หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เนื้อผงยาจินดามณี พิมพ์พระสังกัจจายน์ No.02-ปฐมภูมิ - webpra
VIP
ร้าน ปฐมภูมิ กาญจนสินธุ์ ยินดีต้อนรับท่านนักสะสมพระเครื่องทุกท่าน

หมวด พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน ก่อนปี 2525

หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เนื้อผงยาจินดามณี พิมพ์พระสังกัจจายน์ No.02

หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เนื้อผงยาจินดามณี พิมพ์พระสังกัจจายน์ No.02 - 1หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เนื้อผงยาจินดามณี พิมพ์พระสังกัจจายน์ No.02 - 2หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เนื้อผงยาจินดามณี พิมพ์พระสังกัจจายน์ No.02 - 3หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เนื้อผงยาจินดามณี พิมพ์พระสังกัจจายน์ No.02 - 4
ชื่อร้านค้า ปฐมภูมิ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
ชื่อพระเครื่อง หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เนื้อผงยาจินดามณี พิมพ์พระสังกัจจายน์ No.02
อายุพระเครื่อง -
หมวดพระ พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน ก่อนปี 2525
ราคาเช่า -
เบอร์โทรติดต่อ (ไม่แสดงเบอร์ เนื่องจากรายการนี้ไม่ได้ปล่อยเช่า)
อีเมล์ติดต่อ kcs_amulet@homail.com
สถานะ เช่าแล้ว
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ ศ. - 25 มิ.ย. 2564 - 19:14.20
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ อ. - 25 มิ.ย. 2567 - 01:58.25
รายละเอียด
หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เนื้อผงยาจินดามณี พิมพ์พระสังกัจจายน์ No.02

พระเครื่องเนื้อผงยาจินดามณีของหลวงปู่บุญนั้น นับว่าเป็นสุดยอดของวัดกลางบางแก้ว เนื่องจากยาจินดามณี เป็นยาที่มีคุณอเนกอนันต์และมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่เสาะหาของนักสะสมพระเครื่อง ตำรับยานี้เป็นของตกทอดมากับวัดกลางบางแก้ว มีการบันทึกไว้โดยพระอาจารย์ทอง เจ้าอาวาสรูปก่อนหน้าหลวงปู่บุญ ว่ากันว่า ตำรับยานี้เป็นของสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว แห่งกรุงศรีอยุธยา

ตำรับยานี้บันทึกในสมุดข่อย ลงทองล่องชาด เป็นสมบัติล้ำค่าของวัดกลางบางแก้ว กล่าวถึงกรรมวิธีการสร้างที่ละเอียดและยุ่งยากมาก เฉพาะแค่หาตัวว่านยามาให้ครบตามตำรา ซึ่งมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด ว่านยาแต่ละชนิดต้องนำมาเสกด้วยคาถากำกับ เมื่อเสกตัวยาแต่ละส่วนแล้ว ก็เอามาผสมคลุกเคล้ากันโดยมีเสกคาถากำกับตลอดเวลา ตัวหินบดยาก็ต้องลงอักขระ ทั้งตัวลูกหินและแม่หินและมีคาถากำกับขณะบดยาด้วย

มีบันทึกส่วนที่เป็นเครื่องยานั้นตามตำรับได้บรรยายเป็นโครงกลอนถึงตัวยาว่า "จินดามณีโอสถอันพิลาสประกอบดอกคราด ดอกจันทร์ เกสรบุษบัน เปราะหอมกำยาน โกฐสอ โกฐเขมา ทองน้ำประสาน เปลือกกุ่มชลธาร กรุงเขมาเท่ากัน ผสมแล้วตำบดพิมเสม ชะมด น้ำผึ้งรวงรัน กฤษณา น้ำมะนาว น้ำมะเขือขื่นคั้น ผสมยาเข้าด้วยกัน บดปั้นตากกิน เป็นยาวาสนา เลิศล้ำตำราในโลกแผ่นดิน อุปเท่ห์กล่าวไว้ ผู้ใดได้กินจะสวัสดิ์โสภิณกว่าคนทั้งหลาย พัสดุเงินทอง จักพูนกูลนอง กว่าโลกหญิงชายนำมาบูชา อหิวาต์ก็มิวาย ระงับอันตราย ทั้งสี่กิริยาโทษหนักเท่าหนัก มาตร์แม้นประจักษ์ ถึงกาลมรณา ถ้าแม้นใครกิน ซึ่งยาวาสนากลับน้อยถอยคลา เคลื่อนคลายหายเอย “

มีบันทึกมาตั้งแต่ในอดีตว่า ยาจินดามณีหรือยาวาสนา เป็นยาที่ทรงคุณวิเศษเพื่อช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้รวมถึงโรคที่เกิดจาก “เคราะห์กรรม” ผู้ใดได้กินยานี้จะบันดาลให้เคลื่อนคลายและทุเลาเบาบางลงได้ และมีลาภผลบังเกิดแก่ตน ป้องกันและรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ดี แม้แต่ผู้ป่วยด้วยโรคร้ายที่อาจจะถึงตายก็บรรเทาเบาบางลงได้ ถ้าเกิดคดีความให้เอาเม็ดยาแช่น้ำและทำน้ำมนต์ความจะสูญ

ผู้ใดที่ใกล้ถึงแก่ชีวิตอาจช่วยให้ฟื้นคืนสติได้ชั่วคราวโดย ฤทธิ์ยาจินดามณีจะช่วยประชุมธาตุให้อินทรีย์และจิตวิญญาณอยู่ครบ เพื่อให้มีสติมีกำลังในการสั่งเสียลูกหลานเป็นครั้งสุดท้าย และยังสามารถพกพาติดตัวเพราะยาจินดามณีขึ้นชื่อว่ามีเป็นเมตตามหานิยม หากนำติดตัวเข้าป่า จะป้องกันคุณไสย สัตว์ร้าย และภูตผีทั้งหลายได้

