เหรียญหล่อเนื้อเงินรูปเหมือน หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย จ.อยุธยา ฝังตะกรุด รุ่นมังกรคู่ ปี 2537 นิยม หา-ศิลป์เจริญพร - webpra
VIP
"ร้านนี้พระเครื่องยุคเก่า น้อมบูชาคุณ พระสุปฏิปันโน ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ พุทธคุณ ล้ำค่ายิ่งทางใจ"

หมวด หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย – หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา – หลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง

เหรียญหล่อเนื้อเงินรูปเหมือน หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย จ.อยุธยา ฝังตะกรุด รุ่นมังกรคู่ ปี 2537 นิยม หา

เหรียญหล่อเนื้อเงินรูปเหมือน หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย จ.อยุธยา ฝังตะกรุด รุ่นมังกรคู่  ปี 2537 นิยม  หา - 1เหรียญหล่อเนื้อเงินรูปเหมือน หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย จ.อยุธยา ฝังตะกรุด รุ่นมังกรคู่  ปี 2537 นิยม  หา - 2เหรียญหล่อเนื้อเงินรูปเหมือน หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย จ.อยุธยา ฝังตะกรุด รุ่นมังกรคู่  ปี 2537 นิยม  หา - 3
ชื่อร้านค้า ศิลป์เจริญพร - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
ชื่อพระเครื่อง เหรียญหล่อเนื้อเงินรูปเหมือน หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย จ.อยุธยา ฝังตะกรุด รุ่นมังกรคู่ ปี 2537 นิยม หา
อายุพระเครื่อง 30 ปี
หมวดพระ หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย – หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา – หลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง
ราคาเช่า 2,000 บาท
เบอร์โทรติดต่อ 0811178991 (สะดวกรับสายเวลา 18.00 - 20.00 น.)
อีเมล์ติดต่อ เนื่องจากมีลูกค้าติดต่อเช่าพระจำนวนมาก ดังนั้นเช่าผ่านLINE ID : @870rqvth จะติดต่อง่ายสะดวกสุดครับ
LINE
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ จองแล้ว
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ พฤ. - 28 ก.ย. 2560 - 20:17.54
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ อ. - 13 ก.ค. 2564 - 21:58.46
รายละเอียด
**รหัส ศ.ร.๘๗๘๒
เหรียญหล่อเนื้อเงินรูปเหมือน หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย จ.อยุธยา ฝังตะกรุด รุ่นมังกรคู่ ปี 2537 นิยม หายากครับ

****ปาฏิหาริย์หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย

ถูกรุมฟัน - ตีสลบ 10 วันไม่ตาย
หลวงตาทิศ อายุวัฒโก อายุ 71 ปี อุปสมบทอยู่ที่วัดมารวิชัย เล่าว่าบุตรชายชื่อ นายพจน์ เสนานารถ ปัจจุบัน อายุ 43 ปี ในสมัยหนุ่ม ๆ เกเรมาก เป็นนักเลงหัวไม้และนักเลงการพนัน ไปรับจ้างทำงานเป็นชาวไร่อ้อยที่ชลบุรี ชักชวนคนงานด้วยกันแอบเล่นการพนันในป่าอ้อย นายพจน์มีฝีมือดีว่าจึงกินพรรคพวกหมดตัวตาม ๆ กัน เลยขอค่ารถกลับบ้านแต่นายพจน์ไม่ให้ จึงถูกคนงานที่เสียจนหน้ามึด 7 คน รุมสกรัมทำร้าย เพราะเหตุที่เป็นคนใจถึงและไม่ยอมคนอยู่แล้วของนายพจ น์ จึงต่อสู้ใจขาด พวกคนงานเลยโกรธจัดชัก มีดพร้า ที่ใช้ถางป่าและคว้าไม้ทั้งฟันและตีจนนายพจน์สลบไสลไ ม่ได้สติ คิดว่าตายแล้วจึงพากันหลบหนี เช้าวันรุ่งขึ้นชาวบ้านมาพบเข้าเห็นว่าสลบอยู่จึงพาไ ปส่งโรงพยาบาล รักษาพยาบาลอยู่หลายวันก็ไม่ฟื้น พอดีทางบ้านทราบข่าวจึงรับกลับมารักษาตัวที่บ้านแพน

