ลูกอมอาจารย์แน่น วัดหนองขาว จ.กาญจนบุรี(ลูกอมติดวิญญาณ)-ตลับเงินตลับทอง - webpra

เว็บ-พระ ประมูลพระเครื่อง ร้านค้าพระเครื่องออนไลน์

ตลับเงินตลับทอง

สิ้นลม สมบัติ ไม่ติดกาย ของดีมากมาย จะคู่กาย ผู้มีบารมีสืบต่อไป nongbluestar**081-6391688**

หมวด เครื่องรางของขลัง

ลูกอมอาจารย์แน่น วัดหนองขาว จ.กาญจนบุรี(ลูกอมติดวิญญาณ)

ชื่อร้านค้า	ตลับเงินตลับทอง - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	nongbluestar (23)
ชื่อพระเครื่อง	ลูกอมอาจารย์แน่น วัดหนองขาว จ.กาญจนบุรี(ลูกอมติดวิญญาณ)
อายุพระเครื่อง	-
หมวดพระ	เครื่องรางของขลัง
ราคาเช่า	-
เบอร์โทรติดต่อ	(ไม่แสดงเบอร์ เนื่องจากรายการนี้ไม่ได้ปล่อยเช่า)
อีเมล์ติดต่อ	nongbluestar@yahoo.com
LINE	(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	พฤ. - 12 มิ.ย. 2557 - 18:28.49
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	อ. - 24 มิ.ย. 2557 - 20:42.46

รายละเอียด
พระครูปลัดแน่น ปุสฺโส (หลวงพ่อแน่น,อาจารย์แน่น) วัดหนองขาว กาญจนบุรี พระครูปลัดแน่น เป็นพระเถราจารย์ ที่ประพฤติปฏิบัติตนในกรอบพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัดอย่างเสมอต้นเสมอปลาย มีเมตตาชอบคุยแต่เรื่องธรรมะ เป็นผู้มีเชาว์ปัญญาเฉลียวฉลาดเป็นเลิศ เพียงพรรษาที่ ๔ ก็สามารถสอบนักธรรมชั้นเอกได้สำเร็จและท่านยังได้รับการแต่งตั้งจากองค์การศึกษาให้เป็นกรรมการตรวจประโยคธรรมสนามหลวง ทางด้านวิปัสสนากัมมัฏฐานเวทย์วิทยาคม พระครูปลัดแน่นได้รับคำแนะนำสั่งสอนจากพระอุปัชฌาย์ของท่านพระวิสุทธิรังษี (หลวงปู่เปลี่ยน) วัดไชยชุมพลชนะสงคราม(วัดใต้) ท่านยังได้รับมอบตำราโหราศาสตร์โบราณ เพื่อศึกษาค้นคว้าวิชาการต่าง ๆ นอกจากนี้ยังได้ศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเองจากตำราเก่าภายในวัด ท่านพระครูปลัดแน่นร่ำเรียนทั้งอักขระภาษาขอม หนังสือไสยเวทย์,วิทยาคม,พุทธาคมต่าง ๆ ด้วยความตั้งใจอันเด็ดเดี่ยวและแน่วแน่รวมกับเชาว์ปัญญาที่เฉลียวฉลาด สรรพวิชาการต่าง ๆ จึงท่านจึงร่ำเรียนได้สำเร็จ และมีพุทธาคมเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ เกียรติคุณชื่อเสียงคำร่ำลือเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง และท่านมักได้รับนิมนต์เข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษก อธิฐานจิตปลุกเสกพระในพิธีสำคัญ ๆ เสมอ ประวัติพระครูปลัดแน่น ปุสฺโส นามเดิม แน่น นามสกุล พัฒนมาศ นามฉายา ปุสฺโส เกิดเมื่อ วันพฤหัสบดี ที่ ๑๓ มกราคม พ.ศ.๒๔๕๒ ตรงกับขึ้น ๓ ค่ำ เดือนยี่ ปีระกา โยมบิดาชื่อ นายนุ้ย พัฒนมาศ โยมมารดาชื่อ นางปลีก พัฒนมาศ มีพี่น้อง ๓ คน ๑. นางน่วม โพธิ์เงิน ๒. พระครูปลัดแน่น ปุสฺโส ๓. นายหน่วง พัฒนมาศ ในวัยเด็กท่านเป็นเด็กมุมานะ ขยันอดทน ตั้งใจเด็ดเดี่ยว ทำสิ่งใดต้องทำให้สำเร็จ เจ้าระเบียบเป็นที่เกรงใจของหลาน ๆ ท่านได้เข้ารับการศึกษาโรงเรียนชั้นมูลศึกษา เมื่อปี พ.ศ.๒๔๖๐ อายุ ๘ ปี แต่เข้าเรียนได้แค่ชั้น ป.๒ และไม่จบการศึกษาก็ต้องลาออกจากการเรียนมาช่วยบิดามารดาทำนา เลี้ยงวัวอยู่เรื่อยมาจนอายุ ๒๒ ปี จึงเข้ารับการอุปสมบท (ครั้งแรก) ปีพ.