เหรียญรุ่นแรก พระอาจารย์สุนทร กตปุญโญ มีทั้งมหาอุตม์ ทั้งเหนียวเนื้อทองแดงรมมันปู หมายเลข๑๘๘๐ -พลังศรัทธา - webpra

เว็บ-พระ ประมูลพระเครื่อง ร้านค้าพระเครื่องออนไลน์

พลังศรัทธา

"จริงใจ ซื่อสัตย์ ชัดเจน" สามารถสแกนQR Code ชมหน้าร้านได้ โทร.065-6287965 พระสวยแท้ นึกถึงพลังศรัทธา

หมวด พระเกจิภาคอีสานเหนือ

เหรียญรุ่นแรก พระอาจารย์สุนทร กตปุญโญ มีทั้งมหาอุตม์ ทั้งเหนียวเนื้อทองแดงรมมันปู หมายเลข๑๘๘๐

เหรียญรุ่นแรก พระอาจารย์สุนทร กตปุญโญ มีทั้งมหาอุตม์ ทั้งเหนียวเนื้อทองแดงรมมันปู หมายเลข๑๘๘๐ - 3

เหรียญรุ่นแรก พระอาจารย์สุนทร กตปุญโญ มีทั้งมหาอุตม์ ทั้งเหนียวเนื้อทองแดงรมมันปู หมายเลข๑๘๘๐ - 4

ชื่อร้านค้า	พลังศรัทธา - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	roj_sk (388)
ชื่อพระเครื่อง	เหรียญรุ่นแรก พระอาจารย์สุนทร กตปุญโญ มีทั้งมหาอุตม์ ทั้งเหนียวเนื้อทองแดงรมมันปู หมายเลข๑๘๘๐
อายุพระเครื่อง	6 ปี
หมวดพระ	พระเกจิภาคอีสานเหนือ
ราคาเช่า	-
เบอร์โทรติดต่อ	065-6287965
อีเมล์ติดต่อ	paikor@hotmail.com
LINE	(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	พ. - 17 ต.ค. 2561 - 15:19.41
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	ศ. - 03 ก.ย. 2564 - 11:16.23