หลวงตาทิศเล่าต่อไปว่า ขณะนั้นท่านยังไม่อุปสมบทได้พาบุตรจอมเกเรที่มีอาการ ปางตายไปรักษาที่โรงพยาบาลเท่าใดก็ยังไม่ผื้น ต้องให้น้ำเกลืออยู่ตลอดเกือบ 10 วัน จนใคร ๆ คิดว่าไม่มีทางรอดแน่แล้ว จึงพากลับมาให้หลวงพ่อมีรักษา หลวงพ่อมีท่านทำการรรักษานายพจน์ด้วยวิธีง่าย ๆ โดยใช้ ข้าวสารแช่เหล้าทา และเอามีดหมดเสกเป่าด้วย วิทยาคมไปตามตัวไม่กี่ครั้งเท่านั้น นายพจน์ที่สลบไป 10 วัน จนใคร ๆ คิดว่าตายแน่ ก็พลันฟื้นคืนสติรู้สึกตัวขึ้นมาทันที ถึงแม้ว่าร่างกายนายพจน์จะหนังเหนียวอยู่ยงคงกระพันแ ละเป็นชาตรี คือ ถูกฟันไม่เข้าถูกตีไม่แตก โดยตลอดร่างกายไม่ปรากฏมีรอยช้ำบวมอย่างใดเลยแม้แต่น ้อย แต่ศีรษะที่ถูกตีได้รับความกระทบกระเทือนภายในสมองอย ่างหนักจนถึงกลับสลบไสลไป 10 วันนั้น เมื่อฟื้นคืนสติขึ้นมาก็กลายเป็นคนป้ำ ๆ เป๋อ ๆ เหมือนกับคนปัญญาอ่อน ต่อมาหลวงพ่อมี ก็ได้รักษานายพจน์จนหายดี แล้วอุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดมารวิชัย ซึ่งปัจจุบันได้ลาสิขาไปประกอบอาชีพตามปกติเหมือนคนท ั่วไปแล้ว

หลวงตาพิศเปิดเผยเหตุการณ์เมื่อครั้งบุตรชายถูกรุมทำ ร้ายปางตายต่อไปว่า นายพจน์เป็นศิษย์คนหนึ่งของหลวงพ่อมีใช้แต่ เหรียญรุ่นแรก ของท่านติดตัวอยู่เป็นประจำเหรียญเดียวเท่านั้น ไม่เคยใช้ของอย่างอื่นเลย นอกจากจะให้หลวงพ่อมี เป่ากระหม่อม เท่านั้น เรียกว่าหลวงพ่อมีได้ช่วยชีวิตมาหลายครั้งแล้วเพราะเ ป็นคนเกเรมาก เคยมีเรื่องมีราวก็รอดกลับมาทุกครั้ง มาคราวนี้พอหายดีหลวงพ่อมีก็บวชให้อีกเป็นครั้งที่ 2 เลยกลับตัวเป็นคนดีได้ หลวงตาพิศเปิดเผยต่อไปว่า ตัวท่านเองก็เป็นศิษย์หลวงพ่อมี ใช้เหรียญรุ่นแรกของท่านเป็นประจำรู้สึก แคล้วคลาดดี ไม่เคยพบประสบการณ์ใด ๆ เลย แต่ของดีของพลวงพ่อมีที่ท่านใช้แลเวมีประสบการณ์ดีมา กก็คือ "สีผึ้ง" ซึ่งหลวงตาพิศได้กล่าวว่า เป็นเมตตามาหาเสน่ห์ดีดีจริง ๆ ปัจจุบันท่านบวชเป็นพระแล้วไม่ควรจะเอ่ยถึงเรื่องนี้ ต่อไป

หลวงตาพิศได้กล่าวย้ำในตอนท้ายว่า ใครมีสีผึ้งหลวงพ่อมีแล้ว อย่าไปลอดราวตากผ้าอย่างเด็ดขาด เพราะท่านเคยพกติดตัวแล้วลอดราว ปรากฏว่า สีผึ้งของหลวงพ่อมีละลายเป็นน้ำไปอย่างน่าอัศจรรย์


มีดขอฟันแขนไม่ขาด !

