หมวด ครูบาศรีวิชัย วัดบ้านปาง - หลวงพ่อเกษม สุสานไตรลักษณ์ - หลวงพ่อประสิทธิ์ วัดป่าหมู่ใหม่
พระผงรัตนเกษม หลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง ออกที่ วัดพลับพลา จ.นนทบุรี ปี 2517 เนื้อมวลส
ชื่อร้านค้า | ศิลป์เจริญพร - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | พระผงรัตนเกษม หลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง ออกที่ วัดพลับพลา จ.นนทบุรี ปี 2517 เนื้อมวลส |
อายุพระเครื่อง | 48 ปี |
หมวดพระ | ครูบาศรีวิชัย วัดบ้านปาง - หลวงพ่อเกษม สุสานไตรลักษณ์ - หลวงพ่อประสิทธิ์ วัดป่าหมู่ใหม่ |
ราคาเช่า | 500 บาท |
เบอร์โทรติดต่อ | 0811178991 (สะดวกรับสายเวลา 18.00 - 20.00 น.) |
อีเมล์ติดต่อ | เนื่องจากมีลูกค้าติดต่อขอเช่าพระมาจำนวนมากต่อวัน ดังนั้นเช่าผ่านLINE จะติดต่อง่ายและสะดวกสุดครับ |
LINE |
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
|
สถานะ | |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | พฤ. - 28 ม.ค. 2559 - 20:45.38 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | พ. - 28 ก.ค. 2564 - 19:50.34 |
รายละเอียด | |
---|---|
**รหัส ศ.ร.๕๗๔๕ พระผงรัตนเกษม หลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง ออกที่ วัดพลับพลา จ.นนทบุรี ปี 2517 เนื้อมวลสารพิธีเข้มขลัง *** พระชุดนี้ถ้าเป็นเหรียญราคาไปไกลแล้วครับ ส่วนเนื้อผงนี้ถ้าเจอสวยๆ ผมเก็บเข้ามาสะสมเรื่อยๆ เนื่องจากเป็นพระเก่าพิธีดี และส่วนใหญ่พระชุดนี้จะแตกชำรุด ซะหมด เนื่องจากเป็นผงน้ำมันเนื้อพระเปาะยิ่งอายุการสร้างล่วงเลยมา 40 กว่าปี ทำให้เก่าไปตามกาลเวลา เรียกว่าเป็นพระดีพิธีใหญ่ที่ยังพอหลงเหลือให้เก็บได้ในชั่วโมงนี้ครับ ประวัติพระผงรัตนเกษม หลวงพ่อเกษม เขมโก เมื่อปี พ.ศ.2517 วัดพลับพลา จังหวัดนนทบุรี กำลังดำเนินการสร้างพระอุโบสถแต่ขาดทุนทรัพย์ จึงคิดไปขอพึ่งบารมีหลวงพ่อเกษม ขอสร้างเหรียญและพระผงรุ่นสร้างโบสถ์วัดพลับพลา และหลวงพ่อเกษมได้อนุญาตให้สร้างตามประสงค์เมื่อวันที่20 สิงหาคม พ.ศ.2517 ทางวัดพลับพลาโดยหลวงพ่อพระครูสิรินนทคุณเจ้าอาวาส จึงได้ดำเนินการจัดสร้างวัตถุมงคลขึ้น 3 รายการ คือ 1.เหรียญรูปเหมือน หลวงพ่อเกษม เนื้อทองคำ เงิน นวโลหะ และทองแดง 2.พระผงรูปเหมือนหลวงพ่อเกษม และ 3.พระปิดตาเขมโก เมื่อสร้างเสร็จแล้วได้นำขึ้นไปให้หลวงพ่อเกษมปลุกเสก เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ.2517 เวลา 19.39. น. ณ สุสานไตรลักษณ์ จังหวัดลำปาง ในการพิธีมนต์นี้ได้มีเหตุอัศจรรย์เกิดขึ้นซึ่งท่านพระครูสิรินนทคุณได้บันทึกไวัดังนี้ ในวันปลุกเสกนั้นเป็นเวลากลางคืนทางเหนือหมดฝนแล้วได้ เวลาหลวงพ่อเกษมเดินออกจากกุฏิที่พักของท่าน พอมาถึงศาลามุงแฝก (หญ้าคา) ปะรำพิธีปลุกเสก ข้าพเจ้ากับคณะกรรมการและทุกคนในที่นั้นได้ยินเสียงฟ้าผ่าเปรี้ยง