หมวด พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน หลังปี 2525
พระขุนแผนหลวงปู่ทิม ช่อฟ้าปราบมาร ผงพรายกุมาร ฝังตะกรุดเงิน ปี 2558
ชื่อร้านค้า | พีพีพระเครื่อง - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | พระขุนแผนหลวงปู่ทิม ช่อฟ้าปราบมาร ผงพรายกุมาร ฝังตะกรุดเงิน ปี 2558 |
อายุพระเครื่อง | 9 ปี |
หมวดพระ | พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน หลังปี 2525 |
ราคาเช่า | 1,900 บาท |
เบอร์โทรติดต่อ | 089-448-3434 |
อีเมล์ติดต่อ | tn_su@hotmail.com |
สถานะ | |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | อ. - 07 ธ.ค. 2564 - 18:12.18 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | อ. - 07 ธ.ค. 2564 - 18:12.18 |
รายละเอียด | |
---|---|
สร้างจากช่อฟ้าใบระกา พระอุโบสถ์ดินที่หลวงปู่ทิมแกะสลักจากไม้กันเกา ท่อนใหญ่เป็นพระสุริยประภา (พระราหู) ไว้ทิศตะวันออก จันทรประภาไว้ทางทิศตะวันตกเพื่อความเจริญยั่งยื่นตลอดกาล จากพระอุโบสถ์ดินผสมไม้ผสมปูน แม้จะถอนยัคติ สร้างโบสถ์ใหม่แล้ววัดละหารไร่ก็เจริญรุ่งเรื่องจากเดิมที่มีเพียง ๑๕ ไร่ ปัจจุบันมีกว่า ๑๐๐ ไร่ จึงนำช่อฟ้าใบระกามาสร้างเป็น “พระขุนแผนพรายกุมารช่อฟ้าปราบมาร” ขึ้นให้มีทั้งมหาปราบและทั้งสุดรักสุดอาลัย -นอกจากผงพรายกุมารอันเข้มข้น ที่หลวงปู่ทิมยัดเยียดให้กับศิษย์คนสุดท้าย ที่รู้ว่าจะไม่ทิ้งวัดแล้ว ยังสรรหามวลสารต่าง ๆ เพื่อให้เป็นสุดยอดพระขุนแผนแห่งยุด โดยใช้ตำรับลับที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน คือ ผงไก่แก่ แม่ปลาช้อน ที่สุดรักและสุดโหดใช้ดีอย่างไรต้องจอง พระขุนแผนช่อฟ้าปราบมารไปใช้แล้วจะรู้เองเห็นเอง -ก่อนเที่ยงวันที่ 12 ตุลาคม ที่ผ่านมามูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก นำพระขุนแผนช่อฟ้าปราบมารที่ใหญ่ที่สุดในโลกขึ้น แท่นเพื่อเตรียมยกขึ้ประดิษฐ์ฐานบนแท่น หลังพระอุโบสถ์ดินหลังเก่าที่หลวงปู่ทิมสร้างไว้ โดยนิมนต์พระครูวิจิตรธรรมาภิรัติ เจ้าอาวาสวัดละหารไร่ และนายอลงกรณ์ แคอะรัจน์ นายอำเภอบ้านค่ายเป็นประธานเตรียม องค์พระขึ้นแท่นเฉพาะด้านหน้าก่อน โดยมีกรรมการมูลนิธิหลวงปู่ทิม เป็นผู้ดำเนินงาน จะเปิดให้บรรดาศิษย์ทั้งหลายได้ปิดทองก่อนยกขึ้นแท่น ในเวลาเที่ยงสิบนาที ฤกษ์ฤาษี ผู้เป็นปรมาจารย์ ส่วนชิ้นส่วนด้านข้างและด้านหลังกำลังก่อสร้างอยู่และเปิดโอกาสให้ผู้ ประสงค์สลักชื่อไว้ด้านหลังและด้านข้างตามเจตจำนง -มวลสารที่นำมาทำพระขุนแผนช่อฟ้าปราบมาร คือ 1.ช่อฟ้าใบระกาที่หลวงปู่ทิมสร้างและแกะด้วยมือ 2.ผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม 3.ดินจากถ้ำขุนแผน 4.