-
ขอบคุณผู้มีอุปการะคุณทุกท่านติดต่อ โทร : 065-980-4659, Line-ID. : wisanu-phirom
e-mail : wisanu.amulet@gmail.com
หมวด พระเกจิภาคใต้
เหรียญรุ่น3 หลวงพ่อบุญรักษ์ (พระครูประสาทธรรมวิภัช) วัดคงคาวดี อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ปี2517
ชื่อร้านค้า | โภคทรัพย์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | เหรียญรุ่น3 หลวงพ่อบุญรักษ์ (พระครูประสาทธรรมวิภัช) วัดคงคาวดี อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ปี2517 |
อายุพระเครื่อง | 50 ปี |
หมวดพระ | พระเกจิภาคใต้ |
ราคาเช่า | - |
เบอร์โทรติดต่อ | (ไม่แสดงเบอร์ เนื่องจากรายการนี้ไม่ได้ปล่อยเช่า) |
อีเมล์ติดต่อ | wisanu.amulet@gmail.com |
LINE |
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
|
สถานะ | |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | อา. - 07 พ.ค. 2560 - 10:51.39 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | อา. - 07 พ.ค. 2560 - 10:51.39 |
รายละเอียด | |
---|---|
เหรียญรุ่น3 หลวงพ่อบุญรักษ์ (พระครูประสาทธรรมวิภัช) วัดคงคาวดี อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ปี2517 ........พระครูประสาทธรรมวิภัช (บุญรักษ์ ฐานวิริโย) วัดคงคาวดี(เสาเภา) ต.เสาเภา อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช อดีตเจ้าคณะอำเภอสิชล-ท่าศาลา(ธ) ชาติภูมิ พระครูประสาทธรรมวิภัช เดิมชื่อ บุญรักษ์ ศิริสุข เป็นบุตรของนายช่วย-นางถั่วขาว ศิริสุข ถือกำเนิดเมื่อวันที่ 25 กพ.2445 ตรงกับแรม 14 ค่ำ เดือน 3 ปีขาล ณ.บ้านบางจีนเลี่ยน หมู่ที่ 2 ต.เสาเภา อ.สิชล นครศรีธรรมราช เวลาประมาณ 19.30 น. มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันรวม 6 คน กับมีพี่บุญธรรมอีก 1 คน รวมเป็น 7 คนคือ 1.นายขล้ง ศิริสุข(พี่บุญธรรม) 2.นายทองอินทร์ ศิริสุข(อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.เสาเภา) 3.น.ส.หีดปราง (วาด) ศิริสุข 4.นายเกลือน ศิริสุข 5.นางกล่ำ ชาญณรงค์(ศิริสุข) 6.พระครูประสาทธรรมวิภัช(บุญรักษ์ ศิริสุข) 7.นายลบ ศิริสุข (อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.เสาเภา) ประถมวัย พระครูประสาทธรรมวิภัช เมื่อยังเยาว์วัยสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง มักจะเจ็บไข้ได้ป่วยอยู่เสมอ บิดา มารดาท่านกลัวว่าท่านจะไม่รอด จึงยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของนายทองขาว บ้านบางไม้เลี่ยม เพื่อเป็นการแก้เคล็ดตามความเชื่อของคนในสมัยนั้น สำหรับชื่อด.