบนมัสการมากมาย จนแทบไม่มีเวลาพักผ่อน ไม่ว่าใครจะนิมนต์ไปปลุกเสกวัตถุมงคลที่ใดท่านไม่เคยขัด โดยท่านปลุกเสกไว้หลายรุ่นหลายรูปแบบ เช่น พระเครื่อง เครื่องราง แหวนผ้า ธนบัตรขวัญถุง ผ้ายันต์รอยเท้า เป็นต้น อภินิหารของน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ของท่านสามารถสร้างพระอุโบสถได้เป็นหลังๆ มีคนจากทั่วสารทิศมากราบนมัสการท่านมากมายมืดฟ้ามัวดินทีเดียว และจตุปัจจัยที่ได้จากผู้คนเหล่านั้นก็ได้กลายมาเป็นอุโบสถอันงดงาม รวมทั้งหอสวดมนต์ และสิ่งก่อสร้างอันเป็นสาธารณกุศลอีกมากมาย ตลอดชีวิตไม่เคยมีใครเห็นท่านสรงน้ำเลย โดยมีเรื่องเล่าลือมากมาย บางคนก็บอกว่าท่านสรงน้ำในโหล เพราะเชื่อกันว่าท่านเป็นพระที่สำเร็จอภิญญาองค์หนึ่ง ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าเนื้อตัวของท่านสะอาดอยู่ตลอดเวลา เคยมีคนนมัสการถามเกี่ยวกับการสรงน้ำของท่านว่า "ไม่เห็นหลวงพ่อสรงน้ำ?" ท่านก็ตอบว่า "สรงทุกวัน" ทุกคนในที่นั้นเลยนิ่ง แล้วท่านก็ให้นำน้ำมาหนึ่งถัง ทุกคนเฝ้ามองอย่างไม่ละสายตา ก็ไม่เห็นท่านสรง ได้แต่พูดคุยและเอามือลูบตามเนื้อตัวอยู่ตลอดเวลา ทันใดนั้นปรากฏมีน้ำเปียกชุ่มตามตัวของท่าน สร้างความประหลาดใจและตื่นตะลึงแก่ผู้ที่อยู่ ณ ที่นั้นเป็นอย่างยิ่ง! ทั้งนี้ เรื่องที่หลวงพ่อปี้แสดงอภินิหารเป็นที่กล่าวขานกันไม่รู้จบของชาวจังหวัดสุโขทัยและใกล้เคียงเป็นอย่างมาก ก็คือสมัยเมื่อท่านยังมีชีวิตอยู่มีเรื่องเล่าว่า มีเหล่าทหารนักบินได้นำเครื่องบินบินไปปฏิบัติหน้าที่เพื่อตรวจงานในแถบพื้นที่จังหวัดสุโขทัย-ตาก และเชียงใหม่ ระหว่างบินอยู่บนท้องฟ้าได้มองเห็นหลวงพ่อปี้นั่งสมาธิอยู่บนก้อนเมฆ เห็นท่านนั่งอย่างสงบ เป็นที่อัศจรรย์แก่เหล่าทหารที่พบเห็นท่านอย่างยิ่ง ตามปกติหลวงพ่อปี้เป็นผู้มีจิตใจสุขุมเยือกเย็น ไม่เป็นคนล้าสมัย เพราะท่านคอยฟังข่าวจากวิทยุและหนังสือพิมพ์อยู่เสมอ โดยเคยให้แนวคิดแก่ข้าราชการและนักการเมืองได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีความกตัญญูกตเวทีต่อพระอุปัชฌาย์ (พระราชประสิทธิคุณ) เหมือนบิดาบังเกิดเกล้า ยินดีรับภาระทุกอย่างที่พระอุปัชฌาย์มอบให้ ถ้าอยู่ในวิสัยที่ท่านจะทำได้ อาทิ เรื่องวัตถุมงคลต่างๆ จะได้รับมอบหมายให้เป็นผู้จัดทำทุกครั้งไป เป็นที่เชื่อถือและไว้วางใจอย่างมาก ท่านมักปรารภกับผู้ใกล้ชิดเสมอว่า อย่ายึดมั่นถือมั่นสิ่งใดเป็นเด็ดขาด และอย่าดำรงตนอยู่ในความประมาท ใครก็ตามที่มากราบและขอของดีท่านก็จะให้คาถาบทสำคัญ คือ "ระวัง" ถ้าใครไม่คิด นึกว่าเป็นคำพูดธรรมดา แต่ถ้าผู้ที่มีความรู้สึกนึกคิดในทางธรรมแล้ว จะเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่า ท่านได้ให้ของดีแก่เขาแล้ว คือ "ความไม่ประมาท" นั่นเอง บั้นปลายชีวิตเมื่อมีอายุสูงขึ้น พละกำลังก็เริ่มเสื่อมถอยลงตามวัยที่ชรา แต่กำลังใจของท่านมิได้เสื่อมถอยลงไปด้วย ท่านยังคงปฏิบัติศาสนกิจได้ตามปกติ แม้ร่างกายจะผ่ายผอมบอบบางดังที่กล่าวมาแล้ว แต่ก็ไม่เคยป่วยหนักถึงกับต้องป้อนข้าวป้อนน้ำเลย แต่สุดท้ายโรคภัยก็เข้าเบียดเบียนท่านจนถึงกาลมรณภาพไปด้วยโรคหัวใจวาย ณ โรงพยาบาลสุโขทัย ในเวลา 19.27 น.ของวันที่ 11 ม.ค.2517 สิริอายุรวม 71 ปี 2 เดือน 26 วัน หลวงพ่อปี้สิ้นไปเพียงสังขาร แต่ตำนานของท่านยังคงเป็นนิรันดร์เคียงคู่เมืองสุโขทัย ในฐานะปูชนียบุคคลทางศาสนาที่ควรค่าแก่การเคารพสักการะอย่างแท้จริง แหล่งข่าวจากหนังสือพิมพ์ข่าวสด |