รายละเอียด
เหรียญรุ่นแรกเสกทั้งที ต้องมีทั้งมหาอุตม์ ทั้งเหนียว เหรียญรุ่นแรกสำหรับผู้ที่มองเห็นอนาคตเท่านั้นยังไงก็มา เส้นสายฝนในเหรียญวิ๊งๆครับ พระอาจารย์สุนทร กตปุญโญ วัดบ้านกวนบุ่น ต.จันทร์เพ็ญ จ.สกลนคร เนื้อทองแดงรมมันปู หมายเลข๑๘๘๐ พร้อมกล่องเดิม จำนวนสร้าง๒๕๖๑เหรียญ โทร.0624245646 ประวัติย่อๆและความเป็นมาของพระอาจารย์สุนทร นามวงค์ชัย (ฉายากตปุญโญ) โดยย่อมีดังต่อไปนี้ครับอาจารย์สุนทร กตปุญโญ เกิดเมื่อวันที่ 15 เดือนสิงหาคมพ.ศ. 2509 เป็นบุตรชายของนาย ก้านก่อง นามวงค์ชัย มารดาชื่อ นางประพันธ์ นามวงค์ชัย มีพี่น้องร่วมท้องกัน7คนเสียชีวิต2 คนยังมีชีวิตอยู่5คน พระอาจารย์สุนทรเป็นบุตรชายคนที่2 มีอาชีพทำไร่ทำนารับจ้างทั่วไป ตอนวัยเด็กอายุได้ถึงเจ็ดปีได้เข้าการศึกษาเล่าเรียนที่โรงเรียนบ้านดงมะไฟสามัคคีราษฎร์อุทิศ ตำบลดงมะไฟอำเภอเมือง จังหวัดสกลนครตั้งแต่ป.1ถึงป.6 ภาคบังคับเมื่อจบการศึกษาแล้วก็ออกมาทำไร่ทำนาช่วยพ่อแม่ทำงานรับจ้างบ้างจนอายุได้ถึง 34 ปีมีอุปสมบทหมู่ขึ้นที่บ้านดงมะไฟ ก็เลยขอปรึกษากับพ่อแม่รู้ว่าผมอยากบวชพ่อแม่ดูแล้วก็ไม่ขัดข้องแล้วแต่ตามใจเธอพระอาจารย์ก็ยังไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ว่าจะอยู่ได้กี่วันก็เลยพูดกับพ่อแม่ว่าถ้าผมอยู่ได้เจ็ดวันหรือ 15 วันผมจะไม่สึกแต่ถ้าผมอยู่ไม่ได้ทำใจไม่ได้ผมจะขอสิกขา ลาเพศพ่อแม่ขอบวชก็ไม่ขัดข้องแล้วแต่จากนั้นก็เลยตัดสินใจเข้าอุปสมบทหมู่ในวันนั้นซึ่งเป็นวันเกิดของพระครูยศ บ้านหนองไผซึ่งท่านเป็นพระอุปัชฌาย์ โดยมี พระครูพลี เป็นครูสวดซ้อม เมื่อเข้าสู้อุปสมบทหมู่หรือบวชเสร็จแล้วพระอาจารย์ก็ขอย้ายขึ้นไปจำพรรษาที่ วัดอ่างภูเรือหรือภูดานงิ้ว ใกล้กันกับภูผาแดนปฎิบัติธรรมมีการทำวัตรสวดมนต์เช้าเย็นภาวนาเดินจงกลมและ ทำสมาธิทุกวันจนถึงวันออกพรรษาเมื่อออกพรรษาแล้วพระอาจารย์ก็ได้เดินธุดงค์ตามเขาหรือในถ้ำเพื่อแสวงหาความวิเวกหรือความสงบตามธรรมชาติ จนได้ถึงสี่ปีต่อจากนั้นพระอาจารย์ก็ได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดศรีสะอาด บ้านดงมะไฟ ตำบลดงมะไฟ อำเภอเมือง จังหวัดสกลนครเป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาสและดูแลวัดวาอารามถึงเจ็ดปีก็ได้ย้ายไปอยู่ที่วัดบ้านกวนบุ่น ตำบลจันทร์เพ็ญ อำเภอเต่างอย จังหวัดสกลนครในตลอดระยะเวลาหลายปีนั้นพระอาจารย์ได้เดินธุดงค์ตามถ้ำตามภูเขาหรือป่าช้าแถบนั้นเป็นเวลานานถึง 10 ปี บางครั้งช่วงหนึ่งก็ได้ไปศึกษาวิชา ที่ภูเขาควายประเทศลาว นับรวมพรรษาทั้งหมดได้ 20 พรรษา เรื่องราวประสบการณ์หรือปฏิหารย์พระอาจารย์จะไม่พูดถึงเพราะว่ามันเป็นปัตจัตตัง เป็นธรรมที่ไม่มีตัวตนรู้ได้เฉพาะตัวตนเท่านั้น แต่เรื่องเล่าเรื่องราวต่อจากนี้ได้ฟังมาจากคนละแวกใกล้เคียงแถวนั้นเล่าให้ฟังและทหารเก่าสมัยนั้นเป็นพื้นที่สีแดงอ่ะก็จะมีเรื่องราวหลายเรื่องราวยกตัวอย่างเช่น เรื่องนายพรานกลับใจ เรื่องนี้ได้ฟังมาจากพี่ทหารท่านหนึ่งเล่าให้ฟังว่าวันหนึ่งมีนายพรานที่ชอบล่าสัตว์ป่าเช่นหมูป่านกของป่าสัตว์ป่าที่มีชีวิตโดยจะพกปืนแก๊บลำยาวเข้าไปในป่าแถวนั้นหลายกระบอกวันหนึ่งนายพรานท่านนั้นได้ไปหาล่าสัตว์ที่ภูใกล้กับวัด