พระผงสุพรรณ หลวงพ่อมุ่ย พิมพ์ใหญ่ อกนูน เนื้อแดง วัดดอนไร่ สุพรรณบุรี ปี 2512 (พิมพ์นิยม)-พีพีพระเครื่อง - webpra

เว็บ-พระ ประมูลพระเครื่อง ร้านค้าพระเครื่องออนไลน์

พีพีพระเครื่อง

คุณค่าพระเครื่อง คือ พุทธคุณ-พุทธศิลป์

หมวด พระกรุ เนื้อดิน - เนื้อผง

พระผงสุพรรณ หลวงพ่อมุ่ย พิมพ์ใหญ่ อกนูน เนื้อแดง วัดดอนไร่ สุพรรณบุรี ปี 2512 (พิมพ์นิยม)

พระผงสุพรรณ หลวงพ่อมุ่ย พิมพ์ใหญ่ อกนูน เนื้อแดง วัดดอนไร่ สุพรรณบุรี ปี 2512 (พิมพ์นิยม) - 3

พระผงสุพรรณ หลวงพ่อมุ่ย พิมพ์ใหญ่ อกนูน เนื้อแดง วัดดอนไร่ สุพรรณบุรี ปี 2512 (พิมพ์นิยม) - 4

ชื่อร้านค้า	พีพีพระเครื่อง - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	พีพีพระเครื่อง (1)
ชื่อพระเครื่อง	พระผงสุพรรณ หลวงพ่อมุ่ย พิมพ์ใหญ่ อกนูน เนื้อแดง วัดดอนไร่ สุพรรณบุรี ปี 2512 (พิมพ์นิยม)
อายุพระเครื่อง	55 ปี
หมวดพระ	พระกรุ เนื้อดิน - เนื้อผง
ราคาเช่า	1,800 บาท
เบอร์โทรติดต่อ	089-448-3434
อีเมล์ติดต่อ	tn_su@hotmail.com
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	ศ. - 09 ก.พ. 2567 - 22:10.33
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	ศ. - 09 ก.พ. 2567 - 22:10.33

