สิงห์หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว กาญจนบุรี-ตลับเงินตลับทอง - webpra
สิ้นลม สมบัติ ไม่ติดกาย ของดีมากมาย จะคู่กาย ผู้มีบารมีสืบต่อไป nongbluestar**081-6391688**

หมวด เครื่องรางของขลัง

สิงห์หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว กาญจนบุรี

สิงห์หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว กาญจนบุรี - 1สิงห์หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว กาญจนบุรี - 2สิงห์หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว กาญจนบุรี - 3
ชื่อร้านค้า ตลับเงินตลับทอง - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
ชื่อพระเครื่อง สิงห์หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว กาญจนบุรี
อายุพระเครื่อง 106 ปี
หมวดพระ เครื่องรางของขลัง
ราคาเช่า -
เบอร์โทรติดต่อ (ไม่แสดงเบอร์ เนื่องจากรายการนี้ไม่ได้ปล่อยเช่า)
อีเมล์ติดต่อ nongbluestar@yahoo.com
LINE
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ เช่าแล้ว
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ พ. - 08 มิ.ย. 2554 - 10:40.08
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ อา. - 12 พ.ค. 2562 - 21:03.42
รายละเอียด
หลวงปู่ยิ้ม ท่านเป็นชาววังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ท่านเกิดปีมะโรง เดือน 5 วันอังคารปี พ.ศ.2387 เป็นบุตรนายยิ่ง นางเปี่ยม ชูชันยะ บิดาและมารดาประกอบอาชีพค้าไม้ไผ่ล่องเรือไปขายที่ปากอ่าวแม่กลอง เมื่อวัยเด็กท่านมีอุปนิสัยใจคอเป็นคนเด็ดเดี่ยวกล้าหาญ เป็นนักเลง พูดจริงทำจริง ท่านได้เป็นกำลังช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพค้าไม้ไปขายทางปากอ่าวแม่กลองจนคุ้นเคยกับชาวแม่กลองเป็นอย่างดี ครั้นอายุครบบวชได้อุปสมบทที่ วัดทุ่งสมอ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี โดยมี พระอธิการรอด เจ้าอาวาสวัดทุ่งสมอ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์แดง วัดเหนือ และพระอาจารย์อินทร์ วัดทุ่งสมอ เป็นพระคู่สวด ได้รับฉายาว่า จันทโชติ เมื่อบวชแล้วเรียนอักษรขอม ภาษาบาลีมงคลทีปนี มูลกัจจายน์ พระมาลัย พระเจ้าสิบชาติ ท่องสูตรสนธิจนแตกฉาน สามารถท่องพระปาฏิโมกข์ได้ตั้งแต่พรรษาที่ 2... หลวงปู่ยิ้มท่านชอบศึกษาวิชาความรู้ จึงได้รับคำแนะนำจากพระอุปัชฌาย์ให้ไปศึกษาวิชาไสยเวทย์และภาษาบาลีที่ เมือง สมุทรสงคราม ซึ่งมีพระอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิและเรืองเวทย์หลายสำนัก หลายแขนงวิชาต่างๆไม่ซ้ำกัน ซึ่งพอรวบรวมได้ดังนี้ คือ