ศ.๒๔๗๙ ณ พัทธสีมาวัดอินทาราม โดยมีพระวิสุทธิรังษี (หลวงปู่เปลี่ยน) วัดไชยชุมพลชนะสงคราม(วัดใต้) เป็นพระอุปัชฌาย์ ตอนนั้นพระครูโกวิทสุตคุณ (หลวงพ่อพยอม)ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดอินทารามได้ปีเศษ ท่านพระครูปลัดแน่นได้อยู่จำพรรษา ณ วัดอินทาราม ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยและบทสวดมนต์ต่าง ๆ และปฏิบัติกิจของสงฆ์ที่ดีพึงปฏิบัติตลอดมา บวชเรียนได้ ๒ พรรษาจึงลาสิกขาออกมาช่วยบิดามารดาทำนา เลี้ยงวัวอีกครั้ง ต่อมาท่านได้อยู่กินกับภรรยาชื่อนางสาท แต่ยังไม่ได้แต่งงานอยู่กินด้วยกันภรรยาเกิดตั้งท้อง ท่านจึงคิดสร้างครอบครัว เตรียมปลูกบ้านเพื่ออยู่กินกับภรรยาและบุตร แต่แล้วภรรยาท่านมาเสียชีวิต เนื่องจากการคลอดบุตร และบุตรชายที่เกิดมาสุขภาพก็ไม่แข็งแรง เพียงปีกว่า ๆ ก็เสียชีวิตอีกคนด้วยโรคหัด ด้วยความเสียใจจากเคราะห์กรรมครั้งนี้ ท่านจึงได้ตัดสินใจเด็ดขาดสละทุกอย่างแล้วจึงออกบวชโดยไม่หันหลังกลับ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับบิดา มารดา ภรรยาและบุตร ท่านพระครูปลัดแน่น ได้เข้าอุปสมบทครั้งที่ ๒ ณ พัทธสีมาวัดอินทาราม เมื่อ วันพุธ ที่ ๑๙ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๘๓ ตรงกับขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง เวลา ๑๒ นาฬิกา ๕๘ นาที โดยมีพระวิสุทธิรังษี (หลวงปู่เปลี่ยน) วัดไชยชุมพลชนะสงคราม(วัดใต้) เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านพระครูโกวิทสุตคุณ (หลวงพ่อพยอม) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูพนมคุณาธาร (หลวงพ่อป้อง) วัดห้วยสะพาน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ภายหลังการอุปสมบทได้จำพรรษา ณ วัดอินทาราม ด้วยเหตุผลของการบวชในครั้งนี้ทำให้ท่านพระครูปลัดแน่นจึงตั้งใจศึกษาพระธรรมวินัยและเรียนนักธรรมอย่างมุ่งมั่น และปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัดมากได้เพียง พรรษาแรก ท่านสามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี พรรษาที่สอง ท่านสามารถท่องพระปฏิโมกข์จนจบบริบูรณ์ พรรษาที่สาม ท่านสอบนักธรรมชั้นโทได้สำเร็จ และเริ่มเป็นครูสอนพระปริยัติธรรมให้พระภิกษุ – สามเณรในวัด พรรษาที่สี่ ท่านสอบนักธรรมชั้นเอกได้สำเร็จและได้รับแต่งตั้งเป็นครูสอนพระปริยัติธรรม หลังจากได้ร่ำเรียนศึกษาวิชาการต่าง ๆ ตลอดจนฝึกฝนวิปัสสนากัมมัฏฐานจนมีความเชี่ยวชาญมาได้ระยะหนึ่ง ในพรรษาที่ ๔ นี้(พ.ศ.๒๔๘๖) หลังจากออกพรรษาแล้วท่านพระครูปลัดแน่นก็ได้ออกเดินธุดงค์เพื่อแสวงหาความสงบวิเวก ฝึกจิตสมาธิให้เข้มแข็งโดยท่านออกธุดงค์ไปกับพระจอก (พระครูกาญจนวิธาน สุชาโต อดีตเจ้าคณะอำเภอด่านมะขามเตี้ย), พระคลี่ (พระสมุห์คลี่อดีตเจ้าอาวาสวัดสำรอง), พระเล็ก (พระบวชใหม่) ได้เดินทางขึ้นเหนือ ธุดงค์ไปตามสถานที่ต่าง ๆ ทางภาคเหนือหลายแห่งจนไปถึง จังหวัดสุโขทัย และได้จำพรรษาอยู่ที่วัดป่ากุมเกาะ อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย และที่อำเภอสวรรคโลกนี้มีชาวบ้านหนองขาวมาอาศัยอยู่จำนวนหนึ่งได้นิมนต์ท่านพระครูปลัดแน่นให้จำพรรษาอยู่ที่นี่และด้วยท่านพระครูปลัดแน่นเป็นพระผู้มีวัตรปฏิบัติงดงามเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของญาติโยมทั้งหลาย จึงได้จำพรรษาอยู่ที่วัดป่ากุมเกาะนี้ ๒ พรรษา พระครูปลัดแน่นยังเป็นที่รักของชาวสวรรคโลกอย่างยิ่ง หลังจากท่านแล้วเดินทางกลับวัดอินทาราม ในปี พ.