ชาวลำปางจึงตั้งชื่อพระรุ่นนี้ว่า รุ่นฟ้าลั่น ปัจจุบันนี้ชาวลำปางเก่าๆยังจำชื่อรุ่นฟ้าลั่นได้ พระชุดนี้เริ่มออกจำหน่ายจ่ายแจก ในวันที่ 9 ตุลาคม 2517 ที่วัดพลับพลา จังหวัดนนทบุรี ได้เงินสมทบจากพระชุดนี้จนสร้างพระอุโบสถวัดพลับพลาสำเร็จ อยู่มาเมื่อปี 2536 ทางวัดได้จัดเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังอุโบสถ ขาดทุนทรัพย์ จึงนำพระชุดนี้ในส่วนที่เหลือ คือเหรียญเนื้อทองแดงประมาณ 200 เหรียญ พร้อมพระผงปิดตาเขมโก และ พระผงรัตนเกษม ออกมาให้เช่าบูชาจนได้เงินค่าเขียนภาพจิตรกรรมสำเร็จ เงินเหลือจากค่าจ้างเขียนภาพก็นำไปสร้างโรงครัวและห้องน้ำ 18 ห้อง ทุกวันนี้เหรียญหลวงพ่อเกษมและพระปิดตาเขมโกหมดลงแล้ว คงเหลือแต่พระผงรัตนเกษม หรือ พระผงรูปเหมือนหลวงพ่อเกษม รุ่นสร้างโบสถ์วัดพลับพลา ปี 2517 เท่านั้น หลังจากนั้นทางวัดได้นำพระผงรูปเหมือนหลวงพ่อเกษม หรือ พระผงรัตนเกษม ในส่วนที่เหลือออกให้เช่าบูชาอีกครั้ง โดยท่านพระครูสิรินนทคุณได้มีลิขิตอธิบายดังนี้ ข้าพเจ้าได้ทราบว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อเกษมได้ละสังขารไปแล้ว เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2539 ข้าพเจ้าได้รำลึกถึงพระคุณของหลวงพ่อเกษม เขมโก ที่มีเมตตาต่อวัดพลับพลามาในอดีต คือได้เมตตาอนุญาตวัดพลับพลาจัดสร้างเหรียญและพระผงรูปเหมือนของหลวงพ่อเกษมเพื่อแจกจ่ายให้แก่คณะศรัทธาบริจาคทรัพย์สร้างอุโบสถจนสำเร็จตามโครงการ ข้าพเจ้าจึงปรึกษากรรมการวัดว่าพวกเราควรหาทางตอบแทนพระคุณของท่านบ้าง เพื่อทำบุญอุทิศไปให้ท่าน จึงได้นำพระผงรัตนเกษมที่เก็บไว้จำนวน 2000 องค์ ไปมอบให้ท่านประธานจัดงานศพ คือ เจ้าประเวทย์ ณ ลำปาง เพื่อสมทบทุนมูลนิธิหลวงพ่อเกษม เขมโกต่อไป โดยมอบให้เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2539 พร้อมรับเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมถวายในวันนั้นด้วย หลังจากเจ้าประเวทย์ได้รับมอบพระผงรัตนเกษมแล้ว ท่านคิดว่าการก่อสร้างของสุสานไตรลักษณ์หรือสิ่งอื่นภายในเมืองลำปาง โดยเฉพาะในสุสานไตรลักษณ์นั้นไม่มีอะไรจะปลูกสร้างแล้วหรือว่าจะสร้างต่อไป มูลนิธิของหลวงพ่อเกษมก็มีเพียงพอจึงปรึกษากันว่าสำหรับพระผงรัตนเกษม 2000 องค์นี้ ควรจะได้สร้างอะไรสักอย่างที่เป็นอนุสรณ์ของหลวงพ่อเกษม ถวายให้วัดพลับพลา พอดีวัดพลับพลากำลังจะดำเนินการสร้างศาลาการเปรียญขนาด 10 x 15 เมตร อยู่ เนื่องจากของเก่าไม่พอต้อนรับประชาชนในเวลาเทศกาล เจ้าประเวทย์จึงเมตตามอบพระผงรัตนเกษมกลับคืนให้วัดพลับพลาเพื่อดำเนินการต่อไป และขอให้ตั้งชื่อศาลาการเปรียญว่า ศาลาการเปรียญเขมโก นี่ก็เป็นอันว่าพระผงรัตนเกษมที่เคยสร้างพระอุโบสถวันพลับพลาเมื่อ ปี พ.ศ.2517 จะได้กลับมาสร้างศาลาการเปรียญให้วัดพลับพลาอีกครั้งในปี พ.ศ.2539 หรือ 22 ปีให้หลัง |