หมวด เครื่องรางของขลัง
ตะกรุดลูกอม ลงหัวใจโลกธาตุ หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว เนื้อทองคำ No.01
ชื่อร้านค้า | ปฐมภูมิ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | ตะกรุดลูกอม ลงหัวใจโลกธาตุ หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว เนื้อทองคำ No.01 |
อายุพระเครื่อง | - |
หมวดพระ | เครื่องรางของขลัง |
ราคาเช่า | - |
เบอร์โทรติดต่อ | (ไม่แสดงเบอร์ เนื่องจากรายการนี้ไม่ได้ปล่อยเช่า) |
อีเมล์ติดต่อ | kcs_amulet@homail.com |
สถานะ | |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | ศ. - 14 ม.ค. 2565 - 14:44.17 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | ศ. - 14 ม.ค. 2565 - 14:44.17 |
รายละเอียด | |
---|---|
ตะกรุดลูกอม ลงหัวใจโลกธาตุ หลวงปู่ยิ้ม จันทโชติ วัดศรีอุปลาราม (หนองบัว) จ.กาญจนบุรี หลวงปู่ยิ้ม ถือว่าเป็น อริยสงฆ์ องค์หนึ่ง ที่มีความรู้ความสามารถมาก เพราะเป็นผู้มั่นเรียนรู้ มั่นศึกษา จนจบวิชาอาคมหลายศาสตร์ หลายแขนง จากสำนักดังๆ หลายแห่ง จนมีความปราดเปรื่อง ด้านวิชาอาคมสูงยิ่ง ท่านได้คิดค้น วิชา คาถาอาคมขึ้นไว้หลายแขนงวิชาด้วยกัน ด้าน ไสยศาสตร์และวิชาแพทย์แผนโบราณ วัตถุมงคลของท่านทุกประเภทได้รับความนิยมทั้งหมด แต่ถ้าเป็นวัตถุมงคลประเภท พระปิดตา ซึ่งพระปิดตาพิมพ์ใหญ่ (นิยม) ของหลวงปู่ท่าน ได้รับความนิยมที่สุด นอกจากนี้แล้วยังได้รับการยอมรับ และยกย่องให้อยู่ในชุดเบญจภาคี ๑ ใน ๕ ประเภทพระปิดตาเนื้อผง ตะกรุดลูกอม หรือ ตะกรุดลูกอมลงหัวใจโลุกธาตุ นับเป็นวัตถุมงคลประเภทเครื่องรางของขลัง ท่านเป็นเจ้าตำหรับโดยเฉพาะ คิดค้นและสร้างขึ้นมาเป็นองค์แรก ด้วยท่านเป็นผู้คงแก่เรียน เรียนรู้และศึกษามามาก จากหลายๆพระอาจารย์ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นผู้ทรงคุณเข้มขลังในศาสตร์แต่ละแขนง ต่อมาจึงได้ประยุกต์ดัดแปลง ประดิษฐ์คิดค้นสร้างเป็นตะกรุดลุกอมอันลื่อลั่น หัวใจ โลกธาตุ (อินธินาทะยิ) ก็คือ คาถาวิชาหนึ่งที่หลวงปู่ยิ้มได้คิดค้นขึ้น มีความขลังและศักดิ์สิทธิ์มาก ซึ่งท่านได้ลงกำกับไว้ในตะกรุดที่มีขนาดเล็กๆ ของท่าน เช่น ตะกรุดลูกอม และตะกรุดมะขามเรียง ๗ ใบ วิชาคาถาหัวใจโลกธาตุ " อินธิชันโต ชิโต อิทธิชันโต โลกะธาตุมหิ อัตภาเวนัง นาทะยิ ฯ สำเร็จเป็นตะกรุดลูกอมที่มีมหิทธานุภาพและหายากมากในปัจจุบัน มีชื่อเสียงปรากฏทั่วประเทศ เรียกันติดปากว่า " ตะกรุดลูกอม หรือ ตะกรุดลูกอมลงหัวใจโลุกธาตุ " นั้นเอง ต้นตำรับตะกรุดลูกอมที่ลงคาถาหัวใจโลกธาตุ สร้างโดยหลวงปู่ยิ้ม เท่าที่พบทั่วไปมีด้วยกันหลายเนื้อ คือ เนื้อทองคำ เนื้อเงิน เนื้อนาก เนื้อทองแดง เนื้อตะกั่ว(ตะกั่วนมเก่าพบในถ้ำ) อีกทั้งยังมีโลหะวัสดุอื่นๆที่หาได้ง่ายในสมัยนั้น และ ที่ทำมาจากกระดาษสา วิธีการสร้าง เป็นวิธีแบบโบราณ คือ นำเอาโลหะที่จะนำมาสร้างทำตะกรุดนั้น มาทุบ ตีแผ่ แล้วทำการรีดให้เรียบเท่าที่ทำได้ จากนั้นนำมาวัดกะระยะ กว้างประมาณ ๑ ซม. แล้วตัดด้วยกรรไกร วงรอบของตะกรุดที่ม้วนเสร็จแล้วนั้นนับได้ประมาณคือ ๖-๙ รอบ เท่านั้น ความยาวของตะกรุด น่าจะขึ้นอยู่กับความยาวของคาถาที่เขียนลงในแผ่นโลหะนั้นๆ รวมถึงความหนาบางของโลหะที่นำมาใช้สร้าง จึงบางครั้งทำให้ดูว่าวงรอบของตะกรุดม้วนน้อยลง การคลายตัวของตะกรุดที่นำมาร้อยใช้ และทำให้รูของตะกรุดกว้างขึ้นด้วย ตะกรุดสัตตะโภชฌงค์ ๗ หรือตะกรุด ๗ มะขามเรียง หมายถึง ตะกรุดขนาดเล็กที่ลงคาถาหัวใจโลกธาตุอีกชนิดหนึ่ง คือ ตะกรุดขนาดเล็ก กว้างประมาณ ๑ ซม. และยาว เท่ากับ ใบมะขามมาวางเรียงต่อกันได้ ๗ ใบ พอดี ซึ่งเป็นตะกรุดยุคต้น ๆ ของหลวงปู่ยิ้มท่าน ซึ่งได้สร้างเอาไว้ไม่มากนัก มีทั้งแบบเปลือย และที่นำมาถักเชือก ลงรักไว้ก็มี ปัจจุบัน ถือว่าเป็นตะกรุดที่หาชมได้ยากยิ่ง ตะกรุดลูกอมสายสิญจน์ คือ ตะกรุดที่สร้างจากเนื้อกระดาษสา โดยใช้วิธีเขียนคาถาลงในกระดาษสา แล้วม้วนเป็นวง เหมือนเช่นตะกรุดลูกอม ส่วนใหญ่หลวงปู่ยิ้ม ท่านจะใช้ด้ายสายสิญจน์ พันม้วนรอบกระดาษสาเป็นลูกกลม หลายๆ ชั้น จนมีลักษณะเป็นลูกกลม ซึ่งต่อมาได้เรียกกันว่า ลูกอมสายสิญจน์ ท่านจะนำเสกบริกรรมคาถาอีกหลายครั้ง เมื่อครบสมบูรณ์แล้ว จากนั้นโยนเข้ากองไฟ ลูกไหนไม่ไหมไฟ เป็นอันใช้ได้ เป็นอันเสร็จพิธี ถึงได้แจกให้ลูกศิษย์ต่อไป ต่อมากท่าน ได้ถ่ายทอดวิชานี้ให้กับศิษยานุศิษย์ต่อมา ศิษย์คนใดมาขอเรียนวิชาตะกรุดลูกอมจะต้องทดสอบนั่งวิปัสสนาเพ่งจนขนาดไส้ เทียนขาดด้วยพลังจิต ท่านจึงจะมองวิชานี้ให้ ที่ผ่านการทดสอบด้วยกันหลายองค์ ที่รู้จักแพร่หลายได้รับความนิยม ได้แก่ 1. พระโสภณสมาจารย์ (หลวงปู่เหรียญ สุวรรณโชติ วัดศรีอุปลาราม " หนองบัว " ) ศิษย์ก้นกุฏิ 2. พระครูวิสุทธิรังษี (หลวงปู่เปลี่ยน อินทสโร วัดไชยชุมพลชนะสงคราม " วัดใต้ " ) 3. พระเทพมงคลรังษี (หลวงปู่ดี พุทธโชติ วัดเทวสังฆาราม " วัดเหนือ " ) 4. พระราชมงคลวุฒาจารย์ (หลวงปู่ใจ อินทสุวณโณ วัดเสด็จ) 5. พระโสภณณกิจ (หลวงปู่หัง