ศ.๒๔๘๘ ชาวสวรรคโลกยังคงตามมานมัสการท่านพระครูปลัดแน่นที่วัดอินทาราม(หนองขาว) จ.กาญจนบุรี เป็นประจำทุก ๆ ปี และต่อมาเมื่อท่านพระครูปลัดแน่นได้สร้างลูกอม, ตะกรุด, เครื่องรางของขลัง ชาวสวรรคโลกได้มาขอบูชากันไปอย่างมากมายบางคนที่มาไม่ได้ก็ยังสั่งให้ญาติพี่น้องที่ขึ้นไปสวรรคโลกติดไปฝากครั้งละมาก ๆ หลายต่อครั้งและด้วยพุทธคุณความศักดิ์สิทธิ์ของลูกอมปรากฏขึ้นสามารถคุ้มครองป้องกันภัยให้แก่บรรดาศิษย์ได้ตลอด ทำให้เป็นที่เลื่องลือกล่าวขานกันไปทั่วและในปัจจุบันเป็นที่หวงแหนของชาวสวรรคโลกยิ่งนัก และท่านพระครูปลัดแน่นได้นำประสบการณ์และสิ่งที่ได้พบเจอกลับมาพัฒนาวัดบ้านเกิด และยังเพื่อช่วยงานหลวงพ่อพยอมอีกครั้ง ท่านพระครูปลัดแน่นได้เริ่มสร้างลูกอมครั้งแรกเมื่อประมาณพรรษาที่ ๑๒ (พ.ศ.๒๔๙๔) ที่วัดอินทารามแต่มีจำนวนการสร้างไม่มากนัก ดังคำที่ท่าน พระครูปลัดแน่นเคยพูดไว้ว่าท่านสร้างวัตถุมงคลท่านไม่เน้นปริมาณแต่ท่านเน้นคุณภาพ ท่านพระครูปลัดแน่นได้สร้างวัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง พระเครื่องพิมพ์ต่าง ๆ เนื้อดิน เนื้อผง เรื่อยมาทุกปีโดยจะนำออกมาให้ญาติโยมลูกศิษย์ลูกหาได้มาบูชากันเป็นประจำทุก ๆ ปี เพื่อนำปัจจัยที่ได้มาไปก่อสร้างถาวรวัตถุต่างๆ ที่ท่านพระครูปลัดแน่นได้ดำริไว้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีในระยะเวลาอันรวดเร็ว พระครูปลัดแน่น เป็นผู้เข้มขลังในพระเวทย์วิทยาคม ดังจะเห็นได้จากวัตถุมงคลต่าง ๆ ที่ท่านสร้างและปลุกเสกไว้ มีผู้นำไปบูชาอาราธนาติดตัว และเกิดประสบการณ์มาอย่างมากมายจนนับไม่ถ้วน สมณศักดิ์ที่ได้รับและงานปกครอง พรรษาที่ ๒๘ (อายุ ๕๘ ปี) วันที่ ๑๙ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๙๕ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการตรวจประโยคธรรมสนามหลวง และได้ใบรับรองครูสอนพระปริยัติธรรม พรรษาที่ ๓๙ (อายุ ๖๙ ปี) วันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๑๖ ได้รับแต่งตั้งโดยพระราชาคณะชั้นราชปัญญาสุธีฯ ตั้งให้พระแน่น ปุสฺโส เป็นพระฐานุกรม พระครูปลัดแน่น พรรษาที่ ๔๔ (อายุ ๗๔ ปี) วันที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๒๖ ได้รับตราตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลวังขนาย วันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๒๗ ได้รับตราตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ วันที่ ๑๖ เมษายน พ.ศ.๒๕๒๗ ได้รับตราตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดอินทาราม การสร้างสาธารณะประโยชน์ พ.ศ.๒๕๑๒ สร้างกุฏิสงฆ์ ตึกสามัคคีธรรม พ.ศ.๒๕๒๒ สร้างศาลาเมรุ พ.ศ.๒๕๒๗ สร้างศาลาธรรมสังเวช พระครูปลัดแน่น ชอบคุยแต่เรื่องธรรมะ แม้แต่เห็นใบไม้ท่านก็ยังเคยพูดว่าตอนใบไม้เกิดใหม่ก็ดูสวยงาม พอแก่ลงไปก็เหลืองร่วงโรยลงไป (เปรียบเปรยกับชีวิตคน) พระครูปลัดแน่นถึงมรณภาพด้วยอาการสงบ เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ ๑๑ เมษายน พ.