หาไม่ค่อยเจอ...พระสมเด็จสิงห์คู่ วัดไผ่เหลือง นนทบุรี รุ่น๒ (พระที่ดังแม้แต่วีเจซิงค์ ยังมากราบ) -พ่อพัตเตอร์ - webpra

เว็บ-พระ ประมูลพระเครื่อง ร้านค้าพระเครื่องออนไลน์

พ่อพัตเตอร์

ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ฯ และบารมีของหลวงพ่อได้ปกปักรักษาชาวไทยให้มีแต่ความปลอดภัยด้วยเทอญ 087-9995555

หมวด พระสมเด็จทั่วไป

หาไม่ค่อยเจอ...พระสมเด็จสิงห์คู่ วัดไผ่เหลือง นนทบุรี รุ่น๒ (พระที่ดังแม้แต่วีเจซิงค์ ยังมากราบ)

หาไม่ค่อยเจอ...พระสมเด็จสิงห์คู่ วัดไผ่เหลือง นนทบุรี รุ่น๒ (พระที่ดังแม้แต่วีเจซิงค์ ยังมากราบ) - 3

ชื่อร้านค้า	พ่อพัตเตอร์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	itsaredh (1698)
ชื่อพระเครื่อง	หาไม่ค่อยเจอ...พระสมเด็จสิงห์คู่ วัดไผ่เหลือง นนทบุรี รุ่น๒ (พระที่ดังแม้แต่วีเจซิงค์ ยังมากราบ)
อายุพระเครื่อง	26 ปี
หมวดพระ	พระสมเด็จทั่วไป
ราคาเช่า	360 บาท
เบอร์โทรติดต่อ	087-9995555, 087-0510636
อีเมล์ติดต่อ	itsaredh@yahoo.com
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	ศ. - 03 พ.ย. 2560 - 09:53.21
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	ศ. - 06 ก.ค. 2561 - 16:42.36