ช บุญรักษ์ นั้น นางล่วน ยัสพันธุ์ เป็นคนตั้งให้ และได้อยู่ในความดูแลของนายทองขาวตั้งแต่นั้นมา จนวันหนึ่งที่บ้านนายช่วย นางถั่วขาว โยมบิดามารดาของท่าน ได้มีพิธีทำบุญมงคลเรือน จึงได้นิมนต์พระ 5 รูปมาเจริญพุทธมนต์ โดยมีพระอุปัชฌาย์สุข อินทรสุวัณโณ เจ้าอาวาสวัดเสาเภาเป็นประธานสงฆ์ ขณะนั้นเด็กชายบุญรักษ์อายุ 1 ขวบเศษ นายทองขาวได้พาไปในงานด้วย ครั้นพระสงฆ์เจริญพุทธมนต์จบแล้ว ดช.บุญรักษ์ได้คลานเข้าไปนั่งตักพระอุปัชฌาย์สุข โดยไม่มีทีท่าว่าจะกลัวหรือร้องไห้ พระอุปัชฌาย์สุข จึงพูดว่า เราไม่มีลูกถ้าใครยกให้สักคนก็จะดี จะได้มีลูกกับเขาบ้าง โยมบิดามารดาและนายทองขาวผู้อุปการะ ก็พร้อมใจกันยก ด.ช .บุญรักษ์ ถวายพระอุปัชฌาย์สุข ตั้งแต่นั้นมา เมื่อเสร็จพิธีทำบุญที่บ้านแล้ว ด.ช.บุญรักษ์ก็ได้ไปอยู่ที่วัดเสาเภากับพระอุปัชฌาย์สุข .........ครั้น อายุพอสมควรหลวงพ่อพระอุปัชฌาย์สุข ก็ได้สอนอักษรไทย-ขอม บวก ลบ คูณ หาร พอมีความรู้อ่านออกเขียนได้และได้ส่งเข้าเรียนหนังสือไทยในโรงเรียนเสาเภา เมื่ออายุประมาณ 9 ปี จนสอบไล่ได้ชั้นประถมปีที่3 ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดของโรงเรียนเสาเภาในสมัยนั้น พ.ศ.2459 อายุได้ 14 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร ได้อยู่จำพรรษาศึกษาเล่าเรียนทางธรรมวินัยกับพระอุปัชฌาย์สุข ที่วัดเสาเภา 3 พรรษา จึงได้ลาสิกขาครองชีวิตฆราวาสรับราชการครูสอนที่โรงเรียนวัดเสาเภา อยู่ 1 ปี ก่อนย้ายไปสอนที่โรงเรียนวัดขรัวช่วย 1 ปี และได้ย้ายไปสอนที่โรงเรียนวัดถ้ำเทียนถวาย อีก 4 ปี ก่อนที่จะลาออกจากราชการครูเพื่อรับการคัดเลือกทหาร เมื่ออายุ 22 ปีหลังจากการเป็นทหารแล้ว ท่านก็อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดเสาเภา โดยมีพระอธิการสุข เป็นอุปัชฌาชย์ พระอธิการจีน วัดสโมสรสันนิบาต(นาแล) เป็น พระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการยัง วัดเขาน้อย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ตรงกับวันที่ 25 มิถุนายน 2466 ได้รับฉายาว่า ถาวรสุโข เมื่ออุปสมบทแล้วได้เรียนนักธรรมตรี ที่วัดเสาเภาและสอบได้นักธรรมตรีในปีนั้น พ.ศ.2468 ได้กราบลาพระอุปัชฌาย์ไปศึกษาเล่าเรียนนักธรรมชั้นโท ในเมืองนครศรีธรรมราช ครั้งแรกไปพักอยู่ที่วัดชะเมา ต่อมาได้ย้ายไปจำพรรษาที่วัดจันทาราม และได้เรียนนักธรรมชั้นโทที่สำนักเรียนวัดท่าโพธิ์ แต่สอบไม่ได้ในปีนั้น พ.ศ.2468 ออกพรรษาแล้วได้ย้ายไปอยู่วัดท่าโพธิ์ ซึ่งมีท่านเจ้าคุณพระรัตนธัชมุนี(ม่วง) เป็นเจ้าอาวาสและเป็นเจ้าคณะมณฑลนครศรีธรรมราชสมัยนั้น ได้กราบเรียนขออนุญาตหลวงพ่อพระอุปัชฌาย์สุข เพื่อขอญัตติเป็นพระธรรมยุติ ซึ่งท่านก็ไม่ขัดข้องพ.