ศ.๒๕๒๘ ตรงกับแรม ๗ ค่ำ เดือน ๕ ปีฉลู เวลา ๒๐.๒๐ นาที ณ วัดอินทาราม ตำบลหนองขาว อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี พรรษาที่ ๔๕ อายุ ๗๖ ปี ๓ เดือน เป็นเจ้าอาวาสวัดอินทารามได้เพียง ๑๑ เดือน ๒๗ วัน ประกอบพิธีประชุมเพลิงศพ วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ เมษายน พ.ศ.๒๕๒๙ เวลา ๑๖.๐๐ น. การสร้างวัตถุมงคล พระครูปลัดแน่น สร้างลูกอมโดยใช้ผ้าขาวที่ใช้คลุมศพของหญิงมีครรภ์ที่ตายท้องกลม คนในสมัยโบราณเมื่อนำศพลงโลงแล้วจะใช้ผ้าขาวคลุมศพไว้และจะไม่ปิดฝาโลงศพ งานสวดอภิธรรมศพก็จัดขึ้นน้อยคืน ในรายของศพหญิงมีครรภ์ที่ตายท้องกลมนั้นก็จะใช้วิธีการฝังศพแทนการประชุมเพลิงศพและตอนที่มีการฝังศพนี้หลังจากพิธีต่าง ๆ จบลงก็จะมีลูกศิษย์ ลูกหาพระในวัดและตัวท่านพระครูปลัดแน่นเองเป็นผู้ชักผ้าขาวออกจากโลกศพ เพื่อนำผ้าขาวที่ได้มาใช้ในการทำลูกอมและเมื่อได้ผ้าขาวมาแล้วท่านจะนำมาตัดเป็นชิ้นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าเท่า ๆ กันแล้วแต่ขนาดของลูกอม นำผ้าที่ตัดแล้วมาเขียนยันต์โดยท่านพระปลัดแน่นจะลงมือเขียนเองเสร็จแล้วก็นำผ้ามาม้วนแล้วจึงมัดด้วยสายสิญจ์มงคลที่ได้จากการปลุกเสกไว้แล้ว จากนั้นก็จะใช้ลวดทองแดงที่ถักเป็นตาข่ายมัดให้แน่นแล้วใช้ลวดทองแดงขึ้นเป็นหูด้วยในตัวแล้วจึงนำเชือกด้ายมาถักเป็นลูกอมที่มีขนาดแตกต่างกันไป โดยที่ท่านพระครูปลัดแน่นจะเป็นผู้ขึ้นต้นถักเองด้วยเชือกด้ายในส่วนหูของลูกอมไปจนเกือบครึ่งลูกแล้วจึงให้ลูกศิษย์ ลูกหา พระในวัดเป็นผู้ถักต่อจนเสร็จ แล้วจึงนำไปจุ่มรักซึ่งรักยุคแรก ๆ ได้จากต้นรักใหญ่ใช้มีดสับที่ต้นนำยางดิบออกมานำมาเคี่ยวไฟจนได้สีแดงลูกหว่าสุกหรือสีแดงเข้ม แต่ด้วยเมื่อนำลูกอมยุคแรกมาให้บูชาลูกศิษย์บางคนมีอาการแพ้ยางรักบางคนก็ใช้ไม่ได้ท่านครูปลัดแน่นจึงเปลี่ยนมาใช้รักกระป๋องในยุคต่อมาและมีบางช่วงเวลาที่รักกระป๋องหมดจึงได้ใช้น้ำมันเหนียวผสมผงทองบรอนซ์มาจุ่มลูกอมแทน แต่มีจำนวนไม่มากนัก แล้วจึงลูกอมนำไปตากแดดจนแห้ง หลังจากนั้นพระครูปลัดแน่นก็จะอธิษฐานจิตเพียงลำพังเพียงรูปเดียวในกุฏิ ลูกศิษย์หลายต่อหลายคนที่นำลูกอมไปบูชาติดตัว บอกกันเป็นเสียงเดียวกัน ถึงประสบการณ์ที่ได้สัมผัสกันมาอย่างมากมาย จึงเรียกลูกอมของท่านว่า “ลูกอมติดวิญญาณ”...... ในบางปี ก่อนที่จะจะนำลูกอม, ตะกรุด, พระเครื่อง มาให้บูชานั้นท่านพระครูปลัดแน่นจะนิมนต์พระ ๓ รูปมาสวดมนต์อธิฐานจิตอีกครั้งโดยพระที่มาร่วมอธิฐานจิตนั้นท่านจะนิมนต์มาจากต่างวัด ท่านพระครูปลัดแน่นจะนำลูกอม, ตะกรุด และพระเครื่องพิมพ์ต่าง ๆ ใส่ไว้ในบาตร และมีลูกศิษย์นำพระเครื่องที่ได้มาจากที่อื่น ๆ มาร่วมในพิธีอธิฐานจิตนี้ด้วย สำหรับ ลูกอม ลูกนี้ ขนาดกลาง เชือกเก่า รักเก่า สวยงามมากๆ พุทธคุณนั้นเด่นมากทางด้านแคล้วคลาดปลอดภัย เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ ค้าขายโชคลาภ แคล้วคลาด ปลอดภัย เจ้าของได้มา คืนแรกเจอประสบการณ์การเลย.....มีผู้หญิงนุ่งขาวห่มขาว มานั่งที่ปลายเท้าแฟนแล้วกดตัวไว้จนกระสับกระส่ายทั้งคืน.....เช้ามาต้องจุดธูปขอขมาพร้อมอัญเชิญเข้าบ้าน....ตั้งแต่นั้นมาก็สงบและมีโชคลาภเข้ามาเสมอๆ สมกับคำร่ำลือจริงๆที่ว่า “ลูกอมติดวิญญาณ อาจารย์แน่น วัดหนองขาว จ.กาญจนบุรี” ขอขอบคุณท่านณัฏฐวีร์(เจ้าของพระ พร้อมประสบการณ์ตรง) เป็นอย่างสูง ที่เอื้อเฟื้อภาพมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