รายละเอียด
-ขอแนะนำพระผงสุพรรณหลวงพ่อมุ่ย ที่มีพุทธคุณ แคล้วคลาด ปลอดภัย คงกระพันชาตรีสูง -มูลค่าไม่สูงแต่พุทธคุณสูงเทียบ รุ่นที่มีมูลค่าหลักแสนได้ครับ -ธเนตร์ 089-448-3434 (ติชมได้ครับ) “อภินิหารหลวงพ่อมุ่ย ที่บางท่านที่ได้รับ” รายแรก ส.ต. ประสาร วารินิน บ้านกระเสียว ต.กระเสียว อ.สามชุก สุพรรณบุรี ได้ รับคําสั่งจากผู้บัญชาการ ให้ไปสงครามเวียดนาม ส. ต. ประสาร พอทราบคําสั่งรีบเดิน ทางมาขอน้ํามนต์ จากหลวงพ่ออาบ และรับพระสมเด็จไป ๑ องค์ หลังจากนั้นได้เดิน ทางไปยังเวียดนาม ออกสู่สนามรบทันที ส. ต. ประสาร ได้ไปเหยียบกับระเบิดจากผู้ก่อการร้ายฝังไว้ เกิดระเบิดขึ้นมาทันที่ปรากฏว่าร่างของ ส.ต.ประสาร กระดอนลอยแล้วตกลงพื้นดิน ไฟไหม้เสื้อผ้าขาดหมด อัศจรรย์ร่างกายของ ส.ต.ประสาร ไม่มีรอยแผลจากสะเก็ดระเบิดเลย ทหารทั้งกองร้อยทึ่งในการรอดตาย ของส. ต. ประสารผู้นี้เป็นอย่างมาก ต่างมาขอดูที่ตัวของ ส. ต.ประสาร มีอะไรดี พบว่ามีพระสมเด็จของ หลวงพ่อมุ่ย หลังจากนั้นไม่กี่เดือน ทหารก่อนจะไปเวียตนาม มาขอน้ํามนต์จากหลวงพ่อกันอย่างมากมาย รายที่ ๒ นายลาน สว่างศรี กํานันตําบลหนองผักนาก อ.สามชุก สุพรรณบุรี ได้นํารถบรรทุก ๑๐ ล้อ ไปวิ่งยังจังหวัดขอนแก่น อยู่มาวันหนึ่งได้ให้โชเฟอร์ขับรถเข้ามาเที่ยวในเมือง เมื่อรถวิ่งมาส่งทางรถไฟผ่าน โชเฟอร์เห็นมีด่านเปิดสําคัญว่า รถไฟไม่มา จึงขับรถหมายจะผ่านทางรถไฟ ขณะนั้นพอดีรถไฟขบวนหนึ่งวิ่งผ่านมาพอดี ชนรถ ๑๐ ล้อ ของกํานันลาน สว่างศรี อย่างแรงปรากฏว่ารถ ๑๐ ล้อ นั้นพังยับเยิน แต่คนขับรถและเด็กท้ายรถไม่เป็นอันตรายปลอดทุกประการ ปรากฏว่ามีผ้ายันต์ของหลวงพ่อมุ่ย ประจําตัวอยู่ รายที่ ๓ เมื่อวันเสาร์ที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๑๓ ซึ่งทางวัดดอนไร่ ได้จัดให้มีงานเสาร์ห้าขึ้น พระครูนิคมภมรพล วัดสุวรรณภูมิ อ.เมือง สุพรรณบุรี พร้อมด้วย (พี่เลี้ยง พ. อ. ณัฏฐ์ เทศะกรณ์ กองอํานวยการกลาง เดินทางไปกราบนมัสการ หลวงพ่อมุ่ย ได้รับประพรมน้ํามนต์และรับสมเด็จ ๓ กษัตริย์ และตะกรุดจากหลวงพ่อมาบูชาได้อําลาหลวงพ่อกลับรถได้วิ่งมาตามเส้นทางดอนเจดีย์ (คลองส่งน้ําชลประทาน) ไม่มีใครคาดฝันมาก่อน เวลา ๒๐.๐๐ น. รถ ของ พ.อ.ณัฏฐ์ เทศะกรณ์ ได้ชนรถเข็นถ่านอย่างแรง กําลังจอดอยู่โดยไม่มีไฟสัญญาณเปิดไว้ รถของ พ.อ. ณัฏฐ์ หน้าบุบ ทั้งพระครูนิคม ภมรพล และ พ.