ศ.2469 ได้ขอญัตติเป็นพระธรรมยุติ ณ พระอุโบสถวัดท่าโพธิ์ โดยมีท่านเจ้าคุณพระรัตนธัชมุนี(ม่วง) เจ้าคณะมณฑลนครศรีธรรมราชเป็นพระอุปัชฌาย์ พระศรีธรรมประสาธน์(แบน) วัดพระมหาธาตุ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้รับฉายาใหม่ว่า ฐานวิริโย และได้อยู่จำพรรษา ณ วัดท่าโพธิ์ 3 พรรษา พ.ศ 2472 ท่านได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อศึกษาต่อครั้ง แรกได้ไปพักอยู่ที่วัดสัมพันธวงศ์เป็นการชั่วคราว ต่อมาได้ย้ายไปจำพรรษา ณ วัดบุปผาราม ธนบุรีและได้ไปเรียนนักธรรมชั้นโทที่วัดพิชยญาติการามและสอบได้นักธรรมโทใน ปีนี้ ตั้งใจว่าจะศึกษาต่อนักธรรมเอกและวิชาภาษาบาลีต่อไป แต่สุขภาพไม่อำนวยเนื่องจากเป็นโรคเหน็บชา ไม่ถูกกับอากาศในภาคกลาง จึงขอลาเจ้าอาวาสวัดบุปผาราม กลับสำนักเดิมประกอบกับห่วงหลวงพ่อพระอุปัชฌาย์สุข ซึ่งชราภาพมาก ก่อนที่ท่านจะเดินทางกลับมาอยู่ปรนนิบัติอุปัฐากพระอุปัชฌาย์ท่าน ครั้นกลับมาถึงนครศรีธรรมราชแล้ว อาการป่วยเป็นโรคเหน็บชาก็ค่อยหายไปตามลำดับ ท่านเจ้าคุณพระรัตนธัชมุนี เจ้าอาวาสวัดท่าโพธิ์ ได้มีบัญชาให้ท่านไปเป็นหัวหน้าสงฆ์ที่วัดหัวตะลิ่ง(วัดโทเอก) ก่อนที่ท่านจะจัดตั้งโรงเรียนวัดขึ้น โดยที่ท่านเป็นครูสอนด้วยตัวเอง ปัจฉิมวัย ท่านเป็นผู้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่ค่อยเจ็บไข้ได้ป่วยอะไรมากนัก เป็นผู้ร่าเริงเบิกบาน มีเมตตาจิตต่อผู้ไปหาทุกคน หลังจากคณะศิษย์จัดงานทำบุญฉลองอายุครบ 7 รอบ ถวายเมื่อ พ.ศ.2528 แล้วรู้สึกว่าท่านเริ่มมีสุขภาพอ่อนแอลง ฉันอาหารได้น้อย เหนื่อยง่าย จึงต้องเข้า-ออกโรงพยาบาลบ่อยๆ จนครั้งสุดท้ายได้เข้ารักษษตัวที่โรงพยาบาลมหาราช นครศรีธรรมราช เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2531 เป็นเวลาเดือนเศษ อาการทางหัวใจไม่ดีขึ้น คณะศิษย์จึงได้นำท่านไปรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพฯ โดยท่านเจ้าคุณพระเทพวราจารย์ วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นผู้ธุระติดต่อกับศาสตราจารย์ นายแพทย์ประดิษฐ์ เจริญไทยทวี ช่วยอำนวยความสะดวกและขอให้เป็นผู้ป่วยอยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ พระราชทานค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด ตลอดถึงภัตตาหารเช้า-เพล นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ ท่านเข้าพักรักษาตัวอยู่ที่ตึก 84 ชั้น 5 ห้อง 506 เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2531 ครั้นถึงวันที่ 24 มกราคม 2532 เวลา 08.05น. ท่านก็ถึงแก่มรณภาพด้วยอาการอันสงบ ณ โรงพยาบาลศิริราช รวมอายุได้ 87 ปี อยู่ในสมณเพศ 65 พรรษา นับเป็นการสูญเสียพระเถราจารย์ผู้ทรงคุณ ยังความเศร้าโศกเสียใจแด่ชาวสิชลยิ่งนัก |
พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...
อื่นๆ...
กำหลังโหลด Comments