รายละเอียด

พระครูปลัดแน่น ปุสฺโส (หลวงพ่อแน่น,อาจารย์แน่น) วัดหนองขาว กาญจนบุรี
พระครูปลัดแน่น เป็นพระเถราจารย์ ที่ประพฤติปฏิบัติตนในกรอบพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัดอย่างเสมอต้นเสมอปลาย มีเมตตาชอบคุยแต่เรื่องธรรมะ เป็นผู้มีเชาว์ปัญญาเฉลียวฉลาดเป็นเลิศ เพียงพรรษาที่ ๔ ก็สามารถสอบนักธรรมชั้นเอกได้สำเร็จและท่านยังได้รับการแต่งตั้งจากองค์การศึกษาให้เป็นกรรมการตรวจประโยคธรรมสนามหลวง ทางด้านวิปัสสนากัมมัฏฐานเวทย์วิทยาคม พระครูปลัดแน่นได้รับคำแนะนำสั่งสอนจากพระอุปัชฌาย์ของท่านพระวิสุทธิรังษี (หลวงปู่เปลี่ยน) วัดไชยชุมพลชนะสงคราม(วัดใต้) ท่านยังได้รับมอบตำราโหราศาสตร์โบราณ เพื่อศึกษาค้นคว้าวิชาการต่าง ๆ นอกจากนี้ยังได้ศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเองจากตำราเก่าภายในวัด ท่านพระครูปลัดแน่นร่ำเรียนทั้งอักขระภาษาขอม หนังสือไสยเวทย์,วิทยาคม,พุทธาคมต่าง ๆ ด้วยความตั้งใจอันเด็ดเดี่ยวและแน่วแน่รวมกับเชาว์ปัญญาที่เฉลียวฉลาด สรรพวิชาการต่าง ๆ จึงท่านจึงร่ำเรียนได้สำเร็จ และมีพุทธาคมเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ เกียรติคุณชื่อเสียงคำร่ำลือเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง และท่านมักได้รับนิมนต์เข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษก อธิฐานจิตปลุกเสกพระในพิธีสำคัญ ๆ เสมอ

ประวัติพระครูปลัดแน่น ปุสฺโส
นามเดิม แน่น นามสกุล พัฒนมาศ นามฉายา ปุสฺโส เกิดเมื่อ วันพฤหัสบดี ที่ ๑๓ มกราคม พ.ศ.๒๔๕๒ ตรงกับขึ้น ๓ ค่ำ เดือนยี่ ปีระกา โยมบิดาชื่อ นายนุ้ย พัฒนมาศ โยมมารดาชื่อ นางปลีก พัฒนมาศ มีพี่น้อง ๓ คน
๑. นางน่วม โพธิ์เงิน
๒. พระครูปลัดแน่น ปุสฺโส
๓. นายหน่วง พัฒนมาศ
ในวัยเด็กท่านเป็นเด็กมุมานะ ขยันอดทน ตั้งใจเด็ดเดี่ยว ทำสิ่งใดต้องทำให้สำเร็จ เจ้าระเบียบเป็นที่เกรงใจของหลาน ๆ ท่านได้เข้ารับการศึกษาโรงเรียนชั้นมูลศึกษา เมื่อปี พ.ศ.๒๔๖๐ อายุ ๘ ปี แต่เข้าเรียนได้แค่ชั้น
ป.๒ และไม่จบการศึกษาก็ต้องลาออกจากการเรียนมาช่วยบิดามารดาทำนา เลี้ยงวัวอยู่เรื่อยมาจนอายุ ๒๒ ปี จึงเข้ารับการอุปสมบท (ครั้งแรก) ปีพ.ศ.๒๔๗๙ ณ พัทธสีมาวัดอินทาราม โดยมีพระวิสุทธิรังษี (หลวงปู่เปลี่ยน) วัดไชยชุมพลชนะสงคราม(วัดใต้) เป็นพระอุปัชฌาย์ ตอนนั้นพระครูโกวิทสุตคุณ (หลวงพ่อพยอม)ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดอินทารามได้ปีเศษ ท่านพระครูปลัดแน่นได้อยู่จำพรรษา ณ วัดอินทาราม ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยและบทสวดมนต์ต่าง ๆ และปฏิบัติกิจของสงฆ์ที่ดีพึงปฏิบัติตลอดมา บวชเรียนได้ ๒ พรรษาจึงลาสิกขาออกมาช่วยบิดามารดาทำนา เลี้ยงวัวอีกครั้ง