นายสุนันท์ กิจเจตนี อายุ 27 ปี มีบ้านอยู่ข้างโรงเรียนโคกจุฬา บ้านแพน เล่าเรื่องที่เห็น นายวิเชียร พันธุสะ ถูกฟันและแทงไม่เข้ากับตาตนเองถึง 2 ครั้ง 2 ครา ดังนี้ เมื่อปีพ.ศ.2525 นายสุนันท์และนายวิเชียร ไปรับจ้างทำงานก่อสร้างที่ วัดเขาแหลม กาญจนบุรี โดยพักอยู่บ้านญาติซึ่งมีลูกสาวสวย หนุ่ม ๆ มาหลงรักติดพันมากจึงเกิดการเข้าใจผิดกันขึ้น เช้าวันหนึ่งขณะที่ทั้ง 2 กำลังถีบจักรยานเพื่อไปทำงาน นายสุนันท์ซึ่งขี่รถอยู่ข้างหน้าเห็นวัยรุ่นหนุ่มหลา ยคนออกจากพุ่มไม้ข้างทาง วัยรุ่นคนหนึ่งปรี่เข้ามาใช้ มีดขอ ที่มีอยู่ในมือฟันนายวิเชียรที่ถีบรถตามนายสุนันท์มา ติด ๆ นายวิเชียรตกใจและเห็นว่าจวนตัวจึงยกมือขึ้นรับมิดขอ ไว้ มีดขอ ซึ่งมีลักษณะคล้าย มีดพร้า แต่มีปลายโค้งงอใช้สำหรับเกี่ยวอ้อยมีความคมมาก สามารถตัดอ้อยได้ครั้งละหลาย ๆ ต้น ฟันฉับลงที่แขนนายวิเยรที่ยกขึ้นรับเสียงดัง "กึ้ก"

คุณพระช่วย ! นายสุนันท์ภาวนาในใจ แล้วปาฎิหาริย์ก็เกิดขึ้นจริง ๆ เมื่อมีดขออันแสนคมแทนที่จะฟันแขนขาดกลับกระดอนกลับอ ย่างแรงคล้ายฟันถูกของแข็งก็ไม่ปาน ความรุ่นแรงของมีดขอที่ฟันถูกแขนประกอบกับยกมือข้างห นึ่งขึ้นกัน จึงทำให้รถจักรยานเสียหลักล้มลงไป พอนายวิเชียรยืนตั้งหลักได้ วัยรุ่นกลุ่มนั้นกำลังตกตะลึงที่ฟันศัตรูความรักไม่เ ข้าก็ใจเสีย พากันวิ่งป่าราบหนีหายไป


มีดพกแทงไม่เข้า !

นายสุนันท์ กิจเจตนี เล่าเรื่องที่เห็นเพื่อนรักชื่อนายวิเชียร พันธุสะถูกคู่อริรุมแทงด้วย มีดพกไม่เข้า มากับตาเป้นครั้งที่ 2 ว่า ขณะที่ทั้ง 2 ชวนกันไปชมดูการเกณฑ์ทหารที่ วัดสามกอ บ้านแพน เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2529 คู่อริเก่าของนายวิเชียร 3 คน ลอบมาข้างหลังชักมีดพกแทงข้างหลังพร้อม ๆ กันอย่างกมายชีวิต วัยรุ่นคนหนึ่งยังไม่ทันจ้วงแทง ก็ถูกพลเมืองดีซึ่งภายหลังถึงได้ทราบว่าเป็นผู้ใหญ่บ ้านยืนอยู่ข้าง ๆ เห็นเหตุการณ์ปัดมีดตกพื้นก่อน คู่อริ 2 คน แทงถูกกลางหลังและสีข้างจนเสื้อขาด แต่คมมีดไม่อาจระคายผิว!

นายวิเชียรรู้ตัวว่าถูกลอบแทงไม่เข้า จึงเข้าต่อสู้เป็นพัลวัน ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงคู่อริวัยรุ่นทั้ง 3 ก็พากันเลี่ยงหนีไป ส่วนนายวิเชียรถือว่าไม่ได้เป็นฝ่ายผิดจึงไม่คิดหนี เลยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับในข้อหาทะเลาะวิวาทกันตามร ะเบียบ (ดังเป็นข่าวเกรียวกราวจนมีผู้เสาะหาเหรียญรุ่นแรกขอ งหลวงพ่อมีกันจ้าละหวั่น)