สายตาของพรานนั้น ได้มองไปเห็นนกตัวหนึ่งซึ่งอยู่บนเนินเขาและมีพระอาจารย์นั่งอยู่จึงนึก อยากลองของเลยได้เล็งปืนไปที่พระอาจารย์นั่งจนกระทั่งเหนี่ยวไกยิงปืนแก๊บลำนั้นแตกคามือของนายพรานนายนั้นและนายพรานโมโหมากไม่พอใจเอาปืนกระบอกที่สองยิงเข้าไปอีกปืนก็แตกอีกมิหนำซ้ำ นายพรานไม่พอใจเป็นอย่างมาก คไปซื้อปืนใหม่วันหลังแล้วกลับมาลองยิงซ้ำปรากฏว่าปืนนั้นพังอีกนายพรานเลยกลับบ้านไปแล้วนอนคิดทั้งวันทั้งคืนป่วยนอนไม่หลับสุดท้ายจนได้กลับไปขอขมาพระอาจารย์ แล้วได้เล่าเรื่องราวเหล่านี้ให้ชาวบ้านฟังเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก ปัจจุบันนี้ นายพรานท่านนั้นเลิกยิงนก ล่าสัตว์โดยหันไปทำนาหากบหาเขียดแทนนี่ก็คือเรื่องนายพรานกลับใจ เรื่องที่สองเป็นเรื่องเกี่ยวกับจอมโจรค้าปืนเถื่อน เรื่องมีอยู่ว่าวันหนึ่งชาวบ้านท่านหนึ่ง ได้เล่าว่ามี บุคคลคนหนึ่งขออนุญาตไม่เอ่ยนามซึ่งเป็นคนแถบนั้นได้เคยรับวัตถุมงคลของพระอาจารย์ไปคนนั้นเป็นคนไม่ค่อยดีมีคดีติดตัวตำรวจตามจับอยู่ซึ่งเป็นคนที่มีอาวุธติดตัวตลอด เป็นบุคคลอันตรายวันหนึ่งตำรวจได้ล้อมจับคนนี้ใช้กำลังคนประมาณ 15 คนพร้อมอาวุธครบมือปืนเอ็ม 16 สามกระบอกและปืนสั้นเข้าไปบุกจับโจรนายนี้ จอมโจรเล่าให้ฟังว่าเมื่อเขาเห็นตำรวจแล้วเค้าชักปืนยิงใส่ตำรวจแต่ไม่โดนตำรวจเลยยิงสวนกลับแต่เกิดปาฏิหาริย์ขึ้นได้ยินแต่เสียงแต๊ก แต๊ก ในใจคิดว่ากูไม่รอดแน่แต่ปืนของตำรวจไม่ออกสักคน ตอนคิดว่าโดนล้อมเลยกระโดดหน้าต่างหนี ไปป่ากล้วยหลังบ้านก็โดนตำรวจที่อยู่ข้างล่างตระครุบ ก็ยังมุดรอดออกมาได้ สุดท้ายแล้วก็จับไม่ได้หนีทัน แล้วได้กลับมาเล่าให้เพื่อนฝูงฟังว่ามีของดีอะไรจากนั้นเพื่อนก็เข้าไปขอกับพระอาจารย์ซึ่งพระอาจารย์ก็ไม่มีให้เพราะพระอาจารย์รู้ว่าบุคคลคนนั้นเป็นคนไม่ดีเลยไม่อยากให้ ปัจจุบันจนถึงวันนี้ก็คนก็ยังอยู่ ยังปลอดภัยดีเลิกค้าของเถื่อนทำไร่ทำนา ยังมีอีกหลายเรื่องราวที่ผมได้รับรู้แต่ยังไม่ได้เล่าให้ฟังทั้งเรื่องของเสี่ยใหญ่ เรื่องของตำรวจเรื่องของทหารอีกเยอะแยะมากมายเอาไว้วันหลังผมจะเล่าให้ฟังแต่ตำนานที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริงได้ฟังจากพระอาจารย์แล้วก็คนแถวนั้นยังมีเรื่องของโชคลาภอีกที่ยังไม่ได้เล่าตำนานเหรียญรุ่นแรกเกิดขึ้นเพราะว่าพี่โค้กสกลนครได้ไปกราบพระอาจารย์และได้รับตระกรุดมา 1ดอก โดยอธิษฐานไว้ว่าถ้าผมยิงไม่ออกผมจะสร้างเหรียญรุ่นแรกให้พระอาจารย์เรื่องราวได้เกิดขึ้นจริงตามคลิปที่ได้ลงไว้ก่อนหน้านี้ตอนนี้วัตถุมงคลของพระอาจารย์ได้สร้างออกมาสามรุ่นแล้วเช่นเหรียญรุ่นแรก พระแก้วมรกตรุ่นแรกตะกรุดโทนและตระกรุดโทนหนังกลองรุ่นแรก ไว้ให้พี่พี่สมาชิกได้มีไว้คุ้มครองตนพระอาจารย์ได้กล่าวไว้ว่าของมันจะดีมันก็ดีไม่ต้องเอาไปลองมันจะโดนเจ้าของให้เก็บไว้คุ้มครองเฉพาะยามมีภัยเท่านั้นถ้าจะลองก็ขอให้ทำให้ถูกเอามาให้พระอาจารย์เป่าสวดก่อน มันถึงจะแข็ง เรื่องแบบนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละท่าน ซึ่งมีผู้เล่าสืบต่อกันมาสุดท้ายนี้ขอบารมีพระอาจารย์คุ้มครองทุกท่าน

