หมวด พระสมเด็จทั่วไป
พระสมเด็จพิมพ์พระประธาน พิมพ์ใหญ่ พระครูมูล พิมพ์มีหน้าตา วัดสุทัศน์ ปี ๒๔๙๕ สภาพสวย แก่ผงเก่า
ชื่อร้านค้า | ศิลป์เจริญพร - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | พระสมเด็จพิมพ์พระประธาน พิมพ์ใหญ่ พระครูมูล พิมพ์มีหน้าตา วัดสุทัศน์ ปี ๒๔๙๕ สภาพสวย แก่ผงเก่า |
อายุพระเครื่อง | 69 ปี |
หมวดพระ | พระสมเด็จทั่วไป |
ราคาเช่า | - |
เบอร์โทรติดต่อ | (ไม่แสดงเบอร์ เนื่องจากรายการนี้ไม่ได้ปล่อยเช่า) |
อีเมล์ติดต่อ | เนื่องจากมีลูกค้าติดต่อเช่าพระจำนวนมาก ดังนั้นเช่าผ่านLINE ID : @870rqvth จะติดต่อง่ายสะดวกสุดครับ |
LINE |
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
|
สถานะ | |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | อา. - 17 พ.ค. 2558 - 16:53.25 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | อา. - 06 ม.ค. 2562 - 14:27.28 |
รายละเอียด | |
---|---|
**รหัส ศ.ร.๔๑๖๔ พระสมเด็จพิมพ์พระประธาน พิมพ์ใหญ่ พระครูมูล พิมพ์มีหน้าตา วัดสุทัศน์ ปี ๒๔๙๕ สภาพสวย แก่ผงเก่า ตัวจริง เนื้อจัดๆ องค์นี้สวยเทียบชั้นพระงานประกวด เรียกว่าเป็นสมเด็จวัดระฆังชุดเล็กที่หายไปจากตลาดจนหาของไม่เจอแล้วครับ ที่เว็ปไซด์ท่าพระจันทร์ สวยน้อยกว่านี้ยังเปิดอยู่องค์ละ 10,000 - 15,000 บาท ครับ พระสมเด็จพระครูมูล วัดสุทัศน์ พระครูมูลท่านมีฐานะเป็นเพียงพระลูกวัดธรรมดาของวัดสุทัศน์ เท่านั้น เป็นพระสวดพิธีธรรมในพิธีปลุกเสกพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ของวัดสุทัศน์ที่วัดสุทัศน์จัดขึ้นไม่ค่อยปรากฎชื่อเสียงทางวิทยาคมเหมือนพระเกจิอาจารย์ท่านอื่น ๆ ในยุคสมัย 60-70 ปีก่อน แต่ความรู้เรื่องวิทยาคมลูกศิษย์บอกว่าท่านก็มีพอตัวอยู่ เพราะว่าพระสงฆ์สมัยก่อนเมื่อบวชแล้วหรือยิ่งบวชนานหลาย ๆ พรรษา ก็มักจะมีการเรียนวิชาอาคมเพื่อประดับตัวเอาไว้เสมอ พระครูมูลท่านรู้กิตติศัพธ์ของพระสมเด็จวัดระฆังมานานแล้ว ท่านจึงพยายามเก็บรวบรวมพระสมเด็จวัดระฆังที่ชำรุดแตกหักเป็นท่อน ๆ เอาไว้ คนเมื่อรู้ว่าพระครูมูลเก็บรวบรวมชิ้นส่วนชำรุดของพระสมเด็จวัดระฆังเพื่อจะสร้างพระขึ้นใหม่ จึงนำเอาชิ้นส่วนของพระสมเด็จวัดระฆังมาถวายท่านกันเรื่อย ๆ เนื่องจากสมัยนั้นคนยังมีคติไม่นิยมเอาพระที่แตกหักชำรุดไว้ในบ้าน จึงทำให้มีคนนำเอาพระสมเด็จวัดระฆังที่ชำรุดแตกหักมามอบให้พระครูมูลมากขึ้นทุก ที ๆ ว่ากันว่าพระครูมูลท่านเก็บสะสมชิ้นส่วนแตกหักของพระสมเด็จวัดระฆังได้เป็นจำนวนมากเป็นปี๊บ ๆ กันเลย เมื่อเก็บรวบรวมชิ้นชิ้นส่วนแตกหักของพระสมเด็จวัดระฆังได้เป็นจำนวนมากเพียงพอต่อความต้องการแล้ว พระครูมูลจึงเอาชิ้นส่วนพระสมเด็จวัดระฆังเหล่านั้นมาป่นให้ละเอียดและผสมกับปูนขาวเป็นเนื้อหลัก แล้วสร้างเป็นพระสมเด็จขึ้นใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2484 เป็นพิมพ์เกศบัวตูม เมื่อกดพิมพ์พระได้จำนวนเท่าที่ต้องการแล้ว พระครูมูลท่านได้นำเอาพระสมเด็จที่ท่านสร้างนี้เข้าร่วมพิธีปลุกเสกพร้อมกับพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ที่ทางวัดสุทัศน์จัดขึ้น ความจริงแล้วพระสมเด็จที่พระครูมูลสร้างขึ้นมาในครั้งนั้นถึงจะไม่นำฝากเข้าร่วมพิธีปลุกเสก