การสร้างยาจินดามณี มีการบันทึกว่า หลวงปู่บุญ ได้สร้างยาจินดามณีเพียง 2 ครั้งเท่านั้นคือ ใน พ.ศ.2435 และ พ.ศ. 2476 เพราะความยุ่งยากในการสร้างตามตำราโบราณ เมื่อได้ตัวยาตามต้องการแล้ว จึงจัดการทำพิธี ในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ กลางเดือน 12 ซึ่งหากปีใดได้ราชาฤกษ์ หรือเพชรฤกษ์ จัดว่าดีเยี่ยม ต้องจัดเครื่องสังเวยเทวดา บัตรพลีต่างๆ รวมทั้งราชวัตรฉัตรธง ภายในพระอุโบสถมีสายสิญจน์รอบพระอุโบสถ แต่ละทิศให้ลงยันต์ประจำทิศด้วยผ้าแดงเอาไว้ ด้านหน้าพระอุโบสถให้ลงยันต์ตรีนิสิงเห และยันต์จินดามณีประกอบไว้เป็นพิเศษด้วย

แม้แต่ผู้ป่วยด้วยโรคร้ายที่อาจจะถึงตายก็บรรเทาเบาบางลงได้ ถ้าเกิดคดีความให้เอาเม็ดยาแช่น้ำและทำน้ำมนต์ความจะสูญ และผู้ใดที่ใกล้ถึงแก่ชีวิตอาจช่วยให้ฟื้นคืนสติได้ชั่วคราวโดย ฤทธิ์ยาจินดามณีจะช่วยประชุมธาตุให้อินทรีย์และจิตวิญญาณอยู่ครบ เพื่อให้มีสติมีกำลังในการสั่งเสียลูกหลานเป็นครั้งสุดท้าย และยังสามารถพกพาติดตัวเพราะยาจินดามณีขึ้นชื่อว่ามีเป็นเมตตามหานิยม หากนำติดตัวเข้าป่า จะป้องกันคุณไสย สัตว์ร้าย และภูตผีทั้งหลายได้

การสร้างยาจินดามณี มีการบันทึกว่า หลวงปู่บุญ ได้สร้างยาจินดามณีเพียง 2 ครั้งเท่านั้นคือ ในปี พ.ศ.2435 และปีพ.ศ. 2476 เพราะความยุ่งยากในการสร้างตามตำราโบราณ เมื่อได้ตัวยาตามต้องการแล้ว จึงจัดการทำพิธี ในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ กลางเดือน 12 ซึ่งหากปีใดได้ราชาฤกษ์ หรือเพชรฤกษ์ จัดว่าดีเยี่ยม ต้องจัดเครื่องสังเวยเทวดา บัตรพลีต่างๆ รวมทั้งราชวัตรฉัตรธง ภายในพระอุโบสถมีสายสิญจน์รอบพระอุโบสถ แต่ละทิศให้ลงยันต์ประจำทิศด้วยผ้าแดงเอาไว้ ด้านหน้าพระอุโบสถให้ลงยันต์ตรีนิสิงเห และยันต์จินดามณีประกอบไว้เป็นพิเศษด้วย

เมื่อได้ฤกษ์ให้ชุมนุมเทวดาแล้วให้พระภิกษุและฆราวาสที่ร่วมพิธีพร้อมกัน โดยเฉพาะฆราวาสที่เป็นหญิงให้ใช้สาวพรหมจารีซึ่งรักษาศีลอุโบสถมาแล้ว 3 วัน ส่วนฆราวาสชายต้องรักษาศีลอุโบสถเช่นกัน นอกจากนี้การปั้นเม็ดยานั้น ขณะปั้นเม็ดยาผู้ร่วมพิธีต้องภาวนาคาถาปั้นเม็ดยาตลอดเวลา หลังจากที่ปั้นเม็ดยาวาสนาจินดามณีเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลวงปู่ก็จะนำไปปลุกเสกอีกอย่างน้อย 7 เสาร์ 7 อังคาร

การสร้างยาจินดามณี ส่วนใหญ่จะปั้นเป็นลูกกลมๆและเป็นแท่ง ลูกศิษย์ที่เข้าพิธีสร้างยา ได้นำมากดพิมพ์เป็นพระเครื่องพิมพ์ต่างๆ แล้วถวายให้หลวงปู่บุญปลุกเสกอีกครั้งหนึ่ง พระเครื่องที่สร้างด้วยผงยาจินดามณี มีหลายพิมพ์อาทิเช่น พิมพ์ลีลาซุ้มขีดหรือลีลาหนังตะลุง,พิมพ์ลีลากลับด้าน, พิมพ์เศียรโล้นสะดุ้งกลับ,พิมพ์พระประธาน,พิมพ์ซุ้มระฆัง,พิมพ์ซุ้มเรือนแก้ว,พิมพ์สมาธิเพชรซุ้มโค้ง,พิมพ์ซุ้มรัศมี,พิมพ์ซุ้มชินราช,พิมพ์สมเด็จฐานหกชั้น(ไพ่ตอง),พิมพ์ปรกโพธิ์ใหญ่,พิมพ์ปรกโพธิ์เล็ก,พิมพ์ห้าเหลี่ยมฐานหกชั้นพิมพ์สมาธิเกศแหลม เป็นต้น

หลวงปู่บุญ ขันธโชติ วัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เกิดเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ.2391 ตรงกับปลายรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ ต.ท่าไม้ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร มรณภาพเมื่อวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ.2478 สิริรวมอายุ 87

พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...

อื่นๆ...

Top