ผงไก่แก่ แม่ปลาช้อน 5.ของดีที่หาง่าย แต่เอายากคนอยากเอา ดินจากถ้ำขุนแผน ดินจากถ้ำนางบัวคลี หรือ ถ้ำขุนแผน เป็นดินที่ได้มาจากถ้ำในจังหวัดกาญจนบุรีสมัยที่ไป ทอดกฐิน วัดหนองประชุม (หลวงพ่อเฒ่ายิ้ม) เกจิสมัยต้นรัตนโกสินทร์ โดยมีท่านละเอียดลัด บัวขม พาชมถ้ำแล้วพามาหยุดอยู่ที่ถ้ำสุดท้าย ซึ่งเป็นสถานที่ ที่ปรมาจารย์ดัง ๆ ๘ องค์ ประลองวิชากัน ดินตรงนั้นท่านเจ้าอาวาสวัดเตือนว่าไม่เคยมีใครเอาดินออกจากถ้ำนี้ไปได้เลย แม้แต่รายเดียว ถึงเอาไปแล้วก็ต้องเอามาคืนบางรายถึงกับว่ายบกออกมาจนจีวรขาดรุ่งริ่ง บางรายถึงกับสติแตก ยิ่งเป็นดินตรงบริเวณมุมถ้ำแรกที่มีน้ำซึมซับที่ขุนแผนผ่าท้องของบัวคลี นำกุมารออกมาย่าง ก็ไม่เคยมีใครนำออกไปจากถ้ำได้ เมื่อทำพิธีพลีดินบอกกล่าว เพื่อนำไปสร้างพระขุนแผนหาปัจจัยสร้างวัดก็นำออกมาได้ ทุกครั้งที่สร้างพระขุนแผนก็เอาผสมลงไปด้วยและก็ศักดิ์สิทธิ์ทุกครั้งเพราะ ครูอาจารย์ทราบวัตถุประสงค์ ของดีที่หาง่าย แต่เอายากคนอยากเอา ผงอาถรรพ์ที่สุดในโลกของหลวงพ่อผินะพระกินผี ก็เอามาเป็นส่วนผสม ขุนแผนช่อฟ้าปราบมาร สมัยคอมมิวนิสต์คุกคามประเทศไทย มีหน่วยรบพิเศษหน่วยหนึ่งได้รับมอบหมายให้กวาดล้าง ขบวนการที่สนับสนุนคอมมิวนิสต์ หน่วยรบพิเศษชุดนี้จัดตามกวาดล้าง จนเกือบสิ้นซาก แต่หัวหน้าหน่วยคอมมิวนิสต์ก็หลบหนีรอดได้ทุกครั้ง ภาระจึงไม่จบ สายข่าวบอกว่าหัวหน้าหน่วยมันมีของดีที่ได้มาจากหลวงพ่อผินะ นายทหารท่านนี้จึงได้หาหลวงพ่อผินะด้วย เพื่อหาของดีที่ตนเองเคยประจักษมาแล้ว หลวงพ่อผินะ จึงบอกใบ้เป็นปริศนาว่า ต้องไปเอาของดีที่หาง่ายแต่เอายาก คนอยากเอามาให้ท่าน ๆ จะทำของดีให้ กว่าจะตีความแตกและหาของดีมาให้ท่านก็ต้องใช้ปัญญามากกว่าสมควร เมื่อได้มาแล้ว ท่านให้เอาไปยางไฟแล้วใช้เก็บเอาน้ำมันไว้ได้น้ำมันมาประมาณค่อนขวดเครื่อง ชูกำลัง พร้อมเนื้อหนังที่แห้งเกรียมท่านชีให้ดูว่า อีนี้แหละของดีที่สุดในโลก เรื่องราวทั้งหมดดีร้าย รบราฆ่าฟันก็เหตุมาจากอีนี้ทั้งนั้น มึงคิดดู ซึ่งเหล็กต่อเหล็กชนกันโครมเดียวก็พังแต่อีนี้และไอ้นั้นทะแทกกันชนกันบาง ครั้งรุ่นแรงจนเตียงหักก็ยังมี แต่ก็ไม่เป็นอะไรไม่บุบสลายมันจึงเป็นของดีที่สุดในโลก หลวงพ่อผินะ ท่านนำเอาผงน้ำมันนี้ผสมกับวัตถุอาถรรพ์ต่าง ๆ สร้างพระเครื่อง เครื่องรางขึ้นมาจนลือลั่น คุณชินพรเล่าว่า หน้าเตาเผาศพมีครกใบใหญ่ ต่ำด้วยมอเตอร์ค้างอยู่ไม่มีคนกล้าเอาไป เพราะกลัวอาถรรพ์แต่ผมหยิบเอาผงในโหลสุดท้ายมาผสมทำพระขุนแผนพรายกุมาร ครั้งนี้ก็เช่นกันก็เอาผสมลงไปในขุนแผนช่อฟ้าปราบมาร แล้วยังเอาผงจากพระพุทธองค์ปราบท้าวภูบดีที่หลวงพ่อผินะ สร้างตำราผสมผงไปด้วย เพื่อให้สมกับชื่อขุนแผนช่อฟ้าปราบมาร หลังจากท่านนั่งมรณภาพ คุณชินพรไปเอามาเขียนก็เลยดังระบือลือลั่น ผงไก่แก่ แม่ปลาช้อน ผงสุดรัก สุดโหด ที่มองข้ามว่าเป็นเพียงสุภาษิตโบราณธรรมดา แต่ไม่ธรรมดา แฝงไว้ด้วยความรักความห่วงหาที่แม่ทุกสรรพสัตว์มีต่อลูกของตนเหมือนคำที่ว่า แม่ไม่ฆ่าลูกที่หลวงปู่ทิมนำเคล็ดลับนี้มาใช้เช่นเดียวกัน หลังจากที่แม่ปลาช้อนว่างไข่ไว้ แล้วค่อยเฝ้ารักษาจนออกมาเป็นตัว ก็จะคอยดูแลไม่ให้คลาดสายตา เมื่อเวลามีภัยแม่ปลาก็จะดูดเอาลูกอมไว้แต่ก็ไม่วาย ที่จะถูกพรานปลาน้ำจืด จับไปทั้ง ๆ ที่ยังอมลูกอยู่พรานก็จะเอาไปทำแกงส้ม เมื่อแม่ปลาทนความร้อนน้ำกำลังเดือดไม่ไหวก็จำใจคลายลูก ๆ ก็ออกไปหลบอยู่ในก้านผักบุ้งที่เตรียมไว้ที่เรียกว่าต้มเปรต เป็นความรักความผูกพันห่วงหาอาลัยก่อนแม่จะตาย คล้ายกับเคล็ดลับการทำผงพรายกุมารที่นำเอาอนุภาพแห่งความรัก ความผูกพันที่แม่มีต่อลูกมาทำผงพรายกุมาร ฉันใดก็ฉันนั้น อันไก่แก่ นั้นนานเข้าฤทธิ์เดชก็มากขึ้น เมื่อเห็นไก่สาว วัยรุ่นก็ใช่เลห์อุบายห์ จิกไม้กุกกุกหลอกไก่สาว ๆ ว่ามีมด มีปลวกที่เป็นอาหารอันโอชะ ก็จะพากันวิ่งเข้าไปหา ก็เลยเสร็จไก่แก่ เคล็ดลับนี้ยอดเกจิอาจารย์ทั้งหลายก็นำมาทำเครื่องรางอันลือลั่นเรียกไม้ไก่ กุ หลวงพ่อลัดวัดหนองกระบองผู้สร้างแพะรับบาปอันลือลั่นหนึ่งในยอดเครื่องราง ท่านกล่าวนี้ไม่ใช่ธรรมดาแต่แฝง เคล็ดลับมนต์อาถรรพ์ไว้ด้วย เป็นสุดยอดเมตตามหานิยมที่ใคร ๆ มองข้ามไปหมด พระขุนแผนช่อฟ้าปราบมาร จึงนำเคล็ดลับนี้มาใช้แล้วนิมนต์ให้ หลวงพ่อชม แห่งจังหวัดหนองคายบรรจุมนต์เมตตาใหญ่ลงไปเพื่อให้เกิดความขลังความ ศักดิ์สิทธิ์ในการสร้างพระขุนแผนช่อฟ้าปราบมารในครั้งนี้ ท่านได้สัมผัสผงนี้ถึงกับเอยปากว่า “รู้จักทำเหมือนกันหรือ” พุทธาภิเษก 5 วาระ วาระที่ 1 ปลุกเสก วาระที่ 4 วันที่ 21 พ.ย. 2558 พิธีบรรจุพุทธคุณ ขุนแผนช่อฟ้าปราบมาร หลวงปู่ชม โอภาโส ปลุกเสก(ช่วงเช้าและช่วงบ่าย) ขุนแผนช่อฟ้าปราบมาร ณ มูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก วาระที่ 5 วันที่ 24 พ.ย. 2558 พิธีบรรจุพุทธคุณ ขุนแผนช่อฟ้าปราบมาร วันเพ็ญ เดือน 12 ทำบุญฉลองอายุครบ 100 ปี ครูบาออ บัณฑิต๊ะ บนศาลาหลังใหม่ที่มูลนิธิหลวงปู่ทิมสร้างถวายแทนหลังเก่า พร้อมทำพิธีฉลองพระธาตุเจดีย์ที่ซ่อมแซมเสร็จใหม่ๆ และยกยอดฉัตรขึ้นสู่มหาเจดีย์ที่บรรจุพระธาตุบนดอยจอมแวะ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใม่ เวลาขึ้นลงต้องใช้รถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ เป็นหลัก ถึงกระนั้นก็มีพุทธศาสนิกชน ชาวไทยใหญ่ และชาวเขา ไปกราบคาราวะตลอดทั้งวันทั้งคืนในวันเพ็ญ |
พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...
อื่นๆ...
กำหลังโหลด Comments