ต่อมาท่านได้อยู่กินกับภรรยาชื่อนางสาท แต่ยังไม่ได้แต่งงานอยู่กินด้วยกันภรรยาเกิดตั้งท้อง ท่านจึงคิดสร้างครอบครัว เตรียมปลูกบ้านเพื่ออยู่กินกับภรรยาและบุตร แต่แล้วภรรยาท่านมาเสียชีวิต เนื่องจากการคลอดบุตร และบุตรชายที่เกิดมาสุขภาพก็ไม่แข็งแรง เพียงปีกว่า ๆ ก็เสียชีวิตอีกคนด้วยโรคหัด
ด้วยความเสียใจจากเคราะห์กรรมครั้งนี้ ท่านจึงได้ตัดสินใจเด็ดขาดสละทุกอย่างแล้วจึงออกบวชโดยไม่หันหลังกลับ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับบิดา มารดา ภรรยาและบุตร
ท่านพระครูปลัดแน่น ได้เข้าอุปสมบทครั้งที่ ๒ ณ พัทธสีมาวัดอินทาราม เมื่อ วันพุธ ที่ ๑๙ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๘๓ ตรงกับขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะโรง เวลา ๑๒ นาฬิกา ๕๘ นาที โดยมีพระวิสุทธิรังษี (หลวงปู่เปลี่ยน) วัดไชยชุมพลชนะสงคราม(วัดใต้) เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านพระครูโกวิทสุตคุณ (หลวงพ่อพยอม) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูพนมคุณาธาร (หลวงพ่อป้อง) วัดห้วยสะพาน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ภายหลังการอุปสมบทได้จำพรรษา ณ วัดอินทาราม ด้วยเหตุผลของการบวชในครั้งนี้ทำให้ท่านพระครูปลัดแน่นจึงตั้งใจศึกษาพระธรรมวินัยและเรียนนักธรรมอย่างมุ่งมั่น และปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัดมากได้เพียง
พรรษาแรก ท่านสามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี
พรรษาที่สอง ท่านสามารถท่องพระปฏิโมกข์จนจบบริบูรณ์
พรรษาที่สาม ท่านสอบนักธรรมชั้นโทได้สำเร็จ และเริ่มเป็นครูสอนพระปริยัติธรรมให้พระภิกษุ – สามเณรในวัด
พรรษาที่สี่ ท่านสอบนักธรรมชั้นเอกได้สำเร็จและได้รับแต่งตั้งเป็นครูสอนพระปริยัติธรรม

หลังจากได้ร่ำเรียนศึกษาวิชาการต่าง ๆ ตลอดจนฝึกฝนวิปัสสนากัมมัฏฐานจนมีความเชี่ยวชาญมาได้ระยะหนึ่ง ในพรรษาที่ ๔ นี้(พ.ศ.๒๔๘๖) หลังจากออกพรรษาแล้วท่านพระครูปลัดแน่นก็ได้ออกเดินธุดงค์เพื่อแสวงหาความสงบวิเวก ฝึกจิตสมาธิให้เข้มแข็งโดยท่านออกธุดงค์ไปกับพระจอก (พระครูกาญจนวิธาน สุชาโต อดีตเจ้าคณะอำเภอด่านมะขามเตี้ย), พระคลี่ (พระสมุห์คลี่อดีตเจ้าอาวาสวัดสำรอง), พระเล็ก (พระบวชใหม่) ได้เดินทางขึ้นเหนือ ธุดงค์ไปตามสถานที่ต่าง ๆ ทางภาคเหนือหลายแห่งจนไปถึง จังหวัดสุโขทัย และได้จำพรรษาอยู่ที่วัดป่ากุมเกาะ อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย และที่อำเภอสวรรคโลกนี้มีชาวบ้านหนองขาวมาอาศัยอยู่จำนวนหนึ่งได้นิมนต์ท่านพระครูปลัดแน่นให้จำพรรษาอยู่ที่นี่และด้วยท่านพระครูปลัดแน่นเป็นพระผู้มีวัตรปฏิบัติงดงามเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของญาติโยมทั้งหลาย จึงได้จำพรรษาอยู่ที่วัดป่ากุมเกาะนี้ ๒ พรรษา พระครูปลัดแน่นยังเป็นที่รักของชาวสวรรคโลกอย่างยิ่ง หลังจากท่านแล้วเดินทางกลับวัดอินทาราม ในปี พ.ศ.๒๔๘๘ ชาวสวรรคโลกยังคงตามมานมัสการท่านพระครูปลัดแน่นที่วัดอินทาราม(หนองขาว) จ.