อ. ณัฏฐเทศะกรณ์ ไม่มีใครเป็นอะไร รายที่ ๔ มีอยู่วันหนึ่ง มีคุณผู้หญิงคนหนึ่ง (ไม่ทราบชื่อ) บ้านอยู่กําแพงเพชร ได้มาเล่าให้หลวงพ่อฟังว่า ดิฉันรับสิงห์ (แกะด้วยงา) ไปบูชาประจําตัว อยู่มาวันหนึ่งดิฉันได้ออกไปเก็บผัก หักพื้นหลังบ้าน ไปพบไข่อะไรไม่ทราบ ดิฉันจึงหยิบไข่นั้น เอามา เพราะเข้าใจว่าเป็นของแปลก ซึ่งไม่เคยเห็นมาแต่ก่อน จึงเดินทางกลับบ้าน สักครู่หนึ่งรู้สึกว่ามีเสียงกราวๆมาข้างหลัง ตกใจเหลียวไปด พบงูจงอางวิ่งไล่ แผ่แม่เบี้ยมา ดิฉันร้องลั่น รีบนําสังกะสีที่ถือติดไปคลุมศรีษะนั่งลงรีบภาวนาให้สิงห์ที่ติดสร้อยคออยู่นั้นให้ช่วย นึกถึงหลวงพ่อตลอดเวลา งูจงอางไม่อาจทําอะไรได้ เพียงแต่วนอยู่รอบ จนชาวบ้านเอาไก่โยนล่อให้ออกไป จึงยิงจูจงอางตาย นี่ก็น่าอัศจรรย์จริง สรรพคุณของหลวงพ่อ ยังมีอีกมากมาย ท่านผู้นําไปบูชาเท่านั้นจะรู้ได้ดี เท่าที่นํามาลงไว้นเพียงหลักฐานนิดหน่อยเท่านั้น ที่มีพิเศษออกไป น้ํามนต์คลอดบุตร ยอดจริงๆ วันหนึ่งมีสตรีมีครรภ์แก่ ไปอาบน้ํามนต์หลายสิบคน ปรากฏว่าคลอดง่ายทุกคน เป็นความจริง “ประวัติหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่” เป็นบุตร ของนายเหมือนนางสีชัง มีศรีชัย เกิดวันพฤหัสบดี เดือนอ้าย ปีฉลู พ.ศ. ๒๔๓๑ ณ ที่บ้านดอนไร่ ต.หนองสะเดาอ.สามชุก จ. สุพรรณบุรี มีพี่น้อง รวม ๕ คนคือ ๑.นางน้ำอ้อย ๒.นายช่วง มีศรีชัย ๓. หลวงพ่อมุ่ย (พระครูสุวรรณวุฒาจารย์) ๔.นางน้ำตาล ๕. นางสาคู อุปสมบท เมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม พ.ศ.๒๔๕๑ ณ พัทธสีมาวัดดอนบุปผาราม ต.บ้านกร่าง อ.ศรีประจันต์ สุพรรณบุรี โดยมี พระครูธรรมสารรักษา (หลวงพ่ออ้น ) วัดดอนบุปผาราม เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อทวน วัดบ้านกร่าง เป็นกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์กุล วัดดอนบุปผาราม เป็นอนุสาวนาจารย์ เมื่ออุปสมบทแล้ว ได้ย้ายไปอยู่ วัดหนองสะเดา ประมาณ ๖ เดือน จึงกลับมาจำพรรษาวัดดอนบ้านไร่ ได้ ๖ พรรษา จึงย้ายไปอยู่ วัดหัวเขา เพื่อศึกษากัมมัฏฐาน วิชาอาคมต่าง ๆ จากหลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา อ.เดิมบางฯ ลงไปอยู่ วัดปู่บัว อ.เมือง อีก ๑ พรรษา จึงกลับไปอยู่วัดดอนไร่ มาจนกระทั่งปัจจุบันนี้ พ.ศ. ๒๔๗๕ ได้รับตําแหน่งเป็นเจ้าอาวาส วัดดอนไร่ พ.ศ. ๒๔๗๖ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตําบลหนองสะเดา พ.ศ. ๒๔๔๖ ได้รับตราตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ. ๒๕๐๒ ได้รับสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นตรี (พระครูสวรรณวุฒาจารย์) การก่อสร้างปรับปรุงกุฏิให้เข้ารูป สร้างอุโบสถ สร้างศาลาการเปรียญ สร้างโรงเรียน และสร้างมณฑป สร้างสระน้ํา ฯลฯ