รายละเอียด

เหรียญรุ่นแรกเสกทั้งที ต้องมีทั้งมหาอุตม์ ทั้งเหนียว
เหรียญรุ่นแรกสำหรับผู้ที่มองเห็นอนาคตเท่านั้นยังไงก็มา
เส้นสายฝนในเหรียญวิ๊งๆครับ
พระอาจารย์สุนทร กตปุญโญ
วัดบ้านกวนบุ่น ต.จันทร์เพ็ญ จ.สกลนคร
เนื้อทองแดงรมมันปู หมายเลข๑๘๘๐ พร้อมกล่องเดิม
จำนวนสร้าง๒๕๖๑เหรียญ
โทร.0624245646

ประวัติย่อๆและความเป็นมาของพระอาจารย์สุนทร นามวงค์ชัย (ฉายากตปุญโญ) โดยย่อมีดังต่อไปนี้ครับอาจารย์สุนทร กตปุญโญ
เกิดเมื่อวันที่ 15 เดือนสิงหาคมพ.ศ. 2509 เป็นบุตรชายของนาย ก้านก่อง นามวงค์ชัย มารดาชื่อ นางประพันธ์ นามวงค์ชัย มีพี่น้องร่วมท้องกัน7คนเสียชีวิต2 คนยังมีชีวิตอยู่5คน พระอาจารย์สุนทรเป็นบุตรชายคนที่2 มีอาชีพทำไร่ทำนารับจ้างทั่วไป ตอนวัยเด็กอายุได้ถึงเจ็ดปีได้เข้าการศึกษาเล่าเรียนที่โรงเรียนบ้านดงมะไฟสามัคคีราษฎร์อุทิศ ตำบลดงมะไฟอำเภอเมือง จังหวัดสกลนครตั้งแต่ป.1ถึงป.6 ภาคบังคับเมื่อจบการศึกษาแล้วก็ออกมาทำไร่ทำนาช่วยพ่อแม่ทำงานรับจ้างบ้างจนอายุได้ถึง 34 ปีมีอุปสมบทหมู่ขึ้นที่บ้านดงมะไฟ ก็เลยขอปรึกษากับพ่อแม่รู้ว่าผมอยากบวชพ่อแม่ดูแล้วก็ไม่ขัดข้องแล้วแต่ตามใจเธอพระอาจารย์ก็ยังไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ว่าจะอยู่ได้กี่วันก็เลยพูดกับพ่อแม่ว่าถ้าผมอยู่ได้เจ็ดวันหรือ 15 วันผมจะไม่สึกแต่ถ้าผมอยู่ไม่ได้ทำใจไม่ได้ผมจะขอสิกขา ลาเพศพ่อแม่ขอบวชก็ไม่ขัดข้องแล้วแต่จากนั้นก็เลยตัดสินใจเข้าอุปสมบทหมู่ในวันนั้นซึ่งเป็นวันเกิดของพระครูยศ บ้านหนองไผซึ่งท่านเป็นพระอุปัชฌาย์ โดยมี พระครูพลี เป็นครูสวดซ้อม เมื่อเข้าสู้อุปสมบทหมู่หรือบวชเสร็จแล้วพระอาจารย์ก็ขอย้ายขึ้นไปจำพรรษาที่ วัดอ่างภูเรือหรือภูดานงิ้ว ใกล้กันกับภูผาแดนปฎิบัติธรรมมีการทำวัตรสวดมนต์เช้าเย็นภาวนาเดินจงกลมและ ทำสมาธิทุกวันจนถึงวันออกพรรษาเมื่อออกพรรษาแล้วพระอาจารย์ก็ได้เดินธุดงค์ตามเขาหรือในถ้ำเพื่อแสวงหาความวิเวกหรือความสงบตามธรรมชาติ จนได้ถึงสี่ปีต่อจากนั้นพระอาจารย์ก็ได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดศรีสะอาด บ้านดงมะไฟ ตำบลดงมะไฟ อำเภอเมือง จังหวัดสกลนครเป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาสและดูแลวัดวาอารามถึงเจ็ดปีก็ได้ย้ายไปอยู่ที่วัดบ้านกวนบุ่น ตำบลจันทร์เพ็ญ อำเภอเต่างอย จังหวัดสกลนครในตลอดระยะเวลาหลายปีนั้นพระอาจารย์ได้เดินธุดงค์ตามถ้ำตามภูเขาหรือป่าช้าแถบนั้นเป็นเวลานานถึง 10 ปี บางครั้งช่วงหนึ่งก็ได้ไปศึกษาวิชา ที่ภูเขาควายประเทศลาว นับรวมพรรษาทั้งหมดได้ 20 พรรษา เรื่องราวประสบการณ์หรือปฏิหารย์พระอาจารย์จะไม่พูดถึงเพราะว่ามันเป็นปัตจัตตัง เป็นธรรมที่ไม่มีตัวตนรู้ได้เฉพาะตัวตนเท่านั้น แต่เรื่องเล่าเรื่องราวต่อจากนี้ได้ฟังมาจากคนละแวกใกล้เคียงแถวนั้นเล่าให้ฟังและทหารเก่าสมัยนั้นเป็นพื้นที่สีแดงอ่ะก็จะมีเรื่องราวหลายเรื่องราวยกตัวอย่างเช่น เรื่องนายพรานกลับใจ เรื่องนี้ได้ฟังมาจากพี่ทหารท่านหนึ่งเล่าให้ฟังว่าวันหนึ่งมีนายพรานที่ชอบล่าสัตว์ป่าเช่นหมูป่านกของป่าสัตว์ป่าที่มีชีวิตโดยจะพกปืนแก๊บลำยาวเข้าไปในป่าแถวนั้นหลายกระบอกวันหนึ่งนายพรานท่านนั้นได้ไปหาล่าสัตว์ที่ภูใกล้กับวัด สายตาของพรานนั้น ได้มองไปเห็นนกตัวหนึ่งซึ่งอยู่บนเนินเขาและมีพระอาจารย์นั่งอยู่จึงนึก
อยากลองของเลยได้เล็งปืนไปที่พระอาจารย์นั่งจนกระทั่งเหนี่ยวไกยิงปืนแก๊บลำนั้นแตกคามือของนายพรานนายนั้นและนายพรานโมโหมากไม่พอใจเอาปืนกระบอกที่สองยิงเข้าไปอีกปืนก็แตกอีกมิหนำซ้ำ นายพรานไม่พอใจเป็นอย่างมาก คไปซื้อปืนใหม่วันหลังแล้วกลับมาลองยิงซ้ำปรากฏว่าปืนนั้นพังอีกนายพรานเลยกลับบ้านไปแล้วนอนคิดทั้งวันทั้งคืนป่วยนอนไม่หลับสุดท้ายจนได้กลับไปขอขมาพระอาจารย์ แล้วได้เล่าเรื่องราวเหล่านี้ให้ชาวบ้านฟังเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก ปัจจุบันนี้ นายพรานท่านนั้นเลิกยิงนก ล่าสัตว์โดยหันไปทำนาหากบหาเขียดแทนนี่ก็คือเรื่องนายพรานกลับใจ เรื่องที่สองเป็นเรื่องเกี่ยวกับจอมโจรค้าปืนเถื่อน เรื่องมีอยู่ว่าวันหนึ่งชาวบ้านท่านหนึ่ง ได้เล่าว่ามี บุคคลคนหนึ่งขออนุญาตไม่เอ่ยนามซึ่งเป็นคนแถบนั้นได้เคยรับวัตถุมงคลของพระอาจารย์ไปคนนั้นเป็นคนไม่ค่อยดีมีคดีติดตัวตำรวจตามจับอยู่ซึ่งเป็นคนที่มีอาวุธติดตัวตลอด