กาญจนบุรี เป็นประจำทุก ๆ ปี และต่อมาเมื่อท่านพระครูปลัดแน่นได้สร้างลูกอม, ตะกรุด, เครื่องรางของขลัง ชาวสวรรคโลกได้มาขอบูชากันไปอย่างมากมายบางคนที่มาไม่ได้ก็ยังสั่งให้ญาติพี่น้องที่ขึ้นไปสวรรคโลกติดไปฝากครั้งละมาก ๆ หลายต่อครั้งและด้วยพุทธคุณความศักดิ์สิทธิ์ของลูกอมปรากฏขึ้นสามารถคุ้มครองป้องกันภัยให้แก่บรรดาศิษย์ได้ตลอด ทำให้เป็นที่เลื่องลือกล่าวขานกันไปทั่วและในปัจจุบันเป็นที่หวงแหนของชาวสวรรคโลกยิ่งนัก และท่านพระครูปลัดแน่นได้นำประสบการณ์และสิ่งที่ได้พบเจอกลับมาพัฒนาวัดบ้านเกิด และยังเพื่อช่วยงานหลวงพ่อพยอมอีกครั้ง
ท่านพระครูปลัดแน่นได้เริ่มสร้างลูกอมครั้งแรกเมื่อประมาณพรรษาที่ ๑๒ (พ.ศ.๒๔๙๔) ที่วัดอินทารามแต่มีจำนวนการสร้างไม่มากนัก ดังคำที่ท่าน พระครูปลัดแน่นเคยพูดไว้ว่าท่านสร้างวัตถุมงคลท่านไม่เน้นปริมาณแต่ท่านเน้นคุณภาพ ท่านพระครูปลัดแน่นได้สร้างวัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง พระเครื่องพิมพ์ต่าง ๆ เนื้อดิน เนื้อผง เรื่อยมาทุกปีโดยจะนำออกมาให้ญาติโยมลูกศิษย์ลูกหาได้มาบูชากันเป็นประจำทุก ๆ ปี เพื่อนำปัจจัยที่ได้มาไปก่อสร้างถาวรวัตถุต่างๆ ที่ท่านพระครูปลัดแน่นได้ดำริไว้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีในระยะเวลาอันรวดเร็ว
พระครูปลัดแน่น เป็นผู้เข้มขลังในพระเวทย์วิทยาคม ดังจะเห็นได้จากวัตถุมงคลต่าง ๆ ที่ท่านสร้างและปลุกเสกไว้ มีผู้นำไปบูชาอาราธนาติดตัว และเกิดประสบการณ์มาอย่างมากมายจนนับไม่ถ้วน

สมณศักดิ์ที่ได้รับและงานปกครอง
พรรษาที่ ๒๘ (อายุ ๕๘ ปี) วันที่ ๑๙ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๙๕ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการตรวจประโยคธรรมสนามหลวง และได้ใบรับรองครูสอนพระปริยัติธรรม
พรรษาที่ ๓๙ (อายุ ๖๙ ปี) วันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๑๖ ได้รับแต่งตั้งโดยพระราชาคณะชั้นราชปัญญาสุธีฯ ตั้งให้พระแน่น ปุสฺโส เป็นพระฐานุกรม พระครูปลัดแน่น
พรรษาที่ ๔๔ (อายุ ๗๔ ปี)
วันที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๒๖ ได้รับตราตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลวังขนาย
วันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๒๗ ได้รับตราตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์
วันที่ ๑๖ เมษายน พ.ศ.๒๕๒๗ ได้รับตราตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดอินทาราม

การสร้างสาธารณะประโยชน์
พ.ศ.๒๕๑๒ สร้างกุฏิสงฆ์ ตึกสามัคคีธรรม
พ.ศ.๒๕๒๒ สร้างศาลาเมรุ
พ.ศ.๒๕๒๗ สร้างศาลาธรรมสังเวช
พระครูปลัดแน่น ชอบคุยแต่เรื่องธรรมะ แม้แต่เห็นใบไม้ท่านก็ยังเคยพูดว่าตอนใบไม้เกิดใหม่ก็ดูสวยงาม พอแก่ลงไปก็เหลืองร่วงโรยลงไป (เปรียบเปรยกับชีวิตคน) พระครูปลัดแน่นถึงมรณภาพด้วยอาการสงบ เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ ๑๑ เมษายน พ.ศ.๒๕๒๘ ตรงกับแรม ๗ ค่ำ เดือน ๕ ปีฉลู เวลา ๒๐.๒๐ นาที ณ วัดอินทาราม ตำบลหนองขาว อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี พรรษาที่ ๔๕ อายุ ๗๖ ปี ๓ เดือน เป็นเจ้าอาวาสวัดอินทารามได้เพียง ๑๑ เดือน ๒๗ วัน ประกอบพิธีประชุมเพลิงศพ วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ เมษายน พ.ศ.๒๕๒๙ เวลา ๑๖.๐๐ น.