รายละเอียด

-ขอแนะนำพระผงสุพรรณหลวงพ่อมุ่ย ที่มีพุทธคุณ แคล้วคลาด ปลอดภัย คงกระพันชาตรีสูง
-มูลค่าไม่สูงแต่พุทธคุณสูงเทียบ รุ่นที่มีมูลค่าหลักแสนได้ครับ
-ธเนตร์ 089-448-3434 (ติชมได้ครับ)

“อภินิหารหลวงพ่อมุ่ย ที่บางท่านที่ได้รับ”
รายแรก ส.ต. ประสาร วารินิน บ้านกระเสียว ต.กระเสียว อ.สามชุก สุพรรณบุรี ได้ รับคําสั่งจากผู้บัญชาการ ให้ไปสงครามเวียดนาม ส. ต. ประสาร พอทราบคําสั่งรีบเดิน ทางมาขอน้ํามนต์ จากหลวงพ่ออาบ และรับพระสมเด็จไป ๑ องค์ หลังจากนั้นได้เดิน ทางไปยังเวียดนาม ออกสู่สนามรบทันที ส. ต. ประสาร ได้ไปเหยียบกับระเบิดจากผู้ก่อการร้ายฝังไว้ เกิดระเบิดขึ้นมาทันที่ปรากฏว่าร่างของ ส.ต.ประสาร กระดอนลอยแล้วตกลงพื้นดิน ไฟไหม้เสื้อผ้าขาดหมด อัศจรรย์ร่างกายของ ส.ต.ประสาร ไม่มีรอยแผลจากสะเก็ดระเบิดเลย ทหารทั้งกองร้อยทึ่งในการรอดตาย ของส. ต. ประสารผู้นี้เป็นอย่างมาก ต่างมาขอดูที่ตัวของ ส. ต.ประสาร มีอะไรดี พบว่ามีพระสมเด็จของ หลวงพ่อมุ่ย หลังจากนั้นไม่กี่เดือน ทหารก่อนจะไปเวียตนาม มาขอน้ํามนต์จากหลวงพ่อกันอย่างมากมาย
รายที่ ๒ นายลาน สว่างศรี กํานันตําบลหนองผักนาก อ.สามชุก สุพรรณบุรี ได้นํารถบรรทุก ๑๐ ล้อ ไปวิ่งยังจังหวัดขอนแก่น อยู่มาวันหนึ่งได้ให้โชเฟอร์ขับรถเข้ามาเที่ยวในเมือง เมื่อรถวิ่งมาส่งทางรถไฟผ่าน โชเฟอร์เห็นมีด่านเปิดสําคัญว่า รถไฟไม่มา จึงขับรถหมายจะผ่านทางรถไฟ ขณะนั้นพอดีรถไฟขบวนหนึ่งวิ่งผ่านมาพอดี ชนรถ ๑๐ ล้อ ของกํานันลาน สว่างศรี อย่างแรงปรากฏว่ารถ ๑๐ ล้อ นั้นพังยับเยิน แต่คนขับรถและเด็กท้ายรถไม่เป็นอันตรายปลอดทุกประการ ปรากฏว่ามีผ้ายันต์ของหลวงพ่อมุ่ย ประจําตัวอยู่
รายที่ ๓ เมื่อวันเสาร์ที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๑๓ ซึ่งทางวัดดอนไร่ ได้จัดให้มีงานเสาร์ห้าขึ้น พระครูนิคมภมรพล วัดสุวรรณภูมิ อ.เมือง สุพรรณบุรี พร้อมด้วย (พี่เลี้ยง พ. อ. ณัฏฐ์ เทศะกรณ์ กองอํานวยการกลาง เดินทางไปกราบนมัสการ หลวงพ่อมุ่ย ได้รับประพรมน้ํามนต์และรับสมเด็จ ๓ กษัตริย์ และตะกรุดจากหลวงพ่อมาบูชาได้อําลาหลวงพ่อกลับรถได้วิ่งมาตามเส้นทางดอนเจดีย์ (คลองส่งน้ําชลประทาน) ไม่มีใครคาดฝันมาก่อน เวลา ๒๐.๐๐ น. รถ ของ พ.อ.ณัฏฐ์ เทศะกรณ์ ได้ชนรถเข็นถ่านอย่างแรง กําลังจอดอยู่โดยไม่มีไฟสัญญาณเปิดไว้ รถของ พ.อ. ณัฏฐ์ หน้าบุบ ทั้งพระครูนิคม ภมรพล และ พ.อ. ณัฏฐเทศะกรณ์ ไม่มีใครเป็นอะไร
รายที่ ๔ มีอยู่วันหนึ่ง มีคุณผู้หญิงคนหนึ่ง (ไม่ทราบชื่อ) บ้านอยู่กําแพงเพชร ได้มาเล่าให้หลวงพ่อฟังว่า ดิฉันรับสิงห์ (แกะด้วยงา) ไปบูชาประจําตัว อยู่มาวันหนึ่งดิฉันได้ออกไปเก็บผัก หักพื้นหลังบ้าน ไปพบไข่อะไรไม่ทราบ ดิฉันจึงหยิบไข่นั้น เอามา เพราะเข้าใจว่าเป็นของแปลก ซึ่งไม่เคยเห็นมาแต่ก่อน จึงเดินทางกลับบ้าน สักครู่หนึ่งรู้สึกว่ามีเสียงกราวๆมาข้างหลัง ตกใจเหลียวไปด พบงูจงอางวิ่งไล่ แผ่แม่เบี้ยมา ดิฉันร้องลั่น รีบนําสังกะสีที่ถือติดไปคลุมศรีษะนั่งลงรีบภาวนาให้สิงห์ที่ติดสร้อยคออยู่นั้นให้ช่วย นึกถึงหลวงพ่อตลอดเวลา งูจงอางไม่อาจทําอะไรได้ เพียงแต่วนอยู่รอบ จนชาวบ้านเอาไก่โยนล่อให้ออกไป จึงยิงจูจงอางตาย นี่ก็น่าอัศจรรย์จริง
สรรพคุณของหลวงพ่อ ยังมีอีกมากมาย ท่านผู้นําไปบูชาเท่านั้นจะรู้ได้ดี เท่าที่นํามาลงไว้นเพียงหลักฐานนิดหน่อยเท่านั้น ที่มีพิเศษออกไป น้ํามนต์คลอดบุตร ยอดจริงๆ วันหนึ่งมีสตรีมีครรภ์แก่ ไปอาบน้ํามนต์หลายสิบคน ปรากฏว่าคลอดง่ายทุกคน เป็นความจริง

“ประวัติหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่”
เป็นบุตร ของนายเหมือนนางสีชัง มีศรีชัย
เกิดวันพฤหัสบดี เดือนอ้าย ปีฉลู พ.ศ. ๒๔๓๑ ณ ที่บ้านดอนไร่ ต.หนองสะเดาอ.สามชุก จ. สุพรรณบุรี
มีพี่น้อง รวม ๕ คนคือ
๑.นางน้ำอ้อย
๒.นายช่วง มีศรีชัย
๓. หลวงพ่อมุ่ย (พระครูสุวรรณวุฒาจารย์)
๔.นางน้ำตาล
๕. นางสาคู
อุปสมบท เมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม พ.ศ.๒๔๕๑ ณ พัทธสีมาวัดดอนบุปผาราม ต.บ้านกร่าง อ.ศรีประจันต์ สุพรรณบุรี โดยมี พระครูธรรมสารรักษา (หลวงพ่ออ้น ) วัดดอนบุปผาราม เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อทวน วัดบ้านกร่าง เป็นกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์กุล วัดดอนบุปผาราม เป็นอนุสาวนาจารย์
เมื่ออุปสมบทแล้ว ได้ย้ายไปอยู่ วัดหนองสะเดา ประมาณ ๖ เดือน จึงกลับมาจำพรรษาวัดดอนบ้านไร่ ได้ ๖ พรรษา จึงย้ายไปอยู่ วัดหัวเขา เพื่อศึกษากัมมัฏฐาน วิชาอาคมต่าง ๆ จากหลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา อ.เดิมบางฯ ลงไปอยู่ วัดปู่บัว อ.เมือง อีก ๑ พรรษา จึงกลับไปอยู่วัดดอนไร่ มาจนกระทั่งปัจจุบันนี้
พ.ศ. ๒๔๗๕ ได้รับตําแหน่งเป็นเจ้าอาวาส วัดดอนไร่
พ.ศ. ๒๔๗๖ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตําบลหนองสะเดา
พ.ศ. ๒๔๔๖ ได้รับตราตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์
พ.ศ. ๒๕๐๒ ได้รับสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นตรี (พระครูสวรรณวุฒาจารย์)
การก่อสร้างปรับปรุงกุฏิให้เข้ารูป สร้างอุโบสถ สร้างศาลาการเปรียญ สร้างโรงเรียน และสร้างมณฑป สร้างสระน้ํา ฯลฯ