นายสุนันท์และเพื่อน ๆ อีกหลายคนเห็นนายวิเชียรถูกแทงไม่เข้ามากับตาเล่าต่อ ไปว่า เหตุการณ์ครั้งแรกที่นายวิเชียรถูกฟันด้วยมีดขอไม่เข ้า และถูกแทงด้วยมีดพกไม่เข้าอีกนี้ ในตัวแขวนเหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อมีแต่เพียงเหรียญเดียว เท่านั้น และไม่เคยใช้ของอย่างอื่นเลยนอกจาเคยมาให้หลวงพ่อมีเ ป่ายันต์เข้าตัวเท่านั้น! ส่วนตัวนายสุนันท์เองก็ใช้เหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่อมี เป็นประจำ บอกว่าแคล้วคลาด และ เมตตาดี เพราะไม่มีเรื่องกับใครเลย

รถเก๋งชนไม่เป็นอะไร !

นายสุรศักดิ์ ดาวสว่าง อาชีพเป็นช่างทอง อยู่ตรอกโรงเจ ตลาดพลู ขณะที่ขับขี่จักรยานยนต์กลับจากงานเลี้ยงส่งท้ายปีเก ่า เมื่อปีที่ผ่านมาและได้ดื่มสุราเมาเล็กน้อยจึงขี่รถไ ม่ตรงทาง พอมาถึงวงเวียนใหญ่ ขณะที่จะเลี้ยวรถไปตามถนนอินทรพิทักษ์ ก็ถูกรถเก๋งที่แล่นคู่กันมาชนเข้าที่ล้อหน้าด้านซ้าย โครมเบ้อเร่อ ทั้งคนและรถกระเด็นคว่ำพร้อมกัน จนกว่านายสุรศักดิ์จะลุกขึ้นได้ รถเก๋งคันงานแต่คนขับจิตใจไม่งดงามตามรถเก๋ง ก็เร่งเครื่องตรงหายไปทางถนนเพชรเกษมโดยไม่ยอดจอดรถล งมาดูอาการคนเจ็บเลย

เดชะบุญที่นายสุรศักดิ์ห้อยเหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อมีที ่เลี่ยมทองแขวนคอและใส่แหวนพรหม 4 หน้าที่น้วมือ จึงไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ ทั้งสิ้น ค่อย ๆ ยกรถขึ้นขี่กลับบ้านช้า ๆ เพราะว่าล้อหน้าเบี้ยวไปข้างหนึ่ง

ถูกระเบิดไม่ตาย !

เมื่อปลายเดือนมกราคมที่ทผ่านมา มี นายทหารชึ้นผู้ใหญ่ ท่านหนึ่ง (ขอสงวนนาม เนื่องจากกำลังติดต่อขอสัมภาษณ์ท่านอยู่ เมื่อได้รับอนุญาตแล้วจะนำมาเปิดเผยในโอกาสต่อไป) เป็นศิษย์รุ่นเก่าของหลวงพ่อมี เล่าเรื่องประสบการณ์เหรียญรุ่นแรกให้หลวงพ่อจำเนียร ฟังว่ เคยรอดตาย เพราะถูกผู้ก่อการร้ายซุ่มโจมตีด้วยอาวุธสงครามมา 3 ครั้ง แล้ว ครั้งที่ 4 ขณะลาดตระเวนพลาดไป เหยียบถูกกับระเบอด ตูม! ลูกน้อง 4 คนตายเรียบ !

ส่วนตัวผุ้พันกระดูกเหล็กรอดตายดุจปาฎิหาริย์ โดยที่เสื้อผ้าขาดวิ่นไปหมดทั้งตัว แต่ร่างกายไม่ได้รับการกระทบกระเทือนจากความร้ายแรงข องระเบิดเลย นอกจากข้อเท้าแพลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ! ก่อนที่นายทหารท่านนั้นจะลากลับยังหาเช่าเหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่อมี และให้ราคาสูงถึง เหรียญละ 1,000 บาท แต่ทางวัดหาให้ไม่ได้ จึงได้แจ้งจำนงค์ว่าจะจัดผ้าป่ามาทอดในเร็ว ๆ นี้ ทั้งยังได้ว่าจ้างนายช่างก่อสร้างเป็นเงินจำนวน 32,000 บาท เพื่อตกต่ง ทาสีและติดกระจกอุโบสถให้สวยงานยิ่งขึ้น จึงขออนุโมทนาสาธุในส่วนกุศลมา ณ ที่นี้

พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...

อื่นๆ...

Top