ก็มีความศักสิทธิ์ในตัวอยู่แล้ว เนื่องมาจากมีผงเก่าผสมอยู่เป็นจำนวนมากนั่นเอง แต่ด้วยความที่อยากให้พระสมเด็จมีพุทธคุณมากยิ่ง ๆ ขึ้น พระครูมูลท่านจึงเอาพระเข้าร่วมพิธีปลุกเสกด้วย ระหว่างนั้นเมื่อมีใครมาขอพระสมเด็จจากพระครูมูลท่านก็จะหยิบแจกให้ฟรี ๆ ไปเรื่อย ๆ ส่วนที่เหลือเมื่อมีพิธีปลุกเสกที่วัดสุทัศน์ครั้งใด ท่านก็จะนำเอาพระสมเด็จฝากเข้าร่วมในพิธีอีก ใครมาขอก็แจกให้ ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งพระสมเด็จที่ท่านสร้างครั้งแรกหมดไป จนกระทั่งมาในปี พ.ศ. 2495 พระครูมูลท่านได้เอาชิ้นส่วนของพระสมเด็จวัดระฆังที่เหลือจากการสร้างพระสมเด็จครั้งแรก มาผสมกับชิ้นส่วนของพระสมเด็จวัดระฆัง และพระสมเด็จบางขุนพรหมที่ท่านหามาเพิ่มเติมทีหลังสร้างขึ้นใหม่อีก ครั้งนี้ท่านสร้างเป็นพิมพ์พระธาน แบบมีหน้าตา ซึ่งจะปรากฏรายละเอียดสวยงามกว่าพระสมเด็จพิมพ์เกศบัวตูมที่ท่านสร้างขึ้นครั้งแรก นอกจากนี้ยังมีการสร้างเป็นพิมพ์นางพญา พิมพ์สามเหลี่ยม และ พิมพ์พระคะแนน ด้วย ซึ่งการสร้างพระสมเด็จของพระครูมูลครั้งหลังนี้ท่านก็ทำเหมือนครั้งแรก คือฝากเข้าพิธีปลุกเสกที่วัดสุทัศน์จัดขึ้นทุกครั้ง แล้วก็แจกไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งหมดไปในที่สุด พระสมเด็จของพระครูมูลมีการนิยมมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้ว สมัยนั้นคนที่ได้รับแจกพระสมเด็จจากท่านต่างมีประสบการณ์ทางด้านนิรันตรายกันมาก จึงนิยมใช้แทนพระสมเด็จวัดระฆังนับแต่นั้นมา พูดถึงพุทธคุณทางด้านเมตตามหานิยมของพระสมเด็จพระครูมูลก็มีผู้มีประสบการณ์กันมากไม่รู้เท่าไหร่ ๆ กันแล้ว เพราะว่าไปแล้วการใช้พระสมเด็จพระครูมูลก็เหมือนใช้พระสมเด็จวัดระฆังดี ๆ นั่นเอง นอกจากนี้พระสมเด็จของพระครูมูล โดยเฉพาะพิมพ์ทรงเจดีย์ที่เป็นพระยุคแรกของท่าน จะมีเนื้อหามวลสารเข้มจัดคล้ายกับเนื้อพระสมเด็จวัดระฆังมาก มีการนำพระของท่านมาแกะเปลี่ยนพิมพ์ขายเป็นพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ทรงเจดีย์ไปแล้วมากมาย แม้แต่ชิ้นส่วนแตกหักของพระสมเด็จของท่านก็นำไปแกะเป็นพระคะแนนแล้วหลอกว่าเป็นชิ้นส่วนสมเด็จวัดระฆังขายไปองค์ละหลายหมื่นบาท เป็นเหตุที่ทำให้ท่านต้องทำพิมพ์พระสมเด็จขึ้นใหม่เป็นพิมพ์แบบมีหน้าตา ในปี 2495 เพื่อแก้ปัญหาคนนำพระของท่านไปหลอกขายแก่ผู้ไม่รู้เสียมากมาย สำหรับค่านิยมในการเล่นหาของพระสมเด็จพระครูมูล ถ้าเป็นของแท้แล้ว โดยเฉพาะพิมพ์เกศบัวตูมจะมีราคาสูงถึงหลักพันกลาง ๆ แต่ถ้าเนื้อจัดมวลสารเข้มแบบวัดระฆัง ราคาอาจจะสูงขึ้นไปจนถึงหลักพันปลาย ๆ ส่วนพิมพ์พระประธานที่มีหน้าตาก็อยู่ที่หลักพันต้น ๆ แต่ถ้าสวยมากก็อยู่ที่หลักพันกลาง ๆ แต่ถ้าสวยมากและเนื้อจัดแก่มวลสาร ก็จะมีราคาสูงถึงหลักพันปลายได้เช่นกัน สำหรับพิมพ์สามเหลี่ยม พิมพ์นางพญา และพิมพ์คะแนน ราคาจะอยู่ที่หลักพันต้น แต่ค่อนข้างหายากอยู่เหมือนกัน สรุปว่าพระสมเด็จของพระครูมูล เป็นพระที่น่าใช้มาก เพราะเป็นพระตระกูลสมเด็จยุคปลายที่มีส่วนผสมของมวลสารของพระสมเด็จวัดระฆังไว้มากที่สุด ในระดับเดียวกับ พระสมเด็จของหลวงปู่นาค วัดระฆัง ที่สร้างยุคต้น พ.ศ. 2485 ทำให้น่าเก็บไว้ศึกษาและบูชาอย่างยิ่ง ************************************** |