การสร้างวัตถุมงคล
พระครูปลัดแน่น สร้างลูกอมโดยใช้ผ้าขาวที่ใช้คลุมศพของหญิงมีครรภ์ที่ตายท้องกลม คนในสมัยโบราณเมื่อนำศพลงโลงแล้วจะใช้ผ้าขาวคลุมศพไว้และจะไม่ปิดฝาโลงศพ งานสวดอภิธรรมศพก็จัดขึ้นน้อยคืน ในรายของศพหญิงมีครรภ์ที่ตายท้องกลมนั้นก็จะใช้วิธีการฝังศพแทนการประชุมเพลิงศพและตอนที่มีการฝังศพนี้หลังจากพิธีต่าง ๆ จบลงก็จะมีลูกศิษย์ ลูกหาพระในวัดและตัวท่านพระครูปลัดแน่นเองเป็นผู้ชักผ้าขาวออกจากโลกศพ เพื่อนำผ้าขาวที่ได้มาใช้ในการทำลูกอมและเมื่อได้ผ้าขาวมาแล้วท่านจะนำมาตัดเป็นชิ้นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าเท่า ๆ กันแล้วแต่ขนาดของลูกอม นำผ้าที่ตัดแล้วมาเขียนยันต์โดยท่านพระปลัดแน่นจะลงมือเขียนเองเสร็จแล้วก็นำผ้ามาม้วนแล้วจึงมัดด้วยสายสิญจ์มงคลที่ได้จากการปลุกเสกไว้แล้ว จากนั้นก็จะใช้ลวดทองแดงที่ถักเป็นตาข่ายมัดให้แน่นแล้วใช้ลวดทองแดงขึ้นเป็นหูด้วยในตัวแล้วจึงนำเชือกด้ายมาถักเป็นลูกอมที่มีขนาดแตกต่างกันไป โดยที่ท่านพระครูปลัดแน่นจะเป็นผู้ขึ้นต้นถักเองด้วยเชือกด้ายในส่วนหูของลูกอมไปจนเกือบครึ่งลูกแล้วจึงให้ลูกศิษย์ ลูกหา พระในวัดเป็นผู้ถักต่อจนเสร็จ แล้วจึงนำไปจุ่มรักซึ่งรักยุคแรก ๆ ได้จากต้นรักใหญ่ใช้มีดสับที่ต้นนำยางดิบออกมานำมาเคี่ยวไฟจนได้สีแดงลูกหว่าสุกหรือสีแดงเข้ม แต่ด้วยเมื่อนำลูกอมยุคแรกมาให้บูชาลูกศิษย์บางคนมีอาการแพ้ยางรักบางคนก็ใช้ไม่ได้ท่านครูปลัดแน่นจึงเปลี่ยนมาใช้รักกระป๋องในยุคต่อมาและมีบางช่วงเวลาที่รักกระป๋องหมดจึงได้ใช้น้ำมันเหนียวผสมผงทองบรอนซ์มาจุ่มลูกอมแทน แต่มีจำนวนไม่มากนัก แล้วจึงลูกอมนำไปตากแดดจนแห้ง หลังจากนั้นพระครูปลัดแน่นก็จะอธิษฐานจิตเพียงลำพังเพียงรูปเดียวในกุฏิ ลูกศิษย์หลายต่อหลายคนที่นำลูกอมไปบูชาติดตัว บอกกันเป็นเสียงเดียวกัน ถึงประสบการณ์ที่ได้สัมผัสกันมาอย่างมากมาย จึงเรียกลูกอมของท่านว่า “ลูกอมติดวิญญาณ”...... ในบางปี ก่อนที่จะจะนำลูกอม, ตะกรุด, พระเครื่อง มาให้บูชานั้นท่านพระครูปลัดแน่นจะนิมนต์พระ ๓ รูปมาสวดมนต์อธิฐานจิตอีกครั้งโดยพระที่มาร่วมอธิฐานจิตนั้นท่านจะนิมนต์มาจากต่างวัด ท่านพระครูปลัดแน่นจะนำลูกอม, ตะกรุด และพระเครื่องพิมพ์ต่าง ๆ ใส่ไว้ในบาตร และมีลูกศิษย์นำพระเครื่องที่ได้มาจากที่อื่น ๆ มาร่วมในพิธีอธิฐานจิตนี้ด้วย
สำหรับ ลูกอม ลูกนี้ ขนาดกลาง เชือกเก่า รักเก่า สวยงามมากๆ
พุทธคุณนั้นเด่นมากทางด้านแคล้วคลาดปลอดภัย เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ ค้าขายโชคลาภ แคล้วคลาด ปลอดภัย
เจ้าของได้มา คืนแรกเจอประสบการณ์การเลย.....มีผู้หญิงนุ่งขาวห่มขาว มานั่งที่ปลายเท้าแฟนแล้วกดตัวไว้จนกระสับกระส่ายทั้งคืน.....เช้ามาต้องจุดธูปขอขมาพร้อมอัญเชิญเข้าบ้าน....ตั้งแต่นั้นมาก็สงบและมีโชคลาภเข้ามาเสมอๆ
สมกับคำร่ำลือจริงๆที่ว่า “ลูกอมติดวิญญาณ อาจารย์แน่น วัดหนองขาว จ.กาญจนบุรี”
ขอขอบคุณท่านณัฏฐวีร์(เจ้าของพระ พร้อมประสบการณ์ตรง) เป็นอย่างสูง ที่เอื้อเฟื้อภาพมา ณ ที่นี้ด้วยครับ