1.พระปลัดทิม วัดบางนางลี่น้อย อ.อัมพวา (ซึ่งเป็นพระสหายกับอุปัชฌาย์ของท่าน) เรียนวิชาน้ำมนต์โภคทรัพย์ สมัยนั้นเชื่อกันว่าใครได้อาบน้ำมนต์วัดนี้ แล้วจะร่ำรวย ถ้าเป็นขุนนางก็จะได้เลื่อนยศฐาบรรดาศักดิ์ พระปลัดทิมมีวิชาทำผงพุทธคุณ ทางเมตตามหานิยม และวิชาโหราศาสตร์ (ปัจจุบันวัดนี้ได้ถูกน้ำเซาะตลิ่งจมหายไปในแม่น้ำแม่กลองแล้ว เสนาสนะต่างๆภายในวัดได้ถูกรื้อไปสร้างเป็น วัดภุมรินทร์กุฎีทอง ในปี2467 สมัยพระอธิการเกีย พรหมโชโต)
2. พระอธิการ พึ่ง อินทสโร วัดลิงโจน ต่อมาเรียกว่า วัดปากสมุทรสุดคงคา คืออยู่ปากอ่าวแม่กลอง ท่านเรียนวิชาทำธงกันอสุนีบาตสายฟ้าฟาดและกันพายุคลื่นลมในทะเล ชาวเรือทะเลนับถือมาก รวมถึงวิชาหวายลงอักขระ ท่านทำเป็นรูปวงกลม เวลาขาดน้ำจืด เอาหวายนี้โยนลงทะเลแล้วอาราธนาตักน้ำภายในวงหวายจะได้น้ำจืดทันที และวิชาทำหมากทุยของท่านก็เลื่องชื่อและท่านยังสำเร็จวิชามนต์จินดามณีเรียกปลาเรียกเนื้อได้
3. หลวงพ่อกลัด วัดบางพรม อัมพวา เรียนทางมหาอุตม์ อยู่ยงคงกระพัน, ผ้าเช็ดหน้าเมตตามหานิยม และท่านยังมีวิชาย่นระยะทางและสามารถเดินบนผิวน้ำได้
4.หลวงพ่อแจ้ง วัดประดู่ อัมพวา เรียนทางแพทย์แผนโบราณ มีดหมอปราบภูตผีปีศาจ และวิชามหาประสาน เชือกคาดเอวถักเป็นรูปกระดูกงู ชื่อตะขาบไฟหรือไส้หนุมาน มีตะกรุดคู่อยู่หัวเชือกกันเขี้ยวงาและทางคงกระพันชาตรี .....
หลังจากเรียนวิชาต่างๆจนหมดสิ้นแล้ว ได้ทราบข่าวว่าวัดหนองบัวมีปรมาจารย์ที่เก่งกล้า ทรงกิตติคุณโด่งดังที่สุดองค์หนึ่งในสมัยนั้น ท่านคือ พระอุปัชฌาย์กลิ่น ซึ่งได้บำเพ็ญภาวนา วิปัสสนาธุระ ภายใน ถ้ำพุพระ(ถ้ำขุนแผน)เขตบ้านหนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี พระอาจารย์องค์นี้มีอายุร้อยกว่าปี ชำนาญอภิญญามีอิทธิคุณถึงล่องหนหายตัวได้ หลวงปู่ยิ้มมีความศรัทธายิ่งจึงถวายตัวเป็นศิษย์ใน ปีพ.ศ.2416 เป็นศิษย์องค์สุดท้ายของท่าน และศึกษาวิชาไสยเวทย์ต่างๆอยู่จนถึง พ.ศ.2518 หลวงปู่กลิ่นได้มรณภาพลง สิริอายุได้ 117 ปี วัดหนองบัวจึงว่างเจ้าอาวาส ดังนั้นชาวบ้าน ต.หนองบัว จึงพร้อมใจนิมนต์หลวงพ่อเฒ่ายิ้มเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองบัวองค์ที่4 ในปี พ.ศ.2420 ต่อมา
ตามประวัติ เจ้าอาวาสวัดหนองบัว มีดังนี้
องค์ที่1. หลวงปู่โบย เป็นชาวมอญ
องค์ที่2. หลวงปู่เหม๊น เป็นชาวเขมร
องค์ที่3. หลวงพ่อพระอุปฌาย์กลิ่น เป็นคนหนองบัว
องค์ที่4. หลวงพ่อเฒ่ายิ้ม จันทโชติ
การสร้างพระเครื่องของหลวงปู่ยิ้มนั้น ตามประวัติบันทึกของ พระโสภณสมาจารย์(หลวงปู่เหรียญ สุวรรณโชติ) กล่าวว่า หลวงปู่ยิ้มชอบทางรุกขมูลธุดงค์วัตร มีอุปนิสัยสันโดษ ไม่มักใหญ่ใฝ่สูง ออกพรรษาแล้วจะเข้าป่าเจริญสมาธิในป่าลึก ท่านรู้จักภาษา นก สัตว์ป่าทุกชนิด จิตกล้าแข็ง จะทำเครื่องรางชนิดใดก็เข้มขลังไปทุกอย่าง... หลวงปู่ยิ้ม ท่านได้เป็นเจ้าอาวาสวัดหนองบัวต่อจากพระอุปัชฌาย์กลิ่น หลวงปู่ยิ้มท่านได้ปฏิบัติทางวิปัสสนาจนมีชื่อเสียงมากและเป็นอาจารย์สอนทางวิปัสสนากรรมฐาน ต่อมาท่านได้สร้างพระปิดตาและเครื่องรางขึ้นหลายอย่าง เพื่อแจกจ่ายให้ผู้ที่ต้องการนำไปติดตัวเป็นที่พึ่ง