เป็นบุคคลอันตรายวันหนึ่งตำรวจได้ล้อมจับคนนี้ใช้กำลังคนประมาณ 15 คนพร้อมอาวุธครบมือปืนเอ็ม 16 สามกระบอกและปืนสั้นเข้าไปบุกจับโจรนายนี้ จอมโจรเล่าให้ฟังว่าเมื่อเขาเห็นตำรวจแล้วเค้าชักปืนยิงใส่ตำรวจแต่ไม่โดนตำรวจเลยยิงสวนกลับแต่เกิดปาฏิหาริย์ขึ้นได้ยินแต่เสียงแต๊ก แต๊ก ในใจคิดว่ากูไม่รอดแน่แต่ปืนของตำรวจไม่ออกสักคน ตอนคิดว่าโดนล้อมเลยกระโดดหน้าต่างหนี ไปป่ากล้วยหลังบ้านก็โดนตำรวจที่อยู่ข้างล่างตระครุบ ก็ยังมุดรอดออกมาได้ สุดท้ายแล้วก็จับไม่ได้หนีทัน แล้วได้กลับมาเล่าให้เพื่อนฝูงฟังว่ามีของดีอะไรจากนั้นเพื่อนก็เข้าไปขอกับพระอาจารย์ซึ่งพระอาจารย์ก็ไม่มีให้เพราะพระอาจารย์รู้ว่าบุคคลคนนั้นเป็นคนไม่ดีเลยไม่อยากให้ ปัจจุบันจนถึงวันนี้ก็คนก็ยังอยู่ ยังปลอดภัยดีเลิกค้าของเถื่อนทำไร่ทำนา ยังมีอีกหลายเรื่องราวที่ผมได้รับรู้แต่ยังไม่ได้เล่าให้ฟังทั้งเรื่องของเสี่ยใหญ่ เรื่องของตำรวจเรื่องของทหารอีกเยอะแยะมากมายเอาไว้วันหลังผมจะเล่าให้ฟังแต่ตำนานที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริงได้ฟังจากพระอาจารย์แล้วก็คนแถวนั้นยังมีเรื่องของโชคลาภอีกที่ยังไม่ได้เล่าตำนานเหรียญรุ่นแรกเกิดขึ้นเพราะว่าพี่โค้กสกลนครได้ไปกราบพระอาจารย์และได้รับตระกรุดมา 1ดอก โดยอธิษฐานไว้ว่าถ้าผมยิงไม่ออกผมจะสร้างเหรียญรุ่นแรกให้พระอาจารย์เรื่องราวได้เกิดขึ้นจริงตามคลิปที่ได้ลงไว้ก่อนหน้านี้ตอนนี้วัตถุมงคลของพระอาจารย์ได้สร้างออกมาสามรุ่นแล้วเช่นเหรียญรุ่นแรก พระแก้วมรกตรุ่นแรกตะกรุดโทนและตระกรุดโทนหนังกลองรุ่นแรก ไว้ให้พี่พี่สมาชิกได้มีไว้คุ้มครองตนพระอาจารย์ได้กล่าวไว้ว่าของมันจะดีมันก็ดีไม่ต้องเอาไปลองมันจะโดนเจ้าของให้เก็บไว้คุ้มครองเฉพาะยามมีภัยเท่านั้นถ้าจะลองก็ขอให้ทำให้ถูกเอามาให้พระอาจารย์เป่าสวดก่อน มันถึงจะแข็ง เรื่องแบบนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละท่าน ซึ่งมีผู้เล่าสืบต่อกันมาสุดท้ายนี้ขอบารมีพระอาจารย์คุ้มครองทุกท่าน