รายละเอียด
พระสมเด็จสิงห์คู่ วัดไผ่เหลือง นนทบุรี รุ่น๒ สวยเดิม น่าบูชา ท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม, หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม และ หลวงพ่อสำเนียง วัดเวฬุวนาราม (ศิษย์หลวงปู่ศุข) ประวัติ หากเอ่ยถึง วัดสัจจธรรมาราม (วัดไผ่เหลือง) ต.บางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี หลายคนคงคุ้นเคยหรือคุ้นหูอยู่บ้าง เพราะที่นั่นเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและเผยแผ่พุทธศาสนาของอดีตพระเกจิ อาจารย์รูปหนึ่งที่น่าเคารพนับถือยิ่งนัก ท่านคือ พระครูภาวนาวรานุศาสก์ หรือ หลวงพ่อสิงห์ ฐิตสฺจโจ อดีตเจ้าอาวาสของวัดไผ่เหลือง เจ้าของฉายา “พระหมอดูคิวทอง” พระครูภาวนาวรานุศาสก์ หรือ หลวงพ่อสิงห์ เกิดเมื่อวันที่ ๕ มกราคม ๒๔๙๓ ณ หมู่บ้านอองชุนนิ ประเทศเกาหลี โยมบิดาชื่อ นายอนันต์ วิระยะวงศ์ เป็นอดีตทหารไทยที่ถูกส่งไปร่วมรบในสงครามสมัยก่อน ส่วนโยมมารดาเป็นชาวเกาหลี ทำให้ ด.ช.สิงห์ วิระยะวงศ์ ถือกำเนิดในฐานะของลูกครึ่งไทย-เกาหลี ภายหลังบิดากลับประเทศไทยอาศัยอยู่กับยายบริเวณหลังวัดบวรนิเวศวิหาร จนอายุได้ ๑๕ ปี นายสิงห์ ย้ายภูมิลำเนาไปอยู่กับครอบครัวแม่บุญธรรมที่ อ.บางเลน จ.นครปฐม ทำให้เกิดจุดผันเปลี่ยนในชีวิตครั้งใหญ่ มีโอกาสเข้าไปรับใช้ พระราชธรรมาภรณ์ หรือ หลวงพ่อเงิน อดีตพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดดอนยายหอม สมัยนั้นหลวงพ่อเงิน ขึ้นชื่อว่าดุและจริงจังในการอบรมสั่งสอนลูกศิษย์ใครไม่แน่จริงอย่าหวังจะได้รับถ่ายทอดวิชา ด้วยความมุ่งมั่นและฝักใฝ่ในธรรมะ นายสิงห์ ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนสรรพวิชาต่าง ๆ อาศัยความอดทนและอุตสาหะเป็นที่พึ่ง ทำให้หลวงพ่อเงิน เห็นแววเมตตาถ่ายทอดวิชาวิปัสสนากรรมฐาน การเจริญภาวนาสมาธิ รวมทั้งการลงอักขระเลขยันต์ต่าง ๆ ให้จนเก่งกาจ ไม่ด้อยไปกว่าศิษย์รุ่นพี่ รุ่นน้องคนอื่น ๆ ร่วมสำนัก เมื่อหลวงพ่อเงิน เห็นว่า นายสิงห์ มีความใฝ่ดี สมควรจะเป็นผู้สืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไปในภายภาคหน้า จึงแนะนำให้ไปร่ำเรียนวิชา เตโชกสิณ หรือ กสิณไฟ จาก หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม โดยเขียนจดหมายฝากฝังไปให้ด้วยในสมัยนั้น นายสิงห์ ก็ไม่ทำให้ หลวงพ่อเงิน ผิดหวัง มุ่งมั่นเรียนวิชากับ หลวงพ่อเต๋ จนเชี่ยวชาญเช่นเดียวกัน ภายหลัง หลวงพ่อเงิน มรณภาพ นายสิงห์ จึงดั้นด้นไปเรียนวิชาเพิ่มเติมจาก หลวงพ่อสำเนียง วัดเวฬุวนาราม หนึ่งในศิษย์สาย พระครูวิมลคุณากร หรือ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท โดยหนึ่งในวิชาที่ได้รับการถ่ายทอดคือ ยันต์นะฤาชา ซึ่งสร้างชื่อเสียงให้โด่งดังในเวลาต่อมา หลังจากศึกษาธรรมะและสรรพวิชาต่าง ๆ จนไม่เป็นรองใครแล้ว นายสิงห์ได้ไปแต่งงานมีครอบครัว ก่อนตัดสินใจอุปสมบทเป็นพระภิกษุในปี พ.ศ. ๒๕๓๐ ณ พัทธสีมาวัดเฉลิมพระเกียรติ ต.บางศรีเมือง อ.เมือง จ.นนทบุรี ได้รับฉายาว่า “ฐิตสฺจโจ” โดยมี พระอมรเวที เป็นพระอุปัชฌาย์ (ภายหลังได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระธรรมกิตติมนี เจ้าคณะจังหวัดนนทบุรีปัจจุบัน) จากนั้นก็เดินธุดงค์แสวงหาความรู้ต่าง ๆ เพิ่มเติม รวมทั้งวิชาโหราศาสตร์และอาคมขลัง กระทั่งมาพบวัดไผ่เหลือง วัดร้างเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา อายุหลายร้อยปี หลวงพ่อสิงห์ เห็นว่าทำเลและชัยภูมิดี แวดล้อมด้วยต้นไผ่เหลือง จึงตัดสินใจจำพรรษาและพัฒนาวัดไผ่เหลืองจนเจริญรุ่งเรือง ก่อนเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น วัดสัจจธรรมาราม ตั้งแต่อยู่ภายใต้ร่มกาสาวพัสตร์ หลวงพ่อสิงห์ อุทิศตนพัฒนาท้องถิ่น ดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านย่านใกล้เคียง จนได้ชื่อว่ามีความเมตตาสูง เป็นที่เคารพนับถือของญาติโยมทั้งไกลและใกล้ ในปี พ.ศ. ๒๕๓๕ เป็นพระปลัดฐานานุ กรมในพระอมรเวที รองเจ้าคณะจังหวัดนนทบุรี พ.ศ. ๒๕๔๐ เป็นพระครูวินัยธร ฐานานุ กรมในพระธรรมวโรดม วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม พ.ศ. ๒๕๔๕ เป็นพระครูปลัดกิตติวรวัฒน์ ฐานานุกรมในพระธรรมกิตติมุนี เจ้าคณะจังหวัดนนทบุรี พ.ศ. ๒๕๔๖ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูสัญญาบัตร เทียบเท่าผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงฝ่ายวิปัสสนาธุระที่ “พระครูภาวนาวรานุศาสก์” สุดยอดวิชาที่สร้างชื่อเสียงให้ท่านมาก คือ วิชาโหราศาสตร์ หรือ วิชาหมอดู ขึ้นชื่อว่า “แม่นยำราวกับตาเห็น” ทำให้แต่ละวันมีผู้คนหลั่งไหลมาเข้าคิวดูหมอแน่นขนัด ถึงขั้นจองคิวกันข้ามปี จึงเป็นที่มาของฉายา “พระหมอดูคิวทอง” บรรดาลูกศิษย์ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศก็มีมากมาย อาทิ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี นายสันติ ภิรมย์ภักดี ผู้บริหารบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด (มหาชน) ไม่เว้นแม้แต่นักกีฬาระดับโลกอย่าง วีเจย์ ซิงค์ โปรกอล์ฟชาวฟิจิก็เคยบินลัดฟ้ามาฝากตัวเป็นศิษย์ ศึกษาเล่าเรียนวิปัสสนากรรมฐานกับท่าน จนคว้าตำแหน่งนักกอล์ฟมือหนึ่งของโลกมาแล้ว

รายละเอียด

พระสมเด็จสิงห์คู่ วัดไผ่เหลือง นนทบุรี รุ่น๒ สวยเดิม น่าบูชา ท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม, หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม และ หลวงพ่อสำเนียง วัดเวฬุวนาราม (ศิษย์หลวงปู่ศุข)

ประวัติ
หากเอ่ยถึง วัดสัจจธรรมาราม (วัดไผ่เหลือง) ต.บางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี หลายคนคงคุ้นเคยหรือคุ้นหูอยู่บ้าง เพราะที่นั่นเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและเผยแผ่พุทธศาสนาของอดีตพระเกจิ อาจารย์รูปหนึ่งที่น่าเคารพนับถือยิ่งนัก ท่านคือ พระครูภาวนาวรานุศาสก์ หรือ หลวงพ่อสิงห์ ฐิตสฺจโจ อดีตเจ้าอาวาสของวัดไผ่เหลือง เจ้าของฉายา “พระหมอดูคิวทอง”

พระครูภาวนาวรานุศาสก์ หรือ หลวงพ่อสิงห์ เกิดเมื่อวันที่ ๕ มกราคม ๒๔๙๓ ณ หมู่บ้านอองชุนนิ ประเทศเกาหลี โยมบิดาชื่อ นายอนันต์ วิระยะวงศ์ เป็นอดีตทหารไทยที่ถูกส่งไปร่วมรบในสงครามสมัยก่อน ส่วนโยมมารดาเป็นชาวเกาหลี ทำให้ ด.ช.สิงห์ วิระยะวงศ์ ถือกำเนิดในฐานะของลูกครึ่งไทย-เกาหลี

ภายหลังบิดากลับประเทศไทยอาศัยอยู่กับยายบริเวณหลังวัดบวรนิเวศวิหาร จนอายุได้ ๑๕ ปี นายสิงห์ ย้ายภูมิลำเนาไปอยู่กับครอบครัวแม่บุญธรรมที่ อ.บางเลน จ.นครปฐม ทำให้เกิดจุดผันเปลี่ยนในชีวิตครั้งใหญ่ มีโอกาสเข้าไปรับใช้ พระราชธรรมาภรณ์ หรือ หลวงพ่อเงิน อดีตพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดดอนยายหอม สมัยนั้นหลวงพ่อเงิน ขึ้นชื่อว่าดุและจริงจังในการอบรมสั่งสอนลูกศิษย์ใครไม่แน่จริงอย่าหวังจะได้รับถ่ายทอดวิชา

ด้วยความมุ่งมั่นและฝักใฝ่ในธรรมะ นายสิงห์ ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนสรรพวิชาต่าง ๆ อาศัยความอดทนและอุตสาหะเป็นที่พึ่ง ทำให้หลวงพ่อเงิน เห็นแววเมตตาถ่ายทอดวิชาวิปัสสนากรรมฐาน การเจริญภาวนาสมาธิ รวมทั้งการลงอักขระเลขยันต์ต่าง ๆ ให้จนเก่งกาจ ไม่ด้อยไปกว่าศิษย์รุ่นพี่ รุ่นน้องคนอื่น ๆ ร่วมสำนัก