วัดเทวสังฆาราม " วัดเหนือ " ) 6. พระครูวัตตสารโสภณ (หลวงพ่อดอกไม้ วัดดอนเจดีย์) 7. พระครูสกลวิสุทธิ (หลวงปู่เหมือน รัตนสุวรรณ วัดกลางเหนือ) 8. พระกาญจนวัตรวิบูลย์ (หลวงพ่อสอน วัดลาดหญ้า) ศิษย์เอกหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม 9. พระอธิการแช่ม โสรส วัดจุฬามณี ฯลฯ หลวงปู่ยิ้มท่านเป็นพระชอบทางรุกขมูลและธุดงค์วัตร สัญโดด ชอบปรีวิเวกตามป่าช้าหรือโคนไม้ชายป่า เมื่อออกพรรษาแล้วมักออกธุดงค์เข้าป่าทำสมาธิในป่าลึกหรือตามถ้ำต่างๆ ท่านรู้ภาษานกกา สัตว์ป่าทุกชนิด จิตกล้าเข้าทุกที จะทำเครื่องรางชนิดใดก็ขลังไปทุกอย่าง กิติศัพท์ของท่านเลื่อนลือไปหลายหัวเมือง เจ้านายและข้าราชการผู้ใหญ่ทางกรุงเทพฯ นับถือหลวงพ่อเป็นอย่างมาก ดังปรากฏผงว่า " ใครมีลูกอมหลวงพ่อยิ้ม จะต้องยิ้มได้เมื่อภัยมา " เป็นที่เชื่อถือได้ว่า ไม่ต้องเกรงภัยอันตราย คนเราเวลามีภัยมันยิ้มยาก ใครยิ้มได้นับว่าเก่งจริง ข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนระหว่างตะกรุดลูกอมของหลวงปู่ยิ้ม กับ ตะกรุดลูกอมของบรรดาลูกศิษย์ของท่านคือ ๑.ตะกรุดหลวงปู่ยิ้ม เป็นตะกรุดทุบ แผ่นโลหะ หนา บาง นั้นไม่เท่ากัน ม้วนแล้วนับได้ ๖-๙ รอบ ส่วนของลูกศิษย์ทั้งหมดเป็นตะกรุดรีดแผ่นโลหะจากเครื่อง หนา บาง จะเท่ากัน ม้วนแล้วนับได้ ๙ รอบ จนถึง ๑๓ รอบ(หลวงปู่ใจ) ๒.ตะกรุดหลวงปู่ยิ้ม ม้วนแบบธรรมดาด้วยมือ(Hand Made) ไม่แน่น ดูไม่เรียบร้อย ปลายตะกรุด ตัดโดยกรรไกร หรือมีด มีมุมตามช่างที่ตัดไม่แน่นอน ส่วนของลูกศิษย์ทั้งหมด ม้วนด้วยเครื่อง ดูเรียบร้อย แน่นสนิท ปลายตะกรุดโดนเครื่องตัด ฉีกขาด แบบไม่มีมุม ๓.ขอบของแผ่นตะกรุดหลวงปู่ยิ้ม ตัดด้วยกรรไกรหรือมีด ขอบจะมีลักษณะเป็นเหลี่ยม หรือเป็นฉาก พื้นผิวตะกรุดรอบนอกไม่มีเส้นวิ่ง ส่วนขอบของแผ่นตะกรุดลูกศิษย์ทั้งหมด ตัดด้วยเครื่อง มีลักษณะมน โค้ง ดูเรียบร้อย ไม่คม บางรอบอาจมีรอยปริแตกบ้าง (อาจเป็นเพราะแรงกดของเครื่อง) พื้นผิวตะกรุดรอบนอกมีเส้นวิ่งมากมายเป็นแนวรอบ (คงเกิดจากแรงเหวี่ยงของเครื่องขณะม้วนตะกรุด) เห็นได้ว่า การสร้างตะกรุดลูกอม ลงคาถาหัวใจโลกธาตุของหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว กับ ของบรรดาเหล่าลูกศิษย์ลูกหาทั้งหมดนั้น อาจารย์กับศิษย์ ถึงการสร้างจะเป็นตะกรุดลูกอมเหมือนกัน แต่วิธีการสร้าง ลูกศิษย์ ย่อมจะต่างจากอาจารย์เสมอ ดังคำโบราณที่ว่า "ลูกศิษย์ต้องเดินตามรอยตามอาจารย์ แต่ห้ามเดินทับรอยอาจารย์" ... |