สำหรับพระปิดตาอันโด่งดังนั้น ดีทางด้านเมตตามหาลาภ หลวงปู่ยิ้มท่านได้สร้างไว้หลายเนื้อหลายพิมพ์ มีทั้งพิมพ์ใหญ่( ชะลูดเล็ก, ชะลูดใหญ่) พิมพ์สังกัจจายน์ (พุงป่องเล็ก,ใหญ่),พิมพ์แข้งซ้อน,พิมพ์แข้งหมอน,พิมพ์เข่าบ่วง,พิมพ์โบราณ และพิมพ์อื่นๆ มีทั้งเนื้อเหลืองนิยม เนื้อขาว เนื้อผงเทา เนื้อผงคลุกรัก เนื้อผงธูป เนื้อขี้เป็ด เนื้อตะกั่ว และเนื้ออื่นๆ รวมทั้งจุ่มรักและคลุกรัก หลวงปู่ยิ้มท่านได้ผสมมวลสารอันเป็นมงคลศักดิ์สิทธิ์ และมวลสารวัตถุอาถรรพ์ไว้อย่างมากมาย รวมถึงรังผึ้งใหญ่ที่มาเกาะที่พระเกศของพระประทานในโบสถ์วัดหนองบัว ที่หลวงปู่ยิ้มท่านบอกกับโยมที่สนิทมากว่า ถ้าจะทำพระปิดตาที่มีพุทธคุณอันเปี่ยมล้นไปด้วยเมตตามหานิยมที่ดีที่สุดจะต้องมีส่วนผสมของรังผึ้งใหญ่นี้ ซึ่งในวันที่๑เมษายน๒๔๔๒หลวงปู่ยิ้มได้ทำพิธีขอรังผึ้งนั้นมาผสมกับมวลสารศักดิ์สิทธิ์อีกมากมายเพื่อให้ได้พระผงปิดตามหาลาภที่ดีเยี่ยมที่สุด........
ในระยะเวลาที่ท่านได้เป็นเจ้าอาวาสอยู่ช่วงปี พศ.๒๔๒๐-๒๔๕๔รวมระยะเวลาที่เป็นเจ้าอาวาส ๓๔ ปีท่านได้สร้างพระปิดตาไว้หลายพิมพ์ และเครื่องรางของขลังอีกมากโดยเฉพาะตะกรุดลูกอม(ตะกรุดหัวใจโลกธาตุ) ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศ มีทั้งที่สร้างจากทองคำ, เงิน, นาก, ทองแดง, ทองฝาบาตร, ตะกั่วนมที่สร้างพระท่ากระดานในอดีต....ซึ่งเป็นตะกรุดขนาดเล็กใช้พกติดตัว เมื่อถึงคราวคับขันจวนตัวจะถูกทำร้ายให้กลืนเข้าไปในท้องป้องกันอันตรายได้ ตะกรุดนี้เชื่อว่าสามารถออกมาจากร่างกายได้เอง โดยให้ตั้งจิตอธิษฐานก่อนนอน รุ่งขึ้นตะกรุดก็จะออกมาอยู่ข้างตัว โดยจะไม่ออกทางทวารเบื้องต่ำ จึงเรียกว่า ตะกรุดลูกอม ลงยันต์ด้วยหัวใจโลกธาตุเป็นคาถาพระพุทธเจ้าเดินจงกลม ท่านได้ถ่ายทอดวิชานี้ให้ลูกศิษย์ ลูกศิษย์องค์ใดที่จะเรียน จะต้องนั่งสมาธิเพ่งไส้เที่ยนให้ขาดก่อนจึงสามารถเรียนวิชาทำตะกรุดโลกธาตุนี้กับท่านได้ และยังมีเครื่องรางอื่นๆอีกเช่น หวายคาดเอว,เบี้ยแก้(หายากมาก),วัวธนู เชือกคาดตะขาบไฟ(ไส้หนุมาน) แหวนพิรอดนิ้ว, พิรอดแขน, เสืองาแกะ, ราชสีห์งาแกะ, ลูกประคำ และอื่นๆอีกมาก ซึ่งล้วนแล้วแต่เข้มขลังด้วยพุทธคุณทั้งสิ้น