เมื่อหลวงพ่อเงิน เห็นว่า นายสิงห์ มีความใฝ่ดี สมควรจะเป็นผู้สืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไปในภายภาคหน้า จึงแนะนำให้ไปร่ำเรียนวิชา เตโชกสิณ หรือ กสิณไฟ จาก หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม โดยเขียนจดหมายฝากฝังไปให้ด้วยในสมัยนั้น นายสิงห์ ก็ไม่ทำให้ หลวงพ่อเงิน ผิดหวัง มุ่งมั่นเรียนวิชากับ หลวงพ่อเต๋ จนเชี่ยวชาญเช่นเดียวกัน

ภายหลัง หลวงพ่อเงิน มรณภาพ นายสิงห์ จึงดั้นด้นไปเรียนวิชาเพิ่มเติมจาก หลวงพ่อสำเนียง วัดเวฬุวนาราม หนึ่งในศิษย์สาย พระครูวิมลคุณากร หรือ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท โดยหนึ่งในวิชาที่ได้รับการถ่ายทอดคือ ยันต์นะฤาชา ซึ่งสร้างชื่อเสียงให้โด่งดังในเวลาต่อมา
หลังจากศึกษาธรรมะและสรรพวิชาต่าง ๆ จนไม่เป็นรองใครแล้ว นายสิงห์ได้ไปแต่งงานมีครอบครัว ก่อนตัดสินใจอุปสมบทเป็นพระภิกษุในปี พ.ศ. ๒๕๓๐ ณ พัทธสีมาวัดเฉลิมพระเกียรติ ต.บางศรีเมือง อ.เมือง จ.นนทบุรี ได้รับฉายาว่า “ฐิตสฺจโจ” โดยมี พระอมรเวที เป็นพระอุปัชฌาย์ (ภายหลังได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระธรรมกิตติมนี เจ้าคณะจังหวัดนนทบุรีปัจจุบัน)

จากนั้นก็เดินธุดงค์แสวงหาความรู้ต่าง ๆ เพิ่มเติม รวมทั้งวิชาโหราศาสตร์และอาคมขลัง กระทั่งมาพบวัดไผ่เหลือง วัดร้างเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา อายุหลายร้อยปี หลวงพ่อสิงห์ เห็นว่าทำเลและชัยภูมิดี แวดล้อมด้วยต้นไผ่เหลือง จึงตัดสินใจจำพรรษาและพัฒนาวัดไผ่เหลืองจนเจริญรุ่งเรือง ก่อนเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น วัดสัจจธรรมาราม

ตั้งแต่อยู่ภายใต้ร่มกาสาวพัสตร์ หลวงพ่อสิงห์ อุทิศตนพัฒนาท้องถิ่น ดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านย่านใกล้เคียง จนได้ชื่อว่ามีความเมตตาสูง เป็นที่เคารพนับถือของญาติโยมทั้งไกลและใกล้

ในปี พ.ศ. ๒๕๓๕ เป็นพระปลัดฐานานุ กรมในพระอมรเวที รองเจ้าคณะจังหวัดนนทบุรี

พ.ศ. ๒๕๔๐ เป็นพระครูวินัยธร ฐานานุ กรมในพระธรรมวโรดม วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม

พ.ศ. ๒๕๔๕ เป็นพระครูปลัดกิตติวรวัฒน์ ฐานานุกรมในพระธรรมกิตติมุนี เจ้าคณะจังหวัดนนทบุรี

พ.ศ. ๒๕๔๖ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูสัญญาบัตร เทียบเท่าผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงฝ่ายวิปัสสนาธุระที่ “พระครูภาวนาวรานุศาสก์”

สุดยอดวิชาที่สร้างชื่อเสียงให้ท่านมาก คือ วิชาโหราศาสตร์ หรือ วิชาหมอดู ขึ้นชื่อว่า “แม่นยำราวกับตาเห็น” ทำให้แต่ละวันมีผู้คนหลั่งไหลมาเข้าคิวดูหมอแน่นขนัด ถึงขั้นจองคิวกันข้ามปี จึงเป็นที่มาของฉายา “พระหมอดูคิวทอง”

บรรดาลูกศิษย์ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศก็มีมากมาย อาทิ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี นายสันติ ภิรมย์ภักดี ผู้บริหารบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด (มหาชน) ไม่เว้นแม้แต่นักกีฬาระดับโลกอย่าง วีเจย์ ซิงค์ โปรกอล์ฟชาวฟิจิก็เคยบินลัดฟ้ามาฝากตัวเป็นศิษย์ ศึกษาเล่าเรียนวิปัสสนากรรมฐานกับท่าน จนคว้าตำแหน่งนักกอล์ฟมือหนึ่งของโลกมาแล้ว