หมวด ครูบาคำแสน วัดสวนดอก - หลวงปู่หล้า วัดป่าตึง - ครูบาอินตา วัดห้วยไซ - ครูบากองแก้ว วัดต้นยางหลวง
พระคันธาราช หลวงพ่อคำแสน คุณาลังกาโร เนื้อดินผสมผงว่าน ผงเกษรดอกไม้ พระยุคแรก ๆ องค์นี้ได้อายุ และศิ
ชื่อร้านค้า | ศิลป์เจริญพร - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | พระคันธาราช หลวงพ่อคำแสน คุณาลังกาโร เนื้อดินผสมผงว่าน ผงเกษรดอกไม้ พระยุคแรก ๆ องค์นี้ได้อายุ และศิ |
อายุพระเครื่อง | - |
หมวดพระ | ครูบาคำแสน วัดสวนดอก - หลวงปู่หล้า วัดป่าตึง - ครูบาอินตา วัดห้วยไซ - ครูบากองแก้ว วัดต้นยางหลวง |
ราคาเช่า | - |
เบอร์โทรติดต่อ | (ไม่แสดงเบอร์ เนื่องจากรายการนี้ไม่ได้ปล่อยเช่า) |
อีเมล์ติดต่อ | เนื่องจากมีลูกค้าติดต่อขอเช่าพระมาจำนวนมากต่อวัน ดังนั้นเช่าผ่านLINE จะติดต่อง่ายและสะดวกสุดครับ |
LINE |
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
|
สถานะ | |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | อา. - 05 ม.ค. 2563 - 21:30.55 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | ส. - 02 ม.ค. 2564 - 15:55.39 |
รายละเอียด | |
---|---|
**รหัส ศ.ร.๑๓๓๓๕ พระคันธาราช หลวงพ่อคำแสน คุณาลังกาโร เนื้อดินผสมผงว่าน ผงเกษรดอกไม้ พระยุคแรก ๆ องค์นี้ได้อายุ และศิลปะ ที่สวยงาม นาน ๆ จะเจอสักองค์ ของดีจริง ๆครับ http://prananashop.blogspot.com/2012/06/blog-post_7214.html อัตชีวประวัติหลวงปู่คำแสน คุณาลังกาโร หลวงปู่คำแสน คุณาลังกาโร เกิดเมื่อวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๔๓๖ ปีมะเมีย นามเดิม คำแสน เพ็งทัน เป็นบุตรของนายเป็ง นางจันทร์ตา เพ็งทัน บ้านสันโค้งใหม่ ตำบลทราบมูล อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ มีพี่น้องรวมกัน ๘ คน ท่านเป็นบุตรคนที่ ๗ ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุได้ ๑๗ ปี โดยมีพระอธิการโพธิ (ครูบา) วัดสันโค้ง เป็นพระอุปัชฌาย์ และต่อมาก็ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดดอนมูลนี้ เมื่อบวชได้ ๓ พรรษา ท่านก็ได้ไปศึกษาต่อกับพระอธิการแก้ว ชัยยะเสโน(ครูบาแก้ว) ที่วัดน้ำจำ ตำบลร้องวัวแดง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้ศึกษาธรรมและเรียนกรรมฐาน ก่อนหน้านั้นท่านได้ทราบข่าวจากชาว บ้าน ว่าทางราชการได้จับครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา มากักขังไว้ ที่วัดศรีดอนไชย จังหวัดเชียงใหม่ ครูบาคำแสนมีความเคารพและเลื่อมใสในครูบาศรีวิชัยเป็นอย่างยิ่ง ก็รู้สึกเสียใจและอยากไปกราบนมัสการ ได้ชักชวนพระสงฆ์และชาวบ้านให้พากันไปเยี่ยม แต่คนทั้งหลายกลัวจะถูกตำหนิ หรือถูกกลั่นแกล้งจากทางราชการ ในที่สุดก็เดินทางไปกับเณรและลูกศิษย์เพียง ๒ – ๓ คนเท่านั้น ท่านได้เดินทางประมาณ ๑๕ – ๑๖ กิโลเมตรกว่าจะถึงวัดศรีดอนไชย เมื่อเข้าไปภายในวิหารนั้น เขาใช้เชือกมนิลาเส้นโต ผูกเสาวิหารไว้เป็นรูปสี่แหลี่ยมเหมือนคอกหมู ภายในคอกสี่เหลี่ยมนั้นมีพระสงฆ์สูงอายุรูปหนึ่งนั่งอยู่ด้วยอาการสงบ ในลักษณะขัดสมาธิ ห่มผ้าสีกรัก