วัตถุมงคลของหลวงพ่อเฒ่ายิ้มนั้น มีชื่อเสียงโด่งดังจนเข้าถึงหูทั้งเจ้านายและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในบางกอก จนกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ซึ่งโปรดวิชาไสยศาสตร์ ได้มากราบขอเป็นลูกศิษย์และเรียนวิชาท่านได้มีดหมอจากหลวงปู่ยิ้ม ไว้ใช้ประจำพระองค์หนึ่งเล่ม มีสรรพคุณปราบภูตผีปีศาจและปราบคนที่อยู่ยงคงกระพัน พระองค์ทรงนับถือหลวงปู่ยิ้มมาก ทั้งๆที่พระองค์เป็นศิษย์เอกของ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า และหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน .....ศิษย์หลวงปู่ยิ้มมีชื่อเสียงโด่งดังทุกองค์ อาทิเช่น
1.พระโสภณสมาจารย์ (เหรียญ) วัดหนองบัว
2.พระเทพมงคลรังษี (ดี) วัดเหนือ
3.พระกาญจนวัตรวิบูลย์ (สอน) วัดทุ่งลาดหญ้า
4.พระโสภณสมณกิจ (หัง) วัดเหนือ
5.พระครูวัตตสารโสภณ (ดอกไม้) วัดดอนเจดีย์
6.พระราชมงคลวุฒาจารย์ (ใจ) วัดเสด็จ จังหวัดสมุทรสงคราม เล่ากันว่าได้รับความชมเชยจากท่านว่านั่งไส้เทียนขาดเร็วกว่าท่านด้วย
7.พระอธิการแช่ม โสฬส วัดจุฬามณี
8.พระครูสกลวิสุทธิ์ (เหมือน) วัดกลางเหนือ เป็นต้น.....


หลวงปู่ยิ้ม จันทโชติ ถึงแก่มรณภาพเมื่อพ.ศ.2453 สิริอายุได้ 66ปี เมื่อท่านได้มรณะภาพแล้วตำราวิชาต่างๆของท่านก็ได้ตกทอดมาสู่ พระโสภณสมาจารย์ หลวงปู่เหรียญ วัดหนองบัว และท่านได้เป็นเจ้าอาวาสต่อจากหลวงปู่ยิ้มสืบต่อมา


สำหรับเครื่องลางชิ้นนี้คือ สิงห์แกะจากงาช้าง บางตัวใต้ฐานท่านลงจารอักขระยันต์เอาไว้ด้วยลายมือท่านเอง ดังเช่นตัวนี้ เด่นทั้ง มหาอำนาจ แคล้วคลาด เมตตามหานิยม
ปัจจุบันหาของแท้ที่มีรอยจารของหลวงปู่หาดูได้ยากมาก ให้สังเกตุคราบเก่าที่เกาะตามผิว ซึ่งของเลียนแบบไม่สามารถทำได้

พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...

อื่นๆ...

กำหลังโหลด Comments
Top