กำลังนับลูกประคำอยู่ ในขณะที่กราบลงไปนั้นก็ เกิดความอ่อนไหว จนร้องไห้ออกมาโฮใหญ่ ด้วยความที่สงสารในครูบาศรีวิชัย ที่ต้องมาถูกจองจำ และจะถูกจับสึกที่กรุงเทพฯ เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของครูบาคำแสนในขณะนั้น ทำให้ครูบาศรีวิชัยเอื้อมมือมาตบที่ไหล่พร้อมว่า "ท่านเป็นพระจะร้องไห้ไม่ได้ พระเป็นผู้ตัดแล้วซึ่งกิเลส เมื่อเป็นเช่นนั้นต้องระงับอารมณ์ ไม่ให้มีการร้องไห้เด็ดขาด" ขณะเดียวกันก็เริ่มสอนให้ นั่งขัดสมาธิ เอามือประสานกันวางไว้บนตัก หลับตามพร้อมกับท่องคำว่า นะโม ในใจหลายสิบหลายร้อยจบให้ท่องไป เรื่อย ๆ ครูบาคำแสนก็ปฏิบัติตามคำสั่ง ท่องไปท่องมาไม่นาน อาการสะอึกและน้ำตาก็หายไป ครูบาศรีวิชัยจึงสั่งให้ลืมตาขึ้น แล้วก็ถามว่าเป็นใครมาจากไหน ครูบาคำแสนก้มลงกราบแทบเท้า และกล่าวตอบว่ามาจาก อำเภอสันกำแพง ครูบาศรีวิชัยได้เทศน์อบรมเกี่ยวกับขันติ ให้ครูบาคำแสนฟัง พร้อมกับแนะนำสั่งสอนให้ศึกษาวิปัสสนา แล้วครูบาคำแสนก็นมัสการลา จึงนับว่าเป็นบทเรียนบทแรกในชีวิต เกี่ยวกับการศึกษาวิปัสสนา และท่านก็หาทางจะศึกษาในเรื่องนี้ จากทุกแห่งที่มีข่าวว่ามีอาจารย์สอน ต่อมาเมื่อท่านได้เรียนกรรมฐานจากครูบาแก้ว ชัยยะเสโนแล้ว ท่านก็ขอลาครูบาแก้ว ออกเดินธุดงค์จาริกไปในที่ต่าง ๆ เมื่อคราวเข้าพรรษา ท่านจึงจะกลับมาอยู่ที่วัดดอนมูล พออายุได้ ๓๔ ปี ๑๓ พรรษา เจ้าอาวาสพระอธิการธรรมเสนาก็มรณภาพลง ทางคณะศรัทธาจึงได้นิมนต์ครูบาคำแสนเป็นเจ้าอาวาสแทนสืบต่อมา จนท่านมีอายุได้ ๓๙ ปี ๑๘ พรรษามีพระธุดงค์ชื่อพระ อาจารย์แหวน สุจิณฺโณ เดินธุดงค์มาพักอาศัยอยู่ ที่วัดอู่ทรายคำ ในเมืองเชียงใหม่ เมื่อทราบว่าดังนั้น ท่านได้ให้โยมคนหนึ่งไปนิมนต์พระอาจารย์แหวน สุจิณฺโณ ให้มาเผยแพร่พระธรรมและอบรมศรัทธาที่วัดดอนมูล ต่อมาพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ได้ มาพำนักอยู่ที่วัดเจดีย์หลวง พระอาจารย์แหวนและครูบาคำแสน ก็ได้ไปนมัสการและได้มอบกาย มอบจิตถวายเป็นศิษย์พระอาจารย์มั่นตั้งแต่บัดนั้นมา ต่อมาพระอาจารย์ แหวน ท่านได้จาริกไป ๆ มา ๆ ในเมืองเชียงใหม่ และไปจำพรรษาที่วัดป่าห้วยน้ำริน อำเภอแม่แตง ส่วนครูบาคำแสนหลังจากได้เรียนพระกรรมฐานจากพระอาจารย์มั่นแล้ว ท่านก็ออกเดินธุดงค์ไปยังประเทศพม่า ย่างกุ้ง หงสาวดี แล้วเดินย้อนกลับไปสู่ภาคอีสาน ไปอยู่กับท่านอาจารย์สิงห์ที่จังหวัดนครราชสีมา จากนั้นจึงได้เดิน ทางกลับขึ้นไปทางเหนือไปอยู่ถ้ำเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ถ้ำพระ จังหวัดเชียงราย ถ้ำดอกคำพร้าว พระบาทสี่รอย อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ที่ใดเป็นที่วิเวก เป็นป่าเปลี่ยว ท่านก็ได้พักภาวนาเรื่อยไปไม่หยุดหย่อน ตามโอวาทของพระอาจารย์มั่น ที่ได้ให้ข้อคิดไว้ว่า “ทำจริง ก็คงจะได้เห็นของจริงเท่านั้น” ท่านเป็นลูกศิษย์ที่อยู่ในมหานิกาย ไม่ต้องญัตติใหม่เป็นธรรมยุติ ครูบาคำแสนได้มรณภาพในวันอาทิตย์ ที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๒ เวลา ๑๐.๑๒ น. อายุได้ ๘๖ ปี ๖๘ พรรษา ขอบคุณรูปภาพจากวัดสันติธรรมครับ |